Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
11 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

สร้างจุดเเข็งให้เป็นจุดเด่น


การพัฒนาตนเอง

ผมเชื่อว่าคนหลายคนมีศักยภาพในตัวเองสูงมาก
แต่มักจะไม่มีโอกาสดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ อาจจะเป็นเพราะว่า “ไม่มั่นใจ”
หรือ “ไม่มีสิ่งกระตุ้น” หรือ “ไม่รู้ว่าตัวเองมี” หรือ “รู้ว่ามี แต่ไม่รู้จะดึงออกมาได้อย่างไร”

แต่....จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้าเราไม่สามารถดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ภายในออกมาใช้งานได้
ศักยภาพนั้นๆไม่มีความหมายอะไร ศักยภาพเปรียบเสมือนบ่อก๊าซหรือน้ำมันที่มีอยู่ใต้ดิน
ตราบใดที่ยังไม่มีใครขุดขึ้นมาใช้งาน มูลค่าที่แท้จริงของมันก็ยังไม่เกิดขึ้น

ถ้าใครได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง หรือได้มีโอกาสเข้าฟังการสัมมนาในหัวข้อนี้
จะพบว่าส่วนใหญ่มักจะเน้นให้เรามุ่งเน้นการพัฒนาทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมพบว่า
คนส่วนใหญ่มักจะเสียเวลากับการพัฒนาจุดอ่อนของตัวเองมากถึงมากเกินไป
ทำให้พลาดโอกาสในการพัฒนาจุดแข็งของตัวเองไป เราอาจจะเสียเวลานานมาก ทุ่มเททรัพยากรมากมาย
เพื่อพัฒนาจุดอ่อน(ความสามารถที่ต่ำกว่าคนทั่วไป) แต่อย่าลืมนะครับว่าความสำเร็จในการพัฒนาจุดอ่อนนั้น
ดีที่สุดก็คงเป็นเพียงการได้มาซึ่งความสามารถที่เท่าเทียมหรือดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผมจะขอยกตัวอย่างดังนี้

ถ้าคนๆหนึ่งเป็นคนที่มีความสามารถด้านการเป็นวิทยากร แต่ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ไม่เก่งบัญชี
ไม่เก่งภาษาต่างประเทศ ถ้าคนๆนี้มัวแต่เสียเวลากับการพัฒนาจุดอ่อนทั้งสามอย่างนี้ รับรองได้ว่าดีที่สุดก็คือ
เก่งคอมพิวเตอร์ เก่งบัญชี หรือเก่งภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นเท่านั้น

แต่...ผมเชื่อว่าความเก่งที่เพิ่มขึ้นมานี้ คงจะไม่ถึงระดับที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งที่สุดในเรื่องคอมพิวเตอร์
บัญชี หรือ ภาษาต่างประเทศอย่างแน่นอน อย่างดีที่สุดก็แค่เพียงแก้จุดอ่อนให้หายไปเท่านั้นเอง

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น........เหตุผลสำคัญที่ผมคิดว่าการพัฒนาจุดอ่อนนั้น
ทำได้ดีที่สุดก็แค่เสมอ หรือดีกว่ากับคนทั่วๆไปเล็กน้อย นั้นๆมี 2 ประการคือ

1. จุดเริ่มต้นของการพัฒนาจุดอ่อนของเรา ห่างไกลจากคนที่เขามีเรื่องนี้อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น โอกาสที่เราจะพัฒนาในเรื่องนั้นๆให้สามารถแซงหน้าคนที่เขาเก่งเรื่องนี้
เป็นทุนอยู่แล้วนั้นมันมีโอกาสน้อยมาก

2. จุดอ่อนส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่คนๆนั้นไม่ถนัดและไม่ค่อยชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ดังนั้น เมื่อมีการพัฒนาก็ไม่ได้ทุ่มเทใจให้ทั้งหมด
เพราะถ้าเขาชอบในเรื่องนั้นๆ มันก็คงจะไม่เป็นจุดอ่อนจนถึงปัจจุบันนี้หรอก

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการให้ใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาตัวเอง กรุณาเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่
โดยการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นให้มากขึ้น อย่าเสียเวลาพัฒนาจุดอ่อนให้มากจนเกินไป
ควรเอาเวลา ทรัพยากรที่มีอยู่มาพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นจะดีกว่า
เพราะถ้าเราสามารถพัฒนาจุดแข็ง(ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เราชอบอยู่แล้ว) ให้โดดเด่นขึ้นมา
โอกาสที่จุดอ่อนของเราจะถูกกำจัดก็มีมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น นักมวยที่พัฒนาฝีมือการชกจนได้เป็นแชมป์โลก
มีชื่อเสียงขึ้นมา เดิมทีอาจจะมีจุดอ่อนที่พูดไม่เก่ง แต่เมื่อเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากการชกมวยแล้ว
มีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์ มีโอกาสพูดมากขึ้น มีคนเก่งๆเรื่องการพูดเข้ามาหามากขึ้น
โอกาสที่จุดอ่อนจะถูกกำจัดไปก็ง่ายขึ้น (เราจะเห็นว่านักมวยที่อดีตพูดไม่เก่ง ปัจจุบันนี้เป็นดาราไปแล้วก็มี)

คนที่ทำธุรกิจเก่ง แต่ไม่เก่งภาษาต่างประเทศ วันหนึ่งเมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจแล้ว
ก็สามารถกำจัดจุดอ่อนไปได้เช่นเดียวกัน เพราะสามารถว่าจ้างชาวต่างประเทศมาทำงานกับบริษัทของตัวเองได้
หรือไม่ก็ต้องติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น

นักฟุตบอลบางคน ไม่จบการศึกษาอะไรมา แต่เมื่อมีชื่อเสียงขึ้นมา ต่างประเทศซื้อตัวไปเล่น
แน่นนอนว่าภาษาอังกฤษ ซึ่งเดิมเป็นจุดอ่อนของเขา
จะถูกพัฒนาไปเองโดยอัตโนมัติ เมื่อได้มีโอกาสไปเล่นที่ต่างประเทศ

ผมขอเสนอแนะ แนวทางในการสร้างจุดแข็งให้เป็นจุดเด่น ดังนี้

ค้นหาจุดแข็งของตัวเอง
เราต้องทราบก่อนว่าจุดแข็งของเราคืออะไร และจุดแข็งอะไรที่เราชอบด้วย
และลองวิเคราะห์ดูว่าจุดแข็งที่เรามีอยู่นั้น มีโอกาสไปสู่ความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เช่น

คนบางคนชอบแต่งเพลง ให้เราลองวิเคราะห์ดูว่า คนแต่งเพลงในเมืองไทยมีทั้งหมดกี่คน
โอกาสที่เราจะก้าวเข้าไปสู่ในวงการนี้มีมากน้อยเพียงใด
สรุปง่ายๆคือ ให้หาจุดแข็งในด้านที่มีโอกาสพัฒนาขึ้นมาเป็นจุดเด่นได้นั่นเอง


เลือกจุดแข็งที่เราชอบมาพัฒนา
เพราะอะไรก็ตามที่เรามีใจชอบ หรือรักสิ่งนั้นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เราจะทำสิ่งนั้นได้ดี
ถ้าไม่เชื่อว่า อะไรที่เราชอบเราจะทำได้ดี หรือทำอย่างเต็มที่ ลองไปดูคนที่ชอบดื่มเหล้าซิครับ
ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้องอย่างไร ถ้าเพื่อนนัดไปดื่มเหล้า เขาจะต้องไปให้ได้
ไม่เคยหาข้ออ้างว่าทำไมถึงไปสายหรือไปไม่ได้ (เหมือนกับข้ออ้างของคนที่มาทำงานสาย)
คนที่ชอบช๊อปปิ้ง จะเดินดูของได้ทั้งวัน ไม่เคยบ่นว่าเมื่อย เพราะเขาทำในสิ่งที่เขาชอบ

การเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ ถือว่าเป็นแรงจูงใจภายใน
คุณสมบัติของแรงจูงใจภายในคือ ไม่ค่อยเสื่อมถอยหรือหมดพลังไปกับกาลเวลา

ไม่เหมือนกับแรงจูงใจภายนอกที่มักจะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา เช่น
เงินเดือน (แรงจูงใจภายนอก) จะจูงใจคนได้อยู่เพียงเดือนแรกที่ได้รับเงินเดือนใหม่
หลังจากนั้นแรงจูงใจนั้นก็จางหายไป


เริ่มพัฒนาจุดแข็งก่อนผู้อื่นจะได้เปรียบ
เช่น ถ้าเราเริ่มก้าวเข้าสู่วงการเขียนหนังสือตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ วันหนึ่งนักเขียนอาวุโสก็ต้องจากเราไป
หรือไม่ก็แก่จนไม่สามารถเขียนหนังสือได้แล้ว ถ้าเราเริ่มเข้าสู่วงการนี้ก่อน เมื่อวันเวลาผ่านไป
แน่นอนเราก็คงจะมีพรรษาในเรื่องนี้มากขึ้น โอกาสที่จะเป็นคนที่โดดเด่นในด้านนี้ก็มีสูงเช่นกัน
อย่างนี้เขาเรียกว่า การวางแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นในระยะยาว


สรุป
การพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกันทุกด้าน
คงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากสำหรับชีวิตคนหนึ่งคน แต่ถ้าเราเลือกเอาจุดแข็งมาพัฒนาให้เป็นจุดเด่น
ผลพวงแห่งความสำเร็จของจุดเด่นนั้นจะช่วยสร้างบารมี สร้างโอกาสให้เราได้พัฒนาจุดอ่อนไปเองโดยอัตโนมัติ

ผมจึงอยากจะให้ผู้อ่านทุกท่าน จงลดความพยายามในการพัฒนาจุดอ่อนลง
แล้วหันมาทุ่มเทกับการพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นมากยิ่งขึ้น
แล้วท่านจะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่เร็วขึ้น หรือยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นนะครับ

หมายเหตุ: ขอบคุณ //www.peoplevalue.co.th/




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2552 14:32:32 น.
Counter : 854 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.