คสช.ใช้ ม.44 แก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ประเดิม มรภ.สุรินทร์-ชัยภูมิ สองสถาบันแรก
หัวหน้าคสช.ใช้ม.44 จัดระเบียบแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา แก้ปัญหาร้องเรียน-ฟ้องร้องทางคดีเผย มีผลบังคับใช้กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ โดนสองรายแรก วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สถาบันอุดมศึกษาบางแห่งเปิดการสอนและจัดการศึกษาทั้งใน และนอกสถานที่ตั้ง โดยใช้หลักสูตรที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ผลิตบัณฑิตที่มีปัญหาด้านคุณภาพ และไม่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งสภาสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สภาสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง อาศัยอํานาจและช่องว่างทางกฎหมาย ดําเนินการในลักษณะที่ส่อเจตนาแสวงหาประโยชน์ส่วนตน หรือเพื่อให้คงอยู่ในตําแหน่ง ต่อไป มีการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่ง เกิดปัญหาร้องเรียนและฟ้องร้องทางคดีเป็นจํานวนมาก ทําให้เป็นอุปสรรคต่อการดําเนินการตามอํานาจหน้าที่และการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา แม้สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้พยายามใช้กลไกทางกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้สถาบันอุดมศึกษาดังกล่าวแก้ไข ทบทวน หรือดําเนินการใหม่ในเรื่องต่างๆ แล้ว แต่ไม่อาจทําให้ปัญหาคลี่คลายได้โดยเร็ว การดําเนินการของสถาบันอุดมศึกษาเหล่านี้จึงไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล และส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของประเทศโดยตรง ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล และธํารงไว้ซึ่งความเป็นสถาบันทางวิชาการชั้นสูงของสถาบันอุดมศึกษา แต่ละแห่งจึงจําเป็นต้องแก้ไขสถานการณ์ความไม่ถูกต้อง และไม่ชอบธรรมของการดําเนินการ ของสถาบันอุดมศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้แก่สังคมโดยรวม ต่อไป อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในคําสั่งนี้ สถาบันอุดมศึกษา หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่อยู่ในสังกัด และในกํากับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ และให้หมายความรวมถึงสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมาย ว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนด้วย ข้อ 2 ในกรณีที่ปรากฏว่า การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา หรืออธิการบดี ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีอํานาจยับยั้งการแต่งตั้งหรือการดําเนนิการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ที่จะดํารงตําแหน่งดังกล่าว ข้อ 3 เพื่อให้การดําเนินการของสถาบันอุดมศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด การแต่งตั้งบุคคลให้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) ผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาจะดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาในเวลาเดียวกันเกิน 3 แห่งไม่ได้ (2) ผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาจํานวน 2 แห่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาอีกได้ไม่เกิน 1 แห่ง (3) ผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาจํานวน 1 แห่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาอีกไดไ้ม่เกิน 2 แห่ง (4) ผู้ดํารงตําแหน่งกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาจํานวน 4 แห่งแล้ว ไม่อาจได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาในเวลาเดียวกันนั้นได้อีก ผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐตามวรรคหนึ่ง ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด นอกเหนือจาก ในฐานะนายกสภาสถาบันอุมศึกษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น เว้นแต่เป็นไปตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกําหนดหรือให้ความเห็นชอบ ความในวรรคหนึ่งและวรรคสองไม่นํามาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกสภา สถาบันอุดมศกึษาหรือกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาอยู่ในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ข้อ 4 ให้คณะกรรมการการอุดมศึกษารายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปรากฏว่าสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษาแห่งใดมีกรณี ดังต่อไปนี้ (1) จัดการศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาหรือมาตรฐานหลักสูตร จนอาจก่อให้เกิด ความเสียหายแก่นิสิตนักศึกษา ระบบการศึกษา สังคม หรือประเทศชาติ (2) จงใจ หลีกเลี่ยง หรือประวิงการปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบข้อบังคับของสถาบันอุดมศึกษา หรือคําสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่สั่งการตามคําสั่งนี้หรือตามกฎหมาย (3) นายกสภาสถาบันอุดมศึกษากรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา มีพฤติการณส์่อไปในทางทุจริต (4) ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในสถาบันอุดมศึกษาจนสภาสถาบันอุดมศึกษา หรือสถาบันอุดมศึกษาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการการอุดมศึกษาอาจแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทํางาน หรือมอบหมายบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคน ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ข้อ 5 เมื่อมีกรณีตามข้อ 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของ คณะกรรมการการอุดมศึกษามีอํานาจสั่งการให้สภาสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น ยับยั้งการรับนิสิตนักศึกษาปิดหลักสูตร ยุติการจัดการศึกษา หรือดําเนินการอื่นใด ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีอํานาจขอข้อมูลจากบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือสั่งให้ดําเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการได้มาซึ่งผู้ดํารงตําแหน่งต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษาภายในระยะเวลาที่กําหนดหรือให้ดําเนินการใด ๆ เพื่อระงับ ยับยั้ง หรือยุติ เหตุที่เกิดขึ้นนั้น ข้อ 6 เมื่อมีกรณีตามข้อ 4 และปรากฏว่าสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น เป็นสภาสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษาที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการอุดมศึกษามีอํานาจสั่งให้ สถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นอยู่ในความควบคุมของสํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาตามมาตรา 86 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ข้อ 7 ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันอุดมศึกษาดําเนินการทางอาญา ทางละเมิด หรือทางวินัยแก่ผู้ซึ่งได้กระทําการให้เกิดเหตุตามข้อ 4 ด้วย ข้อ 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กําหนดมาตรการให้สถาบันอุดมศึกษาแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่นิสิตนักศึกษา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการดําเนินการตามข้อ 5 หรือข้อ 6 หรืออาจสั่งหรือมอบหมายให้สถาบันอุดมศึกษาอื่น ร่วมดําเนินการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายของนิสิตนักศึกษาเหล่านั้นด้วยก็ได้ ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง สภาสถาบันอุดมศึกษาผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา หรือบุคลากร ของสถาบันอุดมศึกษาที่ถูกดําเนินการตามข้อ 5 หรือข้อ 6 ไม่พ้นจากความรับผิดในความเสียหาย ที่เกิดขึ้นแก่นิสิตนักศึกษา ข้อ 9 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการอุดมศึกษา มีอํานาจสั่งให้ผู้ดํารงตําแหน่งใดในสถาบันอุดมศึกษาหยุดการปฏิบัติหน้าที่ พ้นจากตําแหน่งหน้าที่ หรือให้ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานแห่งอื่น และแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคน เข้าปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษาน้ัน ในกรณีที่นายกสภาสถาบันอุดมศึกษาและกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแห่งใดต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ทั้งคณะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภาสถาบันอุดมศึกษาและกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นจํานวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน ผู้ซึ่งถูกสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม สิทธิประโยชน์ หรือเงินประจําตําแหน่งในตําแหน่งนั้นผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ในสถาบันอุดมศึกษาตามคําสั่งนี้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน เบี้ยประชุม สิทธิประโยชน์ หรือเงินประจําตําแหน่งตามระเบียบของทางราชการ หรือตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษากําหนด แล้วแต่กรณี ข้อ 10 ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ตามคําสั่งนี้ ที่ได้กระทําการไปตาม อํานาจหน้าที่โดยสุจริตไม่เลือกปฏิบัติและไม่เกินสมควรแก่เหตุ ย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้อง รับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย จากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ข้อ 11 การแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่นิสิตนักศึกษาตามข้อ 8 รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดําเนินการตามคําสั่งนี้ ให้เบิกจ่ายจากสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นต้นเหตุ แห่งการนั้น ข้อ 12 เมื่อคําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้ดําเนินการตามคําสั่งนี้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิโดยทันที การนําข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 11 มาใช้บังคับแก่ สถาบันอุดมศึกษาอื่นนอกจากสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ซึ่งกระทําผิดกฎหมายหรือมีกรณีตามข้อ 4 และการแก้ไขเยียวยาโดยมาตรการปกติไม่อาจทําได้หรือล่าช้าจนเกิดความเสียหายต่อระบบการศึกษาหรือนิสิตนักศึกษาจํานวนมากให้เป็นไปตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติประกาศกําหนด ข้อ 13 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ให้เป็นไปตามคําวินิจฉัยของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข้อ 14 สถาบันอุดมศึกษาใดมิได้อยู่ในสังกัดหรือในกํากับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีซึ่งกํากับดูแลหรือรักษาการตามพระราชบัญญัติจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษานั้น มีอํานาจหน้าที่ดําเนินการหรือสั่งให้สถาบันอุดมศึกษานั้นปฏิบัติตามคําสั่งนี้โดยอนุโลม โดยจะขอคําแนะนํา จากคณะกรรมการการอุดมศึกษาด้วยหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคําสั่งนี้ให้เป็นไปตามคําวินิจฉัยของรัฐมนตรี ตามวรรคหนึ่ง ข้อ 15 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ที่มา thaitribune
Create Date : 15 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2559 7:10:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 268 Pageviews. |
|
|