เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะทหาร-ตำรวจนำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ายึดอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน จากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วบอกกับประชาชนว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชนทั้งหลายโดยเร็ว

แล้วคณะของท่านก็เริ่มคืนความสุข แรกๆก็ส่งทหารมาขับกล่อมร้องเพลง พร้อมๆไปกับการปราบปรามอาวุธสงครามจับกุมคนส่วนหนึ่งที่สนับสนุนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์แล้วลอบฆ่าลอบสังหารประชาชนที่คัดค้านรัฐบาล

เออ ก็ยอมรับละครับว่าเป็นความสุขส่วนหนึ่ง เป็นภาระหน้าที่ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะต้องทำนอกเหนือจากการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นำประเทศชาติไปสู่ประชาธิปไตย สู่ความสงบสู่ความมั่นคงต่อไป

รัฐบาล(ทหาร) คงจะคิดหนักว่า ความสุขที่ประชาชนต้องการคืออะไร จึงได้พยายามสรรหาทุกอย่างเท่าที่จะสรรหามาได้โดยเข้าใจว่า เป็นความสุขที่ประชาชนต้องการ เป็นต้นว่ารถไฟความเร็วสูง แจกเงินให้ไปชอปปิ้งกระตุ้นเศรษฐกิจ ฯลฯ

มันก็อาจจะเป็นความสุขได้บ้าง แต่จริงๆแล้วไม่มีใครเรียกร้อง ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้

ที่ประชาชนเรียกร้องต้องการ หรือที่ประชาชนเดือดร้อน ท่านกลับไม่ฟัง หรืออาจจะฟังแต่ท่านอาจจะไม่ได้ยิน

เพราะเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องธรรมดาที่เสียงคนยากคนจน เสียงของประชาชนที่เสียเปรียบในสังคมนั้นแผ่วเบาเสมอ ไม่เหมือนเสียงคนร่ำรวยมั่งมีเงินทอง

ประชาชนเรียกร้องต้องการอะไร ?

ประชาชนต้องการการปฏิรูปประเทศในหลายๆด้าน เป็นต้น

ปฏิรูปตำรวจ ตำรวจนั้นเป็นต้นทางของขบวนการยุติธรรม เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เป็นผู้รักษากฎหมายในเบื้องแรกเบื้องต้น

ตำรวจมีเป็นหมื่นเป็นแสนคน ในจำนวนนี้ตำรวจดีก็เยอะ ตำรวจเลวก็มีไม่น้อย และตำรวจเลวนี่แหละครับที่ทำให้องค์กรของตำรวจเสียหาย ยิ่งถ้าหัวขบวนเป็นคนของนักการเมืองรับใช้การเมืองแล้ว ความเป็นธรรมในสังคมก็ไม่เกิดขึ้น เป็นต้นมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนทางหลวงก็ใช้ทางหลวงทำมาหากินไถรถบรรทุกไถประชาชนที่ใช้ถนนหลวงในการคมนาคม

หรือเมื่อมีความผิดเกิดขึ้นบนถนนหลวง ก็เข้าข้างฝ่ายที่มีเงินมีอำนาจ ดังตัวอย่างที่เห็นกันอยู่คนขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดมีคนตาย 2 ศพตำรวจก็เลือกปฏิบัติ ตำรวจพิษณุโลกกระทืบนักศึกษา 4-5 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน หรือตำรวจทำคดีลูกหลานเศรษฐีน้ำหวาน ขับรถชนตำรวจตาย 4 ปีแล้วยังสืบสวนสอบสวนไม่เสร็จส่งฟ้องไม่ได้ ตำรวจยัดยาบ้า ตำรวจอุ้มฆ่า ฯลฯ

พฤติกรรมทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ล้วนสมควรปฏิรูป ล้วนสมควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น

แต่ตั้งแต่มีรัฐบาล คสช. หรือรัฐบาลทหารนี้มา ยังไม่เห็นท่านแตะ องค์กรตำรวจเลย

มีที่แปลกมากอยู่อย่างเดียวคือพิจารณาแต่งตั้งตำรวจที่อาวุโสอันดับที่ 5 เป็นผู้บัญชาการตำรวจเท่านั้นเอง นอกจากนี้แล้วยังไม่เห็นมีอันใดเลยจริงๆ ที่จะทำให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในวงการตำรวจ

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือเสียงโอดครวญของคนยากคนจนอันเนื่องมาจาการทำเหมืองแร่ ไม่ว่าจะเป็นแร่ทองคำแร่โปรแตส ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดในพิจิตร เพชรบูรณ์ เลย ฯลฯ ประชาชนต่างเดือดร้อนทั้งสิ้น

และจะเดือดร้อนต่อไปอีกเรื่อยๆ หากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลในอนาคต เพราะประเทศเราอุดมสมบูรณ์ มีแร่ต่างๆอยู่ใต้ดินนั่งแต่เหนือสุดเชียงราย เชียงใหม่ลงไปถึงปัตตานีโน่น ภาคตะวันออก จันทบุรี ตราด ก็มีเพชรมีพลอย ตะวันตก กาญจนบุรี ก็มีครับ

ที่เดือดร้อนหนักคือที่พิจิตร และต่อไปก็จะเป็นเพชรบูรณ์ กำแพงเพชร

เพราะเราให้สัมปทานทำเหมือง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยรอบๆบริเวณที่ทำเหมือง แหล่งน้ำดินจะเสียหาย น้ำเอามาบริโภคอุปโภคไม่ได้ดินเพาะปลูกไม่ได้เพราะมันปนเปื้อนสารพิษไม่ว่าจะเป็นไซยาไนท์ แมงกานีส สารหนู

ประชาชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ

ประชาชนโอดครวญมานานแล้วครับ แต่แปลกมากเสียงดังไม่ถึงทำเนียบ และไม่ได้ยินถึงทหารที่อยู่ตามค่ายต่างๆในแต่ละจังหวัดที่ประชาชนโอดครวญ

เลิกให้สัมปทานเถอะครับ ได้ไม่คุ้มเสียหรอกครับ

ได้สัมปทานปีละร้อย-สองร้อยล้านบาท สู้ไปอุดรอยรั่วมิใด้เกิดการคอร์รัปชั่นในกระทรวงทบวงต่างๆคุ้มกว่าเสียอีก

ไม่ขุดแร่ มันก็เป็นทรัพย์ในดินไว้ให้ลูกหลานเราภายหน้าครับ

เอาไว้เทคโนโลยีดีกว่านี้ปลอดภัยกว่านี้ค่อยขุดมาใช้

และที่สำคัญไอ้ที่มันขุดไปนี่นายทุน หรือไม่ก็ต่างชาติทั้งนั้นครับ ที่มันโกยไป

ไม่ใช่ประชาชนคนยากคนจนเลยครับ

คืนความสุขจริงๆให้ประชาชนเถอะครับ

Create Date : 04 เมษายน 2559
Last Update : 4 เมษายน 2559 10:43:59 น.		0 comments
Counter : 334 Pageviews.
Share Tweet