Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
3 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
พลังแห่งจินตนาการ

พลังแห่งจินตนาการ

คำพูดมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ต่อร่างกาย จิตใจรวมทั้งภาพพจน์ตัวเองของเรา
แต่เราคงต้องยอมรับว่าคำพูดบางคำมีอำนาจมีพลังมากและคำพูดบางคำมีพลังน้อย
คำพูดอะไรที่ทรงพลัง?
ลองพิจารณาประสิทธิภาพของคำพูด 2 แบบ ต่อไปนี้ว่าให้ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไร

แบบที่หนึ่ง: "ช่วยกรุณาทำให้หัวใจของคุณให้เต้นแรงขึ้นและขนลุกหน่อยครับ"
แบบที่สอง : "จินตนาการว่าเราเดินอยู่ตามลำพังในความมืดที่เงียบสงัด
เราได้ยินแม้กระทั่งเสียงใบไม้ที่หล่นกระทบหญ้า เราเดินเข้าไปในสุสานที่รกร้างว่างเปล่า
และเราได้ยินเสียงสุนัขหอนขานรับกันอย่างวังเวง"

คำพูดแบบที่สองนี้ใช่ไหมที่อาจจะทำให้เราหัวใจเต้นแรงและขนลุกได้มากกว่า!
คำพูดที่ทำให้เห็นภาพหรือเกิดการจินตนาการจึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ต่อจิตใจของมนุษย์

มีคำสอนมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของจินตนาการของมนุษย์ เช่น
"ภาพเดียวมีค่าเท่ากับคำนับพันคำ (Picture is worth a thousand words)" หรือคำกล่าวของไอน์สไตน์ที่ว่า
"จินตนาการมีคุณค่ากว่าความรู้มากมายนัก (Imagination is more important than knowledge)"

Disareli นักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่กล่าวไว้ว่า "จินตนาการเป็นตัวกำหนดชะตาของโลก (Imagination rules the word)"
จินตนาการของคนเราจึงมีความสัมพันธ์เป็นอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงภาพพจน์ตัวเอง
นักวิทยาศาสตร์ได้ประมาณเอาไว้ว่าคนทั่วไปมักมีการเรียนรู้ (Learning) สิ่งต่างๆ มากถึง 70% ของการเรียนรู้
ทั้งหมดของชีวิตในช่วง 6 ปีแรกที่เกิดขึ้นมาในโลก ซึ่งในช่วงแรกของชีวิตนี้คนเราจะมีจินตนาการสูงที่สุด
การเรียนรู้จึงเกิดขึ้นสูงสุดในช่วงนี้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
และรวดเร็ว จึงจะต้องพยายามรักษาความสามารถในการจินตนาการที่เรามีอยู่อย่างสูงในวัยเด็กนี้ไว้จนตลอดชีวิต

มีผู้กล่าวว่า "จงฝึกออกกำลังสมองด้วยการจินตนาการให้มากพอๆ กับการออกกำลังกายในแต่ละวัน"
ลองมาดูกันซิครับว่า เรามีจินตนาการดีแคไหน?
..... หลับตา นั่งสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย หายใจลึกๆ ช้าๆ เข้าออก 3 ครั้ง เห็นภาพเราเดินไปขึ้นรถ
ขับรถออกไปยังชนบท เบื้องหน้าของเราเป็นท้องทุ่งที่เขียวขจี เราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ได้ยินเสียงนกร้อง
ใบไม้ไหว เห็นภาพเราเดินอยู่บนท้องทุ่งหญ้าที่เขียวขจีนี้ตามลำพัง เท้าของเราสัมผัสกับพื้นดินและพื้นหญ้า
รู้สึกถึงพลังของธรรมชาติผ่านปลายเท้าเข้ามายังทุกส่วนของร่างกายเรา เรารู้สึกสดชื่นที่สุด
เบื้องหน้าของเราเห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังตกลงจนลับขอบฟ้า เรารู้สึกผ่อนคลายที่สุด อิสระที่สุด สูดหายใจลึกๆ
เอาพลังจากธรรมชาติ เข้ามาเต็มปอด เรารู้สึกมีความสุขที่สุด ให้เราอยู่กับความรู้สึกนี้สัก 2 - 3 นาที ลืมตาขึ้น .....

ถ้าเราลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกที่สงบผ่อนคลาย เหมือนๆ กับได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ชนบทจริงๆ
แสดงว่าเรามีพลังการจินตนาการที่ดี ในทางตรงกันข้ามถ้าเราไม่สามารถจินตนาการเห็นอะไรได้เลย
นึกภาพอะไรไม่ออกเลย ไม่เห็นภาพดวงอาทิตย์, ไม่เห็นภาพท้องทุ่งหญ้า,
นึกไม่ออกแม้กระทั่งว่าชนบทมีลักษณะเป็นอย่างไร.... แสดงว่าเราไม่ค่อยได้ฝึกใช้จินตนาการเท่าที่ควร

เราควรฝึกใช้จินตนาการให้บ่อยครั้งมากขึ้น เรายิ่งฝึกจินตนาการมากเท่าไร
ความสามารถในการจินตนาการของเราจะสูงขึ้นไปเท่านั้น


การมีจินตนาการที่ดีนั้น เราควรใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเราให้ได้มากที่สุด เช่น
จินตนาการว่า เราเดินอยู่ตามลำพังที่ชายหาด เราควรเห็นภาพของเรายืนอยู่ที่ชายหาด (ตา) ,
ได้ยินเสียงคลื่น (หู), ได้กลิ่นอายของทะเล (จมูก), รู้สึกถึงลมทะเลพัดกระทบตัวเรา (ผิวหนัง) ฯลฯ
ยิ่งเราใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ช่วยในการจินตนาการมากเท่าไร จินตนาการนั้นก็ใกล้เคียงกับความจริงเข้าไปทุกที

อย่างไรก็ตาม ภาพและเสียงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของพลังจินตนาการของคนเรา

ลองนึกภาพสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ให้ชัดเจนที่สุด ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์ ทะเล, ใบหน้าคุณพ่อ หรือ คุณแม่ของเรา,
สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในห้องนอน, สีแดง, สีส้ม, สีเหลือง, สีเขียว, สีฟ้า, สีม่วง ฯลฯ
ถ้าเรายังนึกภาพสิ่งใกล้ตัวเหล่านี้ไม่ออก ให้มองสิ่งของที่อยู่เบื้องหน้าเราแล้วหลับตา
ให้เห็นภาพนั้น 10-20 วินาที ลองทำดูกับของหลายๆ สิ่ง
เราจะเริ่มรู้สึกว่า เราจะเริ่มจินตนาการเห็นภาพต่างๆ ได้ง่ายและชัดเจนขึ้น

การฝึกจินตนาการก็เหมือนกับการฝึกเรื่องอื่นๆ ในชีวิต ที่เหมือนยากและลำบากในตอนแรก
แต่เมื่อฝึกไปจนชำนาญแล้วจะทำได้อย่างง่ายดาย เช่น ฝึกวิดพื้น
วันแรกเราอาจจะวิดพื้นได้หนึ่งหรือสองด้วยความยากลำบาก
แต่เมื่อฝึกๆ ไปแล้ว เราอาจจะวิดพื้นได้เป็นสิบสิบครั้งอย่างสบายๆ เรื่องของการจินตนาการก็เช่นเดียวกัน

คนที่ไม่ค่อยได้ใช้จินตนาการมาเลย การฝึกครั้งแรกๆ อาจจะไม่แลเห็นแม้กระทั่งภาพของดวงอาทิตย์หรือ
ดวงจันทร์ แต่เมื่อฝึกต่อไปอาจจะเชี่ยวชาญจนถึงกับได้รับพลังจากธรรมชาติของชายทะเล, หุบเขา หรือ ในป่าลึก
เหมือนได้ไปยังที่นั้นๆ มาจริงๆ
ในขณะที่นั่งจินตนาการ หลับตาสงบอยู่ท่ามกลางเสียงรบกวนต่างๆ ของคนในบ้าน ฝึกบ่อยๆ ดูซิครับ

เราคงจะเริ่มเห็นแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคนเราเริ่มต้นจากความคิดหรือจินตนาการของคนเรา
บ้านที่เราอยู่อาศัย, เก้าอี้ที่เรานั่ง, เตียงที่เรานอน, แก้วน้ำ, โทรศัพท์, รถยนต์ หรือ แม้แต่หนังสือที่เรากำลังอ่านอยู่นี้
ก็เริ่มต้นจากความคิดหรือจินตนาการของใครคนหนึ่งก่อนที่จะกลายเป็นความจริง

ความทุกข์ ความสุข ความสบายใจ ความไม่สบายใจ ล้วนแล้วแต่เกิดจากสิ่งที่เราคิดหรือจินตนาการแทบทั้งสิ้น
ลองนึกถึงภาพเหตุการณ์ด้านลบหรือด้านร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เช่น ถูกตี, ถูกตำหนิ, ถูกลงโทษ ฯลฯ
ลองนึกภาพนั้นให้ชัดเจน โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
เราเริ่มรู้สึกถึงความไม่สบายใจขึ้นมาบ้างแล้วใช่หรือไม่?

ในทางตรงกันข้ามลองนึกถึงเหตุการณ์ด้านบวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วหรืออยากให้เกิดขึ้นในชีวิต
เช่น ได้รับรางวัล, ได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก, ได้สัมผัสกับธรรมชาติ, ได้ของที่เราต้องการ ฯลฯ
ลองจินตนาการให้ชัดเจน โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเราให้มากที่สุด เรารู้สึกถึงความสุขบ้างแล้วใช่ไหม?
ถ้าเรามีปัญหากับจินตนาการของตัวเราที่ไม่ได้ฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนาน
การฝึกต่อไปนี้วันละ 2 - 3 นาที จะช่วยให้เรานึกภาพต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น

..... นั่งสบายๆ หลับตา หายใจลึกๆเข้าออก 2 - 3 ครั้ง แล้วจินตนาการตามไป

เห็นภาพเบอร์หนึ่ง นึกถึง น้ำ เห็นภาพน้ำในทะเลที่เราเคยไปเห็นมา เห็นภาพตัวเราลอยอยู่กลางทะเล
รู้สึกได้ถึงแสงแดดที่ส่องลงมากระทบตัวเรา รู้สึกได้ถึงความเค็มของน้ำทะเลที่เข้าปาก
เห็นตัวเราเป็นทุ่นเบอร์หนึ่งสีดำลอยอยู่กลางทะเล เบอร์หนึ่งคือน้ำ

เห็นภาพเบอร์สอง นึกถึง งู เห็นภาพงูตัวใหญ่สองตัว สีชมพูสดใส เลื้อยออกมาจากหลังบ้านของเรา
เบอร์สองคืองู

เห็นภาพเบอร์สาม นึกถึง ม้า เห็นภาพม้ามีปีกสามตัว ลอยอยู่บนก้อนเมฆบนท้องฟ้า
ที่ก้นของม้ามีเลขสาม ปักอยู่ เบอร์สามคือม้า

เห็นภาพเบอร์สี่ นึกถึงเสื้อ เห็นภาพเราใส่เสื้อสีแดง ตัวโปรดที่หน้าอกปักเลขสี่ เบอร์สี่ คือเสื้อ
เห็นภาพเบอร์ห้า นึกถึงวัด เห็นภาพคนไหว้พระพุทธรูป ได้กลิ่น ธูป เทียน เห็นโบสถ์ เบอร์ห้า คือ วัด
เห็นภาพเบอร์หก นึกถึง หอย เห็นภาพเบอร์เจ็ด นึกถึง จ๋อ เห็นภาพคิงคองยักษ์ตัวใหญ่กว่าตึกเป็นสองเท่า
ตัวสีดำ มีขนหน้าอกสีขาว อ่อนนุ่ม เบอร์เจ็ดคือ จ๋อ

เห็นภาพเบอร์แปด นึกถึง ปลา เห็นภาพปลาวาฬยักษ์ตัวใหญ่สีดำ ลอยอยู่กลางมหาสมุทร
เรานั่งอยู่บนหลังปลาวาฬยักษ์ตัวนี้ ปลาวาฬพ่นน้ำสีชมพู ออกมาเปื้อนตัวเราเต็มไปหมด เบอร์แปดคือ ปลา

เห็นภาพเบอร์เก้า นึกถึง เก้าอี้ เห็นภาพเรานั่งเก้าอี้ที่บ้านแล้วเก้าอี้หัก เราหัวเราะให้กับตัวเอง เบอร์เก้าคือ เก้าอี้

เห็นภาพเบอร์สิบ นึกถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง คือ ชะนี เห็นภาพชะนีผอมๆ 2 ตัว กำลังนั่งเล่นขนมครก
พร้อมๆ กับร้องผัวๆๆๆ เบอร์สิบคือ ชะนี

เพียงเราใช้เวลา 2 - 3 นาที ในการฝึกจินตนาการไม่นานเราจะรู้สึกว่าพลังจินตนาการของเราจะสูงขึ้นอย่างมาก
และจินตนาการถึงสิ่งต่างๆ ได้ตามที่ใจเราปรารถนา

ที่มา //board.palungjit.com/


Create Date : 03 มิถุนายน 2552
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 11:43:44 น. 0 comments
Counter : 1590 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.