|
9 เคล็ดลับ ใช้ชีวิตอย่างอิ่มเอมใจ
ความสุขทำให้คนเราเกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจใน การใช้ชีวิต ซึ่งหมายถึงการมีพลังสร้างสรรค์ มีกำลังใจที่ดี มีทัศนคติต่อด้านต่างๆที่ดี ในกรณีที่มีปัญหาต่างๆเข้ามาก็มีความพร้อมที่จะใช้สติสัมปชัญญะแก้ไขเรื่องราวนั้นๆ เพื่อจะก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างสวยงาม พร้อมๆ กับเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน ...
ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างอิ่มเอมใจได้ เพียงแค่เรียนรู้เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ จาก ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ข้อ 1-5) ซึ่งเปิดเผยแง่มุมการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้มีความสุข เพราะคนเราไม่สามารถใช้ชีวิตตามลำพังได้ ส่วนนักการเมืองหนุ่ม ภิมุข สิมะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ข้อ 6-9) เน้นการใช้ชีวิต ต่อไปให้ได้ในยามที่ต้องพบกับความโศกเศร้าเมื่อพลัดพรากหรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
เคล็ดลับเหล่านี้ก็เพื่อความรู้สึกที่อิ่มเอมใจนั่นเอง
อิ่มเอมใจแบบ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ลองดูคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมให้เกิดความราบรื่น เพื่อสัมพันธภาพที่ดีและเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
1.เป็นผู้ให้ :หรือมีใจบริการ ผู้อื่น (Service Mind) คือ การ มอบสิ่งดีๆ กับผู้อื่นเพื่อความสุขใจ
คำแนะนำ : ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน เพื่อสร้างวงจรแห่งการให้ “คนจำนวนมากไม่ค่อยกล้าเป็นผู้เริ่ม มักจะรอให้คนอื่นเป็นผู้เริ่ม หากเราเริ่มเสียเองจะเป็นการสร้างวงจรแห่งการให้ เมื่อเราให้ใคร เขาก็จะให้เรากลับมาแล้วเราก็จะให้เขากลับไปอีก เป็นวงจรแห่งการให้แบบนี้ ทีนี้วงจรการให้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เราจึงต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนไง เช่น เลี้ยงข้าวเพื่อน เพื่อนก็อยากจะเลี้ยงเรากลับ เป็นการให้แบบนี้ไปเรื่อยๆ”
2.มองโลกในแง่ดี : หรือการคิดในแง่บวก เพื่อให้เรื่องร้ายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพื่อง่ายต่อการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
คำแนะนำ : หากรู้จักเลือกมองข้อดีในเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ทุกวิกฤตก็จะมองเห็นโอกาสอยู่เสมอ พร้อมกับใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียนได้ “ความแตกต่างระหว่างเรากับคนอื่น อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานในการทำงานร่วมกัน ผมอยากให้ มองว่าความต่างนั้นแท้จริงแล้วคือภาพ อย่าลืมว่าสังคมจะพัฒนาได้ด้วยความหลากหลายและความแตกต่าง ตัวอย่างของการคิดในด้านบวก ก็คือ การมองเห็นคุณค่าในด้านต่างๆ ในตัวของคนอื่นบ้าง ขณะเดียวกันก็มองหาจุดที่เหมือนกันได้ สิ่งสำคัญก็คือ ขอให้เชื่อมั่นว่าจะมีหนทางที่จะตกลงกันได้เสมอ แล้วทุกฝ่ายก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อ เพียงแต่ต้องหาให้เจอ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของการหลีกเลี่ยงปัญหาขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างกันด้วย”
3.หมั่นตรวจสอบตนเอง : หรือสำรวจตนเอง เพื่อความง่ายในการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
คำแนะนำ : เมื่อเกิดปัญหาใดๆ อย่าเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการโทษผู้อื่น ให้โทษตนเอง และแก้ปัญหาจากตัวเอง “การไปเรียกร้องให้คนอื่นแก้ไขปัญหามักไม่ได้ผล ถ้าทุกคนเริ่มต้นจากการแก้ที่ตนเอง ปัญหาจะได้รับการแก้ไข ซึ่งเท่ากับย้อนกลับไปสู่หลักข้อแรกเลย คือเป็นฝ่ายเริ่มนั่นเอง แต่คนชอบพูดกันว่า เขาร้ายกับเรา เขาไม่แก้ เราจะแก้อยู่ข้างเดียวได้อย่างไร ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้กันหมด สังคมจะมีแต่แย่ลง ต้องมีคนที่เป็นฝ่ายเริ่ม นอกจากนี้ อย่าลืมเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากความผิดพลาด รวมทั้งเรียนรู้ความผิดพลาดจากคนอื่นด้วย”
4.ใช้จินตนาการแก้ปัญหา (บ้าง) : หรือการออกจากกรอบและกฎเกณฑ์ของเหตุและผลเพื่อมุมมองใหม่ๆ
คำแนะนำ : ความวุ่นวายต่างๆ อาจเป็นเพราะมนุษย์ใช้เหตุผลมากเกินไป “ในบางคราวเหตุผล ไม่ได้ตอบคำถามได้ทั้งหมด บางปัญหาหากมัวแต่คิดถึงเหตุผลก็จะแก้ไขไม่ได้ ต้องอาศัยจินตนาการบนพื้นฐานของความเป็นจริงและความรู้ ผมคิดว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คนเราจึงควรมีจินตนาการ และเป็นจินตนาการที่มองเห็นโลกในด้านบวก เพื่อให้ชีวิตมีพลังและมีแรงบันดาลใจ ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขมากขึ้นด้วย ทำให้เกิดสังคมที่มีจินตนาการร่วมกันสู่อนาคตที่ดีกว่า”
5.เพิ่มสติ ลดอารมณ์ : หรือใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว รู้จักการปล่อยวางหรือหยุดเดินสักก้าวหนึ่ง ก่อนตัดสินใจเรื่องต่างๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์นั้นๆ
คำแนะนำ : เมื่อเกิดความทุกข์ ลองใช้สติให้มากขึ้น อย่าใช้อารมณ์แล้วก็หายใจยาวๆ สุดท้ายเรื่องทั้งหลายจะค่อยๆ ตกตะกอนลง แล้วคำตอบจะมาเอง “บางทีบางเรื่องก็ต้องหยุด เพราะบางทีเรื่องมันฟุ้ง มันร้อนมาก บางทียิ่งจะมีปัญหาใหม่ๆ เกิดตามมา ไม่ได้ตามหา แก้ปัญหาไม่ได้ วิธีนี้จะช่วยให้เราพบกับความสุขได้ง่ายขึ้น และแก้อุปสรรคต่างๆ ได้”
อิ่มเอมใจแบบ ภิมุข สิมะโรจน์ การสูญเสียพลัดพรากจากสิ่งที่รักเกิดขึ้นกับทุกคนในชีวิต ลองดูคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ว่า เมื่อวันนั้นมาถึงมีวิธีควบคุมอย่างไรให้ทุกอย่างผ่านไปได้
6.คิดถึงคนที่สูญเสียมากกว่าเรา หรือมองคนที่แย่กว่าเรา เพื่อกำลังใจและไม่สิ้นหวัง
คำแนะนำ : “หลักคิดนี้แม่สอนผมมาตั้งแต่เด็ก หากเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นให้คิดถึงคนที่แย่กว่าเรา คนที่สูญเสียมากกว่าเรา จะทำให้เราเห็นภาพและเกิดความรู้สึกเข้าใจโลกมากขึ้นว่ามีคนที่ย่ำแย่กว่าเรานะ แต่เขายังไม่ท้อ เราก็ต้องไม่ท้อแท้กับชีวิต จะได้มีกำลังใจเดินหน้าต่อไป”
7.อ่านหนังสือเกี่ยวกับจักรวาลและธรรมะ หรือแนวทางของการไม่ยึดมั่นถือมั่น เพื่อสายตาของการมองเห็นทางออกของปัญหา
คำแนะนำ : “เป็นวิธีที่ผมใช้ประจำเมื่อรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่ออ่านเรื่องราวของจักรวาลและดวงดาวแล้ว จะทำให้รู้สึกว่ามนุษย์เป็นแค่สิ่งเล็กๆ ในจักรวาล และเป็นเพียงเสี้ยวเวลาของเวลาทั้งหมดด้วย หมายความว่า คนเราอาจจะมีอายุยาวนาน ถึง 90 ปี แต่ความจริงแล้ว 90 ปีนี้เป็นเพียงเสี้ยวเวลาของเวลาทั้งหมดเท่านั้นเอง ทำให้คิดได้ว่าคนเราไม่ควรไปยึดติดมากเกินไป ส่วนการอ่านหนังสือธรรมะ ซึ่งเน้นเรื่องเหตุและผล ผมเรียนสายวิทย์ทำให้มีพื้นฐานเรื่องของเหตุและผล เช่น ผลงานของหลวงพ่อปัญญา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ช่วย ให้มองเห็นทางออกของปัญหา มีวิธีเอาชนะความโศกเศร้าได้ หากเราเกิดการสูญเสีย มีความเป็นเหตุและผลประกอบกันอยู่เสมอ อ่านแล้วช่วยให้คลายความเศร้า ความทุกข์ได้”
8.จุดสิ้นสุดย่อมมีจุดเริ่มต้นเสมอหรือการให้โอกาสตนเอง เพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
คำแนะนำ :ไม่ว่าจะสูญเสียสิ่งใดก็ตาม หมายถึงการเริ่มต้น สิ่งใหม่ๆ อย่างน้อยก็การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่ง “คนเราต้องก้าวเดินไปข้างหน้า ต้องสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง เพราะมีวิถีชีวิตแบบใหม่รอให้เราเริ่มต้นอยู่ข้างหน้า ต้องไม่หมดกำลังใจและคิดเสมอว่า ณ จุดสิ้นสุดย่อมมีจุดเริ่มต้นใหม่ หากเราสูญเสียคนอันเป็นที่รักก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะมันเหมือนกับเรากำลังเริ่มต้นการใช้ชีวิตใหม่เช่นกัน”
9.ออกกำลังกายหรือการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่สดใส
คำแนะนำ : การปล่อยเวลาให้ผ่านไปก็ทำให้พะวงอยู่กับปัญหาต่างๆ รวมทั้งความโศกเศร้าที่เพิ่งได้รับ “เราไม่ควรปล่อยเวลาให้ว่าง หันไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา เป็นวิธีที่ผมใช้อยู่เสมอ เพราะช่วยให้เราไม่มีเวลาเอาความคิดไปจมอยู่กับเรื่องที่เศร้าตลอด เราสามารถรำลึกถึงการสูญเสียเหล่านั้นได้ แต่ไม่ควรจมปลักอยู่กับการสูญเสียเหล่านั้นจนเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต”
9 เคล็ดลับ คงไม่ยากเกินไป อยู่ที่ว่าจะลงมือทำเมื่อไหร่ เพื่อชีวิตที่อิ่มเอมใจ
ที่มา โพสต์ทูเดย์
Create Date : 14 มีนาคม 2552 |
Last Update : 14 มีนาคม 2552 11:45:51 น. |
|
2 comments
|
Counter : 733 Pageviews. |
|
|
|
โดย: รัตนมาลี วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:12:47:01 น. |
|
|
|
โดย: ฟาส IP: 124.122.168.165 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:51:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|