|
เทศกาลอาหารไทย 4 ภาค @ Bangkok Baking Company
ชื่อร้าน : Bangkok Baking Company รายการอาหาร : กุ้งอบพริกแกงคั่วกลิ้ง , ต้มแซ่บกระดูกหมูเอ็นแก้ว , แกงเลียง เวลาเปิดบริการ : 6.00 - 22.00 น. ที่ตั้งร้าน : JW Marriott Bangkok Hotel, กรุงเทพมหานคร คลองเตย Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 31.02" N 100° 33' 7.33" E     
ดูแผนที่เพิ่มเติม
วันนี้เรามากันที่ JW Marriott Bangkok Hotel เพื่อมาลองเมนูใหม่ในเทศกาลอาหารไทย 4 ภาค ที่ห้องอาหาร Bangkok Baking Company พิกัด JW Marriott Bangkok Hotel อยู่ซ.สุขุมวิท 2 ใครมา BTS ให้ลงสถานีเพลินจิตใช้ทางออกที่ 4 แล้วเดินต่ออีกนิด ห้องอาหาร Bangkok Baking Company จะอยู่ติดริมถนนเลย ไม่ต้องเดินเลี้ยวเข้าซอยนะคะ แต่ถ้าใครนำรถมาอันนี้ต้องเข้าซอยจ้า จอดรถแล้วเดินผ่านล็อบบี้ เข้าห้องอาหาร Marriott Cafe จะมีทางเชื่อมมาที่ห้องอาหาร Bangkok Baking Company
บรรยากาศห้องอาหาร มีหลายมุมให้เลือกนั่ง ทั้ง In-door และ Out-door มุมด้านนอกนี่แน่นอนว่าไม่มีคนไทย ต่างชาติล้วน ๆ อิอิ
ตอนนี้มีโปรโมชั่นสำหรับช่วง 6.00 - 11.00 น.ด้วยนะคะ ราคาคุ้มดีทีเดียว
บรรยากาศด้านในห้องอาหาร มีหลายมุมให้เลือกนั่งเช่นกัน
เค้กและเบเกอรี่ต่าง ๆ ละลานตามาก ๆ
กาแฟที่นี่ใช้ของ illy ค่ะ ชอบมาก นุ่มละมุน
นอกจากกาแฟแล้วแอลกอฮอลล์ก็มีค่า ราคาพิเศษด้วย
คุณตุ้ม ผจก.ห้องอาหาร Bangkok Baking Company และคุณ Alex F&B Digital Marketing Executive ที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับห้องอาหารและโรงแรมในวันนี้
จากชื่อห้องอาหาร และบรรยากาศในห้องอาหารอาจจะงงเล็กน้อย ว่าทำไมมีอาหารไทย 4 ภาคด้วย ไม่ต้องแปลกใจเพราะห้องอาหาร Bangkok Baking Company แม้ว่าเมนูหลักของห้องอาหารนี้จะเป็นเบเกอรี่ต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้วห้องนี้ให้บริการแบบ All Day Dining สามารถแวะมาทานได้ทุกมื้อ ทั้งมื้อหนัก-มื้อเบา ทั้งพาสต้า , พิซซ่า , เบอร์เกอร์ หรือแม้แต่ผัดไทย , ส้มตำก็มีจ้า
ส่วนอาหารไทย 4 ภาคเป็นเทศกาลพิเศษ จัดขึ้นตั้งแต่ 4 - 31 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องอาหาร Bangkok Baking Company และห้องอาหาร Marriott Cafe
ตัวอย่างเมนูที่เสิร์ฟที่ห้องอาหาร Bangkok Baking Company จะประมาณนี้ค่ะ
วันนี้ทางเชฟได้จัดเมนูอาหารไทยเมนูเด็ดทั้ง 4 ภาคมาให้เราได้ลองชิมกัน บางเมนูจะเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Bangkok Baking Company และบางเมนูจะอยู่ในไลน์บุฟเฟต์ของห้องอาหาร Marriott Cafe
โฉมหน้าเชฟบิ๊ก เชฟผู้ดูแลอาหารไทยของที่นี่
เริ่มจากภาคกลางกันก่อน เมนูที่เชฟเลือกมาให้ทานกันวันนี้เป็นเมนู แกงเลียงต้นตำรับแบบโบราณ เป็นเมนูทานง่าย ๆ ส่วนตัวว่ารสอ่อนไปนิดนึง
ต่อกันด้วยภาคอีสาน ต้มแซ่บกระดูกหมูเอ็นแก้ว ใส่เอ็นแก้วด้วยเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ รสแซ่บจี๊ดจ๊าด เพราะใส่ทั้งพริกสด และพริกแห้ง ชามนี้ถูกใจเลยค่ะ ไม่ใช่อาหารไทยที่ปรุงรสเอาใจชาวต่างชาติแน่นอน
แก้เผ็ดกันซักนิดด้วยไก่ย่าง ไก่นำไปหมักพริกไทยดำ , กระเทียม , พริกไทย ,รากผักชี ย่างมาหอม ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว
มาต่อกันที่ภาคเหนือกันบ้าง แกงฮังเล สูตรต้นตำรับของโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ใช้ส่วนของขาหมู (ที่อื่นใช้สะโพกหรือสามชั้น) จะมีความนุ่มละมุนลิ้น ใส่กระเทียมดอง หอมดองด้วย ปรุงรสมาเข้มข้นดีค่ะ
ภาคใต้เริ่มจากปลาทรายแดงทอดขมิ้น ปลาทอดมากรอบ ๆ แนมด้วยขมิ้น และกระเทียมทอดกรอบ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บ ๆ เมนูนี้อร่อย แนะนำเลยค่า
กุ้งอบพริกแกงคั่วกลิ้ง กุ้งกุลาดำนำมาหมักกับน้ำพริกคั่วกลิ้ง ผัดและอบจนหอม เชฟแนะนำให้นำกุ้งทั้งเปลือกไปคลุกกับข้าวก่อน จะทำให้ได้รสพริกแกงคั่วกลิ้งที่ชัดเจนขึ้น
ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ แบบผสมใส่ทั้งปลา และเนื้อปูลงไปด้วย สำหรับเรารสยังไม่จัดจ้านเท่าไหร่ ยังเผ็ดได้อีกนิดค่ะ
เบรครสร้อนแรงด้วยเมนูหมูฮ้อง ที่นี่ใช้หมูสามชั้นใต้ราวนมชิ้นใหญ่ซึ่งไม่มันจนเกินไปมาทำ อร่อยนุ่มละลายในปากมาก ๆ กินเพลินลืมอ้วนเลยค่า
ปิดท้ายด้วยขนมไทยถั่วแปบแป้งสดชาววัง (เสิร์ฟเฉพาะที่ห้องแมริออท คาเฟ่) ขนมถั่วแปปคลุกกับมะพร้าวทึนทึกหอม พิเศษตรงที่ไส้ด้านในไม่ใช่ถั่วเขียวซีกนึ่งสดแต่เป็นถั่วกวน เวลากินให้โรยงา+น้ำตาลทรายน้อย ๆ แป้งนุ่ม ไส้นวลเนียนมาก ๆ
และนอกจากอาหารไทยแล้วยังมีโอกาสได้ชิมเมนูใหม่ของห้องอาหารนี้ด้วย Sauteed Mushrooms and Feta เห็ดกับเฟต้าชีส กินคู่กับขนมปังซาวโดว์ และแฮชบราวน์
Thai Larb Gai Baked Egg จานนี้เป็นสไตล์ฟิวชั่น ไข่ดาว 2 ฟองกินคู่กับลาบไก่ และขนมปังซาวโดว์กรอบ ๆ
ลองของคาวไม่ลองขนมหวานขึ้นชื่อของห้องนี้ได้ไงเนอะ จัดไป เชฟจีผู้ดูแลเบเกอรี่ของที่นี่ นำเค้กเมนูเด่น ๆ มาให้ลองถึง 4 เมนู
Mango Crumble อุ่น ๆ เสิร์ฟคู่กับซอสมะม่วง เมนูนี้เป็นเมนูที่มีเฉพาะฤดูกาลนะคะ มีจำหน่ายวันที่ 2 - 26 พ.ค. 2560 แอบกระซิบว่ามีเมนูมะม่วงอีกหลายเมนูเลย ไปเกาะตู้เค้กมาแล้ว น่ากินทุกอย่าง ฮ่าๆๆๆ
ราดซอส เพิ่มออฟชั่นด้วยไอศครีมอีกนิด เข้ากันมาก ๆ ค่า
Red Velvet Cake เค้กเรดเวลเว็ท สลับชั้นกับครีมชีสฟรอสติ้ง ท๊อปด้านบนด้วยครีมสด ตกแต่งด้วยผลไม้ตามฤดูกาล เค้กนุ่ม เบา สมชื่อเค้กกำมะหยี่เลยค่ะ
Carrot Cake เค้กแครอทสลับชั้นกับครีมชีสฟรอสติ้ง เนื้อเค้กมีส่วนผสมของแครอท และวอลนัต อาจจะไม่เบาเท่าเรดเวลเว็ท แต่ก็นุ่มและอร่อยเช่นกันค่ะ
Blueberry Cheese Cake ชีสเค้กเนื้อแน่นริช ๆ สไตล์นิวยอร์คชีสเค้ก ท๊อปด้านบนด้วยบลูเบอรี่ฟิลลิ่ง ตกแต่งหน้าด้วยบลูเบอร์รี่สด ครัสต์ด้านล่างกำลังดีไม่แน่นหรือร่วนไป
ตัดความหวานด้วยกาแฟรสนุ่ม illy
ใครไม่ดื่มกาแฟเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็มีค่ะ ทั้งช็อคโกแล็ตเย็น สมู้ทตี้
ใครเป็นสายขนมที่นี่เค้ามีโปร All You Can Eat ด้วยนะ ช่วงเวลาบ่าย 2 ถึง 6 โมงเย็นทุกวัน คนละ 499 บ./Nett ทั้ง Danish, Savory, Sandwich, Pie/Cake, Salad, Fruit Salad, Yogurt, Tea/Coffee (ไม่รวม Cookie/Bread/Whole Cake)
ส่วนใครที่ไม่อยากกินหนักถึงขั้นบุฟเฟต์ ที่ห้องนี้เค้าก็มีเซ็ต Afternoon Tea ช่วงเวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง ถึง 6 โมงเย็นทุกวัน เซ็ตละ 999++ (สำหรับ 2 ท่าน)
ที่นี่รับจัด Hamper กระเช้าของขวัญต่าง ๆ ด้วยนะคะ จะเลือกเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงที่จัดเซ็ตไว้แล้ว หรือเลือกเบเกอรี่ต่าง ๆ ของห้องอาหารจัดใส่กระเช้าก็ได้ค่ะ
สำหรับห้องอาหาร Bangkok Baking Company ต้องบอกว่าครบเครื่องจริง ๆ ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เบเกอรี่ก็ดี อาหารไทยก็เด่น ชอบที่อาหารไทยของที่นี่ปรุงรสมาแบบคนไทยกินจริง ๆ จัดจ้าน ถึงรสถึงเครื่อง สนใจแวะไปลองชิมอาหารไทย 4 ภาคได้ที่ ห้องอาหาร Bangkok Baking Company และห้องอาหาร Marriott Cafe ตั้งแต่ 4 - 31 พฤษภาคม 2560
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง Bangkok Baking Company โทร. 02-656-7700 FB/IG/LINE : JWMarriottBkk
| Create Date : 12 พฤษภาคม 2560 |
|
28 comments |
| Last Update : 12 พฤษภาคม 2560 8:21:39 น. |
| Counter : 3698 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 248 คน [
แต่ละเมนูทำได้น่ากินและสวยงาม
ขนมหวานและเครื่องดื่มก็ดูดีไปหมด
ต้องหาโอกาสไปชิมมั่งดีกว่า
ขอบคุณที่แวะฟังเพลงค่ะ