เรื่องจริงจากไซอิ๋ว
วันก่อนได้ดูช่อง National Geographic เป็นสารคดีเกี่ยวกับพระถังซำจั๋ง เห็นความพยายามของท่านในการเดินทางไปหาพระไตรปิฎกถึงอินเดีย ฝ่าฟันสารพัดอุปสรรค์ เดินทางหลายพันกิโล ผ่านทะเลทรายและสารพัดศัตรู ด้วยเท้าและม้า เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความตั้งใจและความพยายามสูงส่งจริงๆ

พระถังซำจั๋ง มีตัวตนจริงเมื่อ 1,300 กว่าปีที่แล้ว โดยได้ฉายานามหลังจากออกบวชว่า เสวียนจั้ง (玄奘; ค.ศ.600-665)* พระเสวียนจั้ง ดำรงชีวิตอยู่ใน ช่วงปลายราชวงศ์สุยถึงช่วงต้นราชวงศ์ถัง ท่าน มีนามเดิมว่า เฉินอี (陈袆) เกิดที่ลั่วโจว (洛州; ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเหอหนาน) ในครอบครัวที่บิดาเคร่งครัดลัทธิขงจื๊อมาก ท่านมีพี่น้องรวม 5 คน โดยท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง

พออายุได้สิบขวบ บิดาของท่านก็เสียชีวิตตามมารดาที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว เนื่องจากชีวิตวัยเด็กอันลำบาก แต่ด้วยความเฉลียวฉลาด สนใจการศึกษาเรียนรู้ และความใฝ่ในธรรมะ พี่ชายของท่านสังเกตเห็นว่าน้องชายพอมีหัวทางศาสนาจึงฝากน้องไว้ศึกษาธรรมะที่วัดจิ้งถู่ (净土寺) ในนครลั่วหยาง พออายุได้ 13 ปี จึงบรรพชาเข้าสู่ร่มกาสวพัสตร์

ต่อมาเมื่อราชวงศ์สุยถึงจุดสิ้นสุด บ้านเมืองวุ่นวาย ท่านจำต้องย้ายสถานที่จำวัดจากนครลั่วหยาง ไปยังฉางอาน (ซีอานปัจจุบัน) แต่ด้วยความวุ่นวายในการแย่งชิงบัลลังก์ในนครหลวงทำให้ไม่เหมาะที่จะจำวัด ท่านและพี่ชายจึงมุ่งลงใต้ย้ายไปยังนครเฉิงตู

ต่อมาเมื่อบ้านเมืองสงบแล้ว พระเสวียนจั้งจึงตั้งใจว่าก็ย้ายกลับมาจำวัดที่นครฉางอานอันเป็นเมืองหลวง และศูนย์กลางของศาสนาพุทธในจีนขณะนั้น เพื่อเสาะหาพระอาจารย์ที่มีความรู้ลึกซึ้งในพระธรรม และฝากตัวเข้าศึกษาด้วย

ในประเทศจีนขณะนั้น ด้วยความที่ศาสนาพุทธ ได้เดินทางจากประเทศอินเดียผ่านเส้นทางสายไหมอันทุรกันดาร เข้ามาตั้งแต่สมัยฮั่นตะวันออก (东汉; ค.ศ.25-220) เวลาผ่านมาถึงสมัยถังรวม 500 กว่าปีแล้ว การตีความพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็แตกแขนงออกไปเป็นหลากแนวทางหลายสำนัก เมื่อ พระเสวียนจั้งศึกษาพระคัมภีร์จนแตกฉานมากขึ้นก็บังเกิดข้อสงสัยขึ้นมากมาย แต่เมื่อหาคำตอบแล้วกลับพบว่า แต่ละสำนัก ต่างก็ตีความไปคนละทิศละทาง

ดังนั้นท่านจึงเกิดข้อสันนิษฐานขึ้นว่าการแปล พระไตรปิฎกจากต้นฉบับมาเป็นภาษาจีนนั้นอาจทำให้ความดั้งเดิมในพระไตรปิฎกคลาดเคลื่อน และตัดสินใจว่า จะต้องเดินทางย้อนไปยังดินแดนอันเป็นต้นธารกำเนิดของศาสนาพุทธ ซึ่งก็คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน เพื่อศึกษาพระไตรปิฎกฉบับดั้งเดิมและคัดลอกนำกลับมายังแผ่นดินจีนให้ได้

อย่างไรก็ตามการเดินทางออกจาก มหานครฉางอานในช่วงที่สงคราม การเปลี่ยนราชวงศ์เพิ่งสงบ และเกิดการแย่งบัลลังก์กันในราชสำนักนั้นกลับมิใช่เรื่องง่ายแต่ประการใด โดยเฉพาะในปี ค.ศ.627 อันเป็นปีแรกที่ หลี่ซื่อหมิน (李世民) เพิ่งแย่งบัลลังก์มาจากพี่ชายหลี่เจี้ยนเฉิง (李建成) และขึ้นครองราชย์แทนหลี่ยวน (李渊) ผู้พ่อได้สำเร็จ

ด้วยความที่แผ่นดินจีนในขณะนั้นยังไม่มีเสถียรภาพ องค์ฮ่องเต้หลี่ซื่อหมินจึงควบคุมการเดินทางเข้าออกนครฉางอานอย่างเข้มงวด ทั้งนี้เมื่อ พระเสวียนจั้ง ได้ขออนุญาตเดินทางออกจากฉางอานไปยังอินเดีย (เหมือนกับขอพาสปอร์ตในปัจจุบัน) ถึง 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ท่านจึงแอบลักลอบเดินทางออกจากฉางอานโดยผิดกฎหมาย

ในท่อนนี้ ซูหยุนกล่าวว่า "สำหรับรายละเอียดของการเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกของพระเสวียนจั้ง ชาวจีนทั่วไปที่อ่าน ไซอิ๋ว กันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ต่างก็คิดเช่นเดียวกันว่า พระเสวียนจั้งได้รับพระบัญชาการองค์ฮ่องเต้ถังไท่จง (หลี่ซื่อหมิน) ให้เดินทางไปยังตะวันตกเพื่อนำพระไตรปิฎกกลับมาเป็นมิ่งขวัญให้กับบ้านเมือง

"ทุกคนที่เคยอ่าน ไซอิ๋ว ต่างจินตนาการภาพกันว่า พระเสวียนจั้งถือโองการจากฮ่องเต้ในมือ เดินทางออกจากประตูเมืองฉางอานอย่างองอาจ โดยองค์ฮ่องเต้เองก็เดินทางออกจากเมืองมาส่งอย่างสมเกียรติถึง 10 ลี้ เมื่อถึงเวลาต่างฝ่ายต่างโบกไม้โบกมือกล่าวลาทั้งน้ำตา ..... ในความเป็นจริงแล้ว พระเสวียนจั้งต้องเดินทางในเวลาค่ำคืนออกจากนครฉางอาน เพื่อหลบหลีกการไล่ล่าของทหารตรวจคนเข้าเมือง .... เดินทางอย่างโดดเดี่ยว"

เรื่องจริง พระเสวียนจั้ง (หรือ พระถังซำจั๋งในไซอิ๋ว) มิได้มีเงินถุงเงินถังจากราชสำนักเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปอัญเชิญไตรปิฎกถึงอินเดีย มิได้มีผู้ช่วยเหลือเป็น เห้งเจีย ตือโป๊ยก่าย ซัวเจ๋ง แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามอุปสรรคที่ท่านต้องประสบพบนั้นกลับมิได้ลดน้อยไปกว่า เรื่องราวที่วรรณกรรมระบุแม้แต่น้อย

ท่านเสวียนจั้ง เพียงมี ความศรัทธาต่อศาสนาพุทธ เป็นเข็มทิศ เป็นแรงผลักดันให้เท้าก้าวเดิน ฝ่าฟันข้ามดินแดนอันแห้งแล้งมุ่งไปยังจุดหมายข้างหน้าที่สายตามิอาจมองเห็น ....

หมายเหตุ :
*ปีเกิดและมรณภาพของพระเสวียนจั้ง นั้นหลายตำราระบุว่า คือ ค.ศ.602-664 อย่างไรก็ตาม ซูหยุนได้ระบุไว้ในหนังสือหมื่นลี้ไร้เมฆ (万里无云) ว่าจริงๆ แล้วประวัติศาสตร์ส่วนนี้ระบุไว้ไม่แน่ชัด แต่จากการค้นคว้าและคำนวณแล้ว ตัวเธอเห็นว่า น่าจะเป็น ค.ศ.600-665 มากกว่า เนื่องจากบทความนี้กล่าวถึงการเดินทางของซูหยุน ข้อมูลนี้ผมจึงอ้างอิงตามผู้เขียนหนังสือเล่มนี้

**ระยะเวลา และ ขั้นตอนการเดินทางออกจากฉางอานไปยังอินเดียของ พระเสวียนจั้งนั้น ผมก็ขออ้างอิงตามหนังสือหมื่นลี้ไร้เมฆ (万里无云) เช่นกัน

อ้างอิงจาก :
- หนังสือว่านหลี่อู๋หยุน (万里无云:Ten Thousand Miles Without a Cloud) โดย ซูหยุน (书云) สำนักพิมพ์จิงจี้รื่อเป้า (经济日报出版社)
- หนังสือ 世界文化史故事大系•中国卷 โดย จูอี้เฟย และ หลี่รุ่นซิน (朱一飞,李润新) สำนักพิมพ์ 上海外语教育出版社
ข้อมูลจาก //www.manager.co.th
ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้



Create Date : 01 กรกฎาคม 2548
Last Update : 1 กรกฎาคม 2548 15:47:44 น.
Counter : 4747 Pageviews.

33 comments
  
ในสารคดี มีช่วงที่พระถังซำจั๋งต้องเดินข้ามทะเลทรายโดยไม่มีน้ำดื่มถึง 4 วันเต็มๆ
โดย: biggg วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:51:53 น.
  


คารวะในความมุ่งมั่นพยายามและศรัทธาอันแรงกล้า


ขอบคุณเจ้าของบล็อกที่นำมาบอกเล่านะฮะ

มาเยี่ยมครั้งแรก ประทับใจฮะ ขอแอดเลย
โดย: ปู๊นปู๊นนน วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:16:26 น.
  
โดย: พฤษภาคม 2510 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:30:15 น.
  


เปี่ยมด้วยสาระมากค่ะ จขบ.

ขอเสริมนิดนึง....

ปีที่แล้ว มีหนังสือแปล(จากจีนเป็นไทย)เล่มหนึ่งออกมา ชื่อ " ถังซำจั๋ง จดหมายเหตุการเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกของมหาราชวงศ์ถัง" แปลโดย ซิว ซูหลุน ( ชื่อภาษาอังกฤษว่า Records on the Western Regions of the Great Tang Empire) หนังสือเล่มนี้แปลมาจากหนังสือที่พระถังซำจั๋งเป็นผู้เขียนขึ้นเองเมื่อปี ค.ศ.646

โดยหนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 12 บรรพ มีเนื้อหาครอบคลุมแต่ละแคว้นที่ท่านจาริกไป เริ่มตั้งแต่แคว้นอัคนิ ( Agni)

จะขอยกบางส่วนของอารัมภกถาที่ท่านเขียนเองมาให้ดูกันนะ " อาตมาภาพออกเดินทางจากแผ่นดินฉินอันอุดมสมบูรณ์ จาริกท่องไปทั่วอินเดียทั้ง ๕ แผ่นดินและแว่นแคว้นที่อยู่ห่างไกล ซึ่งมีประเพณีผิดแผกแตกต่างกัน แต่ต่างก็สวามิภักดิ์ต่อมหาราชวงศ์ถัง รับการกล่อมเกลาของวัฒนธรรมจีน..."

" บัดนี้(อาตมาภาพ)จักขอบรรยายลิขิตในสิ่งที่ได้พบเห็นด้วยตนเองไว้ ณ แห่งนี้.."

ถ้าสนใจก็หาซื้อกันได้ หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน อาจจะหายากหน่อย มี 500กว่าหน้า

เราเองก็ยังอ่านไม่จบเลย




โดย: keyzer วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:10:29 น.
  
ปกติมาทำเป็นหนัง ละคร ก็ชอบดู วันนั้นก็ได้ดูพอดี...
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ....
โดย: man u girl วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:46:19 น.
  
อ๋อ..เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง -ตอนเด็กๆก็คิดสงสัยอยู่ว่าทำไมพระถังถึงทิฐิหนักไม่ยอมให้เห้งเจียแบกแล้วเหาะไปอินเดียสะดวกรวดเร็วและจบง่ายๆ พอโตขึ้นมาหน่อยถึงคิดเพิ่มได้ว่า "การเดินทาง"ก็เป็นเป้าหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว ..
โดย: lomocat IP: 202.57.140.166 วันที่: 3 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:50:57 น.
  
ในหนังตอนที่ไซอิ๋วจะขึ้นไปอาละวาดบนสวรรค์เจอพระยูไลเอาหินทับไว้500ปีแล้วก็ให้พระถังซังจั๋งมาแกะผ้ายันออกไซอิ๋วจึงหลุดออกมาจากหินที่ทับไว้ได้
โดย: nice IP: 168.120.27.125 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:34:04 น.
  
เจ้าแม่กวนอิมให้พระถังไปอัญเชิญพระไตรปิฎกกับไซอิ๋วแต่ไซอิ๋วไม่ยอมไปเจ้าแม่กวนอิมเลยเอารัดเกล้าให้ไซอิ๋วใส่เพื่อเอาไว้เวลาที่ไซอิ๋วไม่เชื่อฟังพระถังก็ให้เอาแผ่นหยกขึ้นมาท่องบทสวด
โดย: petty IP: 168.120.27.125 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:56:02 น.
  
มันมากมาตอน6โมงดูแล้วจะติดไจ
โดย: เด็กแนว IP: 58.8.128.250 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:20:46:38 น.
  
พระถังมาช่วยหงอคงกับตือโป้ยไก่ไปชมพูทวีปหนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: คิตตี้ IP: 58.8.128.250 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:20:49:46 น.
  
ชอบมากๆมากๆจะบอกให้ดูแล้วเมงมันทุกทีตอนที่ถึงฉากต่อสู้กันและซึ่งกับความรักลิงและกับทุกๆคนที่เจ้าแม่กวนอิมประทานความสุขให้กับชาวโลก
ชอบมากๆ
โดย: นาวิน คล้ายสุวรรณ IP: 203.147.45.60 วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:14:34:51 น.
  
ผมว่าตามที่บอกไว้คือ "มิได้มีผู้ช่วยเหลือเป็น เห้งเจีย ตือโป๊ยก่าย ซัวเจ๋ง แต่อย่างใด" ตามหลักความจริงคืออาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ผมคิดว่าในทางธรรม พระถังซำจั๋ง อาจจะมีองค์เทพ ทั้งเฮ่งเจีย ,ตือโป๊ยก่าย,ซัวเจ๋ง คอยปกป้องนะครับ (อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ) และปีศาจมารทั้งหลายอาจจะอยู่ในส่วนของธรรมศาสนาต่าง ยกตัวอย่างคนเราทำอะไรบางครั้งรู้สึกว่ามีอุปสรรคตลอดไม่ราบรื่น ตามพุทธศาสนาคือ อาจจะมีมารปีศาจ คอยขัดขวางเราไม่ให้ทำอะไรเสร็จดังสิ่งที่หวังได้โดยง่าย แต่เรากลับมองไม่เห็น,ไม่อย่างนั้นคงไม่มีวัดให้ทำบุญ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายแน่เลย

ปล.ความคิดส่วนตัวผมนะ ^_^
โดย: นับถือองค์เฮ่งเจีย IP: 124.120.98.154 วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:16:58:06 น.
  
นุกมาก หงอคงซนจริงๆชาบมาก
โดย: อิ๋ว IP: 210.203.186.250 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:9:09:09 น.
  
ชอบซึงหงอคงที่สุดเล่นได้ถูกใจมากเลยชอบมาตั้งนานแล้วด้วยเคยดูหลายรอบแล้วใม่เบื่อเลยทั้งการ์ตูนก็อ่านแล้วค่ะมันมากอืมอย่าได้เป็นแผ่ซีดีจังต้องไปหาซื้อซะแล้วไปละค่ะ(ซึงหงอคงสุดที่รัก)บายค่ะไปละ
โดย: พราววี่ IP: 58.8.100.107 วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:18:55:29 น.
  
ชดบมากเลย ชอบที่ในโลก
โดย: เปาบุ้นจิ้น IP: 125.24.177.202 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:19:23:08 น.
  
อามิตตาพุธ
โดย: jack IP: 125.27.173.124 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:14:34:34 น.
  
อามิตตาพุธไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่านี้แล้วถ้ามีอะไรดีกว่านี้ไว้เลยอามิตตาพุธ
โดย: โอ๊ต IP: 58.64.114.206 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:8:23:04 น.
  
โดย: สาธุ IP: 118.173.65.220 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:54:35 น.
  
ดีมากๆเลยคะเป็นเรื่องจิงๆด้วย
โดย: เมย์และมิ้น IP: 58.9.16.226 วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:12:24:25 น.
  
ซุนหงอคง ซัวเจ๋ง โป้ยก่าย
โดย: oat IP: 58.64.114.161 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:10:45:51 น.
  
หงอคงมีตัวจริงไหม
โดย: ซัน ติสนธิ IP: 124.120.141.161 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:16:46:59 น.
  
ถังซำจั๋งหงอคง
โดย: ซิน ติสนธิ IP: 124.120.141.161 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:16:48:51 น.
  
หงอคงมีอาวุธประจำกายคือกระบองทองคำหรือพองทองเก่งมากมีวิชามากมาย
โดย: อภิสร ช้างเขียว IP: 202.149.25.225 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:21:36:15 น.
  
หงอคงปัจจุปันชาวจีนได้กราบไห้ว
ในศาลจ้าวจีน
โดย: งูสิงห์จมูกอี้ขี้เหม็น IP: 202.149.25.241 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:10:29:07 น.
  
โดย: ฟ IP: 202.149.25.225 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:10:32:52 น.
  
หงอคงเก่งมากผมคิดไซอิ๋วตอนนี้คืดบุกเมืองหุ่นยนต์มันสนุกมากค้ายทรานฟอร์เมอร์มาก
โดย: เมกก้าทอน IP: 202.149.25.225 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:14:45:22 น.
  
ข้าได้กลิ่นแกไอ้หนูปีศาจ
โดย: เมก้าทอน IP: 202.149.25.241 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:20:25:12 น.
  
หงอคงสุดหล่อถังซำจั่งสุดหล่อ
โดย: เมกก้าทีน IP: 202.149.25.241 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:20:29:57 น.
  
หงอคงชนะวานรเทพพู้เข็งเกร่งได้โดยเอากระกระบองทองคำเจาะเผลที่ขาโดยการมุดดินวานรเทพรู้สิก
โดย: อภิสร ช้างเขียว IP: 202.149.24.129 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:10:51:12 น.
  
หงอคงเป็นศิษเอกของพระถังซำจั่งสุด
โดย: อภิสร ช้างเขียว IP: 202.149.25.241 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:14:57:33 น.
  
โดย: พี IP: 125.24.64.192 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:25:58 น.
  
โดย: สมาชิกหมายเลข 5728186 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:15:19:23 น.
  
สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้าาาา อิอิ สปาชา sparsha A Moment of Bride เจ้าสาว เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก Freeze Shaping สลายไขมันด้วยความเย็น ลดเซลลูไลท์ Leg Squeezing ผิวเปลือกส้ม FIS หน้าท้องใหญ่ ตัวเล็กแต่มีพุง Body Contouring ลดสัดส่วนทั้งตัว ลดปีกด้านหลัง เนื้อปลิ้นรักแร้ เนื้อปลิ้น Build Muscle สร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหน้าท้อง TM Former สลายไขมันหนา สลายไขมัน ลดไขมัน Lock Shape รักษารูปร่าง Renew Perfect Body สลายไขมัน ลดสัดส่วน Oxy Peel ทำความสะอาดหน้า ทำความสะอาดหน้าแบบล้ำลึก ยกกระชับ Ulthera ปรับรูปหน้า ปัญหาผิวหย่อนคล้อย Beauty Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม Anti Cellulite & Slim Program Hip Shape สลายไขมันสะโพก กระชับผิว Sexy Mama แม่หลังคลอด รอยแตกลาย ปรับรูปร่าง ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก Cellulysis สลายไขมัน ulthera ยกกระชับ Acne Clear รักแร้ขาวเนียน เลเซอร์กำจัดขนถาวร กำจัดขน ร้อยไหม Freeze V Lift กำจัดไขมันด้วยความเย็น PRP ผิวหน้า PRP ผมบาง ผมร่วง เลเซอร์กระชับช่องคลอด กระชับช่องคลอด Love Fit Freeze Shaping สลายไขมันด้วยความเย็น Cell Repair ผิวขาวใส ลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง TM Former Perfect Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ฟิลเลอร์ Filler รักษาหลุมสิว Subcision Dual Yellow เลเซอร์หน้าใส Love Fit ปัญหาปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะเล็ด Oxy Bright ทำความสะอาดรูขุมขน Bye Bye Fat ลดไขมัน Luminous แสงสีฟ้า รักษาสิว ฆ่าเชื้อสิว ABO Active 3D Toxin IV Drip เพื่อสุขภาพและความงาม Viva Lift ยกกระชับผิว ให้ใจ สุขภาพ
โดย: สมาชิกหมายเลข 6102669 วันที่: 15 กันยายน 2563 เวลา:10:39:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biggg
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



my everyday life on EARTH

New Comments
กรกฏาคม 2548

 
 
 
 
 
2
3
5
6
8
10
11
12
14
15
16
18
19
20
21
22
24
25
27
29
30
31
 
 
All Blog