สังหารหมู่ 50 ศพที่บาร์เกย์ออร์แลนโด้ รัฐฟลอริด้า-เป็นกรรมของสหรัฐอเมริกาด้านนโยบาย



เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 12 มิถุนายน 2016 นายโอมาร์ มาทีน (Omar Mateen)วัย 29 ปีพร้อมปืนพกและปืนยาวอัตโนมัติ AR-15 บุกเข้าไปยังบาร์เกย์และเลสเบี้ยนชื่อ “เดอะ พลัส” (the Pulse) เมืองออร์แลนโด้ รัฐฟลอริด้า สหรัฐ อเมริกา จากนั้นก็เปิดฉากยิงไม่ยั้งเหมือนทหารนาวิกโยธินยิงจากซ้ายไปขวา (จากปากของ Jon Alamo พยานในที่เกิดเหตุ)

ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 39 คนและที่โรงพยาบาลอีก 11 คน รวมเป็น 50 คน บาดเจ็บสาหัส 53 คน นักเที่ยวที่อยู่ในบาร์ขณะนั้นประมาณ 300 คน  นายมาทีนเสียชีวิตด้วยการยิงต่อสู้กับตำรวจเขาตายในที่เกิดเหตุ

เมื่อศึกษารายละเอียดต่างๆจากปากของพยานแวดล้อมจะพบรายละเอียดดังนี้ นายโอมาร์ มาทีน เกิดที่นิวยอร์กในครอบครัวผู้อพยพชาวแอฟกานิสถาน จากนั้นครอบครัวย้ายมาอยู่ที่เมือง ฟอร์ธ เพียซ (Fort Pierce) รัฐฟลอริด้าอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 195 กิโลเมตร เรียนจบ Martin County High School ที่เมืองสจ๊วต ระหว่างเรียนเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน (American Football) ในปี 2004 เขาเรียนจบไฮสคูลและทำงานที่ร้านขายวิตามิน GNC ใน Treasure Coast Square

เมื่อเดือนกันยายนปี 2007 เขาได้งานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท G4S ซึ่งเป็นของชาวอังกฤษเพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยตึกรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริด้า  ต่อมาปี 2011 เขาเป็นรปภ.ประเภทพกปืน (an armed security officer) หลังจากที่เขามีความเห็นเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายทำให้ FBI สอบปากคำถึง 2 ครั้งในปี 2013 และ 2014 กล่าวคือเอฟบีไอสงสัยว่าเขาได้ติดต่อกับ โมเนอร์ โมฮัมหมัด อาบู-ซัลฮา (Moner Mohammad Abu-Salha)พลเมืองอเมริกันผู้เข้าไปร่วมทำสงครามจิฮาดในซีเรียและทำระเบิดพลีชีพในปี 2014 หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบอะไรพบเพียงเล็กน้อย

ในปี 2015 มีคนอเมริกัน 71 คนถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายนับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 หรือวันที่ 11 กันยายน 2001  กระทรวงมาตุภูมิของสหรัฐระบุว่าคนอเมริกันประมาณ 250 คนพยายามที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียและอิรัก เจ้าหน้าที่เรียกกลุ่มบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นคนหัวรุนแรงของสหรัฐ (homegrown extremism)

ซิโตรา ยูซูฟยี (Sitora Yusufiy) อดีตภรรยาของเขาปัจจุบันอาศัยอยู่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด้ให้ความเห็นว่า อดีตสามีของเธอเป็นคนอารมณ์ 2 ขั้ว( bipolar)และสุขภาพจิตไม่คงเส้นคงวา (mentally unstable) พร้อมกับเชื่อว่าเขาเป็นคนเคร่งศาสนาแต่ไม่ใช่คนหัวรุนแรง  เขาต้องการเป็นตำรวจเพราะเคยยื่นใบสมัคร  รายละเอียดเรื่องนี้ไม่มีเพิ่มเติม ทั้งสองอยู่ด้วยกัน 4 เดือน จากนั้นไม่ได้พบกันอีกเลยถึง 7-8 ปี

ปัญหานี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองอย่างไร ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มองว่าเป็นการกระทำแบบ“ก่อการร้าย” และทำแบบ“รังเกียจเดียดฉันท์” โดยชี้ไปที่กลุ่มเกย์และเลสเบี้ยน พร้อมกับให้คนอเมริกันตัดสินใจว่าต้องการให้ประเทศของเราเป็นแบบนี้หรือ โดยมุ่งเป้าหมายไปที่การควบคุมอาวุธปืน  ขณะที่นายดอนัลด์ ทรัมพ์ ฉวยโอกาสว่าเป็นเรื่องก่อการร้ายของชาวมุสลิมเหมือนที่เขาเคยพูดไว้ไม่มีผิด ส่วนเจ้าหน้าที่กล่าวว่านายมาทีนไม่ได้ติดต่อสัมพันธ์กับกลุ่มไอซิส

กรณีนี้เราในฐานะพุทธศาสนิกชนเห็นว่า“เป็นกรรม”ของนโยบายสหรัฐที่ไปก่อกรรมทำเข็ญประเทศอื่นโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง  สหรัฐโค่นรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซ็นแห่งอิรักพร้อมนำนโยบายประชาธิปไตยแบบสหรัฐเข้าสู่อิรัก ผลก็คือขาวอิรักอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพรและทะเลทรายไม่ได้มีสังคมแบบสังคมอเมริกัน จึงเกิดปัญหาการสู้รบตามมา กรุงแบกแดดถูกวางระเบิดลีชีพอยู่ตลอด,โค่นรัฐบาลมูอัมมาร์ กัดดาฟี แห่งลิเบียจนประเทศนี้ไม่สงบแบ่งเป็นฝักฝ่ายและผู้คนอพยพหนีสงคราม

สหรัฐประกาศโค่นรัฐบาลนายอัล อัสซาด แห่งซีเรียจนเกิดสงครามกลางเมือง  ผลกระทบที่ตามมาก็คือคนอพยพจำนวนมากหลั่งใหลเข้ายุโรป ซึ่งยุโรปก็ร่วมมือสหรัฐในการบุกโจมตีกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย แต่ดีที่ซีเรียทำหนังสือเชิญรัสเซียเข้าไปจัดการกับกลุ่มไอซิส ทำให้รัสเซียก้าวเข้าซีเรียอย่างสง่างาม เหตุผลก็คือมีคนรัสเซียประมาณ 2,000 คนไปร่วมรบกับกลุ่มไอซิสในซีเรีย อีกทั้งหวั่นเกรงว่าคนเหล่านี้เมื่อกลับเข้ารัสเซียแล้วอาจไปก่อการร้ายในประเทศ จึงต้องปราบตั้งแต่ต้นลม

ดังนั้นเราเห็นว่าเป็นเรื่องของกรรมที่กำลังตามสนองสังคมอเมริกัน เพราะนโยบายอันผิดพลาดของรัฐบาลอเมริกันนับตั้งแต่สมัยนายจอร์จ ดับเบิ้ลยู.บุช เป็นต้นมา  งบประมาณด้านการศึกษาและสาธารณสุขของคนอเมริกันถูกตัดนำไปสมทบกับงบกลาโหมอ้างว่าเพื่อไปปราบกลุ่มก่อการร้าย ทำให้คุณภาพชีวิตของคนอเมริกันลดลงจนถึงปัจจุบัน  จึงไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันในอนาคตสังคมอเมริกันจะเกิดกรณีแบบนายโอมาร์ มาทีน เพราะคนนับถือศาสนาอิสลามแบบเขา มีอีกมากและคนพวกนี้เกิดและเติบโตในสังคมอเมริกัน เป็นพลเมืองอเมริกัน จากความเชื่อวิถีชีวิตแบบอเมริกัน ในช่วงหลังกลับมาเป็นปฎิปักษ์และลงมือทำร้ายสังคม และนี่หากนายดอนัลด์ ทรัมพ์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป (ไม่ได้เชียร์นางฮิลลารี คลินตัน)จึงไม่ทราบว่าสังคมอเมริกันจะแตกเป็นกี่เสี่ยง-ไม่เชื่อคอยดู

 ที่มา thaitribune



Create Date : 14 มิถุนายน 2559
Last Update : 14 มิถุนายน 2559 2:37:09 น. 0 comments
Counter : 357 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.