|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเดินทางของจากกองถ่ายสู่โรงหนัง #1
วันนี้อารมณ์ดี เคลียร์งานไปเปาะหนึ่งแล้ว ได้โอกาส มาเขียนเรื่องที่หลายคนสงสัย และกำลังอยู่ในกระแส เรามาเริ่มกันที่หนังถ่ายทำเสร็จแล้ว
เมื่อหนังถ่ายเสร็จเรียบร้อยที่นี้ก็จะมาตัดต่อ ลำดับภาพ ใส่เสียง แต่งภาพ ทำ Cg พากย์เสียงเพิ่ม
อย่าเพิ่งงงค่ะ หนังที่ใช้ Sound on film นั้นบางครั้งเสียงไม่ชัดหรือว่าไม่ได้อารมณ์ หรือว่า จะเปลี่ยนบทนิดหน่อยก็ใช้วิธีพากย์ทับ
แล้วก็มาถึงขั้นทำSub แล้วทั้งหมดก็จะออกมา เป็น Master พร้อมจะ พิมพ์ลงเป็นแผ่นฟิล์ม
อย่าเพิ่งงงค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้บางทีเขาก็ถ่ายทำด้วยกล้องที่ไม่ใช้ฟิล์ม หรือถ้าใช้เขาก็จะถ่ายลงมาตัดในคอมกัน
แต่การที่จะสั่งว่าจะ print ออกมากี่ชุดนั้น ต้องขึ้นอยู่ว่าจะได้ฉายกี่โรง
ขั้นตนนี้ ฝ่ายการตลาดจะเริ่มลงมือ ซึ่งจริงๆแล้วฝ่ายการตลาดจะต้องลงมือตั้งแต่ ทำ 4 P มาทวนกันว่า 4 P คืออะไร
Production ว่า เป็นหนังแบบไหน จุดเด่นคืออะไร
Promotion ทางการตลาดจะต้องลงรายละเอียดว่าจะใช้แนวทางในการโปรโมทอย่างไร ร่วมถึงการประชาสัมพันธ์ด้วย ว่า ต้องซื้อสื่อไหนหรือว่า สื่อไหนจะให้ประชาสัมพันธ์ช่วย (รายละเอียดตรงนี้ต้องลงลึกไปอีกเยอะค่ะ) และที่สำคัญมี สปอนเซอร์ไหม ถ้ามี เป็นใคร มีงื่อนไขอะไรบ้าง
Price ควรจะต่อรองกับทางโรงหนังอย่างไร สัดส่วน ที่ดีที่สุดคือ 50:50 หมายความว่า จากการขายตั๋วหนัง 1 ใบ ต้องแบ่งระหว่าง ผู้จัดจำหน่ายหนังกับ โรงหนัง คนละ ครึ่ง ดังนั้นในอดีต การที่มีบัตรลด แต่ใช้ไม่ได้ในช่วงอาทิตย์แรก ก็เพราะว่า ทางผู้จัดจำหน่ายหนังไม่ยอม เกรงว่าโอกาสทำเงินจะหายไป เพราะคนยิ่งดูมาก ส่วนลดก็หายไปมาก จึงให้ใช้สัปดาห์ที่สองมากกว่า
นอกจากราคา ตั๋วแล้ว ยังมีเรื่องของราคา ที่จะขายกับสายหนัง เหนือ ใต้ อีสาน และตะวันออก , ฟรีทีวี , เคเบิ้ล ทีวี และ ต่างประเทศ
Place ช่องทางการจัดจำหน่าย ในที่นี้ คือโรงหนัง ควรจะเป็นโรงหนังแบบไหน เน้นที่ในเมืองหรือว่าชานเมืองดีกว่า เพราะถ้าหนังกลุ่มเป้าหมายไม่ได้อยู่กลางใจเมือง ก็เสียฟิล์มเปล่าๆ
หากการตลาด คำนวณเรื่องการสั่งcopy Film ไม่ดี ก็มีส่วนในการขาดทุน
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า จะต้องสั่งจำนวนเท่าไหร่?
จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อ ได้คุยกับทางProgrammimg ของแต่ละค่ายว่าจะให้กี่โรง โรงละกี่รอบ เช่น อีจีวี ให้ 10 โรง 80 รอบ เมเจอร์ ให้ 5 โรง 60 รอบ เอส เอฟ ให้ 3 โรง 10 รอบ
ซึ่งทางโปรแกรมมิ่งจะพิจารณาจาก
1. หนัง ที่เสร็จแล้วเป็นหลัก แล้วในช่วงนี้ เพราะโดนหลอกมาเยอะ แต่ก่อนดูแค่หน้าหนัง 2. แผนการตลาด
แล้วหนังจะเข้าฉายเมื่อไหร่ ???
คนที่ติดต่อฝายโปรแกรมมิ่งจะเป็นฝ่ายต่อรองกับแต่ละโรงว่าควรเป็นช่วงเวลาไหน
สงสัยใช่ไหมว่า ไม่ใช่ว่า ทางสมาพันธ์ฯเป็นคนกำหนดหรอกเหรอ??
โดยส่วนใหญ่ใช่ในกรณีที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์ฯ แต่ไม่ใช่ก็จะเข้าไม่ได้เลย เพียงแต่ไม่อยากให้เกิดความลำบากใจมากกว่า
ดังนั้นการที่จะเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิก หากหนังเรื่องหนังทางโรงหนังซึ่งเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายนั้น สนใจและเห็นว่าทำเงินก็สามารถฉายได้เช่นกัน แต่ไม่ค่อยที่จะทำกัน เท่าไหร่ ถ้าไม่จำเป็น
วันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาต่ออีกทีค่ะ
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
12 comments |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2549 2:55:45 น. |
Counter : 4763 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: IP: 202.44.136.50 28 กุมภาพันธ์ 2549 12:23:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: วีระกิจ (กะว่าก๋า ) 10 มีนาคม 2549 10:59:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: naragorn 5 พฤศจิกายน 2550 19:46:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirikarm IP: 58.9.58.69 19 มกราคม 2551 17:08:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirikarm IP: 58.9.58.69 19 มกราคม 2551 17:09:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: tiki_ทิกิ 16 กุมภาพันธ์ 2551 11:49:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: aomzon 13 ตุลาคม 2554 8:40:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ABAC IP: 223.204.68.189 23 สิงหาคม 2555 23:21:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แนะนำว่าวอล์กอินเลยค่ะ
สู้ๆ