Group Blog
All Blog
<<< ใช้ปัญญามาฆ่ากิเลสตัณหา >>>







"ใช้ปัญญามาฆ่ากิเลสตัณหา"

กิเลสมันไม่ได้ตาย

จากการฟังเทศน์ฟังธรรม

 หรือจากการอ่านหนังสือ

 เพราะพอเราฟังปั๊บเดี๋ยวเราก็ลืมแล้ว

 ฟังตอนนี้เข้าใจ

 เดี๋ยวพอไปเห็นขนมนมเนยก็ลืมแล้ว

กิเลสมันก็เข้ามาดึงใจไปหาสิ่งต่างๆ

 ต้องปฏิบัติต้องฝืนต้องหยุดมัน

ถึงจะรู้ว่ามันเป็นทุกข์อย่างไร

แล้วก็กิเลสมันตายมันเป็นสุขอย่างไร

อย่างตอนนี้ฟังอย่างเดียวมันไม่รู้

เพราะกิเลสมันไม่ได้ออกมาเพ่นพ่าน

มันไม่มาแสดงตัว

เราจึงไม่เห็นโทษของมัน

ขอให้เชื่อตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

 และปฏิบัติตามขั้นตอน

 ท่านสอนให้ทำทานก่อนให้รักษาศีล

 รักษาศีลห้าไปก่อน รักษาศีลห้าได้แล้ว

ก็ขยับไปรักษาศีลแปด

 รักษาศีลแปดได้แล้วก็ไปอยู่วัด

 ไปอยู่ที่สงบ ไปเจริญสติ

เดินจงกรมนั่งสมาธิเพื่อทำใจให้สงบ

 เมื่อใจสงบแล้วก็สามารถจะใช้ปัญญา

มาฆ่ากิเลสตัณหาต่างๆ ได้

 มันเป็นขั้นเป็นตอน

 ต้องไปอยู่กับครูบาอาจารย์

ที่ท่านผ่านมาแล้ว เวลาเราทำไม่ถูก

 ท่านก็จะได้บอกเรา สอนเรา

เตือนเรา ห้ามเรา

 ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์

เราก็จะถูกกิเลสหลอก

ให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูก

 แทนที่จะทำลายกิเลส

กลับมาทำลายธรรม

 คือการปฏิบัติที่ถูกต้อง

 กิเลสมันก็จะหลอกว่า

ไม่ต้องนั่งสมาธิหรอก

นั่งใช้ปัญญาได้เลย

 ปัญญาสำคัญมากกว่าสมาธิ

แต่คนไม่ปฏิบัติไม่รู้หรอก

ต้องคนปฏิบัติถึงจะรู้ว่า

 สมาธิสำคัญมากกว่าปัญญาอย่างไร

 ก็เหมือนกับเรา

จะไปฆ่าวัวฆ่าควายในคอก

 ต้องวิ่งไล่ฆ่ามัน

กับการจับมันมามัดไว้ก่อน

 อันไหนมันจะง่ายกว่ากัน

จับมันมามัดไว้ก่อน

 มัดมือมัดเท้ามันไว้

 แล้วเอามีดมาฆ่ามัน มันง่ายกว่า

ถ้าไม่มัดมือมัดเท้ามันก็วิ่งหนีสิ

พอเราจะไปฆ่ามัน มันก็วิ่งหนี

 วิ่งไล่ไม่ทัน มันเร็วกว่าเรา

พวกที่ใช้ปัญญาไม่ต้องใช้สมาธินี่

 เป็นคนที่ถ้ารู้ก็รู้ด้วยการคิด

ไม่ใช่รู้ด้วยความจริง

คิดว่าบรรลุถึงขั้นนั้นแล้ว

บรรลุถึงขั้นนี้แล้ว ก็คิดไปเอง

กิเลสยังไม่ได้ตายแม้สักตัวเดียว

 กิเลสมันกลับมีเพิ่มมากขึ้น

ก็คือกิเลสความเห็นผิด

ความหลงเพิ่มมากขึ้น

ความหลงว่าตัวเองบรรลุแล้ว

 แล้วทีนี้ก็ไม่ปฏิบัติแล้ว

ไม่ฆ่ากิเลสก็เอาไปรับใช้กิเลส

 กิเลสก็หลอก

ให้ไปเป็นครูเป็นอาจารย์ล่ะ

 ไปสั่งไปสอนคนอื่น

 ก็จะได้หารายได้เอามารับใช้กิเลส

มีรายได้ก็เอาไปรับใช้กิเลส

ตามที่กิเลสต้องการ

 กิเลสมันก็ให้ไปเที่ยว

ไปหารูป เสียง กลิ่น รส.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

..............................

สนทนาธรรมมะบนเขา

วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2560 6:08:00 น.
Counter : 1002 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ