สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

Mushroom as Medicine: กินเห็ด (ให้) เป็นยา

คะเนกันว่าบนโลกนี้มีเห็ดมากกว่าหนึ่งแสนชนิด แต่ที่มนุษย์รู้จักมีเพียงร้อยละสิบ และมีอยู่ 6 ชนิดที่โดดเด่นด้วยสรรพคุณทางยา จนได้รับการขนานนามว่า “เห็ดทางการแพทย์”


    เห็ดทางการแพทย์ หรือ Medicinal Mushrooms เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ได้เห็นและได้ยินบ่อยมากในระยะนี้ มันคืออะไร เห็ดสายพันธุ์ใหม่หรือผลิตภัณฑ์ใหม่จากเห็ดกันแน่ หลังตกอยู่ในสภาวะคาใจได้ไม่นาน ความสงสัยก็ผลักดันให้ต้องระเห็จฝ่าน้ำท่วมไปหาข้อมูลมาฝากกันเช่นเคย เป็นที่มาของบทความในมือคุณขณะนี้นั่นเอง


ไม่ใช่พืช ไม่ใช่สัตว์ หากแต่เป็น “เห็ด”


    เห็ด คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ทั้งพืชและสัตว์ แต่ประกอบไปด้วยสามทหารเสือ อันได้แก่ เห็ด รา และยีสต์ มีหน้าที่ตามธรรมชาติในการย่อยสลายสารอินทรีย์ ข้อดีที่เห็นชัดเจนคือเป็นตัวบ่งชี้ความบูดเน่าของอาหาร หรือเป็นหลักฐานแสดงความเก่าเก็บแก่ข้าวของ


    มนุษย์เรารู้จักประโยชน์จากเห็ด รา และยีสต์มาเนิ่นนานแล้ว ทั้งจากการค้นพบยาเพนนิซิลลินจากเชื้อราบนขนมปัง การค้นพบชีสโดยบังเอิญของคนเลี้ยงแกะในยุโรป การใช้ยีสต์เพิ่มความนุ่มฟูแก่ขนมปัง กระทั่งภูมิปัญญาการแพทย์แผนโบราณของเราชาวโลกตะวันออก โดยเฉพาะชาวจีนและญี่ปุ่นที่มีบันทึกตำรายาว่าด้วยการใช้ประโยชน์จากเห็ดในฐานะยามาเนิ่นนาน


    ด้วยเหตุนี้เอง วงการวิทยาศาสตร์จึงเริ่มหันมาสนใจศึกษาสรรพคุณทางยาของเห็ดกันอย่างจริงจังเมื่อราว 50 ปีที่แล้ว โดยเน้นไปที่เห็ดในตำรายาของชาวจีนและญี่ปุ่น เป็นที่มาของ “เห็ดทางการแพทย์” หรือ Medicinal Mushrooms อย่างไรเล่าคะ


‘เห็ดเป็นยา’ จากภูมิปัญญาสู่การรักษาโรค


    ในบรรดาเห็ดกินได้บนโลก หลายชนิดใช้เป็นอาหารเพียงอย่างเดียว เช่นกันกับอีกหลายชนิดที่ใช้เป็นยารักษาโรคได้ ในเมืองไทยเอง พิพิธภัณฑ์เห็ดที่มีฤทธิ์ทางยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่ามีเห็ดถือกำเนิดขึ้นในบ้านเรากว่าหมื่นชนิด แต่ที่ถูกค้นพบและบันทึกในฐานข้อมูลมีเพียงหนึ่งพันชนิด โดยกว่าแปดร้อยชนิดเป็นเห็ดที่ขึ้นแถบภาคอีสาน กว่าครึ่งนั้นเป็นเห็ดกินได้และใช้เป็นยาได้


    แต่ในคราวนี้ เราจะพูดถึงเห็ดเพียง 6 ชนิด ที่มีการค้นคว้าวิจัยแล้วทั่วโลก และได้รับการยกย่องโดยถ้วนหน้าให้เป็นเห็ดทางการแพทย์ และซูเปอร์เห็ดทั้ง 6 ได้แก่


    เห็ดไมตาเกะ (Maitake Mushroom) ได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาของเห็ดทั้งปวง’ โดยพิพิธภัณฑ์เห็ดที่มีฤทธิ์ทางยาได้ให้ชื่อเป็นภาษาไทยว่า “เห็ดขอนช้อนซ้อน” เพราะมักพบตามขอนไม้ และมีรูปร่างคล้ายช้อนเรียงซ้อนกันอยู่ นับเป็นหนึ่งในเห็ดซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยไมตาเกะหนึ่งนั้นดอกอาจมีขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลได้เลย


    ชาวจีนและญี่ปุ่นใช้ไมตาเกะเป็นยาสมุนไพรมานานปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้เป็นยาลดความดันโลหิต ปัจจุบัน เห็ดไมตาเกะได้พิสูจน์คุณค่าผ่านการวิจัยแล้วว่าช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ จึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิต รวมทั้งมะเร็ง ทั้งยังประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย ทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ไฟเบอร์ กรดแอมิโน และวิตามินอีกหลายชนิด


    ด้วยคุณสมบัติทางการแพทย์ดังกล่าว ประกอบกับเห็ดที่มีน้อยในธรรมชาติ จึงทำให้เห็ดไมตาเกะมีราคาสูง และมักนำมาสกัดเป็นเม็ดเพื่อประโยชน์ทางการรักษาโรคแทน


    เห็ดยามาบูชิตาเกะ (Yamabushitake Mushroom) ที่บางคนเรียก ‘เห็ดหัวลิง’ หรือ ‘เห็ดปุยฝ้าย’ เป็นอีกหนึ่งเห็ดหายากในธรรมชาติ จึงได้ฉายาว่า “Mountain Hidden Mushroom” เพื่อการใช้ประโยชน์ทางยา ทุกวันนี้จึงมีการเพาะเลี้ยงในระบบปิดเพื่อควบคุมคุณภาพและเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค


    จากการวิจัยด้านโภชนาการทำให้พบว่า เห็ดหัวลิงนี้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด เพราะมีกรดแอมิโนเป็นส่วนประกอบมากถึง 16 ชนิด โดย 7 ชนิดนั้นเป็นกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งยังมีสารเลนติแนน (Lentinan) และเปปไทด์ ที่มีผลต่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ด้วย
    ในอดีต ตำราการแพทย์ของจีนระบุไว้ว่า เห็ดชนิดนี้ใช้บำรุงร่างกาย เป็นยาเพิ่มพลังวังชา และช่วยต้านมะเร็ง


    เห็ดหลินจือ (Reishi, Ling Chih or Ling Zhi Mushroom) เห็ดชื่อดังของชาวจีนที่มีประวัติการใช้งานมานานตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือราว 2,000 ปีล่วงมาแล้ว โดยชาวจีนโบราณนิยมใช้เห็ดหลินจือรักษาอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ กำจัดสารพิษ รักษาหอบหืด และบรรเทาอาการไอ แต่เทคโนโลยีทุกวันนี้ ทำให้เรารู้ว่าหลินจือมีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดอาการหลอดเลือดหัวใจ บำรุงตับ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ชะลอวัย ช่วยต้านแบคทีเรีย ไวรัส และมะเร็งได้อีกด้วย


    นอกจากคุณสมบัติทางการแพทย์ที่แทบจะครอบจักรวาล เห็ดหลินจือในธรรมชาติยังเติบโตช้า พบได้น้อยและมักอยู่ในป่าลึก โดยเฉพาะตามขอนไม้ผุๆ หรือซากต้นไม้ในเขตชายทะเล ส่งผลให้มีราคาสูงมากตามไปด้วย และเห็ดหลินจือที่นิยมมากที่สุดทั้งในภูมิภาคเอเชียและอเมริกาเหนือนั้นเป็นสายพันธุ์สีแดง


    เห็ดถั่งเฉ้า (Cordyceps) เห็ดหน้าตาประหลาดที่ชาวตะวันตกเรียกขานว่า ‘เห็ดตัวหนอน’ หรือ Caterpillar Fungus เพราะวงจรชีวิตนั้นมักอยู่บนตัวอ่อนหนอนผีเสื้อ จัดเป็นเห็ดหายากชนิดหนึ่งเนื่องจากพบได้เฉพาะตามแถบภูเขาสูงในเอเชีย เมื่อครั้งอดีตมักใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับชนชั้นสูง เพื่อเป็นยาโป๊ว บำรุงกำลัง บำรุงปอด ไต หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันนักวิชาการพบว่าเห็ดถั่งเฉ้านี้มีสารประกอบที่ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้ปอดนำออกซิเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีอยู่เสมอนั่นเอง


    เห็ดชิตาเกะ (Shitake Mushroom) หรือในภาษาจีน ภาษาเวียดนาม และภาษาไทย มีชื่อเรียกที่แปลได้ตรงกันว่า ‘เห็ดหอม’ เห็ดชนิดนี้ไม่ได้มีราคาเกินเอื้อม ดังจะเห็นได้บ่อยในเมนูทั่วไปที่กินกันอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะเมนูอาหารจีนนั้นแทบจะขาดเห็ดหอมไปไม่ได้เลย เช่นเดียวกันกับประวัติการแพทย์จีนที่มีชื่อเห็ดหอมอยู่เคียงคู่มานานกว่า 6,000 ปีแล้ว


    คนจีนโบราณนั้นใช้เห็ดหอมเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงเลือดลม ป้องกันมะเร็ง โรคหัวใจและโรคติดเชื้อจากไวรัส สมัยราชวงศ์หมิงเห็ดหอมยังเป็นสมุนไพรชะลอชราและช่วยเพิ่มพลังอีกด้วย ตัวเลขทางโภชนาการปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าเห็ดหอม 1 ถ้วยมีวิตามินบี 3 มากถึงร้อยละ 30 ของที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว ไม่นับสารอาหารอื่นๆ อีกเพียบ ที่สำคัญคือ เห็ดหอมมีสารเลนติแนน (Lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้พร้อมต่อสู้เชื้อโรคอยู่เสมอ และยังช่วยลดไขมันในเลือดได้ด้วย


    เห็ดแครง (Schizophyllum Commune) หรือเห็ดตีนตุ๊กแก เป็นเห็ดที่พบได้ทั่วไป ออกดอกตลอดปี และมีในเมืองไทย โดยเมนูสุดฮิตจากเห็ดแครงนั้นได้แก่ ไข่เจียว แกงกะทิ ห่อหมก และงบ นอกจากรสชาติอร่อยถูกปากแล้ว เห็ดแครงยังมีสารสำคัญ คือ Schizophyllan ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเนื้องอก โดยไปเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันร่างกายเช่นเดียวกับเห็ดอื่นๆ เห็นประโยชน์นานาประการอย่างนี้แล้ว ชวนให้หิวเห็ดขึ้นมาบ้างหรือยังคะ ว่าแต่เห็ดบนโลกนี้มีตั้งมากมาย ทำไมเห็ดทางการแพทย์ต้องเป็นแค่เห็ดทั้งหกชนิดดังกล่าว หัวข้อต่อไปคือคำตอบค่ะ


เรื่องไม่ลับของซูเปอร์เห็ดทั้ง 6


    อ่านคุณสมบัติของซูเปอร์เห็ดทั้ง 6 มาจนครบถ้วนแล้ว คุณผู้อ่านหลายคนอาจจะสังเกตเห็นคุณประโยชน์ที่เป็นลักษณะร่วมกันได้บ้างแล้ว นั่นก็คือ เห็ดทางการแพทย์ดังกล่าว มีส่วนสำคัญยิ่งในการ ‘เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน’ ซึ่งเป็นแนวรบที่ดีที่สุดของร่างกาย สำหรับรับมือกับโรคเบาๆ อย่างโรคหวัดไปจนถึงโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์นั่นเลยทีเดียว


    แล้วอะไรที่ทำให้เห็ดทั้ง 6 มีคุณค่าชนะเลิศเห็ดอีกนับแสนชนิด คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ เบต้ากลูแคน ( -glucan) หรือสารประกอบน้ำตาลโมเลกุลเชิงซ้อน (Polysaccharide) ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ช่วยในการย่อยและขับถ่าย ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นสารมหัศจรรย์เพราะมีคุณค่าหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ตื่นตัวพร้อมรับมือเชื้อโรคเสมอ ช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อและทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยเร็วขึ้น นอกจากนี้ เบต้ากลูแคนยังมีประโยชน์ด้านความงาม เพราะช่วยผลัดเซลล์ผิว ชะลอวัย และรักษาสิวได้ ดังจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์เพื่อความงามหลายชนิดที่ใช้เบต้ากลูแคนเป็นส่วนผสม เช่น ครีมกันแดด เซรั่มปกป้องผมจากแสงแดด ครีมรักษาสิว ครีมลดรอยแผลเป็น เป็นต้น


    ทุกวันนี้ เบต้ากลูแคนจากเห็ดทางการแพทย์ทั้ง 6 ชนิด ถูกสกัดออกมาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับใช้เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ แต่สำหรับผู้ที่ไม่นิยมกระแสทางลัดสุขภาพดี ยังสามารถมีสุขภาพดีจากอาหารตามธรรมชาติได้เช่นกัน


อยากได้เบต้ากลูแคน กินอะไรทดแทนดี?


    สำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการคุณค่าจากเบต้ากลูแคน สามารถค้นพบประโยชน์จากสารมหัศจรรย์นี้ได้ในอาหารจำพวก ยีสต์ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต จมูกข้าว และสาหร่าย


    นอกจากนี้เห็ดกินได้ชนิดอื่นๆ ยังมีประโยชน์มากมายเช่นกัน แม้จะมีเบต้ากลูแคนน้อยกว่าซูเปอร์เห็ดทั้ง 6 ก็ตาม แต่สิ่งที่คุณจะได้แน่ๆ จากบรรดาเห็ดแสนอร่อยก็คือ โปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ในปริมาณสูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ยกตัวอย่างเช่นเห็ดแชมปิญอง ซึ่งมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการต่อวันสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นซีลีเนียมร้อยละ 52 ไวตามินบีร้อยละ 40 ทองแดงร้อยละ 35 วิตามินบี 3 ร้อยละ 27 ทริปโตแฟนร้อยละ 25 ฟอสฟอรัสร้อยละ 18 และโปรตีนร้อยละ 10 เป็นต้น


    มาถึงบรรทัดนี้คุณคงรู้แล้วว่า สิ่งสำคัญของเห็ดทางการแพทย์นั้นก็คือ เบต้ากลูแคน สารมหัศจรรย์จากเห็ดที่มีคุณค่ายิ่งต่อร่างกาย ส่วนจะเลือกคุณค่าจากเห็ดธรรมชาติหรือเห็ดที่ผ่านการสกัดเข้มข้น ในฐานะผู้บริโภคยุคใหม่ คุณเลือกได้เองอยู่แล้วละค่ะ








ข้อมูลจาก
//www.healthandcuisine.com




 

Create Date : 13 มกราคม 2555
11 comments
Last Update : 13 มกราคม 2555 15:55:37 น.
Counter : 1025 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

เห็ดเป็นอาหารที่ชอบมากค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 14 มกราคม 2555 20:26:50 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาอ่านเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ครับ เพิ่งจะทราบนะครับว่าเห็ดมีคุณสมบัติทางยามากมายขนาดนี้ แต่ว่าผมไม่คนที่ไม่ค่อยจะกินเห้ดสักเท่าไหร่เลยครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง 15 มกราคม 2555 16:59:15 น.  

 

ไม่ใช่พึช ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ผัก
แต่ก็ชอบกินโดยเฉพาะเห็ดโคน

 

โดย: ชมพร 16 มกราคม 2555 10:10:31 น.  

 

อุภินฺนมตฺถํ จรติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา โย สโต อุปสมฺมติ

ผู้ใดรู้ว่าคนอื่นโกรธแล้ว มีสติ ระงับได้ ผู้นั้นชื่อว่า
บำเพ็ญประโยชน์แก่คนถึง ๒ คน คือ ทั้งแก่ตนเอง และแก่คนอื่นนั้น

มีความสุขในการบำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ตลอดไป...นะคะ



 

โดย: พรหมญาณี 16 มกราคม 2555 12:11:55 น.  

 

เคยกินอยู่อย่างเดียวครับน้องกบ คือเห็ดแครง เพราะทางใต้มีเยอะมาก หน้าฝนชุกชุม ชอบขึ้นตามขอนไม้ยาง แต่อดีตมีมากกว่านะ เพราะไม้ยางไม่ได้ขายหมดเหมือนปัจจุบัน หน้าฝนหาได้เยอะเลย อร่อยมากถ้านำมาทำเป็นเห็ดแครงหมก ขายแพงด้วยนะ ใส่ไข่เจียวก็อร่อยแหล่่มสุดๆ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 16 มกราคม 2555 21:52:36 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
-------------------------------------------------
แวะมาทักทายก่อนไปนอนค่ะ หวังอย่างยิ่งว่าคุณกบ คงสบายดีนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 16 มกราคม 2555 23:43:36 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ






 

โดย: กะว่าก๋า 17 มกราคม 2555 6:16:56 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


ส่งยิ้มทักทายกันเช้าวันอังคารค่ะคุณกบ

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 17 มกราคม 2555 7:57:20 น.  

 

ปญฺญา ว ธเนน เสยฺโย
ปัญญาแล ประเสริฐกว่าทรัพย์

ใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต เพื่อความสำเร็จและความสุข ตลอดไป...นะคะ



 

โดย: พรหมญาณี 17 มกราคม 2555 12:13:50 น.  

 

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 22 กรกฎาคม 2557 11:31:26 น.  

 

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 22 กรกฎาคม 2557 11:34:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.