Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

ข้าวแกงลดราคา -- กบง.เก็บเงินเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมัน -- เบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น -- รถไฟฟ้ารอเข้าครม.

. . .

อาหารปรุงสำเร็จ จะลดราคาเหลือจานละ 20-25 บาท เริ่มวันที่ 1 พ.ย.นี้

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ เช่น คาร์ฟูร์ บิ๊กซี แมคโคร ท็อปส์ รวมถึงตลาดสด เช่น ตลาด อ.ต.ก. ยิ่งเจริญ บางขุนศรี อ่อนนุช แฮปปี้แลนด์ วัฒนานนท์ และอีกหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป รวมถึงร้านมิตรธงฟ้า

นายยรรยง กล่าวว่า จากการติดตามในช่วงภาวะราคาน้ำมันลดลง วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารมีแนวโน้มลดลง ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันพืช ไข่ไก่ ข้าวสาร ซึ่งมีราคาลดลงร้อยละ 10-20 เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะฟู้ดคอร์ต และร้านอาหารในตลาดสดในพื้นที่ต่างๆ จะปรับลดราคา โดยเฉพาะในห้างฯ อาหารจานเดียวเฉลี่ยจากจานละ 30-40 บาท เหลือไม่เกิน 25 บาท ขณะที่ตลาดสดบางพื้นที่เฉลี่ย 25-30 บาท เหลือ 20-25 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กลุ่มอาหารสำเร็จรูปเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อภาวะอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 17 ซึ่งการที่ราคาอาหารสำเร็จรูปลดลงร้อยละ 10-20 จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในช่วงต่อไปมีแนวโน้มลดลง

หลังจากกรมการค้าภายในได้มีการหารือกับกลุ่มอาหารสำเร็จรูปแล้ว กลุ่มต่อไปจะมีการหารือในวันที่ 27 ต.ค.นี้ คือ กลุ่มอาหารสัตว์ เพื่อปรับลดราคาจำหน่าย ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ

นายยรรยง กล่าวว่า ก่อนช่วงสิ้นปีนี้ กรมการค้าภายใน จะจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด ประมาณ 10 ครั้งทั่วประเทศ ในเขตกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-30 พ.ย. บริเวณสนามกีฬาหัวหมาก ส่วนต่างจังหวัด จะร่วมกับผู้ประกอบการจัดมหกรรมธงฟ้าราคาประหยัด ที่ จ.นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 24-26 ต.ค. โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 มาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค เพื่อลดค่าครองชีพ

. . .



กบง. จะพิจารณาเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มจากแก๊สโซฮอล์ และดีเซล วันที่ 24 ต.ค.นี้

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะประชุมกันในวันศุกร์นี้ ( 24 ต.ค.) เพื่อพิจารณาการปรับเพิ่มการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มเพดานการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แต่จะใช้วิธีการเก็บเงินเพิ่มในบางผลิตภัณฑ์น้ำมัน ที่ยังไม่ครบตามเพดานที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 4 บาทต่อลิตร เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์, ดีเซลบี 2, และไบโอ ดีเซลบี 5 และจะจัดเก็บในช่วงที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง

สำหรับเพดานการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่อัตราลิตรละ 4 บาท ปัจจุบัน การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน มีอัตราดังนี้ คือ
เบนซิน 95, เบนซิน 91 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร,
แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 1.35 บาทต่อลิตร,
แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.85 บาทต่อลิตร,
แก๊สโซฮอล์ อี 20 อยู่ที่ 0.30 บาทต่อลิตร,
ดีเซล อยู่ที่ 1.20 บาทต่อลิตร,
ไบโอดีเซลบี 5 กองทุนชดเชยให้ในอัตรา 0.20 บาทต่อลิตร

ส่วนรายละเอียดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนั้น จะต้องหารือกันในที่ประชุม กบง.ก่อน เพื่อนำเงินไปอุดหนุนราคาน้ำมันหลังสิ้นสุดมาตรการ 6 มาตรการของรัฐบาลในต้นปีหน้า เพราะคาดการณ์ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวน้ำมันจะปรับตัวขึ้น และนำไปจ่ายชดเชยส่วนที่ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงด้วย
รั
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะสามารถประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และการปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2007) เพื่อให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ประมาณร้อยละ 15 ป้องกันไม่ให้มีการลงทุนมากเกินไป จนเป็นภาระของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า จากที่ปัจจุบันสำรองไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 28 ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งจากผลพวงเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองในประเทศ

. . .


คลังถกคมนาคม กรอบวงเงินก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ ก่อนจะเสนอโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวเข้าครม. สัปดาห์หน้า

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับกรอบเงินกู้ของกระทรวงคมนาคมเพื่อดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์สำคัญ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า, ถนนมอเตอร์เวย์, ถนนปลอดฝุ่น, และรถไฟทางคู่

นายสันติ เปิดเผยว่าในการประชุมได้พิจารณากรอบการใช้วงเงินของกระทรวงคมนาคม ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังในส่วนของแผนเงินกู้ใน 4 ปีข้างหน้า ระหว่างปีงบประมาณ 2552-2555 จะมีวงเงินไม่น้อยกว่า 3.3 ล้านล้านบาท โดยในหลายโครงการนอกจากจะมีการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินแล้วจะมีส่วนของเงินกู้ที่ได้รับจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม เส้นทางสะพานใหม่-ลำลูกกา และสีเขียวอ่อน แบริ่ง สมุทรปราการ-บางปู

สำหรับวงเงินในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม และสีเขียวอ่อนนั้น กระทรวงการคลังแจ้งว่าจะระดมเงินในประเทศเพื่อดำเนินการก่อสร้างประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะระบุว่าการออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินลงทุนขณะนี้สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 5 ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำ และภาวะการเงินของประเทศขณะนี้มีสภาพคล่องในระบบเพียงพอ

ส่วนการดำเนินการรถไฟฟ้าสีเขียวนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนก่อสร้างเข้าขอความเห็นชอบจาก ครม. สัปดาห์หน้า( 28 ต.ค.) และคาดว่าจะสามารถเริ่มประกวดราคาหาผู้ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2551
ส่วนรถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง ขณะนี้ยังขาดวงเงินงบประมาณที่จะใช้ก่อสร้างในส่วนของระบบรางอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขอกู้เพิ่มจากไจก้า เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต นั้น ที่อยู่ในการกำกับดูแลของ รฟท. กระทรวงการคลังได้แจ้งให้ทราบว่าการดำเนินการก่อสร้างจะต้องมีการไล่ที่ผู้บุกรุกเขตทางรถไฟ ซึ่งเดิมที รฟท.มีแนวทางให้เอกชนประมูลก่อสร้างงานเป็นผู้ดำเนินการไล่ที่ แต่จากการหารือกับไจก้า ล่าสุดได้มีการตั้งเงื่อนไขให้ รฟท.เป็นผู้ดำเนินการไล่ที่เอง รวมทั้งให้มีการดูแลประชาชนที่ถูกไล่ที่ได้รับความเป็นธรรมด้วย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้นโยบายผู้บริหาร รฟท. ว่าขอให้ดูแลการไล่ที่เกิดความรวดเร็ว เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้ การหารือร่วมกันครั้งนี้ยังมีการพูดคุยถึงโครงการสำคัญอื่นๆ เช่น
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ กำกับดูแลโดยกรมทางหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาแผนและเตรียมการก่อสร้าง เช่น เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 198 กิโลเมตร วงเงิน 52,720 ล้านบาท
โครงการถนนปลอดฝุ่นทั้งประเทศ 7,200 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท ใช้งบประมาณ 34,290 ล้านบาท
โดยทั้งหมดเป็นโครงการที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งดำเนินการ เพราะจะส่งผลให้เกิดการส่งถ่ายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นการจ้างงาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมให้ขยายตัว

. . .


หนี้สาธารณะเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 4,000 ล้านบาท

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยถึงผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ประจำเดือน ก.ย. 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 2551 ว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ส.ค. 2551 มีจำนวน 3,339,841 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.49 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 4,827 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้ตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้ตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 5,894 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 3,310 ล้านบาท

. . .


เบียร์ช้างยื่นจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยคาดเริ่มซื้อขายได้ปีนี้

“ไทยเบฟ” ผู้ผลิตเบียร์ช้าง ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยจะขายหุ้นจำนวน 80 ล้านหุ้นแก่นักลงทุนในไทย คาดเปิดซื้อขายได้ภายในปีนี้

นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) หรือ ThaiBev ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นคำขอจดทะเบียนหุ้นสามัญทั้งหมดต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการนำหุ้นสามัญเดิม 80 ล้านหุ้นออกเสนอขายแก่นักลงทุนในประเทศไทย หากได้รับอนุมัติ ก็จะทำให้ไทยเบฟ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สอง ที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 2 ตลาด คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งได้เข้าจดทะเบียน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน ในการเตรียมเอกสาร และหากได้รับอนุมัติ ก็เชื่อว่า หุ้นของไทยเบฟน่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ภายในปีนี้ โดยการกำหนดราคาหุ้นที่จะขายแก่ผู้ลงทุนครั้งแรก หรือ ไอพีโอนั้น บริษัทจะอ้างอิงถึงราคาหุ้นที่สิงคโปร์ด้วย

นายอวยชัยกล่าวว่า ไทยเบฟเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็ง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีการกระจายหุ้นแล้วจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป) ติด 1 ใน 10 อันดับของบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปมากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างแน่นอน

กรณีที่ก่อนหน้านี้เคยมีแรงต่อต้านธุรกิจแอลกอฮอลล์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นายอวยชัยเชื่อว่าการต่อต้านจะยังมีอยู่ แต่การที่พรบ. ควบคุมธุรกิจแอลกอฮอล์มีผลบังคับใช้ จะช่วยสร้างความชัดเจนให้ธุรกิจ และกระแสต่อต้านจะมีไม่มากนัก

สำหรับผลประกอบการของบริษัทปี 2550 มีรายได้จากการขาย 100,541 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10,383 ล้านบาท และบริษัทเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการจ้างงานมากกว่า 22,000 คน และบริษัทยังมียอดชำระภาษีนิติบุคคล และภาษีสรรพสามิตให้แก่รัฐบาลสูงกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี

. . .


หุ้นไทยลดลง 2.83% ต่างชาติเทขายอีก 2,544 ล้านบาท

การซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีอ่อนตัวเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย หลังต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงิน ดัชนีปิดตลาดที่ 465.24 จุด ลดลง 13.55 จุด หรือร้อยละ 2.83 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9,452 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,544 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 156 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,388 ล้านบาท

นายกมลชัย พลอินทวงษ์ ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ มองว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง เพราะได้รับปัจจัยลบจากบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศที่ไม่สดใส หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย สะท้อนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในสหรัฐออกมาย่ำแย่ ขณะที่ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า วิกฤติสินเชื่อทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐไปจนถึงปีหน้า ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียติดลบกันถ้วนหน้า

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. มองว่า ดัชนีน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงสั้นๆ จากการฟื้นตัวทางเทคนิค หลังปรับลงแรงไปใกล้เคียงจุดต่ำสุดเดิม แต่ต้องขึ้นอยู่กับตัวแปรในต่างประเทศ เพราะนักลงทุนยังวิตกว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะเห็นผล ประเมินแนวรับ 455 จุด และแนวต้าน 475 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์

. . .




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2551
3 comments
Last Update : 22 ตุลาคม 2551 19:00:48 น.
Counter : 735 Pageviews.

 

*-*

ซาหวัดดีคร้าพี่นิ้ง เอารูปมาลงแว๊วน้า งิงิ

ดีใจจังค่ารถเมล์ก้อลดราคาด้วยแหล่ะ ตั้งบาทนุง เหอะ ๆ

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) 23 ตุลาคม 2551 12:35:33 น.  

 



....คิดถึงประเทศไทยประเทศเดิมจัง...

 

โดย: ดราก้อนวี 24 ตุลาคม 2551 11:27:07 น.  

 

อยากให้ประเทศไทยเป็นเหมือนวันฉลองในหลวงขึ้นครองราชย์
ครบหกสิบปี

 

โดย: be-oct4 26 ตุลาคม 2551 22:56:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.