Bloggang.com : ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง : วิธียกเครื่อง คนสูงอายุ

วิธียกเครื่อง คนสูงอายุ

ระยะนี้มีคนมาคุยเรื่องปัญหาของคนสูงอายุ ทั้งของตนเองหรือของญาติให้ฟังบ่อยๆ
บางคนก็มาปรึกษาที่คลินิกเพราะทุกข์ใจ…ก็มี

หัวข้อคุยที่ฮิตมากก็คือ เรื่องความหลงลืมของผู้สูงอายุ บางทีก็ขำออก บางทีก็ขำไม่ออก

บางคนบอกว่าเขาเดินมาถึงกลางบันไดแล้ว
หยุดยืนคิดว่า เขากำลังจะเดินขึ้นชั้นบนหรือเดินลงข้างล่าง…ลืมไปแล้ว
บางคนปากบ่นว่าหงุดหงิดหรืออารมณ์เสีย แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร…ลืมไปแล้วเหมือนกัน
สามีบางคนลืมเรื่องสำคัญกับภรรยา เช่น (ขอโทษ…เขาเล่าอย่างนี้จริงๆ) เอาแล้วบอกว่าไม่ได้เอา
ไม่ได้เอาแล้วบอกว่าเอา

มนุษย์เราไม่มีใครอยากเป็นคนแก่แบบเงอะงะหรอก ล้วนอยากมีสภาพเป็นหนุ่มสาวกันนานๆ ทั้งนั้น
ผมมีข้อแนะนำสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ทำให้ตัวเองไม่แก่เร็ว หรือแก่แล้วแต่ยังมีหัวใจอ่อนเยาว์อยู่ ได้แก่

1. จงตื่นจากความฝันและรับความจริงกับชีวิตไปเลย ว่าเรามีอายุมากแล้ว
เราต้องลดอีโก้ของตัวเองลงบ้างด้วย อย่าหลอกตัวเองต่อไป
เราต้องไม่ยึดติดนิสัยเดิมๆ หรือความเคยชินเก่าๆ อีกต่อไป
หัดทำตัวเป็นขอนไม้ลอยน้ำที่ลอยไปตามสายน้ำเสียบ้างก็ได้ เรียกว่า ไม่สร้างปมปลอมให้ลำบากใจต่อไป

2. ตั้งใจบริหารชีวิตให้ดี
เช่น ตั้งใจอยากมีชีวิตอยู่แบบสงบสุข ฝึกการทำสมาธิดูบ้าง ลดความโลภ โกรธ หลง ลงบ้าง
บริหารทรัพย์สินให้พอมีใช้ตลอดไป บริหารเวลาสำหรับดูแลตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ
บริหารเวลาว่างสำหรับงานอดิเรก และการทำตนให้มีคุณค่า

3. หัดสร้างบุคลิกภาพที่สงบ จงสงบให้ได้ โดยเฉพาะเวลาที่หงุดหงิดสับสน
ลองใช้หลักง่ายๆ ในการดำเนินชีวิต เช่น ชีวิตควรจะเรียบง่าย ยืดหยุ่นได้ และมีเป้าหมายที่สร้างสรรค์
ความสงบจะทำให้รู้สึกสบาย พอใจ และเป็นสุขนานกว่าความสุขชนิดอื่นๆ

4. อย่าไปสนใจเรื่องเซ็กซ์มากนัก ลดลงได้ก็ดี หรือเดินสายกลางเอาไว้
ถ้าเซ็กซ์ลดลงตามอายุจงอย่ากลัว เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ เราจะได้มีเวลาไปทำสิ่งอื่นที่มีคุณค่าอีกต่อไป
อย่าทุรนทุรายหรือไปหาหนังโป๊หรือยาปลุกเซ็กซ์มากินเลย ออกกำลังกายให้มากขึ้นจะดีกว่า ลดความกังวลลงด้วย

5. อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด อย่าคิดถึงอดีต และอย่ากลัวอนาคต
จงใช้สูตร 2 F ให้มากๆ
(คือ Forgive และ Forget คือจงให้อภัยผู้อื่นและลืมเหตุการณ์ที่ไม่ดีๆ เสียบ้าง จะได้อยู่กับปัจจุบันได้ง่ายเข้า)

6. สัมผัสธรรมชาติที่ดีๆ ให้มากขึ้น
ชื่นชมธรรมชาติที่มองเห็นและธรรมชาติในตัวมนุษย์ที่ดีๆ ทั้งของตนเองและคนอื่นให้มากขึ้น
รักษามิตรภาพที่ดีๆ กับเพื่อนฝูงและญาติรวมทั้งคนข้างเคียง ไม่สร้างศัตรู
มองเห็นคุณค่าของธรรมชาติตัวเอง สัมผัสความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองมากขึ้น
รักตัวเองให้มากขึ้น อ่อนโยนกับตัวเอง ควรมีอารมณ์ที่ดีกับตัวเองให้มากขึ้น

7. ฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ ในที่ที่มีอากาศดี จะได้อากาศและออกซิเจนเพียงพอ ทำให้สมองสดชื่น
การฝึกเช่นนี้จะทำให้ใจเย็นลง ลองหัดทำอะไรช้าๆ ทีละอย่างดูบ้าง อย่าผลีผลาม
ลองฝึกหายใจเข้าก่อนพูดและก่อนกินอาหารดูบ้างซิ จะทำให้ลดความตึงเครียดได้มาก รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

8. รักษาสุขภาพให้ดี กินอาหารสุขภาพอย่างพอเหมาะให้ครบทุกหมู่
ลดเนื้อสัตว์ลง กินผัก ผลไม้ และปลามากขึ้น ดื่มน้ำ 6 แก้วต่อวัน ออกกำลังกายแบบแอโรบิค วันละ 30 นาที
เช่น เดินเร็วๆ หรือวิ่งช้าๆ หรือว่ายน้ำก็ได้ สารความสุข (Endophine) จะหลั่งทำให้สบายตัวสบายใจ
พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอ ถ่ายอุจจาระให้ได้ 1 ครั้งต่อวัน
พยายามอยู่ในที่อากาศไม่หนาวและไม่ร้อนมาก หาโอกาสอยู่ในที่โล่งแจ้ง อากาศดี โคนต้นไม้ใหญ่หรือริมน้ำ
ซึ่งเชื่อว่ามี "ปราณ" มาก (ปราณ หมายถึง ชีวิต เป็นความสดชื่นของชีวิต)
ดูแลตัวเองให้ดียามเจ็บป่วย ปรึกษาแพทย์ด้วย

9. สนุกกับงานอดิเรก ลงมือทำในสิ่งที่คิดว่าชอบ และเป็นสิ่งที่เป็นความสุขและสวยงาม
สิ่งใดที่โหดร้ายและนำความทุกข์มาให้ตนเองและคนอื่น ต้องเลิกทำ

10. สนใจสังคมบ้าง อย่าปล่อยตัวเอง อย่าเชย เพิ่มปัญญา โดยการเดินทางท่องเที่ยวบ้าง
รู้จักถามหรือเพิ่มปัญญาโดยการทำภาวนาและสมาธิดูบ้าง

11. แสดงความรักเพื่อนมนุษย์มากขึ้น ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น คิดในแง่บวกเสมอ
เช่น เป็นผู้ให้ให้มากขึ้น มองโลกในแง่ดี ไม่จู้จี้จุกจิก ลดกิเลสลง รู้จักแสดงความยินดีกับผู้อื่น
ช่วยสังคมและสาธารณกุศลเมื่อมีโอกาส (เช่น เป็นอาสาสมัครการกุศล จะทำให้ตัวเองรู้สึกมีค่าด้วย)

ขอแนะนำวิธีแสดงความรักมนุษย์ง่ายๆ คือ
เวลาพบปะคนอื่นให้แสดงกิริยา ยิ้มแย้ม ทักทาย ชมเชย ช่วยเหลือและอวยพร ใครๆ ก็จะชอบท่านมากขึ้น

12. สนใจศาสนาหรือปรัชญาชีวิตที่ดีๆ มากขึ้น มีมโนธรรมมากขึ้น
รู้จักฝึกสมาธิเพื่อลดความโลภ โกรธ หลง จะได้เกิดปัญญามากขึ้น
อย่าคาดหวังกับชีวิต อย่าจริงจังกับชีวิตอีกเลย เราผ่านมามากแล้วทั้งทุกข์และสุข
ถ้าต้องอยู่คนเดียวต้องใช้เมตตา และอุเบกขาให้มาก
และหัดเขียนจดหมายหรือโทรศัพท์ไปหาคนอื่นๆ บ้าง อย่าหมกตัวอยู่ตามลำพัง

13. หลีกเลี่ยงความคิดที่ทำให้แก่เร็วกว่าปกติ เช่น ความซึมเศร้า คิดมาก กังวล หมดหวัง เหงา ว้าเหว่
ความรู้สึกไม่สามารถแสดงความรู้สึกและอารมณ์ เช่น ดีใจ โกรธ เสียใจ
ความคิดที่ว่าไม่มีเพื่อนสนิท ไม่พอใจชีวิต ไม่พอใจงาน จมอยู่กับเหตุการณ์ในอดีต
รวมทั้งการชอบตำหนิตัวเอง นึกถึงปมด้อยหรือความผิดพลาดในอดีต

14. รู้จักวิธีทำชีวิตให้กระชุ่มกระชวย เช่น อยู่กับปัจจุบัน นึกถึงแต่ปัจจุบันเสมอ
ประคองชีวิตคู่เอาไว้ ไม่หย่ากันตอนแก่ รู้จักทำตัวให้เป็นเด็กได้บ้าง รู้จักสนุกบ้าง
พอใจงานที่ทำ พอใจเซ็กซ์เท่าที่ทำได้ รู้จักการสร้างมิตรใหม่ที่สนิทไว้ใจหรือพูดคุยได้ หัวเราะได้มากขึ้น
ลาพักร้อนได้มากขึ้นและทุกปี อย่าบ้างาน อย่าใจแคบกับความเห็นของคนอื่น
แสดงความรู้สึกได้ง่ายขึ้นแบบไม่รุนแรง มองโลกในแง่ดี มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย และมีเงินพอใช้จ่ายตลอดไป

15. ไม่ทำอะไรให้ยุ่งยากกับชีวิตมากขึ้น เช่น ไม่ขอลูกคนอื่นมาเลี้ยง (ช่วยเลี้ยงหลานได้)
ไม่เจ้ากี้เจ้าการตัดสินปัญหาของคนอื่นบ่อยๆ ไม่ยึดติดหรือพึ่งพาสิ่งใด หรือคนใดคนหนึ่งตลอดเวลา
ไม่ลงทุนทำกิจการใหม่ๆ และไม่ซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ใดๆ ที่ใช้ยากๆ และซับซ้อน

ข้อแนะนำเหล่านี้ถ้าชอบข้อไหนก็ทำข้อนั้น ถ้าทำไม่ได้ทั้งหมดก็ไม่เป็นไร ผมเขียนเอาไว้ให้เป็นหลักการ

ผมเชื่อว่าคนเราจะเป็นอย่างไร
ทุกข์หรือสุข รู้สึกแก่หรือหนุ่มสาวก็อยู่ที่ความคิดของเรา ที่จะนำไปสู่ความรู้สึกนั้นๆ

ถ้าใครคิดเป็น คิดดี ก็จะรู้สึกดีๆ กับตัวเองได้นานๆ
และความคิดเหล่านี้คุณฝึกได้ตลอดไป เริ่มต้นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีคำว่าสายเกินไป คุณจะรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ

ผมเชื่อว่าความคิดและทัศนคตินั้นสำคัญกว่าข้อเท็จจริง
จิตใจมนุษย์เหมือนเครื่องยนต์ ถ้าฟิตเครื่องให้ดี ยกเครื่องให้ดีก็จะมีพลังวิ่งได้ฉิว
แม้สภาพรถจะเก่าไปบ้าง แต่เครื่องรถยนต์ยังดีอยู่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

คุณจะอายุจริงเท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่คุณต้องมีทัศนคติและความคิดที่จะทำให้คุณเป็นสุข มีคุณค่า
และรู้สึกว่าอายุน้อยกว่าอายุจริงต่างหาก
ไม่ใช่ปล่อยให้แก่แล้วแก่เลย ทอดทิ้งชีวิตตัวเองอย่างไม่เอาใจใส่แบบที่เป็นอยู่กันมากขณะนี้
แล้วใครเขาจะมาใส่ใจเราเล่า?

ข้อมูลโดย : หนังสือ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 27 ฉบับที่ 3
ที่มา : //www.elib-online.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com

Create Date : 28 มิถุนายน 2553

Last Update : 28 มิถุนายน 2553 12:56:11 น.

0 comments

Counter : 1020 Pageviews.