ฤกษ์ดี หรือ เลิกดี....
บ่ายวันเสาร์.. วันพักผ่อนอันแสนขี้เกียจ วันนี้แดดดีครับ แต่คาดว่ามันอาจเป็นสัญญาณว่าฝนอาจจะตก.. (สัญญาณยังไงฟะ)...
เคยได้ไปงานแต่งงานของหลายๆ ท่าน ทั้งญาติ ทั้งเพื่อน และคนรู้จักกันบ้างไม๊ครับ.. ผมละไปงานแต่งงานตั้งแต่เด็กๆ เยอะมาก พอดีญาติเยอะตามสไตล์คนสมัยก่อนที่มีลูกมาก กว่าจะแต่งกันหมดก็เป็นสิบปีละครับ ... งานแต่งงานหลายๆ ครั้งเราจะเลือกดูฤกษ์ยามเป็นสำคัญ โดยพิธีกรรมนี้เป็นความเชื่อที่ฝังรากลึกจนไม่ค่อยมีใครกล้าที่จะฝืนความเชื่อนี้ซักเท่าไหร่
คนที่ทำพิธีหาฤกษ์หายามที่เหมาะสมในการแต่งงานก็มักจะเป็นหมอดู ซินแซ ผู้เชี่ยวชาญ หรือพระ ซึ่งก็จะเอาดวงชะตาวันตกฟากของคู่บ่าวสาวไปจัดแจงผูกกันซะให้เรียบร้อย และออกมาเป็นวันที่จะแต่ง ซึ่งแต่งแล้วจะเด็ดดวง ร่ำรวย ยิ่งใหญ่ ฯลฯ เหล่าผู้หลักผู้ใหญ่พ่อแม่ก็จะเชื่อเหลือเกิน เพราะความสุขของท่านๆ เหล่านั้นคือได้เห็นลูกแต่งงาน แต่จะแต่งแล้วไงก็ไม่รู้ละ.. ขอให้แต่งถือว่าได้ทำกิจของบุพการีได้ครบถ้วนแล้ว...
ถ้ามองว่าทุกคนในประเทศนี้ดูฤกษ์ยามในการแต่งงานเสมอ (ทุกคนเลยละมั้ง) แต่สถิติในการหย่าร้างนั้นก็ใช่น้อยและเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี (ถือเป็นความเสี่ยงมากกว่า 65% เลยละมั้งที่เลิกลากัน).. แล้วเวลาเลิกกันเนี่ย เขานึกถึงไอ้คนดูฤกษ์ให้รึเปล่าว่ามันชุ่ยหรือยังไง
ไหนมันว่าแต่งในฤกษ์นี้จะดี.. แต่ไหงคนเรามันเลิกกันเยอะจัง... แล้วจะดูฤกษ์แต่งไปทำไมกันเนี่ย
แล้วทำไมเราไม่มีมือหนึ่งในการดูฤกษ์ไปซะเลย เวลาจะแต่งงานจะได้ไปดูฤกษ์กับท่านนี้ว่าจะไปกันรอดไม๊
ไม่ใช่สักแต่ดูฤกษ์กันเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้เข้าใจกันจริง ไม่ได้รักกันจริงๆ จนได้ฤกษ์ไปเลิกกัน...
แล้วจะดูฤกษ์ไปทำ.....อะไรกัน
ตอนสุดท้ายแล้ว มันจะฤกษ์ดี หรือ เลิกดี.. อันนี้อยู่ที่ความรัก และความเข้าใจเท่านั้น...
ความรักที่แท้จริงมันไม่หวานชื่นเหมือนความรู้สึกในช่วงรักกันใหม่ๆ หรอก
หากไม่เข้าใจก็อย่าไปเสียเวลาหาฤกษ์เลย
...
...
...
อยากไปเชียงใหม่