Group Blog
All Blog
### พยายามให้มีสติตลอดเวลา ###









“พยายามให้มีสติตลอดเวลา”

พยายามภาวนาไป พยายามนั่งสมาธิไปให้มากๆ

ก่อนจะมานั่งก็ต้องสร้างสติขึ้นมาให้มากๆก่อน

เวลายังไม่ได้นั่งก็ให้ฝึกสติ เดินหนอ ยุบหนอ ซ้ายหนอ

 ก้าวหนอไป ทำอะไรก็ให้ใจจดจ่อ อยู่กับงานที่เรากำลังทำอยู่

 กำลังหวีผมก็หวีผมหนอ กินข้าวก็เคี้ยวหนอ กลืนหนอ

 ให้มีสติอยู่กับงาน ที่เรากำลังทำ

อย่าปล่อยให้ใจเราไปคิดเรื่อยเปื่อย

เพราะถ้าเราไม่คุมมันไว้เดี๋ยวมานั่งเดี๋ยวมัน

ก็จะคิดเรื่อยเปื่อยมันจะไม่ได้ดูยุบหนอ พองหนอ

ต้องฝึกไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะมานั่ง ให้มีสติอยู่ตลอดเวลา

แล้วเวลานั่งมันจะสงบง่าย แล้วก็จะมีความสุข

 แล้วมันจะไม่อยากจะได้อะไร คนเราถ้ามีความสุขใจแล้ว

 มันจะไม่อยากได้อะไร ไม่อยากจะอยู่ใกล้ใคร

 แล้วเวลาใครจะจากเราไป เราก็จะไม่รู้สึกอะไร

สมาธินี้สำคัญมาก เมื่อเกิดสมาธิแล้วเวลาฟังธรรมก็จะเข้าใจ

 สามารถบรรลุ ปล่อยวางได้ อย่างวันนี้ถ้าเราเข้าใจ

เรื่องร่างกายเราก็จะไม่ทุกข์กับเรื่องร่างกาย

เพราะเรารู้ว่าร่างกายนี้เป็นเพียงคนรับใช้เราเท่านั้นเอง

ไม่ได้เป็นตัวเรา ไม่ได้เป็นตัวพ่อแม่ ไม่ได้เป็นตัวลูกหลาน

 เป็นคนรับใช้ ร่างกายของคนทุกคนนี้

เป็นคนรับใช้พวกเราทั้งนั้นแหละ

แต่พวกเราไม่รู้ เราไปหลงคิดว่าเป็นตัวเรา

 เราก็เลยอยากให้คนรับใช้นี้ไม่จากเราไป

 แต่ธรรมชาติของคนรับใช้นี้เขาต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย

 พอเขาแก่ เจ็บ ตาย เราก็เสียอก เสียใจ

แล้วเราก็ไปหาคนใหม่ เราก็ไปเกิดใหม่

 แล้วก็มาเสียอกเสียใจกับคนใหม่

 เราเสียอกเสียใจกับคนรับใช้มาไม่รู้กี่ล้านคนแล้ว

 ท่านบอกว่าน้ำตาที่เราหลั่งแต่ละครั้ง

ที่เราเสียคนรับใช้เราไปนี้

ถ้ามารวมกันแล้วมันมากยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรเสียอีก

 คิดดูว่าเรามีคนรับใช้กี่คน

เราร้องไห้กับคนรับใช้นี้ มากี่คนแล้ว มีเป็นแสนล้านๆ

แต่ถ้าเราเข้าใจความจริงอันนี้แล้วเราก็จะปล่อยวางร่างกาย

 เราก็จะเตรียมตัว เตรียมใจให้เขาจากเราไป

พอเรารู้ว่าเราทำสัญญากันแล้ว

 เขาจะรับใช้เราเพียงแค่ตายนะ

พอเขาตายแล้ว เขาก็ต้องไปแล้ว

 เขาไม่สามารถรับใช้เราไปได้ตลอด

เรานี่แหละเป็นตัวที่ไม่ตาย

ดังนั้นพอเราไปได้อะไรที่มันตายเราก็เสียใจ

 ดังนั้นเราจึงอย่าไปได้อะไร ที่มันตายดีกว่า

เพราะได้มาแล้วจะต้องเสียใจ

 เอาของที่มันไม่ตายดีกว่า ของที่ไม่ตายก็คือธรรมะนี่แหละ

 เอาสติ เอาสมาธิ เอาปัญญา พวกนี้ไม่ตาย

พวกนี้จะอยู่กับเราไปตลอด

 แล้วจะผลิตความสุขให้กับเราไปตลอด

ผลิตความสงบตัดตัวที่มาทำลายความสงบ

ก็คือตัณหาความอยากต่างๆ ให้มันหมดไปจากใจ

 ตัณหานี่แหละเป็นตัวที่ทำให้เราทุกข์กัน

อยากให้ร่างกายไม่ตายก็ทุกข์แล้ว

 อยากให้ร่างกายไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ทุกข์แล้ว

 แต่อยากยังไงมันก็ต้องเจ็บ มันก็ต้องตาย

แต่ถ้าไม่มีความอยากแล้วมันจะไม่เจ็บ

มันจะไม่ทุกข์กับความเจ็บของร่างกาย

 มันจะไม่ทุกข์กับความตายของร่างกาย

นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน

ว่าความทุกข์ใจของพวกเรานี้เกิดจากความอยาก

 ของพวกเราเอง ถ้าไม่อยากจะทุกข์ใจ

ก็ต้องตัดความอยากไปให้หมด

อย่าไปอยากให้ร่างกายไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

 แล้วเราจะไม่ทุกข์เวลาที่ร่างกายแก่ เวลาร่างกายเจ็บ

 เวลาร่างกายตาย นี่คือปัญญาจะทำใจได้ก็ต้องมีสมาธิก่อน

 มีความสงบก่อน ถ้าไม่มีความสงบนี้จะทำใจไม่ได้

 มันจะอยากจะอยากให้ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

 แต่เวลานั่งสมาธินี้ มันจะหยุดความอยากก่อน

 แล้วพอความอยากมันโผล่ขึ้นมาก็ใช้ปัญญากับสมาธิ

ช่วยกันตัดมันได้ ดังนั้นต้องสร้างสติขึ้นมาก่อน

เพื่อให้มีสมาธิ เมื่อมีสมาธิแล้วก็สร้างปัญญาขึ้นมา

 พอมีสมาธิมีปัญญา ก็สามารถที่จะหยุดความอยากต่างๆ ได้

เวลาร่างกายเป็นอะไรก็จะไม่ทุกข์กับร่างกาย

นี่คือเรื่องของการปฏิบัติธรรม

สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์กับจิตใจ ของพวกเรา

สร้างสิ่งที่ให้ความสุขกับใจของพวกเราอย่างถาวร

ไม่มีวันจบไม่มีวันหมดไม่เหมือน กับความสุข

ที่เราได้ผ่านทางร่างกายนี้ มันได้เพียงชั่วคราว

ได้อะไรมาแล้วเดี๋ยวก็ต้องจากเราไป

 เวลาจากกันก็เสียใจ ได้ลูกได้หลานก็ดีใจ

 เดี๋ยวเวลาจากกันก็จะเสียใจ แต่ถ้าเรามีความสงบแล้ว

เราจะไม่อยากได้อะไร ลูกหลานจะมีหรือไม่มีก็ไม่เดือดร้อน

มีก็มีไป เวลาจากกันก็จากกันไป เป็นเรื่องปกติธรรมดา

 เพราะใจเราไม่ได้มีความอยากที่จะอยู่กับเขาไปนานๆ

 อยู่กันแค่อยู่กันได้เท่าที่อยู่กันได้

พอถึงเวลาที่จะต้องไปจากกันไปก็จากกันไป

ใจที่มีความสงบนี้จะไม่ยึดไม่ติด จะไม่มีความอยากอยู่กับอะไร

นี่คือสิ่งที่เราควรที่จะหากัน หาความสุขที่แท้จริง

หาความสุขที่ถาวรที่ไม่มีวันหมด

ความสุขที่เกิดจากการมีสติ มีสมาธิ มีปัญญา

ดีกว่าความสุขที่เกิดจากการมีลาภ ยศ สรรเสริญ

มีรูป เสียง กลิ่น รส มีคนนั้นคนนี้

เพราะว่ามันเป็นความสุขชั่วคราว เวลามันเสื่อม เวลามันหมด

เราก็จะเสียใจ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มันต้องมีวันหมด

 ของต่างๆ ในโลกนี้เป็นของชั่วคราวทั้งนั้น

ได้อะไรมาแล้วก็ต้องจากกัน

 เพราะร่างกายของเรานี้ ก็เป็นของชั่วคราว

เดี๋ยวร่างกายนี้เราตายไป ของที่เราได้ผ่านทางร่างกาย

ก็จะต้องหมดไป ต้องจากเราไปหมด

 เวลาร่างกายตายไป ลาภยศ สรรเสริญก็หมดไป

คนนั้นคนนี้ก็หมดไป จึงไม่มีใครอยากตายกัน

คนที่ไม่มีความไม่อยากตาย

 ก็มีพระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์เท่านั้น

 เพราะท่านไม่มีความยึดติดกับสิ่งต่างๆ ในโลกนี้

ท่านไม่เดือดร้อนเวลาที่ท่านต้องจากสิ่งต่างๆ ไป

เพราะว่าท่านมีสิ่งที่ดีกว่าติดตัวอยู่ก็คือความสงบ

ความสุขใจที่เกิดจากการมีสติ มีสมาธิ มีปัญญา

ดังนั้นเราต้องพยายามสร้างสติ สร้างสมาธิ

สร้างปัญญาขึ้นมาถ้ามีแล้วเราจะมีที่พึ่ง

 เรียก ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ที่จะรักษาใจให้เรามีความสุข

ไม่ให้เราทุกข์กับเรื่องราวต่างๆ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.............................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๙






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 05 สิงหาคม 2559
Last Update : 5 สิงหาคม 2559 10:58:49 น.
Counter : 688 Pageviews.

6 comments
  
แวะมาอ่านค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:11:22:57 น.
  
ขอบคุณค่ะ ที่ให้สติ
โดย: สุกัญญา ศักดิ์ศรี IP: 101.51.213.20 วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:13:39:26 น.
  
การทำอะไรบางอย่างในชีวิตก็จำเป็นที่จะต้องใช้สมาธิเพื่อให้ไม่เกิดความผิดพลาดถึงแม้จะพลาดแค่เพียงเล็กน้อย
โดย: จรรสุดา สีแดง IP: 101.51.213.122 วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:13:43:28 น.
  
การที่เราทำอะไรเราเราต้องมีสติ
โดย: บงกช เเก้วจินดา IP: 101.51.213.20 วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:13:48:11 น.
  
การทำอะไรบางอย่างในชีวิตก็จำเป็นที่จะต้องใช้สมาธิเพื่อให้ไม่เกิดความผิดพลาดถึงแม้จะพลาดแค่เพียงเล็กน้อย
โดย: เรวัตร ยืนนาน IP: 101.51.213.122 วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:13:51:17 น.
  
การที่เราทำอะไรเราเราต้องมีสติ
โดย: ณัฐวุฒิ ขอหน่วงกลาง IP: 101.51.213.20 วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:13:54:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ