รัฐบาลและคสช.ต้องชี้แจงต่างชาติในคำสั่ง คสช.13/2559 คือผลงานที่ทำลงไป
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.ได้ออกคำสั่ง 13/2559 โดยมีเจตนาและสาระสำคัญ เพื่อให้ทหารร่วมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการจับกุม ปราบปรามมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลและผู้กระทำการอันเป็นภัยต่อสังคม อาทิ ค้ายาเสพติด ค้าสิ่งผิดกฎหมาย ดำรงตนเป็นผู้กว้างขวางมีอิทธิพล ฯลฯ กระบวนและขั้นตอนการติดตามจับกุมโดยปกติทำได้ล่าช้า มีความเสี่ยง และอาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ส่งผลให้กลุ่มผู้กระทำผิดจำนวนหนึ่งไม่เคยถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คำสั่งฉบับนี้ช่วยสนับสนุนให้สามารถจับกุมผู้ทำตัวเป็นภัยต่อสังคมได้รวดเร็วขึ้น ปกป้องดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ และนำผู้กระทำผิดขึ้นสู่การพิจารณาของศาล ดังนั้นต้องเข้าใจว่าหลังจับกุมแล้ว ผู้ถูกจับจะต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม สามารถตั้งทนายความขึ้นมาว่าความให้ได้ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่จับมาแล้วขังลืม ตัวอย่างเช่นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559 พ.ต.ท.เทศนิค จันสี สว.สส.แม่สาย จ.เชียงราย นำกำลังชุดสืบสวนร่วมกับทหารร้อย ม.2 ฉก.ม.3 เข้าสกัดจับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 3 กต 1003 กรุงเทพมหานคร ของนายธนัญกรณ์ พรรณพรหม อายุ 29 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่สาย พร้อมของกลางยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 60,000 เม็ดในรถ จึงนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวน พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังตามยึดทรัพย์บ้านอีก 14 หลัง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทมาตรวจสอบด้วย ซึ่งจะมีการแถลงผลความคืบหน้าคดีที่ชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 19 เมษายนนี้ คำสั่ง 13/2559 กลายเป็นที่วิตกของคนไทยกลุ่มหนึ่งที่หวั่นเกรงถูกควบคุมตัวเพราะมีการแสดงออกทางด้านเสรีภาพ สัญลักษณ์และหนักเข้าก็คือการท้าทายอำนาจของรัฐบาลและคสช. จากนั้นก็นำเรื่องที่ไม่จริงทั้งหมดไปบอกแก่ต่างชาติว่าถูกละเมิดสิทธิ์เป็นเหตุให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ,คณะเอกอัครราชทูตจากสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย,สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยได้แสดงความกังวลว่าคำสั่งดังกล่าวจะละเมิดสิทธิมนุษยชน คำว่าการละมิดสิทธิมนุษยชนก็นำไปใช้พร่ำเพรื่อตัวอย่างเช่นนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการโพสต์ในเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang เรื่อง บัตรประชาชนกับห้องดับจิต ด้วยการยกตัวอย่างว่ามีการเสนอให้ใช้มาตรการเพิกถอนบัตรประชาชนกับผู้ที่ไม่ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต(กยศ.) รวมทั้งข้อเสนอให้คนเมาแล้วขับเข้าไปทำงานในห้องดับจิต โดยออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งๆที่จริงคนที่เคยเป็นระดับรัฐมนตรีแล้วควรแนะทางออกที่สวยงามของการแก้ปัญหา รวมทั้งต้องสะท้อนให้เห็นว่าบุคคลทั้ง 2 ประเภททำผิดคำสัญญา ทำผิดกฎหมาย เมื่อทำผิดแล้วจะต้องได้รับโทษใช่ไหมทางออกที่ดีควรเป็นอย่างไรในการแก้ปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นบรรดาฆาตกรที่ถูกคุมขังอยู่ก็อาจบอกว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนได้เช่นกัน สิ่งที่รัฐบาลและคณะคสช.จะต้องทำคือการแถลงชี้แจงผลงานที่ได้ทำลงไปอาทิเช่นการจับกุมแหล่งเก็บไม้ผิดกฎหมายที่โรงงานแปรรูปไม้ เลขที่ 29/2 ม.2 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม โรงไม้ดังกล่าวเป็นของ นายก่อเกียรติ ตันติวิริยะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครปฐม,การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดที่เชียงรายรวมทั้งมีบ้านถึง 14 หลัง ฯลฯ จากนั้นส่งคำแถลงไปยังประเทศที่ให้ความสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามคำสั่งหัวหน้าคสช.เลขที่ 13/2559 พร้อมกับตั้งคำถามไปด้วยว่าการจับกุมบุคคลที่ทำผิดกฎหมายถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ มีแต่วิธีการชี้แจงเท่านั้นจะสามารถสยบนักเคลื่อนไหวที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางประเทศไทยรวมทั้งพรรคการเมืองที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่ศาลพิพากษาให้จำคุก 2 ปีนายทักษิณ ชินวัตร กลับหนีคดีไปตะดกนอยู่นอกประเทศ รวมทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังถูกดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว หากใช้สามัญสำนึกแล้ว คนไม่ได้ทำผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดีหรือถูกนำขึ้นฟ้องร้องได้อย่างไร ? ที่มา thaitribune
Create Date : 19 เมษายน 2559 |
Last Update : 19 เมษายน 2559 11:45:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 274 Pageviews. |
|
|