|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
#29 งานSci-Fi สไตล์ชิมิซึ เรโกะ
นอกจากงานสุดคลาสสิคอย่าง Moon Child / เจ้าหญิงจันทรา มาจนถึง Top Secret อ.ชิมิซึ เรโกะ ยังมีเรื่องสั้นเล่มเดียวจบน่าอ่านอีกหลายเรื่อง งวดนี้พกมาแนะนำสองเรื่องครับ
PAPILLON パピヨン(ปาปิญอง) หรือชื่อไทย ฝ่าด่านคุกนรก ผลงานเรื่องสั้นขนาดยาวในปี 1994 ของ อ.ชิมิซึ เรโกะ
ประเทศเดลต้าบุกเข้าโจมตีประเทศอาทราส ในขณะนั้นเจ้าชายรัชทายาทอันดับ1 นาซาเร แห่งอาทราสได้หลบหนีออกจากวังเพื่อความปลอดภัย ทหารของเดลต้าที่บุกเข้าไปจึงพบ แต่เพียงตัวปลอมของพระองค์ที่ได้ปลิดชีพพระองค์แล้วเท่านั้น แต่ทว่า เจ้าชายนาซาเร ในชื่อใหม่ว่านาคี พาลแมน เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ด้วยการถูกจับเข้าคุกในข้อหาฆ่าคนตาย จากเหตุทะเลาะวิวาทในย่านคนยากจนนอกเมือง
ณ สถานกักกันเยาวชนกลางอวกาศ หรือคุกแห่งนี้ เจ้าชายนาซาเรได้พบเห็นอะไรหลายอย่าง รวมถึงการได้พบกับ ซาราท อดีตคนรับใช้คนสนิทของพระองค์ในวัยเยาว์อีกครั้ง การผจญภัยจึงเริ่มต้นขึ้น... นอกจากสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์เราแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ ยังพาเราไปรู้จักกับสิ่งมีชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ที่มีการสืบพันธุ์แบบไม่แบ่งเพศ ขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งตัว นั่นคือ พลานาเรีย ที่รูปร่างคล้ายทาก และสิ่งมีชีวิตในตระกูลเดียวกันนี้ก็มีบางจำพวกที่มีรูปร่างหน้าตาเลียนแบบมนุษย์อีกด้วย!!!
Papillon หรือผีเสื้อ เป็นสัญลักษณ์ของความอิสระเสรี อ.ชิมิสึ คงต้องการใช้สื่อผ่านตัวละคร อย่างเจ้าชายนาซาเร รัชทายาทผู้ซึ่งแท้จริงแล้วอยากมีชีวิตเฉกเช่นคนธรรมดาสามัญ แต่ท้ายสุดความหวังที่จะให้ซาก้า อนุชาของตนเองได้ครอบบัลลังก์แทนก็ต้องสลายไป อีกนัยหนึ่งน่าจะสื่อถึงคุก สถานที่ซึ่งถูกจองจำอิสระและเสรี ทุกคนถูกจับมาขังเพราะความผิด ที่ก่อ แต่จะมีมั้ย ใครที่เหมือนจงใจทำผิดเพื่อที่จะได้เข้ามาซะเอง อย่าง อิโอ้ โครวาส ในเรื่องนี้!!
PAPILLON ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารรายเดือน Lala ค่ายฮาคุเซ็นฉะ เป็นงานเรื่องเดียวทั้งเล่ม ไม่มีเรื่องสั้นปน เรียกว่าสนุกเต็มอิ่มเลยครับ การ์ตูนเล่มนี้เป็นผลงานประเดิมเล่มแรกในฉบับลิขสิทธิ์จาก VBK ซึ่งเมื่อก่อนเราจะเห็น ทางฝั่งสยามพิมพ์งานของ อ. ออกขายซะเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็เคยอ่านงานของ อ. มาก่อน แค่ Moon Child ยอมรับว่าวาดภาพสวยมากๆ แต่ตอนนั้นอ่านแล้วก็ยังงงกับเรื่องอยู่บ้าง พอได้เห็นเล่มนี้วางแผง อูยยย รีบซื้อเลย เล่มเดียวจบด้วย ได้เปิดอ่านก็เหมือนได้นั่งดูหนังฝรั่งไซไฟเรื่องหนึ่งทีเดียวครับ
....แต่หนังเรื่องนี้จ้างตัวละครสาวๆออกมาแค่ไม่กี่วิเอง ^^
และหลังจากอ่านเรื่อง Papiilon จบแล้วเลยหยิบ 22XX ผลงานในปี1992 ของ อ.ชิมิซึ เรโกะ คนเดิมมาอ่านต่อ
เขตลาลองก์ ตั้งอยู่ในบริเวณป่าทึบ บนกลุ่มดาวเมนูเอ็ท ที่นี่คือรังของ ชาวโฟทูริส ชนเผ่านักล่าผู้ซึ่งได้ชื่อว่ากินมนุษย์เป็นอาหาร!!! แจ็ค ไนเจล ทหารหนุ่มพระเอกของเราได้รับมอบหมายให้ตามหาตัวเจ้าหญิงซาราเอ ที่ถูกพวกเอตี้ลักพาตัวมาบนดาวดวงนี้
การกินอาหารถือเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวโฟทูริส ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสวดภาวนาเป็นเวลานาน และจะไม่กินอาหารต่อหน้าผู้อื่นเป็นอันขาด สำหรับการกินเนื้อคน ชาวโฟทูริสถือว่าเป็นการกิน อย่างให้เกียรติ นั่นเพราะความรู้ และความคิด และนิสัยใจคอของผู้ถูกกิน จะถูกถ่ายทอด มาสู่ผู้กินด้วย เหมือนเป็นการมอบชีวิตอันสำคัญจากผู้หนึ่งถ่ายทอดไปสู่ผู้หนึ่ง แล้วพวกมนุษย์ล่ะ เข่นฆ่าประหัตประหารกันทั้งๆที่ไม่ได้นำมากิน!? นี่แหละคือมุมมองของ รูบี้ สาวชาวโฟทูริส ที่แจ็คได้ช่วยเหลือเธอเพราะผลพวงจากปืนอัดก๊าซ
เหตุการณ์ใน 22XX นี้เป็นช่วงเวลาก่อนที่แจ็ค จะได้เจอกับ เอเลน่า ... (จำกันได้ใช่มั้ยครับทุกคน ) แจ็คเป็นหุ่นยนต์ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานเหมือนมนุษย์มากที่สุด มีแม้กระทั่งความรู้สึกหิว
22XX เป็นการ์ตูน SCifi-Fantasy ที่อาจจะมีโทนหม่นๆดาร์กอยู่ในที ต่างจาก Papillon ที่ดูสุกสว่างมากกว่า อ.ชิมิซึ มีแนวคิดที่ว่า คนเราเมื่อเสียชีวิตลง น่าจะถูกฝังดินหรือใต้น้ ำมากกว่า จะเผา เพราะอย่างน้อยร่างนั้นจะเป็นปู่ยให้ดินและพื้ชพรรณได้เจริญเติบโตต่อไป อ.เล่าว่า ทีแรกก็ทำเอาบอกอของ LALA ผงะไปเหมือนกันครับ
แก่นหลักของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ อย่าตัดสินใครแค่เพียงเพราะได้ยินหรือเพียงคำเล่าลือ ควรมองให้เห็นคุณค่าและสำนึกรู้ที่แท้จริงของเขา มากกว่าสถานภาพที่สังคมยกย่องขึ้นมา อย่างเช่นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ผู้ยังหยิ่งทะนงโดยไม่แยแสว่าจะมีผู้คนล้มตายไปสักเท่าไหร่ ,ผู้ดีในงานปาร์ตี้ที่กินอาหารอย่างทิ้งขว้าง เพียงเพราะไม่ถูกใจ ชาวโฟทูริสล่ะ การกินเนื้อคนเพื่อการสืบต่อ ดูจะเป็นสิ่งเลวร้ายมากปานนั้นเลยหรือ?! สุดท้ายตัวของแจ็ค แม้เป็นหุ่นยนต์ แต่มีความรู้สึกหิวเช่นมนุษย์ ทว่าอาหารที่ถูกใบมีดบดย่อยก็ได้แค่เพียงสลายไป ไม่สามารถนำกลับมาใช้ให้ก่อเกิด เป็นพลังงานได้เลย การกินอาหารย่อมเป็นการสูญเปล่ายากยิ่ง หากเทียบกันแล้วใครกันเล่าที่สำนึกรู้ในสิ่งที่ตนทำได้ดีที่สุด...
หากลูกได้พบคนที่คิดว่าอยากให้เค้ามีชีวิตอยู่ยิ่งกว่าตัวเอง ก็จงมอบร่างกายของลูกให้เขากินเสีย นี่คือคำพูดของแม่ที่แทรกซึมอยู่ในสมองของรูบี้ตลอดมา
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2559 23:26:14 น. |
Counter : 2127 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]
|
สวัสดีครับ มาช้ายังดีกว่าไม่มา มาแนะนำตัว
จขบ. เป็นมัณฑนากรและวาดภาพประกอบ งานอดิเรกคือการอ่านการ์ตูน หนังสือ(นิยาย) วาดรูปเล่น ทำอาหาร สำหรับการรีวิวหนังสือนั้นเริ่มขึ้นจากเมื่ออ่านบ่อยๆ เข้า ก็อยากที่จะจดบันทึกช่วยจำ และอยากแนะนำเล่มนั้นเล่มนี้ให้เพื่อนๆอ่านกันด้วย
ใครแวะเวียนผ่านมาหน้าบ้านก็เคาะประตูทักทายกันได้ครับ ด้วยความยินดี ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|
|
|