จะรีบร้อนกันไปถึงไหน....
ใกล้เวลาเลิกงานตอน4โมงกว่าๆ ช่วงนี้รู้สึกอะไรๆ มันดูเร่งรีบยังไงชอบกล เหมือนเวลาที่จะให้กับตัวเองมันน้อยลงไป ผ้าก็ยังไม่ได้พับ ถุงเท้าก็ต้องซัก เวลาเกือบทั้งหมดเอาไปทำงานทั้งประจำและไม่ประจำ..
พูดถึงเรื่องความเร่งรีบแล้ว เหมือนกับว่าเราพยายามจะวิ่งแข่งกับเวลาในแต่ละวันเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วขึ้น ตั้งแต่โบราณกาล...
ในอดีตเราไปไหนมาไหนด้วยการเดิน
เราพยายามหาทางไปให้เร็วขึ้นด้วยม้า
และเราสร้างรถไฟ และรถ
เราสร้างเครื่องยนต์เพื่อให้มันไปได้เร็วยิ่งขึ้น
ในอดีตเราติดต่อกันด้วยนกพิราบ
และพัฒนาเป็นจดหมาย
และโทรเลข และโทรศัพท์
และเพจ และมือถือ.. และ sms และ e-mail
เราเดินทางข้ามทวีปด้วยเรือ
และเรือเหาะ และบอลลูน และเครื่องบิน.. จนใกล้ถึงเครื่อง super sonic
เครื่องมือในการทำงานสมัยก่อนเราใช้กระดาษกับดินสอ
ต่อมาเราใช้พิมพ์ดีด และเครื่องคอมฯแสนแพง
ตอนนี้เรามีคอมพ์ที่เร็วขึ้น และเครื่องสารพัดที่ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น และเร็วขึ้น
เราพยายามวิ่งไปให้ถึงที่หมายให้เร็วขึ้น
แต่เรากลับเหนื่อยขึ้นกว่าแต่ก่อน.. เรามีเวลาให้ตัวเองน้อยลง ทั้งๆ ที่เราทำอะไรให้เสร็จได้เร็วกว่าแต่ก่อน แปลกจริงๆ
แล้วเราจะรีบร้อนกันไปถึงไหนกัน
บางทีเราก็อยากให้เวลาที่เรามีความสุขเดินช้าลง
เราอยากให้วันหยุดเราเดินทางช้ากว่าวันทำงาน
อยากให้เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารักมีชั่วนิรันดร์
อยากให้เรามีเงินใช้ไปตลอดชีวิต...
แต่เครื่องมือที่ทำให้เราทำอะไรได้เร็วขึ้นกลับทำให้เวลาของเราหายไปหมด เพราะเราต้องทำงานหนักขึ้นกว่าแต่ก่อน
มันน่าแปลกจริงๆ.... แม้แต่การเขียนสิ่งต่างๆ นี้เพื่อเอาไปแปะไว้ให้ใครก็ได้ในโลกเข้ามาแวะอ่านได้นั้น ก็ทำได้ดั่งใจ.. แค่คิด กดแป้นพิมพ์ และใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สร้างสรรค์บทความอันนึงซึ่งถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือได้แล้ว... แต่เรากลับต้องอยู่ห่างจากคนที่เรารัก อยู่ห่างจากเพื่อน อยู่โดดเดี่ยวในโลกแห่งความเร่งรีบนี้...
แล้วเวลามันหายไปไหนหมดนะ....
กลับมาเถิดวันวาน...
แต่ใครจะรีบก็รีบไปเถอะ ชั่งแมว เราไม่ใส่ใจ อิอิ