10 วิธีในการจุดประกายชีวิตให้แก่ตนเอง
มนุษย์ทุกคนต่างก็มีพลังในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน โดยต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงความคิดของตนเอง เป็นอันดับแรกด้วยการทำบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยให้ตัวเรา มีความสุข ซึ่งหากได้มีการฝึกฝนการกระทำเหล่านั้นบ่อย ๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว ก็จะกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และพร้อมที่จะพัฒนาตนให้ไปสู่ความสำเร็จได้โดยไม่ยากนัก
10 วิธีในการจุดประกายชีวิตให้กับตนเอง 1) ให้ฟังเพลงและร้องเพลงทุกวัน ดนตรีเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์ได้ ดังนั้น ระหว่างขับรถไปทำงาน หรือขณะที่ทำงานบางอย่าง หรือเมื่ออยู่ในบ้าน เช่น ออกกำลังกาย ทำสวน ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ ให้เปิดเพลงที่ชอบฟังไปด้วย และถ้าหากเพลงนั้นเป็นเพลงที่ท่านสามารถร้องได้ ก็จงร้องเพลงตามไปให้ดังที่สุดเท่าที่ท่านจะสามารถทำได้
2) ให้ตั้งใจกับตนเองว่า ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ท่านจะตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ โดยยึดหลักของความรัก ความเชื่อใจกัน และความมั่นคงที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ“
โดยปกติ ผู้ที่ผ่านการพัฒนาตนแล้ว ไม่ว่าจะทำสิ่งใดจะตัดสินใจโดยมีพื้นฐานมาจากความรัก ความไว้วางใจ และความมั่นคงในจิตใจอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยฝึกตนในด้านนี้ ก็ควรหาจุดเริ่มต้นก่อน ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การกำหนดระยะเวลาให้กับตนเองสำหรับทดลองปฏิบัติ แล้วจึงค่อยขยายเวลาออกไป เช่น ขยายเวลาออกไปเป็น 48 ชั่วโมง หรือ 96 ชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งหากฝึกไปนาน ๆ ในไม่ช้าก็จะกลายเป็นนิสัยติดตัวตลอดไป คนที่ยังไม่เคยทำอะไรด้วยความรักในหัวใจ ลองทำดูในวันนี้ แล้วท่านจะเห็นว่าผลของกระทำที่เกิดจากความรักเป็นอย่างไร
3) เลือกวันใดวันหนึ่งให้เป็นวันของตนเอง โดยไม่ต้องนึกถึงเวลา หากท่านมีภารกิจที่ต้องทำในชีวิตประจำวันมากจนกระทั่งไม่มีเวลาเป็นของตนเอง จงเลือกวันที่ท่านว่าง และใช้เวลาตลอดทั้งวันนั้นกับตนเอง เช่น อยากนอนก็จงนอนให้เต็มอิ่ม ถ้าหิวก็ให้กินโดยไม่ต้องคำนึงถึงน้ำหนัก ถ้าอยากอ่านหนังสือหรือดูทีวีก็ให้ทำในสิ่งที่ต้องการ หากเกิดความรู้สึกเบื่อ ไม่อยากทำอะไรเลย ก็ให้พักผ่อน อย่าสนใจกับเวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที แต่จงมีความสุขกับสิ่งนั้นให้เต็มที่ และใช้เวลาตลอดวันนั้นให้คุ้มค่า
4) ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือทำในสิ่งที่ต้องฝืนกับความรู้สึกของตนเองบ้าง เช่น ท่านกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายงานบางอย่าง ก็ให้ฝืนความรู้สึกโดยทำเป็นกระฉับกระเฉงหรือกระตือรือร้นที่จะทำในสิ่งนั้นให้สำเร็จ หากท่านเคยแต่งตัวไปทำงานโดยใส่เสื้อเชิ้ตสีสุภาพ และผูกเนคไททุกวัน ก็ลองเปลี่ยนไปใส่เสื้อมีลวดลาย หรือใส่เสื้อสีฉูดฉาด และไม่ผูกเนคไทดูบ้าง สำหรับสุภาพสตรี อาจทดลองเปลี่ยนทรงผมหรือสีผม เปลี่ยนสไตล์การแต่งหน้า เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เป็นต้น
จุดประสงค์หลักของข้อนี้ก็คือ ต้องการให้เพื่อนร่วมงานเกิดความฉงนสนเท่ห์ หรือเกิดความรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจในบุคลิกภาพของท่านบ้าง แต่ไม่ใช่ทำทุกวัน ท่านอาจจะลองทำดูบางวันในวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์เท่านั้น
5) ให้รู้จักร้องขอในสิ่งที่ท่านต้องการบ้าง ท่านไม่ควรคาดหวังว่าเพื่อนของท่านทุกคนจะรู้ใจหรือเดาใจท่านได้ทุกอย่าง เพราะไม่มีใครที่รู้ดีถึงความต้องการของตนเท่ากับตัวของเราเอง โดยเฉพาะผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะขี้อาย ไม่กล้าบอกความปรารถนาบางอย่างของตนให้ผู้ชายทราบ เนื่องจากคิดไปเองว่าผู้ชายทุกคนต้องรู้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ดังนั้น นับจากวันนี้ไป หากท่านปรารถนาสิ่งใด อย่าเก็บไว้ในใจหรือคิดอยู่เพียงคนเดียว จงบอกกับเขาเหล่านั้นถึงสิ่งที่ท่านต้องการด้วยความสุภาพ เช่น o ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ o ฉันอยากให้คุณบอกว่ารักฉันบ้าง o ฉันเสียใจที่ไม่ได้พูดกับคุณให้เข้าใจก่อน o ฯลฯ
6) ลองสำรวจเพื่อนที่เคยอยู่รอบ ๆ กาย เพื่อดูว่าพวกเขายังปฏิบัติต่อท่านด้วยความรู้สึกเคารพนับถือเหมือนเดิมหรือเปล่า หากสัมพันธภาพของท่านกับเพื่อนเหล่านั้นมีความเปลี่ยนแปลงไป และท่านไม่สามารถประสานรอยร้าวให้เหมือนเดิมได้อีกแล้วไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ตาม จงมองหาเพื่อนใหม่จะดีกว่า ลองดูสิว่ามีเพื่อนคนไหนบ้างที่ท่านจะให้ความเคารพนับถือได้ ให้ความไว้วางใจได้ และเป็นบุคคลที่สามารถมาร่วมวงสนุกสนานเฮฮากับท่านได้ ให้ผูกมิตรกับคน ๆ นั้น ในไม่ช้าท่านก็จะได้เพื่อนใหม่แน่นอน
7) ซื้อหนังสือหรือเทปเพลงที่ดี มีคุณค่า มาอ่านหรือมาฟังเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ในยามที่ท่านต้องการความรู้สึกที่ดี ๆ หรือต้องการแรงบันดาลใจบางอย่าง ไม่ควรอ่านหนังสือพิมพ์ เพราะหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีแต่ข่าวร้ายหรือข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ หากท่านเป็นคนที่ติดข่าว ท่านอาจจะรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องข่าวสารการบ้านการเมือง แต่ท่านไม่ต้องกังวลใจ เพราะท่านไม่ได้หยุดการอ่านหนังสือพิมพ์ตลอดไป ท่านอาจจะหยุดอ่านเพียง 2 - 3 วันเท่านั้น ในขณะที่อ่านหนังสือที่ต่างออกไปจากเดิม ท่านจะรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันที่มีความสุขมากขึ้นที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
8) ออกไปผจญภัยบ้าง ให้หาวันหยุดสักวัน แล้วลองขับรถแล่นไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมาย และให้หยุดพักเมื่ออยากจะหยุด การเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพที่อยู่รอบๆ ตัวท่านเสียบ้างเป็นสิ่งที่ดีต่อจิตใจ และยังช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าให้ตื่นตัวอีกด้วย ดังนั้น หากท่านอาศัยอยู่ในเขตเมือง ลองขับรถมุ่งหน้าไปยังชนบท หรือหากท่านอาศัยอยู่ในชนบท ก็ลองขับรถเข้าไปในตัวเมือง หากท่านอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีแต่ภูเขาล้อมรอบ ลองขับรถไปที่จังหวัดที่มีชายหาดสวยงาม และถ้าท่านอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล ก็ให้ลองขับรถไปยังจังหวัดที่มีภูเขา โดยท่านไม่จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า เพียงแค่เตรียมน้ำมันให้เต็มถังและเตรียมเสบียงอาหารไว้ให้เพียงพอเท่านั้น เหมือนกับที่มีบางคนเคยกล่าวว่า “หากท่านไม่รู้ว่ากำลังจะไปไหน ก็จงไปกับถนนสายไหนก็ได้ที่สามารถจะพาท่านไปได้”
สำหรับท่านที่มีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว จงใช้ชีวิตในหนึ่งวันนั้นให้คุ้มค่า แล้วท่านจะพบว่าท่านรู้สึกเป็นอิสระอย่างแท้จริง และกว่าจะรู้ว่าท่านกำลังอยู่ที่ใดท่านก็ได้ไปถึงบริเวณนั้นแล้ว
9) ลองไปเที่ยวที่สวนสนุก หรือไปงานรื่นเริงในเทศกาลต่างๆ ขณะที่เที่ยวในงานนั้น จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เช่น กินขนมสายไหม นั่งม้าหมุน และลองแข่งขันเกมสนุกต่าง ๆ เพื่อให้ได้รางวัล
10) ลองเต้นรำ การเต้นรำเป็นกิจกรรมที่ดีเลิศอย่างหนึ่งในการสร้างความสุข หากท่านสามารถเปลี่ยนอารมณ์ด้วยการคิด ท่านก็สามารถเปลี่ยนอารมณ์ด้วยท่าทางได้เหมือนกัน ขณะที่ท่านเต้นรำไปตามจังหวะเพลง ท่านจะรู้สึกผ่อนคลาย อย่าสนใจว่าท่านกำลังเต้นในจังหวะอะไร เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ จงเต้นไปตามเสียงเพลง ไม่ว่าท่านจะก้าว จะหมุน หรือเต้นวนไปรอบ ๆ นั่นคือการที่ท่านได้ปลดปล่อยอารมณ์ของท่านเอง ดังนั้น จงเปิดเพลงที่ท่านชอบและเริ่มเต้นรำตั้งแต่วันนี้
เรียบเรียงจาก //hades.soluserve.com โดย รศ.มัณฑรา ธรรมบุศย์
Create Date : 20 กรกฎาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2552 12:59:01 น. |
Counter : 732 Pageviews. |
|
|
|