Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

มหัศจรรย์! ล้างพิษมายาวิทยา-ไสยศาสตร์ ... โดย : ศ.น.พ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา


มหัศจรรย์! ล้างพิษมายาวิทยา-ไสยศาสตร์
//www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/365284

ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วไปมีความสนใจในการรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดเป็นธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์และการบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างแพร่หลายเป็นเงาตามตัว

การบริการแบบหนึ่งที่พบได้บ่อยคือ “การล้างพิษ”...ด้วยโปรแกรมต่างๆรวมทั้งกระแสล่าสุดคือ “การดื่มน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่าง” รองศาสตราจารย์ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้ทรรศนะว่า

โดยปกติร่างกายของเราได้รับสารพิษจากแหล่งต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารที่กิน น้ำที่ดื่ม และอากาศที่เราหายใจขึ้นกับว่าสถานที่ได้รับนั้นอยู่ที่ใด

เช่น กรณีของอากาศนั้นถ้าเราอยู่ในบริเวณที่มีการจราจรคับคั่งของกรุงเทพมหานครเรามีโอกาสที่จะได้รับสารพิษหลายอย่างมากกว่าการที่เราอยู่ในที่ที่มีมลพิษทางอากาศน้อยกว่าการที่สารพิษจะก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้นั้นส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณของสารที่ได้รับว่ามากหรือน้อยเพียงใดรวมทั้งความถี่ที่ได้รับในแต่ละวัน

หลายครั้งที่นักพิษวิทยาพบว่าสารก่อมะเร็งปริมาณน้อยๆทำหน้าที่เป็นสารต้านมะเร็งเองโดยไปกระตุ้นระบบทำลายสารก่อมะเร็งให้แข็งแรงขึ้นเช่น เครื่องเทศที่เราใช้ในการปรุงอาหาร มีการศึกษาพบว่า ปริมาณที่ใช้ในการปรุงอาหารตามปกตินั้นมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

แต่เมื่อทำการศึกษาให้ลึกลงไปกลับพบว่า...องค์ประกอบหลายชนิดในเครื่องเทศเป็นสารก่อมะเร็งเมื่อให้สัตว์ทดลองในปริมาณสูง

สำหรับความถี่ของการได้รับสารพิษก็เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะถ้าสารพิษขนาดที่ไม่ได้ทำให้เกิดพิษเฉียบพลันเข้าสู่ร่างกายไม่บ่อยนักร่างกายมักทำลายสารพิษนั้นทิ้งได้เนื่องจากการออกฤทธิ์ของสารพิษเกือบทุกชนิดต้องอาศัยความเข้มข้นที่สะสมในร่างกายสูงจนถึงระดับหนึ่ง...ภาษาวิชาการใช้คำว่า“Threshold”

อวัยวะหลักในการทำลายสารพิษในร่างกายมนุษย์คือตับ ไต ปอด ฯลฯ ดังนั้นถ้าใครมีอวัยวะเหล่านี้ไม่แข็งแรงการออกฤทธิ์ของสารพิษก็จะเป็นไปได้ง่ายกว่าคนที่มีอวัยวะเหล่านี้แข็งแรง

ที่สำคัญความอ่อนแอของบางระบบในร่างกายอาจส่งเสริมให้สารพิษออกฤทธิ์ได้มากกว่าเดิมด้วย เช่นระบบภูมิต้านทานของแต่ละบุคคลซึ่งขึ้นกับการบริโภคอาหารว่า...สมดุลตามที่ร่างกายต้องการหรือไม่จากปัจจัยหลายประการที่กล่าวมา ทำให้ผู้ประกอบการที่มีความสามารถด้านจิตวิทยาสูงนำเอาประเด็นเหล่านี้มาเสนอให้ลูกค้ารับบริการล้างพิษโดยไม่ทราบว่าตนเองนั้นอันที่จริงมีสารพิษชนิดใดในตัวและมีปริมาณเท่าไร

นอกจากนี้ยังใช้ มายาวิทยา-ไสยศาสตร์เจาะเลือดหนึ่งหยดส่องกล้องหรือเข้าเครื่องโม้ว่าสุขภาพเม็ดเลือดแดงไม่ดีเพราะมีสารพิษและร่างกายขาดสารต้านอนุมูลอิสระและอื่นๆอีกมากมา

“ทฤษฎีของสารต้านอนุมูลอิสระ”...ขณะนี้ถือเป็นเรื่องล้าสมัย

ทั้งนี้ เนื่องจากการศึกษาไม่ต่ำกว่า 68รายงานในมนุษย์กลับพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ เบต้า แคโรทีน (beta-carotene)วิตามิน A และ E นอกจากไม่ช่วยให้อายุยืนกลับตายเร็ว...การศึกษาในคนสูบบุหรี่จัดประชากรศึกษา 18,000 คน ว่า...เบต้า แคโรทีน และเรตินอล (retinol)จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งหรือไม่...กลับพบว่ามีมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 28%และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17%และความเสี่ยงชัดขึ้นหลังใช้สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ไป 18เดือน หลักฐานพิสูจน์ชัดว่าอนุมูลอิสระอาจเป็นเรื่องเชยในปี 2556นี้โดยใช้หนอนตัวกลม (Caenorhabditis elegans) ซึ่งปรับเปลี่ยนพันธุกรรมให้ไม่สามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้และควรจะตายเร็วแต่ปรากฏว่าหนอนเหล่านี้กลับอายุยืนด้วยซ้ำ


ตามหลักวิชาการกระบวนการลดความเป็นพิษของสารพิษทั้งหลายหรือที่เรียกว่า...ดีทอกซ์ (Detoxification) มักอาศัยเอนไซม์สองระบบคือการกระตุ้นให้สารพิษ (ที่สามารถเข้าสู่ระบบการหมุนเวียนต่างๆของร่างกาย)มีความสามารถในการละลายน้ำสูงขึ้นจากเดิมด้วยการออกซิเดชันจากนั้นจะมีกระบวนการเชื่อมต่อ (Conjugation) ของสารพิษที่ถูกเปลี่ยนแปลงแล้วกับสารที่มีความสามารถในการละลายน้ำสูงเช่นน้ำตาลกลูโคส กรดอะมิโนบางชนิด หรือสารชีวเคมีอื่นๆในร่างกายจนได้สารประกอบสุดท้ายที่ละลายน้ำได้ดีและถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระและ/หรือ...เหงื่อ ตามความเหมาะสม

กระบวนการดังกล่าวนี้สามารถกระตุ้นให้ทำงานสูงขึ้นได้ด้วยสารเคมีธรรมชาติที่มีอยู่ในอาหารที่เรากินกันตามธรรมดาทุกวันโดยส่วนใหญ่อยู่ในหมู่ผักและผลไม้ซึ่งรวมถึงสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆสำหรับการล้างพิษส่วนใหญ่ซึ่งมีการโฆษณาแท้จริงแล้วยังหาข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนไม่ได้เลยว่าได้ผลหรือไม่ส่วนใหญ่เป็นการล้างพิษที่เน้นเพียงเพื่อกำจัดของเก่าในลำไส้ใหญ่ออกมาด้วยวิธีการใดๆก็ตามแต่ผลที่ได้เป็นเพียงชั่วคราว ถ้าไม่ปรับปรุงพฤติกรรมการกินอาหารในระยะยาว

ประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงขณะนี้คือผักผลไม้ธรรมชาติที่ต้องไม่คั้นเอาแต่น้ำ แต่ต้องกินทั้งกากใยคือตัวล้างพิษตับพิษในร่างกายทั้งหมดยืนยันจากรายงานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมายว่าช่วยชีวิตยืนยาวสุขภาพดีไม่เป็นโรคต่างๆ ทั้งหัวใจ สมอง มะเร็ง อัลไซเมอร์ และอื่นๆอีกมากมาย

ทั้งนี้อาจเกี่ยวทั้งสารที่มีประโยชน์มากมายในผัก ผลไม้ธรรมชาติรวมกากใยที่สำคัญคือกากใยและสารประโยชน์เหล่านี้จะปรับให้ภายในลำไส้มีจุลินทรีย์ชนิดดีไม่ไปสกัดสารพิษจากอาหารชนิดอื่นๆที่กินเข้าไป  ซึ่งส่งผลร้ายต่อร่างกายทุกอวัยวะและขณะนี้อาจเป็นไปได้ที่จุลินทรีย์ชนิดดีเหล่านี้สร้างของดีต่อร่างกายอีกทางหนึ่งการดีทอกซ์ลำไส้แม้ว่าจะช่วยเรื่องท้องผูกแต่อาจมีผลล้างจุลินทรีย์ชนิดดีทิ้งไปด้วยและไม่มีใครทราบได้ว่าจะทำให้ผลประโยชน์ที่ได้จากการกินผักผลไม้และกากใยลดลงหรือไม่

ในเรื่องของการดื่มน้ำด่างซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าเป็นการลดพิษหรือต้านมะเร็งนั้นยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์เช่นกันเพราะโดยปกติสภาวะในเลือดหรือเซลล์บางอวัยวะต้องมีค่าความเป็นกรดด่างราว 7.4เป็นด่างเล็กน้อย...เนื่องจากการทำงานของระบบต่างๆ เช่น น้ำย่อยหรือเอนไซม์ต้องการสภาวะนี้

วิธีการปรับนั้นร่างกายเรามีระบบที่อาศัยองค์ประกอบในน้ำเลือดหรือเซลล์เองโดยได้มาจากอาหารหรือจากการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายเพื่อให้ความเป็นกรดและด่างอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมหากสภาวะความเป็นกรดหรือด่างของบางอวัยวะมากเกินไปจะมีการกระตุ้นการขับสารที่เพิ่มความเป็นกรดหรือด่างทิ้งไปเพื่อปรับระดับความเป็นกรดด่างของเลือดเข้าสู่สภาวะปกติ

สำหรับบางอวัยวะ เช่นกระเพาะอาหารนั้นต้องมีความเป็นกรดสูงคือความเป็นกรด-ด่างที่ 1ถึง 2 ระหว่างการเริ่มย่อยโปรตีนบางส่วนในทางตรงกันข้ามขณะที่มีการย่อยอาหารในลำไส้เล็กนั้นจำเป็นต้องมีความเป็นกรด-ด่างถึง8 กว่าๆเพื่อให้น้ำย่อยในลำไส้เล็กสามารถย่อยโปรตีน แป้ง และไขมันได้สมบูรณ์แบบ

ดังนั้นความเหมาะสมของกรดด่างในร่างกายจึงต่างกันตามชนิดของอวัยวะ

อาจกล่าวได้ว่าการแนะนำให้กินอาหารหรือดื่มน้ำเพื่อปรับร่างกายให้เป็นด่างนั้นไม่น่าจะเกิดประโยชน์อันใดเพราะสุดท้ายเมื่ออาหารหรือน้ำไปถึงอวัยวะที่ต้องเป็นกรดมันก็ต้องเป็นกรดเมื่อไปถึงอวัยวะที่ต้องเป็นด่างมันก็ต้องเป็นด่างซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีที่มีการเรียนการสอนในโรงเรียนแพทย์และคณะวิทยาศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัยที่สกอ. รับรองคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการ

ความจริงเกี่ยวกับการล้างพิษเป็นเช่นนี้...เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดพิจารณาไตร่ตรองกันให้ดีๆ.




แถม ..

รวบรวมกระทู้เกี่ยวกับน้ำ MRET ... ใครเชื่อ ผมไม่เชื่อ ????   
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=25-04-2009&group=7&gblog=25

อย.เตือนเหรียญ"ควอนตั้ม"ไม่มีผลทางการแพทย์ ..... เตือนแล้วเตือนอีก จะมีคนเชื่อมั่งหรือเปล่าเนี๊ย ???   
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-06-2010&group=7&gblog=59

อาหารเสริม เลือดจระเข้ ดีจริงหรือ ???   
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-12-2009&group=7&gblog=41

อาหารเสริม....บนเส้นทางสู่อมตะ ... ศจ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (นำมาฝาก)   
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-08-2013&group=7&gblog=174

อย. ประกาศคุมผลิตภัณฑ์จาก..... " สเต็มเซลล์ " ..... เป็นยาผลิตต้องขออนุญาต    
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=18-04-2009&group=4&gblog=74

“มะรุม” พืชสมุนไพร แต่ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” .... บทความดี ๆ จากเวบ สสส.   
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=09-05-2010&group=7&gblog=56

การรักษาด้วย คีเลชั่น....ดีจริงหรือมั่วนิ่ม ???   
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=17-02-2009&group=7&gblog=17






Create Date : 27 สิงหาคม 2556
Last Update : 27 สิงหาคม 2556 14:16:41 น. 2 comments
Counter : 5569 Pageviews.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:14:56:27 น.  

 
ขอบคุณที่นำความรู้มาให้ทราบกันครับ


โดย: peephi (สมาชิกหมายเลข 958034 ) วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:15:43:44 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]