เจ้าคุณประสิทธิ์ฯโหราจารย์ชี้ปีพ.ศ.2560 ประเทศไทยไม่มีดาวเลือกตั้ง
เจ้าคุณประสิทธิ์ฯก็คือพระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมฺงกโร) เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรรมการมส. นอกจากจะมีชื่อเสียงในด้านโหราศาสตร์แล้ว ท่านยังเป็นผู้สร้างวัดไทยขนาดใหญ่ 2 วัดในสหรัฐอเมริกานั่นคือวัดธัมมาราม นครชิคาโก้และวัดนวมินทราชูทิศ เมืองเรย์แฮม(ใกล้กับเมืองบอสตัน)รัฐแมสซาชูเซตส์ บนเนื้อที่ 233 ไร่ เฉพาะพระอุโบสถทรงไทยประยุกต์มีพื้นที่ 110,000 ตารางฟุตจึงทำให้วัดนวมินทราชูทิศเป็นวัดไทยนอกประเทศใหญ่ที่สุด ที่สำคัญกว่านั้นท่านกำลังรอที่จะขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ หากสมเด็จช่วงฯวัดปากน้ำได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จสังฆราช ดังนี้..... เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 นสพ.คมชัดลึกได้นำคำทำนายของ พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมฺงกโร) หรือเจ้าคุณพรหมฯกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ผู้มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจ นักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล แวะเวียนไปหาไม่เคยขาด โดยเจ้าคุณพรหมฯทำนายไว้ว่าปี พ.ศ.2560ประเทศไทยไม่มีดาวเลือกตั้ง เจ้าคุณพรหมฯ บอกว่าหากพยายามหรือดื้อดึงจัดเลือกตั้ง ตามคำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ระบุว่า ไม่ว่าจะอย่างไรในปี 2560 ต้องเลือกตั้งอาจจะซ้ำรอยในอดีตที่ผ่านมาคือ บ้านเมืองจะไม่สงบ จะมีความวุ่นวายเช่นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ถ้าเลื่อนไปดาวเลือกตั้งจะโดดเด่นในช่วงต้น ปี พ.ศ.2561 เจ้าคุณพรหมฯ ยังทำนายไว้อีกด้วยว่า 7 ปี นับจากนี้ไปจะเกิดวิกฤติการณ์กับประเทศหลายอย่าง โดยเฉพาะช่วง 4 ปี แรก คือ ระหว่าง พ.ศ.2559-พ.ศ.2563 แต่ไม่ต้องวิตก เพราะถ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราสามารถที่จะลดวิกฤติการณ์ทางธรรมชาติให้เบาบางลงได้ หากสูญเสียอะไรก็ตาม ต้องยึดหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพราะการสูญเสียเป็นธรรมดาโลก จึงต้องตั้งสติยอมรับให้ได้ เราต้องยึดมั่นในศีลธรรมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต้องนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์ร้ายๆ ได้ เมื่อเรารู้ว่าในอนาคตอาจจะเกิดอะไรขึ้น เราสามารถป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ และทุกคำพยากรณ์จะไม่เกิดขึ้น หากเราตั้งตัวอยู่บนความไม่ประมาท เอาหลักของพระพุทธเจ้ามาใช้ เกี่ยวกับคำทำนายดังกล่าวผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการโหราศาสตร์ อาจจะตั้งข้อสงสัยว่า ดาวเลือกตั้งเกี่ยวข้องอะไรกับการเลือกตั้งจริง และถ้าจัดเลือกตั้งในปีที่ไม่มีดาวเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้น" เรื่องนี้มีตัวอย่างที่ชัดเจน คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ปรากฏว่าในช่วงวันเวลาดังกล่าว ดวงเมืองไม่มีดาวเลือกตั้ง แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ ชินวัตร ยังดันทุรังจัดเลือกตั้ง สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่า ในครั้งนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 วันเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุ และข้อถกเถียงระหว่างผู้สนับสนุนกับผู้ต่อต้านรัฐบาลว่า ต้องจัดการเลือกตั้ง หรือควรจะเลื่อนออกไปก่อน ในการจัดวันเลือกตั้งครั้งนี้ มีคำทำนายของ "พระสุทธิธรรม สุทธิญาโณ หรือ พระอาจารย์ต้อม" ศิษย์พระมหาประดิษฐ์ ถิรธัมโม อดีตโหราจารย์ใหญ่ประจำวัดสุทัศนฯ กทม. วันอาทิตย์ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ดวงเมืองไม่มีดาวเลือกตั้ง! เพราะดาวพุธสถิตอยู่ในราศีกุม ภ์มีดาวเนปจูนสถิตร่วมราศีกับดาวจันทร์ในราศีกุมภ์สนิทองศา ซึ่งพยากรณ์ได้ว่า ดาวพุธ เป็น ดาวที่ให้โทษ หากเลือกตั้งจะเกิดจลาจลย่อมๆ เปรียบเสมือนการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ.2549 ซึ่งมีมุมดาวเดียวกัน พระอาจารย์ต้อม อธิบายให้ฟังว่า ดาวพุธเพียงดวงเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามโบราณกาล ดาวพุธ เป็นดวงที่โคจรไม่เป็นปกติ คนโบราณจึงเรียกว่า พุธรวนเร พุธแปรปรวน ในทางโหราศาสตร์ ดาวพุธเป็นดาวแห่งความแปรปรวน ไม่แน่นอน และจะโคจรผิดปกติอยู่เสมอ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวเดินช้า หรือกลับเดินถอยหลัง ด้วยสาเหตุดังกล่าวคนโบราณจึงถือว่าดาวพุธเป็นดาวที่หาความแน่นอนและความมั่นคงไม่ได้ และในวันนี้ตามความเชื่อของคนโบราณจะไม่จัดงานมงคล โดยเฉพาะการแต่งงาน หรือทำสัญญาค้าขายใดๆ อย่างเด็ดขาด พระเสาร์ทับพระอาทิตย์ ไม่เพียงเท่านี้ นอกจากการเปลี่ยนแปลงของดวงเมืองที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของดาวมฤตยูแล้ว ยังมีปรากฏการณ์ทางโหราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อีกเช่นกัน คือ พระเสาร์จรทับลัคนา หรือพระเสาร์ทับพระอาทิตย์ โดยมีคำทำนายว่าดวงจะเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในทางชีวิตของชะตาบุคคล เพียงแต่จะแตกต่างด้วยเรื่องอะไรขึ้นอยู่กับดวงชะตาเดิม พระอาจารย์ต้อม ให้ข้อมูลว่าวันที่ 11 สิงหาคม 2559 เวลา 23.00 น. ดาวพระพฤหัสบดี ที่สถิตราศีสิงห์จะย้ายราศีไปสู่ราศีกันย์ ซึ่งปกติดาวพระพฤหัสบดีจะโคจรปัจจุบันในราศีสิงห์นี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่า เป็นจุดเสื่อมของดวงดาว เนื่องจาก โคจรมาจาก ภพวินาศของดวงเมือง แม้จะทำมุมดีกับดวงเมือง คือ ตรีโกณ หรือ ทำมุม 120 องศากับดวงเมืองก็ตาม แต่ด้วยความมาจาก ภพ อริ มรณะ วินาศ ถือว่า ให้คุณไม่เต็มที่ หรือให้โทษร้ายกับดวงเมือง ในความหมายของนักโหราศาสตร์ ดาวพฤหัสบดี หมายถึง โชคลาภ ความสำเร็จ ความสุข บุญกุศล เงินทอง ความยุติธรรม ความกรุณา ความดี ครู พระ เป็นต้น หากเมื่อใดที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในมุมเสื่อม หรืออับแสงแล้วจะเกิดเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับความหมาย เช่น ศาสนาเสื่อม ครูเสื่อม ความยุติธรรมเสื่อม โชคลาภเงินทองความสุขเสื่อมตามไปด้วย เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2559เวลา 23.00 น. ประชาชนจะพบกับความเสื่อม เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นต้องทำใจเข้าใจและตั้งรับกับปัญหาอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ ในวันที่ 4 มิถุนายน 2559 ในดวงเมืองนั้นอาจจรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากในวันนี้มี ดวงดาว พลังงานหลายดวงมารวมตัวส่งพลังถึงดาวบาปเคราะห์ โดยมีพระอาทิตย์ พระจันทร์ สถิตราศีร่วมกัน ส่งกระแสสัมพันธ์ ไปถึงพระราหู พระเสาร์และพระอังคาร ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ จะพยากรณ์ได้ดังนี้คือ พระเสาร์ทับพระอาทิตย์ และเนื่องจากดาวพฤหัสบดียังไม่พ้นจุดเสื่อมจึงหมายความได้อีกว่า จะสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการพุทธศาสนาได้อีกประการหนึ่ง ข้อนี้น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง พระอาจารย์ต้อมทำนายทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนา เจ้าคุณประสิทธิ์ฯกำลังรอเป็นสมเด็จฯ พระพรหมวชิรญาณ (นามเดิม ประสิทธิ์ สุทธิพันธ์) เกิดวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 ปัจจุบันอายุ 78 ปี กรรมการมหาเถรสมาคม, ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ฝ่ายศาสนศึกษา) ป.ธ.๓, น.ธ.เอก, พธ.ด.(กิตติมศักดิ์)จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร, คบ.ด.(กิตติมศักดิ์) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี(ประเทศไทย), ปบ.ด.(กิตติมศักดิ์)มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร, ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์ (Doctor of Philosophy in Social Science) มหาวิทยาลัย New Port University U.S.A., ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (บริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร 5 ธันวาคม พ.ศ. 2512 - ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฐานานุศักดิ์ ในราชทินนามที่ พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ ฐานานุกรมในพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ธีร์ ปุณณโก) 5 ธันวาคม พ.ศ. 2515 - ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฐานานุศักดิ์ ในราชทินนามที่ พระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) 5 ธันวาคม พ.ศ. 2516 - ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุธีรัตนาภรณ์ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2527 - ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชรัตนาภรณ์ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 - ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพประสิทธิมนต์ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2543 - ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมวชิรญาณ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2544 - มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ มีราชทินนามตามจารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิรญาณ ไพศาลศาสนกิจสิทธิปริณายก ธรรมวิเทศดิลกสุทธิกวีปาพจนโสภณ วิมลสีลาจารวินิฐ ราชวิสิฐวชิราลงกรณ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ในปัจจุบันสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ 8 รูปที่มีโอกาสได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชมีความอาวุโสสูงสุดตามลำดับดังนี้ ลำดับที่ 1 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ปัจจุบันอายุ 90 ปี ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ปี 2538 วัดปากน้ำ (มหานิกาย) ลำดับที่ 2 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี 2544 ปัจจุบันอายุ 98 ปี วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร (ธรรมยุต) ลำดับที่ 3 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี 2552 ปัจจุบันอายุ 88 ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (ธรรมยุต) ลำดับที่ 4 สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ธรรมยุตได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2552 ปัจจุบันอายุ 79 ปี วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร (ธรรมยุต) ลำดับที่ 5 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี ) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี 2553 ปัจจุบันอายุ 85 ปี วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร (มหานิกาย) ลำดับที่ 6 สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี 2553 ปัจจุบันอายุ 68ปี วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร (ธรรมยุต) ลำดับที่ 7 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี 2554 ปัจจุบันอายุ 74 ปี วัดพิชยญาติการามวรวิหาร (มหานิกาย) ลำดับที่ 8 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปัจจุบันอายุ 73 ปีวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (มหานิกาย) ในกรณีที่มีการสถาปนาสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชก็จะทำให้มหานิกายว่างตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฎลง 1 ตำแหน่ง พระพรหมวชิราญาณก็จะได้รับการแต่งตั้งอย่างแน่นอน ทั้งนี้พระพรหมวชิรญาณได้รับการสถาปนาเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะปีเดียวกับพระพรหมเวที (สนิท ชวนปญฺโญ) แต่ได้รับการสถาปนาทีหลัง จึงมีอาวุโสเป็นอันดับสองรองจากพระพรหมเวที เมื่อพระพรหมเวทีขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แล้ว คราวนี้ก็จะมาถึงคิวของพระพรหมวชิรญาณ ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบอกไว้แล้วว่าหากปัญหาต่างๆยังไม่เคลียร์กับสมเด็จช่วงฯเช่นเรื่องรถเบนซ์และอาจรวมไปถึงเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์คลองจั่นที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไปมีส่วนรับเช็คและกำลังถูกสอบสวนดำเนินคดีจากกรมสอบสวนพิเศษอยู่นั้นสมเด็จช่วงฯ อาจจะยังแป๊กและแน่นอนย่อมส่งผลกระทบมายังพระพรหมวชิรญาณเช่นกัน ที่มา thaitribune
Create Date : 28 มีนาคม 2559 | | |
Last Update : 28 มีนาคม 2559 11:15:09 น. |
Counter : 1022 Pageviews. |
| |
|
|
|