จวนตัวก็ร้องว่า...'อาตมาไม่รู้นี่' โดย เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน เขียนไว้ในนส.ไทยโพสต์ฉบับวันที่ 31 มีนาคม 2559 เมื่อรถเบนซ์เป็นรถเถื่อนจวนตัวก็บอกว่ามีคนถวายก็รับไว้ กรณียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ครั้นจนมุมก็บอกเมื่อมีคนบริจาคก็รับไว้ เปลวเชื่อว่าหมายเรียกธัมมชโยไปพบ DSI วันที่ 8 เมษายนนี้ธัมมชโยไม่ไปพบเพราะมีเวลา ชิตัง เม...คุก, ชิตัง เม...คุก อีก 2 นัด ก่อนจะถึง“หมายจับ”การรับเช็คที่เป็นตัวแทนของเงินทำให้ธัมมชโยอาบัติปาราชิกพ้นจากความเป็นภิกขุแล้ว ดังนั้น “รายการนี้ท่านรัฐมนตรีไพบูลย์และดีเอสไอจัดเต็มไปเลยครับ! ดังนี้......

"อาจารย์ฉันใด ศิษย์ก็ฉันนั้น" จริงๆ!

กรณีเบนซ์เถื่อน เมื่อจวนตัว-จนแต้ม อาจารย์ก็ปฏิเสธว่า...ไม่รู้ว่าเถื่อน เขาเอามาถวายก็รับไว้

กรณีเงินยักยอก "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" ก็เหมือนกัน

เช็คหลักฐานเช็คยัน ฝ่ายศิษย์ก็ปฏิเสธว่า ไม่รู้ว่ายักยอกมา...เขาบริจาคก็รับไว้!

ช่างสมกันแท้!

เห็น "หมายเรียกผู้ต้องหา" ของ DSI ลงวันที่ ๒๙ มี.ค.๕๙ ที่มีไปถึง "ผู้ต้องหา" นามว่า พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) กันแล้วใช่มั้ย?

ในหมายระบุ...ด้วยเหตุที่ท่านต้องหาว่า

"กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร"

ดูให้ดีนะ เป็นความผิด ๓ ฐาน คือฐานสมคบฟอก, ฐานร่วมกันฟอก และฐานร่วมกันรับของโจร

คือ DSI ตรวจสอบเส้นทางการเงินจากเช็ค ๘๗๘ ฉบับ ที่ "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" สั่งจ่าย เป็นเช็คระบุว่า

“บริจาค” ไปยังวัดพระธรรมกาย พระลูกวัด พันกว่าล้าน เข้าบัญชีธัมมชโย ๘๐๐ กว่าล้าน รวมแล้วประมาณ ๒,๐๐๐ ล้าน

แบบนี้ ธัมมชโยจะแก้ตัวอย่างไร ๘ เม.ย.ก็ไปแก้กับ "พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล" ที่ดีเอสไอ

เรื่องเงิน เป็นเช็ค เหมือน "ลายแทง" แจ้งถึง ที่มา-ที่ไป-ที่ให้-ที่รับ ดิ้นได้... แต่ดิ้นแบบ "ดิ้นกระแด่วๆ"

ฉะนั้น พนันมื้อเพลกันคนละมื้อ วันที่ ๘ เมษา ธัมมชโยจะยังไม่ไปตามนัด

ถ้าไป ก็ต้องถูกคุมตัว ถึงจะประกันได้ ก็เหงื่อแตกล้น "ชาร์ม" ที่อุตส่าห์ไปสลักเสลากระบาลให้เหมือนพระพุทธรูป

มีเวลา ชิตัง เม...คุก, ชิตัง เม...คุก อีก ๒ นัด ถ้านัดที่ ๓ ไม่ไปพบพนักงานสอบสวน ตานี้แหละ

"หมายเรียก" เปลี่ยนเป็น "หมายจับ" ทันที!

นอกจากธัมมชโย ยังมีอีกคน ที่ถูกหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหาด้วย คือ "น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์"

รายนี้ มีชื่อปรากฏสลักหลังเช็คกว่า ๑๐๐ ล้าน ที่โอนให้ธัมมชโย เลยถูกข้อหา "ช่วยปกปิดซ่อนเร้นอำพราง"

คดีนี้ สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น "นายธรรมนูญ อัตโชติ" เป็นเจ้าภาพ แจ้งความ DSI ไว้

เหตุที่ผมต้องจาระไนซ้ำๆ ซากๆ ก็เพราะ เมื่อวาน (๓๐ มี.ค.) ทางวัดพระธรรมกายเขามีหนังสือชี้แจงต่อสาธารณะ

ถ้าผมไม่เท้าความ บางท่านอ่านคำชี้แจงแล้วอาจ "มาไม่ได้-ไปไม่เป็น"

หนังสือชี้แจงหรือแก้ตัวแทนธัมมชโยมีความว่า.........

"กรณีปรากฏข่าวในสื่อมวลชนบางฉบับ ในวันที่ ๒๙-๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ ที่มีหมายเรียกโดยระบุชื่อ พระเทพญาณมหามุนี โดยมีผู้กล่าวหา คือนายธรรมนูญ อัตโชติ สมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นนั้น

ทางวัดพระธรรมกาย ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของพระเทพญาณมหามุนี และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอชี้แจงว่า

๑.หลวงพ่อธัมมชโย รับบริจาคเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป ไม่ทราบถึงที่มาของเงินบริจาค

๒.ปัจจัยที่ได้มานำไปสร้างศาสนสถานตามประกาศไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การบริจาคโดยมีวัตถุประสงค์และการรับบริจาคเป็นนิติกรรมสัญญา ซึ่งมีมูลหนี้ที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย

๓.ที่ผ่านมา เพื่อให้ยุติข้อกล่าวหาที่ใส่ร้ายบิดเบือนต่อวัด หลวงพ่อธัมมชโย และพระพุทธศาสนา ทางกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย จึงได้รวมตัวกันลงขันระดมเงิน 'กองทุนเยียวยาช่วยเหลือ' ให้สหกรณ์ ต้องคืนเงินเยียวยากลับให้กลุ่มลูกศิษย์

โดยทางสหกรณ์ได้ทำจดหมายขอบคุณ และมีความเข้าใจอันดีของทุกฝ่าย จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงมีหมายเรียกออกมาในลักษณะนี้

ซึ่งทางวัดจักได้ทำการตรวจสอบข้อแท้จริง และจะแจ้งความคืบหน้าในโอกาสต่อไป"

เนี่ย...ผมก็อยากบอกว่า..........

บริสุทธิ์-ไม่บริสุทธ์ "เป็นเรื่องเฉพาะตัว" ใครทำแทนไม่ได้ ไปพบพนักงานสอบสวน แล้ว "พนักงานสอบสวน-อัยการ-ศาล"

จะบอกเองว่า ธัมมชโย บริสุทธิ์ หรือ ไม่บริสุทธิ์?

อ้าง รับบริจาคเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป ไม่ทราบถึงที่มาของเงินบริจาค

หมายความว่า ใครเอาอะไรมาถวาย พระก็หลับหู-หลับตารับตะพึด-ตะพือ อย่างนั้นหรือ?

แล้วที่ว่า "รับบริจาคเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป" นั้น สงฆ์ที่ไหนล่ะ ญาติโยมบริจาคทีละตั้งเป็นพันๆ ล้านโดยไม่มีเหตุผลที่รับฟังได้?

อ้าง...เอาไปสร้างศาสนสถานหมดแล้ว.........

การสร้างบังหน้า นั่นเรื่องหนึ่ง การร่วมกันฟอกเงิน รับของโจร นั่นอีกเรื่องหนึ่ง

เรื่องบุญ กับ บาป, นรก กับ สวรรค์ เอามาหักลบกลบกันไม่ได้หรอก ถ้าอ้างบริจาค แล้วไปลงขันคืนเขาทำไมตั้ง ๖๐๐ กว่าล้าน?

มีที่ไหน คนบริจาคแล้วต้องลงขันคืน การคืนก็ต้องเหตุผลเดียว คือยอมรับว่า สมรู้-ร่วมคิด จับได้ จำคืน

การลงขันคืน นั่นไม่ใช่การปลดเปลื้องความผิด

ตรงกันข้าม เท่ากับ "ยอมรับความจริง"....ที่รับมาจากนายศุภชัยนั้น คือเงินโจร มีเจตนาร่วมกันฟอก!

ที่อ้าง คืนแล้ว คดีจบไปแล้ว จะมาอะไรกันอีกนั้น คงนึกว่าจะเหมือนคดียักยอกเงิน-ที่ดินวัดแล้วขยอกคืน เมื่อปี ๔๒ กระมัง?

มันคนละฐานความผิดกัน และอีกอย่าง ที่พ้นคดี เพราะอัยการถูกนักการเมืองยุคทักษิณบีบ ไปขอถอนคดีจากศาลก่อนตัดสินหรอก

ไม่งั้น ธัมมชโยหัวโตไปแล้ว!

แต่กรณีนี้ เป็นข้อหา "ฟอกเงิน-รับของโจร" โทษหนัก ยอมความกันไม่ได้

อีกอย่าง ธัมมชโย ยังทึกทักตนเป็นพระ ก็ต้องทราบ โทษทางโลก กับโทษทางพระวินัย ไม่เหมือนกัน

ทางโลก การยักยอก มีความผิด แต่ยอมความได้ เพราะโทษไม่เกิน ๓ ปี

แต่ทางพระวินัย ไม่มีการยอมความ.......

อาบัติทันทีที่ "จิตคิดถือเอา" จะคืน-ไม่คืน ต้องอาบัติสถานเดียว!

แค่ ๕ มาสก ก็ปาราชิก พ้นจากความเป็นพระแล้ว แต่นี่...เงินเป็นร้อยล้าน-พันล้าน ปาราชิกไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้?

อยู่ได้เพราะ "วัดน้อง" ถวาย "วัดพี่" หนักนั่นแหละ!

ทำชี้แจงดีไปเถอะ จะกลายเป็นหลักฐานให้ "พุทธอิสระ" นำไปยันถึงความเป็นพระของธัมมชโย "สิ้นแล้ว" อีกชิ้นจนได้

ตรงที่บอก "คืนเงินสหกรณ์ฯ" นั่นเท่ากับสารภาพ ธัมมชโยยักยอก-ฟอกทรัพย์-รับของโจร....."จริง"

ก็เสร็จน่ะซี!

ที่อ้างแบบถูไถว่า "ธัมมชโยไม่ทราบที่มาของเงินบริจาค เขาถวายก็รับไว้" นั้น

งั้น...ดีล่ะ ผมจะนำ "หลักเกณฑ์การประเคนของแด่ "พระภิกษุ-วัดพระธรรมกาย" ที่วัดพระธรรมกายเผยแพร่ไว้มาย้อนถาม

วัดพระธรรมกาย ประกาศกฎว่า.........

สิ่งของที่ไม่สมควรประเคนถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ คือ เงิน และวัตถุที่ใช้แทนเงิน เช่น ธนบัตร ไม่สมควรประเคนพระภิกษุสงฆ์โดยตรง ...ฯลฯ...

เช็คเงินสด เป็นวัตถุใช้แทนเงินใช่มั้ย ธัมมชโยและพระวัดธรรมกายรับได้อย่างไร?

ยังมีอีกข้อ ที่วัดพระธรรมกายประกาศเป็นกฎ........

"วัตถุอนามาส" สิ่งของที่พระพุทธองค์ ทรงห้ามพระภิกษุสงฆ์จับต้องเรียกว่า วัตถุอนามาส

มี ๖ ชนิด ห้ามนำมาประเคนถวายพระภิกษุสงฆ์ หนึ่งในนั้น เช่น รัตนะ ๑๐ ประการ

คือ ทอง เงิน แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วประพาฬ ทับทิม บุษราคัม สังข์เลี่ยมทอง ศิลา เช่นหยก และโมรา ฯลฯ

รวมทั้งเครื่องดนตรี

แต่วัดธรรมกาย-ธัมมชโย เป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับด้วยรัตนะเหล่านั้นขายโจ๋งครึ่ม

และเครื่องดนตรี ใครหว่า...แต่งเหลืองกรุยกรายเหมือนหญิง ดีดพิณ?

เนี่ย...ตัวอย่างยืนยันชัดๆ ที่อ้างว่า "ไม่รู้ เขาบริจาคก็รับไว้" กับที่ทำเพชร-ทำทอง ทำเครื่องประดับอัญมณีขายเอง มันฟ้องด้วยตัวมันเองโต้งๆ

ขืนอ้าง..ไม่รู้นี่ เขาถวาย อาตมาก็รับ งั้นญาติโยมเอายาบ้ามาบริจาคซักกระสอบ เอาเอ็ม ๑๖ ใส่บาตรซักกระบอก

เขาถวาย ก็รับส่งเดชไปงั้นหรือ?

รายการนี้ ท่านรัฐมนตรีไพบูลย์ และดีเอสไอ

"จัดเต็ม" ไปเลยครับ!

ที่มา thaitribune



Create Date : 31 มีนาคม 2559
Last Update : 31 มีนาคม 2559 14:02:07 น. 0 comments
Counter : 227 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.