ประสบการณ์แผ่นดินไหวครั้งแรกที่ต้อนรับการมาอยู่ในแดนปลาดิบ
วันก่อนดูรายการเกมทางทีวี เห็นมีพาดพิงถึงเรื่องการปฏิบ้ัติตนยามเกิดแผ่นดินไหว ก็นึกถึงเมื่อครั้งประสบเหตุการณ์นี้เข้ากับตัวเองอย่างจังๆ เอามาเล่าสู่กันฟังดีกว่า..
วันนั้นเป็นวันที่ 20 มีนาคม 2005 เครื่องลงถึงญี่ปุ่นเวลาในช่วงเช้าที่สนามบินฟุกุโอกะ น้องเขยของลุงขับรถมารับเราสี่คนพ่อแม่ลูก ข้าวของส่วนใหญ่โดยเฉพาะของหนักๆ ส่งมาทางเรือก่อนหน้านี้แล้ว มีอะไรจะขน ขนกลับมาหมดไม่เว้นแม้แต่เปียโนเพราะเพิ่งซื้อมาใหม่ บริษัทลุงออกค่าใช้จ่ายให้เลยขนมาซะ วะฮะฮ่า.. กว่าของจะมาถึงบ้านก็ประมาณสองอาทิตย์กว่าๆ
เ้ป็นวันนึงในฤดูใบไม้ผลิ ป้าโซส่งรองเท้ามาทางเรือ เหลืออีคีบหนีบๆปักเลื่อมอยู่คู่เดียว เืพื่อนชาวญี่ปุ่นที่พักอยู่แมนชั่นเดียวกัน ลงมาส่งร่ำลากันตอนกลางคืนก่อนออกเดินทาง ทักว่าไม่หนาวเท้าเรอะ..โซซัง? ไอ้เราก็หลั่นล้าสบายมากค่ะ ยังไม่ใช่ฤดูหนาว ก่อนออกเดินทางคุณสามีก็บอกว่าอากาศกำลังสบายๆ 18-19 องศา โฮะๆ ขี้ปะติ๋ว ถึงญี่ปุ่นพอเดินออกไปนอกหนามบินปุ๊บ.. เ้ย้ยยยย.. หนาวทรีนนนนน.. ถึงได้รู้ความหมายที่เพื่อนญี่ปุ่นเค้าติงมา ไอ้ตัวน่ะไม่เท่าไหร่เพราะเตรียมเสื้อคลุมมาด้วย มาญี่ปุ่นทุกครั้งคือช่วงปิดเทอมของเด็กๆในฤดูร้อน เคยเจอความหนาวช่วงใบไ้ม้ร่วงอยู่หน เป็นช่วงเริ่มต้นของฤดู แต่คนเมืองร้อนอย่างเราก็หนาวซะนั่งไม่ติด ฤดูใบไม้ผลิเป็นยังไงไม่เคยเจอเลยจิ้นไม่ออก.. บ้านเราถึงมีสี่ฤดูอย่างเขา(ตามที่พ่อป้าโซเคยบอก) แต่ก็เป็นฤดูร้อน ฤดูร้อนจังเลย ฤดูร้อนโว้ยยย และฤดูร้อนอิ๊บอ๋าย
นั่งรถจากหนามบินใช้เวลาเกือบสี่สิบนาทีก็ถึงบ้าน ขนข้าวของเข้าบ้าน เิดินไปสำรวจทั่วบ้านเพราะก่อนจะย้ายมานี่ลุงสั่งรีฟอร์มบ้านใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ครอบครัวน้องสาวมาอยู่เป็นเพื่อนปู่ที่อยู่คนเดียว น้องสาวลุงเค้าเลี้ยงหมาในบ้าน ทั้้งตะกุยทั้งกัดข้างฝาปอกเปิกหมด แถมยังสิงห์รมควันทั้งน้องสาวน้องเขย เพดานจับควันบุหรี่ดำปื้ด ลุงทนไม่ไหวเลยสั่งซ่อมแซมใหม่ก่อนย้ายมาอยู่ ส่วนครอบครัวน้องสาวก็แยกไปอยู่บ้านที่เ้ค้าซื้อใหม่ที่ซะกะ
ขณะยืนอยู่ชั้นสองดูห้องใหญ่ที่ปัจจุบันตีข้างฝาแบ่งเป็นสองห้อง ให้เจ้าสองคนอยู่กันคนละห้อง ก็ได้ยินเสียงคึ่กๆๆๆ อยู่ไกลๆ เสียงเหมือนรถไฟทั้งขบวนประมาณนั้น.. สถานีรถไฟอยู่ห่างจากบ้านชั่วระยะเวลาเดิน 3-4 นาที แต่มากี่ครั้งๆก็ไม่เคยได้ยินเสียงรถไฟแล่นชัดเจนใกล้ๆขนาดนี้ หรือวันนี้อากาศดีจัด.. เสียงเลยลอยตามลมมาได้ัชัดเจนกว่า
ตอนนั้นลุงก็กำลังชี้ชวนให้ป้าโซดูว่าสั่งการยังไงๆไปกับบ้าน ป้าโซก็ฟังพลางสงสัยเรื่องเสียงนั่นไปพลาง คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติน่ะเพราะลุงก็ทำเฉยๆ ไม่เห็นติงเรื่องเสียง แล้วทันใดนั้นบ้านก็สะดุ้งขึ้นทั้งหลังครั้งนึง.. ประมาณรถบรรทุกวิ่งผ่านแต่แรงกว่า เสียงคึ่กๆๆๆชักดังขึ้นๆ กลายมาเป็นเหมือนเสียงเด็กวิ่งตึงๆๆๆ ป้าโซกำลังจะเดินไปที่ัหัวบันไดเพื่อจะตะโกนไปดุเจ้าพวกลิงทั้งหลายข้างล่างซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ตัว.. ลูกเรา 2 ลูกอา 3 ชายทั้งนั้นกำลังซนแหลก จะบอกให้เงียบๆกันหน่อย วิ่งซนอะไรจนบ้านกระเทือนอย่างนี้!!
แ่ต่แล้วก็มีอันต้องหยุดกึ๊ก หุบปากกั๊บ เพราะเสียงลุงตะโกนจนกลายเป็นตวาด.. "หยุดอยู่ตรงนั้น!!! อย่าเดินไปไหน อยู่เฉยๆ!!!" พลางลุงก็เอามือยันข้างฝาไว้สองด้าน เวลาเดียวกันนั้นเองที่บ้านทั้งหลังเยือกอย่างแรง!!! แล้วก็สั่นพั่บๆๆๆๆ ไปทั้งหลังพร้อมด้วยเสียงคึ่กๆๆกึกก้อง
"เกิดอะไรขึ้นนี่? บ้านนี้เมืองนี้เป็นไรวะ? โอยยย... มันคืออะไร บ้านจะพังมั้ยนี่?" .. หลายคำถามผุดขึ้นมาพร้อมๆกัน ป้าโซยืนตัวแข็งอยู่กับที่อย่างนั้นเพราะทำอะไรไม่ถูก เลี้ยงตัวอยู่บนพื้นที่สั่นพั่บๆๆๆ รู้สึกคล้ายคนเมาเหล้าที่ทรงตัวไม่ได้มาตรฐาน และแล้วเสียงคึ่กๆๆและการสั่นของบ้านก็ค่อยๆจางลงจนเป็นปกติในที่สุึด ในความรู้สึกที่นานแสนนานเหลือเกินของป้าโซ ที่กว่าจะเป็นปกติลงได้ ทั้งๆที่ในความเป็นจริง กินเวลาแค่เพียงไม่กี่สิบวินาที
พอทุกอย่างสงบ ป้าโซก็หน้ามึนถามไปอย่างโง่ๆว่าแผ่นดินไหวเรอะ ? ลุงบอกใช่! แล้วก็เผ่นลงมาข้างล่าง ดูความเรียบร้อยในบ้านว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า เด็กๆเกาะกลุ่มกันเงียบกริ๊บ แต่ละคนหน้าตาตื่นกันเลิ่กลั่ก ตอนที่บ้านสั่นนั่น น้องเขยกับปู่อยู่ข้างล่างทั้งคู่ ต่างคนต่างยึดตู้เก็บแ้ก้วชามรามไหไว้คนละตู้ ประคองไม่ให้มันล้มลงมา ลุงสำรวจหน้าต่างประตูว่าียังเิปิดปิดได้เหมือนเดิมหรือไม่ เดินออกไปนอกบ้านสำรวจดูถังแก๊สและสวิทช์ปล่อยแก๊สว่าปิดหรือเปล่า ซึ่งปกติสวิทช์นี่จะปิดไปโดยอัตโนมัติตอนแผ่นดินไหว เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ โชคดีที่ไม่มีอะไรเสียหาย ทุกอย่างอยู่รอดปลอดภัยดียกเว้นใจป้าโซที่ต้องเก็บขึ้นมาจากตาตุ่ม
พิโธ่พิถัง เกิดมาจากท้องผ่อท้องแหม่ เพิ่งเคยประสบกับตัวก็หนนี้ หนำซ้ำเจออย่างแรงซะด้วย ปู่บอกว่าเกิดมาเพิ่งเคยเจอแรงมากๆก็ครั้งนี้แหละ ช่างเป็นบุญของป้าโซเหลือเกินที่ต้อนรับกันขนาดนี้ แถบป้าโซอยู่ความรุนแรงประมาณ 5 ริกเตอร์ ในตัวฟุกุโอกะ 6 ริกเตอร์กว่าๆ
ถามลุงว่าทำไมต้องให้ป้าโซยืนอยู่เฉยๆ ณ ตอนนั้น เป็นวิธีควรปฏิบัติตัวยามเกิดแผ่นดินไหวหรืออย่างไร? (หรือเพื่อสภาพจะได้ไม่กระจัดกระจายง่ายต่อการเก็บและสามารถระบุได้ง่ายว่าเป็นใคร ?) ลุงบอกที่ๆป้าโซยืนอยู่ ณ เวลานั้น เป็นที่ๆปลอดภัยเพราะโครงสร้างของบ้านตรงนั้นมีคานถ่วงรับน้ำหนักหลังคาอยู่ (แต่ถ้าไหวหนักๆ จนบ้านถล่มมาทั้งหลัง จะได้โป้งเดียวจอด) แต่ที่ๆแข็งแรงที่สุด คือในห้องน้ำ เพราะสร้างอยู่ใต้บันได เอ้า..ก็ต้องเชื่อเค้าเพราะงานของเค้านี่ พวกเขียนแบบออกแบบคำนวณโครงสร้างอะไรพวกนี้
หลังแผ่นดินไหวใหญ่ในวัีนนั้น ป้าโซมีอาการเมาแผ่นดินอยู่วันสองวัน เดินในบางครั้งจะรู้สึกพื้นมันโคลงๆ อุปาทานไปว่าแผ่นดินไหวตลอด ลุงต้องบอกให้ป้าโซสังเกตสายดึงไฟเปิดปิดกลางบ้าน (ตามบ้านที่นี่นิยมมีสายสำหรับดึงเปิดปิดไฟหย่อนลงมาเหนือหัว สามารถดึงคลิกเลือกระดับความสว่างของไฟได้นอกเหนือไปจากสวิทช์ที่ติดผนังตามปกติที่ใช้งานร่วมกัน) ปกติสายที่หย่อนลงมาจะดิ่งลงและนิ่งเฉยถ้าไม่ไปแกว่งไปจับไปขยับเพราะเป็นสแตนเลสมีน้ำหนัก ถ้าสายที่่ว่านี่มีการแกว่งตัวละก็..จะเพราะแผ่นดินไหว เป็นการสังเกตเื้บื้องต้นในกรณีสงสัย ซึ่งสามารถยืนยันความสงสัยได้จากข่าวด่วนที่จะขึ้นตัวหนังสือพาดหัวหน้าจอทีวีใน 60 วินาทีหลังการเกิดแ่ผ่นดินไหว ป้าโซเคยจับเวลาดูว่าอีตาลุงโม้หรือเปล่าเรื่องการรายงาน อะไรมันจะทันทีขนาดนั้นอย่างน้อยต้องใช้เวลากันมั่งหละ.. แต่ปรากฏว่าบวกลบไม่เกินสิบวิฯ
หลังจากวันนั้นก็มีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกประมาณ 3 ริกเตอร์กว่าๆ ในตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง กำลังหลับอยู่เพลินๆ รู้สึกเหมือนพื้นที่นอนเนี่ยมันยวบเ็ป็นคลื่น เหมือนเรานอนในห่วงยางในทะเลประมาณนั้น ป้าโซลืมตาตื่นคิดว่าฝันไป หันไปดูลุงก็เห็นตื่นเหมือนกัน ลุงบอกให้นอนเฉยๆ อย่าโวยวายเดี๋ยวลูกจะตกใจตื่นเปล่าๆ เป็นอาฟเตอร์ช็อคจะไม่รุนแรงเหมือนวันก่อน เปิดทีวีดูก็เห็นข่าวด่วนพาดหัวปุ๊บเหมือนกัน
ถัดจากวันนั้นสองสามวันต่อมา นึกว่าหมดแล้วยังตามมาอีกเบาๆประมาณริกเตอร์กว่าๆ ป้าโซนั่งอยู่หน้าทีวีรู้สึกพื้นมันสะดุ้งขึ้นทีนึง เหมือนรถบรรทุกวิ่งผ่าน ลุงออกจากห้องน้ำมาบอกอีกหน่อยน่ะไม่ต้องตกใจ.. แต่ป้าโซไม่หน่อยด้วยละ รีบเข้า้ห้องน้ำอาบพรวดๆๆ กลัวว่าเกิดไรขึ้นต้องแก้ผ้าวิ่งออกมาชาวบ้านร้านช่องเขาจะรับไม่ได้
พออยู่นานหลายปีเข้า เริ่มคุ้นกับ 1 ริกเตอร์ 2 ริกเตอร์ โฮะๆ เด่ะๆ และประสาทสัมผัสเรื่องแผ่นดินไหวกลับเยี่ยมกว่าลุง เพราะถึงแม้ไหวเพียงเ็ล็กน้อยป้าโซบอกลุงๆยังถามใช่เร้อ? แต่สักพักทีวีก็พาดหัวข่าวด่วน
ในบางครั้งบางครา รายการทีวีก็จะนำเสนอวิธีปฏิบัติตัวยามเกิดแผ่นดินไหว เ่ช่น หลบเข้าใต้โต๊ะที่แข็งแรง ปิดสวิทช์แก๊สทันทีเพื่อป้องกันไฟไหม้บ้าน เปิดประตูหรือหน้าต่างไว้เผื่อกรณีบ้านพังลงมาแล้วทำให้กรอบประตูหน้าต่างบิดเบี้ยวจนเปิดหนีออกมาไม่ได้ และเตรียมข้าวของใช้จำเป็นใส่ถุงยังชีพติดบ้านไว้บ้าง เผื่อกรณีรุนแรงจนน้ำไฟไม่มีใช้ การเดินทางถูกตัดขาด
ประสบการณ์เช่นนี้ ขออย่าได้เจอบ่อยเลยเพราะมันวูบไปทั้งใจ
บล็อกนี้เขียนเสร็จก่อนบล็อกก๋วยเตี๋ยว แต่อยากอัพบล็อกก๋วยเตี๋ยวก่อนเพราะเพิ่งทำกินสดๆร้อนๆ บล็อกนี้เลยตามมาติดๆ อย่าคิดว่าป้าโซคึกจัดอัพวันละบล็อกนะคะ พรุ่งนี้เจอกันอีกบล็อกค่ะ อ้าว!!! ล้อเล่งงงง..
Create Date : 22 ธันวาคม 2553 |
|
38 comments |
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 6:28:58 น. |
Counter : 1021 Pageviews. |
|
|
|
เเต่ทำไงได้เน๊อะ ดันเลือกมาอยู่ประเทศที่มีเเผ่นดินไหวซะงั้น
ที่เขาทำนายว่า100ปีจะมีเเผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่รู้ตัวเองจะเจอเเจ็คพอตหรือเปล่า ขออย่าได้เจอเลยสาธุ