ข่าวด่วน บทกวี เรื่องจากใจ tiki_ทิกิ ที่นี่ค่ะ บันทึก ummm My Novel too.(In Thai).
 
.♣..♥ บท ๑๔.♥ ♣..

บทที่ ๑๔
....หนึ่งปฏิสนธิ ...


กลางปีพุทธศักราช ๒๕๒๕
ระยะนั้นลูกสาวน้อยของข้าพเจ้า ซึ่งกำลัง
เริ่มโตขึ้น ได้ไปอยู่เนิร์สเซอรี่ที่ถนนสาทร



Create Date : 03 เมษายน 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 18:25:15 น. 9 comments
Counter : 416 Pageviews.  
 
 
 
 
เปิด blog gang วันนี้
เจอข้างในอย่างนี้ค่ะ

จัดการ Friends' Blogs
จัดการ Friend Link
จัดการ VIP Friend
จัดการชื่อ Friends' blogs Update
จัดการ Mail - Update Alert
เพื่อนที่ให้สิทธิ์คุณเป็น VIP Friend
ดู Friends' blogs Update
(กดแล้วรอสักครู่)



อ้าว เว็บมาสเตอร์โพสไว้ให้อ่านแล้วค่ะ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=webmaster&month=02-04-2008&group=1&gblog=26







 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:1:40:38 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายคับ
 
 

โดย: West-Songkhla วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:1:46:11 น.  

 
 
 
: West-Songkhla คะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

Cool comment CLICK HERE !!!
Cool comment CLICK HERE !!!


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:20:45:22 น.  

 
 
 

คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง


แวะมาอ่านค่ะคุณ
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:22:41:52 น.  

 
 
 
ขอบคุณ คุณ อุ้มสี มากค่ะ
แวะไปเยี่ยมบล็อกคุณมาแล้วคะ
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:11:52:00 น.  

 
 
 
♣..♥ Novel ..My land ๐ นิยาย..ที่ดินผืนนั้น ๐ ภาคสาม บท ๑๔.♥ ♣..

บทที่ ๑๔
....หนึ่งปฏิสนธิ ...


กลางปีพุทธศักราช ๒๕๒๕
ระยะนั้นลูกสาวน้อยของข้าพเจ้า ซึ่งกำลัง
เริ่มโตขึ้น ได้ไปอยู่เนิร์สเซอรี่ที่ถนนสาทร ข้าพเจ้า
ต้องไปพบเขตกรุงเทพฯที่พ่อของลูก เขาอาศัยอยู่
นำใบสูติบัตร และ เอกสารการเกิดในแฟ้มของลูก
ทั้งหมด ไปพบเจ้าพนักงานหัวหน้าเขต เพื่อขอ
"ใบสำเนาทะเบียนบ้าน"ของพ่อของเขา มาให้
โรงเรียน ประถมชื่อดัง แถวซอย ราชดำริ

ท่านผู้นั้น มองหน้ากังวลของข้าพเจ้า
ก่อนจะประทับตรา"สำเนาถูกต้อง" และเซ็นรับรองให้

" มีเดือดร้อนมาขอเช่นนี้กันบ่อยครับ ผมเห็นใจจริง ๆ "

ประโยคเดียวที่กล่าวความเห็นใจช่วยให้ข้าพเจ้าใจชื้น
หากไม่มีใบดังกล่าว โรงเรียนก็ไม่รับเข้าชั้นอนุบาล


ความเจ็บปวดทางใจของข้าพเจ้าวันนั้นมันกลาย
เป็นวัคซีนรักษาโรคอีกครั้ง ด้วยทิฎฐิมานะ อดทนฮึดสู้
กับความรู้สึกเหน็บเจ็บในใจ ก็ทำให้ลูกสาวได้เข้าไป
เรียนอนุบาลหนึ่งที่ ถนนราชดำริ ซึ่งอยู่ในทางผ่านไป
ที่ทำงาน
นิคได้งานใหม่ที่ถนนคอนแวนต์ที่ทำงานใกล้
เคียงกัน เงินเดือนก็เพิ่มอีก มีโควต้าน้ำมันให้เบิกใช้ได้

ทุกอย่างเกือบเข้าที่เรียบร้อย ลูกสาวเป็น
เด็กเก่งตั้งใจเรียน และชอบกิจกรรมการแสดง อย่าง
รำไทย เป็นต้น ข้าพเจ้าถ่ายรูปเธอในชุดรำแม่ศรี ทัด
ดอกเยอบีร่าไว้ที่หู หนูน้อยชอบการแสดงเหมือนเด็ก
ทั่วไป

ในระหว่างที่กำลังทำพิธีกรรมไล่สิ่งไม่ดี
ออกจากร่างกายกัน ต้องเดินทางไปค่ำ ๆ มืด ๆ อยู่
บ่อย ๆ นิคและข้าพเจ้าก็เห็นพ้องกันว่า เราควรจะไป
อาศัยน้องชายอยู่สักพัก เพื่อให้การเดินทางจากที่
ทำงานไปรักษาตัวที่บางพลัด เป็นไปโดยง่าย กลับ
ไปดึก ๆ ก็ไม่ไกลจากที่พักมาก ไม่ลำบากเหมือน
เดินทางกลับไปบ้านคุณแม่

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 มี.ค. 51 00:07:49 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:07:15 น.  

 
 
 
บทที่ ๑๔
....หนึ่งปฏิสนธิ ... (ต่อ)

ปลายปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ข้าพเจ้า
ก็ขอลาแม่ไปอยู่อาศัยที่บ้านน้องชายอีกครั้ง และ
ครั้งนี้คุณแม่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรมาก เพียงแต่ห่วง
หลานสาวของท่านว่าจะอยู่จะเรียนที่ไหนอย่างไร

ขณะหนึ่งที่ไป "นั่งน้ำมนต์" รักษา
ตัวเอง ข้าพเจ้ามองไปทางหิ้งพระบูชาหิ้งใหญ่ ที่
สำนักฯ แลเห็นรูปหล่อของมหาเทพอินเดียองค์หนึ่ง
คือพระศิวะ มองไปที่องค์ท่าน ดูพระพักตร์หล่อคม
นั้น รู้สึกปลาบปลื้มท่านขึ้นมา ถึงแก่คิดในใจว่า
" ขอลูกชายหน้าเหมือนท่านสักคน.." พลัน เหมือน
มีความตอบมาในใจเช่นกันว่า

" ได้ แต่พออายุ ๑๗ เขาก็ต้องเดินทางไกล "
หรือ "อยู่ไกลจากเจ้า " ทำนองนั้น

ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกที่สื่อความคิดกันได้ขณะ
นั้น แล้วก็อิ่มเอมเปรมใจอยู่พักหนึ่ง

เมื่อย้ายไปอยู่ที่พักน้องช่าย ข้าพเจ้า
กำลังปวารณาตัวเองถือศีลกินมังสวิรัติ ก็เพิ่งรู้ตัวเอง
ว่า เพิ่งตั้งท้องได้หนึ่งเดือนกว่าแล้วเกือบสองเดือน
เมื่อไปตรวจโดยใช้สวัสดิการการแพทย์ของบริษัทฯ
ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

เราสองคนมองหน้ากัน นิคยิ้มขำ ๆ ให้
กับตัวเอง และเปรยว่าหากไม่ได้แต่งงานกันจะคิดว่า
ข้าพเจ้าหลอกเขา เพราะเขา "คุมกำเนิด"ทุกครั้งนี่นา
แต่ข้าพเจ้านั้น ยินดีที่มีครรภ์ เพราะแต่งงานกันมาเป็น
ปีแล้ว คิดว่าจะไม่มีลูกกันแล้วกระมัง แต่นับเป็นข่าวดี
ที่เปลี่ยนนิสัยข้าพเจ้าให้อ่อนโยนลงอีกนิด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
: tiki_ทิกิ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:0:46:05 น.
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:08:49 น.  

 
 
 
บทที่ ๑๔
....หนึ่งปฏิสนธิ ...(ต่อ)

เมื่อท้องลูกสาวนั้น ข้าพเจ้าชอบทาน
ส้มเป็นกิโล กิโลเลย
แต่สำหรับท้องลูกชายนี้ ข้าพเจ้ากลับอยาก
กินเงาะเหลือเกิน หากมีรถมาขายเงาะ แล้วไม่มีใคร
ลงไปซื้อให้ ข้าพเจ้าจะงอแงเอาแต่ใจอยากกินเงาะ
มาก

ดึกคืนวันเสาร์ข้าพเจ้าก็รู้ว่าลูกจะคลอด
เรียกให้คุณผู้ชายพาไปโรงพยาบาล เจ็บปวดร้องโหย
หวนอยู่ในห้องรอคลอดตั้งแต่ตีหนึ่งจนถึงบ่ายกว่า หมอ
ผู้หญิงไม่ยอมผ่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกว่าตัวเองจะตาย
เอาแล้ว เรียกพระ เรียกเจ้า แถมเรียกพระเยซู ไม่ได้
หยุด เพราะนอนอยู่ในโรงพยาบาลกรุงเทพฯคริสเตียน
บอกหลวงปู่ทุกองค์มาช่วยอย่าให้ลูกข้าพเจ้าตาย
ในท้องเลยเชียวนะ


จนบ่ายสองของวันอาทิตย์ ที่หมอ
ตัดสินใจใช้เครื่องมือหลายอย่างเพื่อทำการคลอด
ให้ได้ ลูกชายคนเดียวของเรา จึงคลอดออกมา
ถือกำเนิดในเดือนกันยายน ปี พุทธศักราช ๒๕๒๖
นำความตื่นเต้นมาให้ครอบครัวคุณสามีกันทุกคน

ข้าพเจ้าอิดโรยอยู่บนเตียงทั้งวัน วันรุ่งขึ้น
พยาบาลก็นำทารกตัวแดง ๆ ดำ ๆ ผมดำเต็มพรืดไป
ทั้งหัวไล่มาจรดกลางคิ้วหน้าตาประหลาด
ตอนเห็นหน้าลูกข้าพเจ้าเหมือนมอง
เห็น "คุณปู่" ของลูกชายอย่างไรก็อย่างนั้น หน้า
เขาเหมือน พ่อ และ ปู่ของเขาพิมพ์เดียวกัน ที่
หน้าผากอุณาโลมแหลมมาชนคิ้วสองข้าง ดูไปเป็น
หัวช้างที่มีผ้าคลุมหน้าทันทีที่สัมผัสอกแม่ เจ้าทารก
น้อยหันมาตรงเป้าเป๊ะ ดูดหัวนมจุ๊บอย่างคอยท่ามา
นาน อาการนั้น ทำให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างเห็น
ลูกชายเป็นเหมือนตัวประหลาด ปลาสนาการไปสิ้น
มีแต่ความเมตตาต่อเจ้าตัวน้อยที่ตั้งหน้าตั้งตาดูด
นมแม่จุ๊บ ๆ อยู่อย่างนั้น

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:10:01 น.  

 
 
 
บทที่ ๑๔
....หนึ่งปฏิสนธิ ...(ต่อ)

ข้าพเจ้านึกถึงคำคนเก่า ๆ เขามักพูด
กันว่า ลูกคนแรกเป็นชายพ่อแม่ก็มักเป็นเนื้อคู่กัน
จะจริงเท็จแค่ไหน ข้าพเจ้ายังไม่รู้ ได้แต่เชื่อครึ่ง
ไม่เชื่อครึ่งอยู่ในวันนั้น แต่ถือว่า เจ้าทารกน้อย
วันนั้น เป็นผลผลิตที่มีฤทธิ์แรง ที่เคยถีบตึง ตึง
อยู่ในท้องแม่ บัดนี้ เขาโผล่ออกมา (อย่างแสน
ยาก ) และ จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่มีใครรู้


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ออกจากโรงพยาบาล ไปอยู่ที่ที่พัก
น้องชาย คุณแม่ของข้าพเจ้า ท่านมีเมตตาอย่าง
มาก ได้มานอนพักอยู่ด้วยหลายวัน เพื่อจะได้
คอยดูแลข้าพเจ้า (ซึ่งท่านไปดูแลลูกสะไภ้ที่มี
ลูกมาแล้วทุกคน ) ทั้งที่ท่านยังไปทำงาน แต่ก็
เดินทางกลับมาที่พักเอง พร้อมด้วยการซื้อแกง
เลียงมาให้ข้าพเจ้ากินกับข้าวสวยร้อน ๆ เพื่อจะ
ได้มีน้ำนมเลี้ยงลูก ทั้งสั่งป้าหมอนวดคนหนึ่ง
มาทำ การอยู่ไฟ ประคบตัวด้วยสมุนไพร เข้า
กระโจมอบสมุนไพรให้ เหมือนสมัยที่ข้าพเจ้า
คลอดลูกสาวคนโต
เวลาข้าพเจ้าเข้ากระโจมอบสมุนไพร
ลูกชายจะร้องแคว่กคว่ากเรียกให้ไปให้นมทุกที
เขาอ้อนหาข้าพเจ้าอยู่เป็นประจำ ช่วงนั้นลูกสาว
ไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว คุณพ่อนิค พาไปรับไป
ส่งเหมือนเวลาที่ข้าพเจ้ายังไปทำงานด้วยกัน

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณแม่ของสามี พอทราบเรื่อง ว่า
ข้าพเจ้าลาได้แค่ 15 วัน ท่านก็บงการให้ช่างไป
ปรับเรือนไม้ชั้นเดียว ข้างบ้านท่านอย่างเร่งด่วน
ต่อเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องกลาง ห้องพระ
เท่าที่ครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่งจะอยู่ได้
เวลาที่ข้าพเจ้าไปดูการทำบ้านหลังนั้น กลับไป
ที่ที่พักน้องชายดึก ๆ คุณแม่ของข้าพเจ้าซึ่งอด
ตาหลับขับตานอนดูแลลูกชายให้อยู่ บอกว่า
ลูกร้องหาข้าพเจ้าไม่หยุด ร้องคว่าก คว่าก
คว่าก ไปอย่างนั้น เป็นชั่วโมง สองชั่วโมงก็
ร้องอยู่เสียงดังเหลือเกิน จนกว่าแม่มาแล้ว
แม่อุ้ม นั่นแหละจึงจะหยุดร้อง

คุณแม่มาคอยอุ้ม ลูกชาย อาบน้ำ
สระผมด้วยน้ำอุ่นให้ ข้าพเจ้าถ่ายรูปที่คุณยาย
อุ้มหลานชายคนเดียว ไว้ และคอยเตือนใจ
ลูกชายเสมอว่าคุณยายมีบุญคุณแก่แม่และลูก
มากนะ หากท่านไม่ได้มาคอยช่วยดูแลตอน
ลูกเพิ่งเกิด แม่คงยุ่งวุ่นวายโกลาหลมากเลย

บุญคุณของแม่นั้น ไม่อาจเขียนได้
หมด เมื่อมีลูกของเราเอง เหนื่อยยาก และ
รักลูกอย่างสุดแสนนั้น ถึงจะรู้ว่า แม่ของเรา
นั้นรักเรามากเพียงไร แม่ของเรา เสียสละ
ทุ่มเทให้เราเพียงไร ในวัยเด็กที่เราดื้อดึง
บ้าๆบอ ๆ ตามประสาเด็ก ประสาวัยรุ่นที่ฮอร์โมน
เปลี่ยนขนานหนักนั้น เราได้ทำแต่ความวุ่นวาย
ทำตัวเป็นคนพาลเกเรทำให้แม่เสียอกเสียใจ
น้ำตาตกแล้วตกเล่า เราช่างทำกรรมไว้กับแม่
ผู้มีพระคุณของเราเหลือเกิน

ในที่สุด เราก็ลาน้อง ลาที่พักพิงของ
น้อง ไปอยู่ที่เรือนไม้ชั้นเดียวที่คุณแม่สามีท่าน
สั่งต่ออย่างเร่งด่วนให้เรา ลูกแซนดี้ไปด้วยเป็น
ขวัญใจของข้าพเจ้า !!

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:0:48:24 น.

จบบทที่ ๑๔ ภาคสาม


ท่านที่จะอ่าน ภาค ๑๓ ตอนเก่าได้ที่นี่ค่ะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=02-04-2008&group=7&gblog=7


และ บทต่อไป บทที่ ๑๕ ได้ที่
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=03-04-2008&group=7&gblog=9
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:19:07 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

tiki_ทิกิ
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
H e L L o
free counters
[Add tiki_ทิกิ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com