ลองพัก DusitD2 Chiang-Mai และไปชมนาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง
เชียงใหม่ๆ วันนี้เราจะพาไปกิน ไปเที่ยว และไปพักที่ เชียงใหม่กันค่า
ช่วงหลังๆ มานี่รู้สึกว่าเราได้ไปเยือนเชียงใหม่บ่อยกว่าที่ไหนเลยนะ
สลับกันระหว่างเชียงใหม่กับพัทยานี่แหละค่ะ บ่อยที่สุด อิอิ
แต่ถ้าให้เลือกที่จะไป เราก็มองเชียงใหม่ไว้ก่อนล่ะ
เพราะว่าอาหารอร่อย ถูกปาก ราคาไม่แพงอันนี้ถูกใจใช่เลย
และที่นี่ โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ เราได้ยินชื่อเสียงเรื่องอาหารอร่อยอยู่ในสิสต์ด้วย
เราจึงไม่พลาดที่จะมาเยือนเชียงใหม่กันอีกครั้ง !!
การเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่
ในช่วงเวลาชั่วโมงเศษๆ เที่ยวบินรอบดึกของเรา ต่อด้วยนั่งแท็กซี่มายังที่นี่
Dusit D2 Chiang mai
เคยได้ยินมาว่า ถ้ามาเชียงใหม่ เลือกใช้บริการต่อรถอะไรเองนี่ต้องพูดภาษาเหนือนะคะ เพราะจะได้อีกราคาหนึ่ง 555 เราก็ไม่พลาดค่ะ พูดเหนือไว้ก่อนเป็นยอดดี
เพียง 15 นาที แท็กซี่ก็พาทะลุ ซอกแซกมาจอดหน้าโรงแรมพอดีในเวลา 5 ทุ่ม
เห็นมั้ย ว่าเราบินดึกขนาดไหนกัน
ปะ..เช็คอินกันค่าาาาาา
โอ้ววววว เหลือบดูเวลาคืนนั้นมาถึงโรงแรม 5 ทุ่มกว่าจะได้นอนปาไปตี 1 ฟ่าๆ แล้วมั้งเนี่ย แยกย้ายๆ กันดีกว่า
พรุ่งนี้เรามีนัดกับทุ่งนาสีเขียวๆ ด้วยนะเออ อยากรู้อยากเห็นและอยากไปดูด้วยตาตัวเองเป็นอย่างมาก
กับนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง คืนนี้ ฝันดีไว้รอแล้วจ้าาาา
เตรียม Les'go กันแย้ววววว ป่าบงเปียง ป่าบงเปียง ท่องไว้ๆ เราและสมาชิกร่วมเดินทางไปหัวหกก้นขวิดกันในครั้งนี้ 3 คนค่ะ
ขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าขึ้นดอยอินทนนท์ ก็ยังไปหลงบนดอยอินทนนท์ด้วยนะ 555
เพราะเส้นทางไป อ.แม่แจ่มจะเส้นทางแคบ หากไม่มองป้ายดีดี ก็มีสิทธิ์หลงได้เหมือนกันนะเออ
ระหว่างทาง เราไม่อาจละสายไว้ได้ เพราะทุกจุด ทุกเส้นทางที่ผ่าน กับวิวสวยๆ รอบด้าน สีเขียวๆ บวกด้วยท้องฟ้าที่แจ่มใสของวันนี้ บอกเลยว่า วิวรอบข้างทางสวยมาก แม้จะแลกกับทางที่โหด ชัน แคบก็ไม่หวั่น 2 ชั่วโมงผ่านไป จากโซเฟอร์นาม BiO บัดดี้เรา อีตาคนนี้ เราเพิ่งมารู้ว่าขับรถเก่งมากกกกจากการขับขึ้นดอยในวันนี้แหละ ทุกทีชอบขี้เกียจขับเลยไม่รู้ว่าขับเก่งเหมือนกันนะ 555
เราติดต่อเช่ารถสองแถวคนในพื้นที่ ขึ้นไปดูนาขั้นบันไดในราคา 1,200 บาท
โดยขับรถเก๋งไปจอดไว้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งค่ะ
กับทางที่โหดแสนโหด ทั้งหิน ทั้งหลุมบ่อ รถคันเหลือง ก็พาเรามายังดินแดนที่พวกเราตั้งใจอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองในที่สุด !!
ที่นี่ ... นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
หลายคนอาจสงสัยว่า นาข้าวเดือน พย. ตอนนี้เหลืองจนเกี่ยวกันแล้วนี่ฟ่า ทำไมในภาพเราชุดนี้ยังเขียวอยู่เลย แหะๆ ในภาพเราไปในช่วงวันหยุดวีคสุดท้ายของเดือน ก.ย ค่ะ
ข้าวยังเขียวยังอยู่ช่วงเพิ่งเริ่มออกรวง ยังอัพเดทให้ช้าอีกนะเรา ฮี่ๆ
ช่วงที่เราไปฝนไม่ตกนะคะ แต่ก็มีน้ำขังตามรายทางบ้าง ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าฝนตกคงอ่วมกว่านี้ ทั้งลื่น ทั้งอืดสารพัด เห็นมั้ยๆ ว่าคนดวงดีโดยไม่ได้ปักตะไคร้เล้ยยยยย
นอกจากนาข้าวขั้นบันไดที่สวยๆ ที่เราได้เห็นแล้ว พี่โซเฟอร์ขับรถสองแถวยังพาเราลงไปดูไร่กะหล่ำด้วย
สังเกตรถที่สวนทางมาจากแม่แจ่มเข้าในเมือง สัก 10 คันจะมีรถขนกะหล่ำเต็มลำไปขายกัน 5 คันมั้ง จึงมีพื้นที่ปลูกกะหล่ำกันอีกเพียบค่ะ
นอกจากเพื่อนร่วมทริปที่ไปด้วย เรายังได้เจอเพื่อนร่วมทางที่คุ้นเคยกัน เคยเจอกันครั้งหนึ่งที่ภูเก็ต มาครั้งนี้
เจอกันที่เชียงใหม่ คุณมด แห่งเวป 9mot.com มาเก็บภาพเป็นที่ระลึกเช่นเคยค่า
มีเรื่องเล่า มีเรื่องเล่า จากหนุ่มมาดเท่นาม BiO ได้ปีนขึ้นไปหามุมเก็บภาพบนหลังรถสองแถวคนเดียว เราก็อยากขึ้นไปเต๊ะจุ้ยทำเท่บ้างถูกห้าม !! พื้นที่นี่สงวนสำหรับผู้ชายเท่านั้นนะ ผู้หญิงห้ามขึ้น เขาถือ
เรื่องนี้เพิ่งเคยรู้นี่แหละค่ะเลยมาบอกต่อว่า
ผู้หญิง อดเท่บนหลังรถสองแถวนะเออ 555
และมุมภาพที่เราไม่มีโอกาสได้เก็บ คือภาพนี้ค่ะ ^^
ก่อนจะพากันลงดอยเมื่อแสงพระอาทิตย์เริ่มลาลับ
ยิ่งทางขาลงดอยมายิ่งโหด คราวนี้ฟ้าฝนคงอั้นไว้ให้เราตั้งแต่ตอนบ่ายนานแล้ว มาตกเอาเวลานี้ 555 ตกหนักมากด้วย
จำได้ว่า ช่วง Sunset เย็นวันนั้นสวยที่สุดระหว่างทางที่เราได้เห็นมา และได้บันทึกด้วยตาและใจตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
กว่าจะมาถึงในเมืองกลับโรงแรม ตามเวลานัด Dinner กับทางโรงแรม ก็เลยช่วง 2 ทุ่มไปล่ะ หิวมากด้วย อยากจะใส่กอไก่เยอะๆ เพราะหิวจริงๆ
จำได้ว่า ไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วยนะ อันนี้ลืม กินกะวิวจนอิ่มแล้วมั้ง 555 เย็นนั้นเราจึงเปลี่ยนแผนไปร้านเต้ยติ่มซำ ยิ่งเจอติ่มซำจากร้านพี่จินเพื่อนบล็อก จุก อิ่มไปเลย ขอบคุณพี่จินที่เลี้ยงติ่มซำอร่อยๆ ในครั้งนี้ด้วยค่า แล้วเราก็กลับเข้ามาในโรงแรม Dusit D2 ในช่วงยามดึกค่ะ
555 หน้าแต่ละคนง่วงๆ กันทั้งนั้น กินไปง่วงไป เราก็ง่วงไปด้วย คืนนี้ลากันไปพักผ่อน เหนื่อยๆ ในการเดินทางในวันนี้ด้วยค่า
ตื่นสายมาวันอาทิตย์ เดินสำรวจโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ กันต่อค่ะ เพราะวันนี้เราต้องเดินทางกลับในเที่ยวบินเย็นนี้
สระว่ายน้ำภายในโรงแรมค่ะ ขนาดสระว่ายน้ำไม่กว้างมาก พอเล่นแบบพักผ่อน หย่อนใจ แช่น้ำได้กันเย็นๆ หน่อยนึง ห้องฟิตเนตที่นี่อุปกรณ์เครื่องเล่นเยอะมากๆค่ะ เราไม่ได้ใช้บริการตามเคย ไปพักที่ไหนไม่เคยใช้ห้องฟิตเนตเลย จริงๆนะ ภายในชั้นฟิตเนตมีห้องเก็บสัมภาระที่ปลอดภัย ในห้องฟิตเนส จะเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวได้เพราะเป็นห้องกระจกใส ออกกำลังกายไปด้วย มองวิวดอยสุเทพไปด้วย ฟินๆ ดอยสุเทพห่างจากโรงแรม แค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ
กลับออกมากจากห้องฟิตเนต เรามีห้องพักที่จะพาไปรู้จักของโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่
อีกสองแบบนะคะ ตามมากันเล้ย
จากห้องพัก เราพามาชมห้องนวดสปากันบ้างนะคะ แม้โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ภายนอก ภายในจะตกแต่งแนวโมเดิร์น
แต่ว่า ภายในห้องสปาที่นี่ตกแต่งแบบศิลปะไทย แบบร่วมสมัยนะเออ เห็นว่าได้ัรับแรงบันดาลใจจาก วรรณคดีเก่าแก่ของไทยสมัยราชวงศ์
ในสมัยสุโขทัย ในปี พ.ศ. 1888 ได้มีการกล่าวอ้างถึง อุทยานสวรรค์ อันงดงาม ที่มีชื่อว่า เทวารัณย์
ออกจากห้องสปาแล้วไปไหนต่อ ตอบ !! อิอิ ได้เวลามื้อเที่ยงพอดีด้วย เนื่องจากเราเข้าพักในช่วงวันหยุดวีคสุดท้ายของเดือนพอดี
ทุกๆ วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน จะมีสุดยอดบุฟเฟต์อาหารทะเลเอ็กซ์ตรีมซันเดย์บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน กับ
"The Best of Dusit"
อยากทานซีฟู้ดไม่ต้องไปไกล ที่นี่เค้ายกทะเลมาให้ชิมแบบไม่อั้นกันแล้วค่า คุณภาพอาหารระดับพรีเมียร์ กับอาหารทะเลสด ใหม่ไม่ว่าจะเป็น
ปูอลาสก้าก้ามโต, หอยนางรมตัวใหญ่, กุ้งเนื้อแน่น และอีกหลากหลายเมนู ที่อยากรู้ ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง ^^
หลังจากเลือกที่นั่งได้แล้ว พนักงานจะนำปูอลาสก้ามาเสิร์ฟให้พร้อมกับตับห่านที่โต๊ะ 1 ชุดค่ะ
ก้ามปูอลาสก้าก้ามโตอยู่ในจานรอแล้ว ราคาบุฟเฟ่ต์ที่นี่หัวล่ะ 1,200 บาทค่ะ เราว่าเรายังทานได้ไม่คุ้มแล้วนะ
อีตา BiO ยังแย่กว่าเราอีก จากราคา 1,200 น่าจะทานได้แค่ 200 มั้ง เพราะเล่นชิมนิดหน่อยก็อิ่มแล้ว 555
ไม่ใช่มีแค่ซีฟู้ด อาหารอื่นก็มีเพียบ ไปชมกันค่ะ ภาพถ่ายเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เราไม่สามารถบันทึกภาพมาได้ทุกรายการแน่นอน เพราะเยอะมากๆ
ชูชิก็มี ซาซิมิ ก็มา
และพลาดไม่ได้กับหลากหลายเมนูเพิ่มความหวาน
สีสัน สดใส หน้าตาน่าทานทุกชิ้นเลยค่า แต่ทานไม่ไหวแย้ววว ลงรูปมายั่วๆ เล่นแล้วกัน อิอิ
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 11:48:26 น.
56 comments
Counter : 4979 Pageviews.