Group Blog
All Blog
### ธรรมโอสถคือยารักษาโรคทุกข์ใจ ###









“ธรรมโอสถคือยารักษาโรคทุกข์ใจ”

การมาฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เป็นประจำ

 ก็เหมือนกับการไปหาหมอ เพื่อไปรับหยูกรับยา

 มารับประทาน มารักษาโรค โรคที่พวกเรามีกันอยู่ทุกคน

 ก็คือโรคของความทุกข์ใจ

ยาที่เรามารับไปรักษาก็คือธรรมโอสถ

คือพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

ที่สามารถรักษาโรคของความทุกข์ใจ

ให้หายขาดได้อย่างถาวร

 อยู่ที่ผู้ที่รับยาไป ว่าจะรับประทานยา

ตามที่หมอมอบไปให้ได้หรือไม่

ถ้าสามารถรับประทานยาตามที่หมอสั่งไป

โรคภัยคือโรคของความทุกข์ใจก็ต้องหายไป

เพราะยาธรรมโอสถนี้ได้รักษาโรคของความทุกข์ใจของคน

 มาเป็นจำนวนมากแล้วเป็นเวลาอันยาวนานแล้ว

นับตั้งแต่วันแรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระปฐมเทศนา

 โปรดแก่พระปัญจวัคคีย์ ก็มีผู้ที่รับยาไป

ได้ดับความทุกข์ภายในใจ

ในขั้นแรกคือขั้นพระโสดาบันได้ ๑ รูป

 คือพระอัญญาโกณฑัญญะ

หลังจากนั้น เมื่อได้ฟังเทศน์ฟังธรรมอีก

ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์กันทั้ง ๕ รูป

ได้หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างถาวร

ได้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างถาวร

พระพุทธศาสนานี้ สั่งสอนคนนอกศาสนาทั้งนั้น

 เพราะสมัยที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้นั้น

ยังไม่มีพุทธศาสนิกชน

 มีเพียงพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียว

บุคคลต่างๆที่มาศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

 และปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนจนได้บรรลุ

มรรคผลนิพพานขั้นต่างๆ

 ล้วนเป็นบุคคลนอกพระพุทธศาสนา

 เป็นบุคคลที่มีศาสนาอื่น มีคำสอนอื่นเป็นครูเป็นอาจารย์

 แต่คำสอนเหล่านั้นไม่สามารถที่จะสอน ให้เขาหลุดพ้น

จากความทุกข์ได้ มีเพียงพระพุทธเจ้า

 มีเพียงคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น

ที่สามารถสอนให้เขาได้หลุดพ้นจากความทุกข์ได้

หลังจากที่เขาฟังธรรมแล้วและได้ปฏิบัติ

จนดับความทุกข์ภายในใจได้หมดแล้ว

 เขาก็เปลี่ยนศาสนา ขอบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนากัน

ดังนั้นศาสนาพุทธ คำสอนของพระพุทธเจ้านี้

จึงไม่ได้เล็งไปที่ชาวพุทธศาสนิกชน เล็งไปที่บุคคล

 ที่นับถือศาสนาอื่น หรือไม่มีศาสนา

เพราะเป็นเหมือนกับคนที่ไม่มียารักษาโรค

หมอก็ต้องไปรักษาคนไข้ ที่ไม่มียารักษาโรค

ให้เขาได้มียารักษา เพื่อเขาจะได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

ดังนั้นคำสอนของพระพุทธเจ้านี้ เป็นคำสอนที่สากล

 คือบางท่านถามว่า คนที่เขานับถือศาสนาอื่น

 เวลาเขาทำบุญเขาจะได้รับอานิสงส์

เหมือนกับชาวพุทธที่นับถือพระพุทธศาสนาหรือไม่

หรือเวลาเขาตายไปแล้ว เขาอุทิศบุญให้เขาได้หรือไม่

ได้ทั้งนั้นเพราะว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านี้

เป็นคำสอนสากล

 คือใช้ได้กับมนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา

พระพุทธเจ้าในพระพุทธคุณ ก็แสดงไว้แล้วว่า

 เป็นสัตถา เทวมนุส สานัง

 เป็นครูของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

อย่าว่าแต่มนุษย์เลย

เทวดาที่เราไม่สามารถมองเห็นรูปร่างได้

 ก็ยังนับถือพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา

 ฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า

และได้รับประโยชน์ได้รับอานิสงส์ ได้บรรลุมรรคผลได้

ทั้งที่ยังเป็นเทวดาอยู่ บางท่านก็เคยสงสัยว่า

ถ้าไปเกิดเป็นเทวดาแล้วยังจะปฏิบัติธรรมได้หรือไม่

 ถ้าฟังจากตำราก็ควรจะได้

เพราะพระพุทธเจ้าก็ทรงสอนเทวดา

 เช่นพระพุทธมารดา ให้บรรลุเป็นพระโสดาบันได้

แต่เทวดานี้ก็มีหลายพวก

 เทวดานี้ก็เป็นเหมือนกับผู้ที่ไปท่องเที่ยว

 เพราะมีเวลาและมีเงิน เหมือนคนที่ทำบุญนี้ก็เหมือนกัน

 มีเงินเวลาตายไปก็สามารถไปท่องเที่ยวในโลกทิพย์ได้

แต่คนที่ไปท่องเที่ยวนี้ก็มีหลายพวก

 บางพวกก็ท่องเที่ยวแล้วก็แวะไปทำบุญด้วย

เช่นคนที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศอินเดีย

 อาจจะไปดูสถานที่ต่างๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

แล้วก็แวะไปที่สังเวชนียสถาน ๔ เพื่อแสวงบุญ

 เทวดาบางพวกก็เป็นพวกที่สนใจธรรมะ

 ถึงแม้ว่าจะได้เป็นเทวดาได้ไปท่องเที่ยวในสวรรค์

แต่ถ้ารู้ว่าที่ไหนมีพระพุทธเจ้า

หรือมีพระอรหันต์ แสดงธรรม

 เขาก็จะแวะไปนมัสการไปฟังธรรมกัน

เทวดาพวกนี้ต้องเป็นพวกที่มีจิตใจใฝ่ธรรม

คือมีนิสัยชอบมาวัดอย่างพวกเรานี้

ที่มีนิสัยที่จะมาฟังเทศน์ฟังธรรมกันอย่างต่อเนื่อง

 มีโอกาสสูงที่เวลาตายไปแล้ว จะได้ไปฟังเทศน์ฟังธรรม

จากพระอรหันต์ หรือจากพระพุทธเจ้าบางรูปบางองค์ได้

 เพราะเวลาไปสวรรค์ก็จะมีเพื่อนเทวดาด้วยกัน

 ที่จะส่งข่าวผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

 ผ่านทางลงผ่านทางไลน์

 ให้รู้ว่าที่ไหนมีการแสดงธรรมเทศนา

พอถึงวันเวลานั้นก็จะแวะเวียนกันไป

อย่างที่สมัยพระพุทธเจ้าดำรงพระชนม์ชีพอยู่

ก็ทรงแสดงโปรดเทวดาทุกคืน เป็นหนึ่งในพุทธกิจ

ทรงดำเนินอยู่ประมาณ ๔๕ ปีด้วยกัน

ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่เทวดามีโอกาสได้ฟังเทศน์ฟังธรรม

ได้ศึกษาเท่าเทียมกับมนุษย์

ในช่วงบ่ายก็เป็นเวลาของฆราวาสญาติโยม

 ในช่วงค่ำก็เป็นช่วงของ พระภิกษุสามเณรภิกษุณี

 ในยามดึกก็เป็นช่วงของเทวดา

และในยามรุ่งอรุณตอนก่อนที่จะทรงออกบิณฑบาต

 ก็ทรงเล็งญาณดูว่า มีใครบ้างที่เหมาะสม

กับการรับพระธรรมเทศนา ของพระพุทธเจ้าในวันนั้น

 พระองค์ก็จะมุ่งไปโปรดบุคคลนั้น

เพราะอาจจะมีกรณีพิเศษ

 ก็คือจิตใจเขาอาจจะสุกงอม

 พร้อมที่จะรับพระธรรมคำสอน

 และชีวิตของเขาอาจจะต้องใกล้จะหมดไป

ถ้าไม่ไปรีบโปรดบุคคลนี้ก่อน ก็อาจจะไปไม่ทัน

 นี่คือเหตุผลของการเล็งญาณของพระพุทธเจ้า

 เพื่อดูจิตใจของบุคคลใดบ้าง ที่สุกงอม

พร้อมที่จะบรรลุธรรมได้ และมีเวลาเหลือน้อย

 ชีวิตของเขาอาจจะต้องหมดไปในระยะเวลาอันใกล้

พระองค์ก็จะมุ่งไปโปรดบุคคลนั้น

นี่คือเรื่องของธรรมโอสถ ยารักษาโรคใจ

ที่รักษาโรคใจของมนุษย์ทุกชาติทุกภาษา ทุกวัยทุกเพศ

ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ถ้าได้รับยา

คือพระธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติแล้ว

 ก็สามารถที่จะรักษาโรค

ของความทุกข์ใจให้หายขาดไปได้

 เพราะอย่างที่ได้แสดงไว้ ในสมัยแรกๆนี้

 พระพุทธศาสนาก็ไม่มีพุทธศาสนิกชน

ก็ต้องสอนบุคคลที่อยู่นอกพุทธศาสนาทั้งนั้น

แต่ต่อมาเมื่อมีผู้ที่ได้รับประโยชย์จากพุทธศาสนา

 หันหน้ามานับถือพุทธศาสนา

จึงปรากฏมีพุทธศาสนิกชนปรากฏขึ้นมาตามลำดับ

จนมีเป็นจำนวนมาก

แต่การมีจำนวนมากนี้ กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่าไป

 เพราะว่าเป็นพุทธศาสนิกชนเพียงแต่ชื่อ

คืออย่างประเทศไทยเรานี้ เราก็ทราบกันว่า

มีชาวไทยที่นับถือพุทธศาสนาในทะเบียน

ประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์

 แต่การประพฤติของชาวไทย ๙๐ เปอร์เซ็นต์นี้

ไม่สอดคล้องกับการเป็นพุทธศาสนิกชนเลย

เพราะถ้าเป็นพุทธศาสนิกชนจริงนั้น

จะต้องถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นสรณะเป็นที่พึ่ง

 คือต้องมีความเชื่อฟังมีความเคารพ

ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่นทำบุญใส่บาตรทุกวัน

 เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมในวันพระ ละเว้นอบายมุขต่างๆ

 เช่นการดื่มสุรายาเมา เล่นการพนัน เที่ยวกลางคืน

คบคนชั่วเป็นมิตร และความเกียจคร้าน

 แต่ในทางความเป็นจริงนั้น

 ชาวพุทธไทยเรานี้ไม่ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ปล่อยให้มีสถานแหล่งบันเทิงต่างๆ

 ที่เที่ยวกลางคืน ออกบานเหมือนดอกเห็ด

มีสถาบันเล่นการพนันถูกต้องตามกฏหมาย

 คือสลากกินแบ่งของรัฐบาล

 และก็มีโรงผลิตสุรายาเมาถูกต้องตามกฏหมายของรัฐบาล

เหล่านี้ไม่ได้เป็นเครื่องหมายของการเป็นชาวพุทธ

ถ้าเป็นชาวพุทธจริง ๙๐ เปอร์เซ็นต์

 ในเมืองไทยนี้ควรจะไม่มีสถานบันเทิง

 ไม่มีบาร์ไม่มีผับที่จะไปดื่มสุรายาเมา

 ไม่มีบ่อนการพนันที่จะไปเล่นการพนันกัน

แต่นี่ก็เป็นเพราะว่าเป็นพุทธเพียงแต่ชื่อ

ไม่ได้เป็นพุทธที่ตัวที่ใจ

ถ้าเป็นพุทธที่ใจนั้น จะมีการปฏิบัติสอดคล้อง

กับคำสอนของพระพุทธเจ้า

 ที่ไม่เป็นก็เพราะว่า ไม่ได้มาศึกษา

ไม่ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมกันนั่นเอง

 เกิดมาก็เพียงแต่เชื่อตามปู่ย่าตายายบิดามารดา

 ปู่ย่าตายายบิดามารดา เชื่ออะไรก็เชื่อตาม

 ทำก็ทำพอหอมปากหอมคอ

 เช่นในวันสำคัญในวันเกิดวันปีใหม่

 หรือเวลาทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญครบรอบคนตาย

ทำบุญครบรอบวันเกิด หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ก็จะมีการทำบุญกัน ก็ได้เพียงระดับผิวระดับเปลือก

 ส่วนลึกเข้าไปนั้นจะไม่ค่อยได้กัน

 คือระดับศีลและระดับภาวนา

ศีล ๕ นี้ก็รักษากันไม่ค่อยได้

 อบายมุขก็ละเว้นกันไม่ค่อยได้

 อย่าไปว่าถึงเรื่องภาวนาเลย

 ภาวนานี้แทบไม่รู้เลยว่าเป็นอะไร

 ไม่รู้ว่านั่งหลับตากันไปทำไม หาอะไร

 ได้อะไรจากการนั่งหลับตา ไม่ค่อยรู้เรื่องราวเหล่านี้กัน

 เพราะขาดการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง

 จึงไม่ได้ถือว่าเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...............................

กัณฑ์ที่ ๔๗๘ วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗

“ธรรมโอสถ”







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 16 สิงหาคม 2559
Last Update : 16 สิงหาคม 2559 9:15:44 น.
Counter : 1140 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ