ผู้การฯเผยหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินยังเป็น 191 ไม่ใช่ 911 เตือนอย่าแชร์ต่ออาจผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์คุก 5
ผู้การฯ 191 ย้ำไม่เปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินแจ้งปอท.ให้ล่าคนปล่อยภาพบิดเบือน ขู่ฟันคนแชร์ระบุผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เผยเรื่องยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมสภาเพื่อพิจารณา เผยอาจใช้เลขเดิม 191 เพราะถ้าเปลี่ยนต้องใช้งบอีกจำนวนมากจัดทำระบบใหม่ หมายเลข 9-1-1 ใช้ในทวีปอเมริกาเหนือเท่านั้น อียูใช้ 1-1-2 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 พลตำรวจตรี ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินจาก 191 ไปเป็น 911 ตามที่มีการแชร์ข้อความภาพในโลกสังคมออนไลน์แต่อย่างใด เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ยังไม่มีการกำหนดว่าจะใช้หมายเลขโทรศัพท์ใดเป็นหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมในสภา และจากการประชุมรอบล่าสุดกับคณะกรรมการพิจารณาร่างฯที่เกี่ยวข้อง ก็มีแนวโน้มจะใช้หมายเลข 191 มากกว่า เนื่องจากหากใช้หมายเลขอื่นก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณอีกหลายร้อยล้านบาท เพื่อจัดทำระบบใหม่ และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอก ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผู้กำกับการศูนย์รวมข่าว 191 ไปร้องทุกข์กับ ปอท. เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ที่สร้างข้อความภาพและบิดเบือนข้อมูล มาดำเนินการตามกฎหมาย และฝากเตือนว่าไม่ควรแชร์ภาพหรือข้อความดังกล่าวอีก เพราะนอกจากจะสร้างความสับสนให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือแล้ว อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 9-1-1 หมายเลขโทรฉุกเฉินใช้ในอเมริกาเหนือ 1-1-2 ใช้ในอียู รายงานข่าวเปิดเผยว่าหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 9-1-1 ใช้ในทวีปอเมริกาเหนือมาจากคำว่าแผนการจัดหมายเลขอเมริกาเหนือ (North American Numbering Plan =NANP) เป็นการใช้ในกรณีฉุกเฉินหากใครโทร.เล่นหรือแกล้งแจ้งเหตุถือว่าผิดกฎหมายและจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา หมายเลขนี้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา การหมุนโทร. 9-1-1 จะตรงเข้าไปยังศูนย์รับเรื่องที่เรียกว่าจุดตอบคำถามเพื่อความปลอดภัยของสาธารณะ (Public-Safety Answering Point= PSAP) ผู้ตอบคำถามจะสามารถล่วงรู้ได้ว่าโทร.มาจากหมายเลขอะไรและสถานที่ของผู้โทร.อยู่บริเวณใด จากนั้นผู้รับสายจะสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรเช่นอุบัติเหตุรถยนต์,เกิดเพลิงไหม้,มีคนต้องการรถพยาบาล ทางศูนย์ฯก็จะแจ้งฝ่ายรับผิดชอบที่อยู่ใกล้ที่สุดตรงไปยังที่เกิดเหตุ สำหรับสหภาพยุโรป (European Union)ใช้หมายเลข 1-1-2 เป็นหมายเลขโทร.ฉุกเฉิน
ที่มา thaitribune
Create Date : 26 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2559 6:05:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 284 Pageviews. |
|
|