งานบริหารไม่มีกฎตายตัว...
คนมีหลายแบบ และ ธุรกิจก็ต้องการคนหลากหลายแบบ ธุรกิจไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยคนประเภทเดียว
คนบางคนเหมาะกับการทำงานในส่วนที่ต้องทำ เป็นงานประจำที่ไม่มีการพลิกแพลงมากนัก ซึ่งแน่นอนผู้บริหารก็คงต้องการให้เขาอยู่เพื่อทำในสิ่งที่เขารับผิดชอบ เขาจะก้าวหน้าไม๊ อาจจะไม่ แต่ขาดเขาได้ไม๊ มันก็ขาดไม่ได้เช่นกัน เพราะถ้าทุกคนในบริษัทฯ พยายามขึ้นไปเป็นหัวหน้างานกันหมด แล้วใครจะทำงานให้กับองค์กรในส่วนปฏิบัติการจริงๆ ผมคิดว่ามันจะยุ่งเสียมากกว่า เพราะว่า ต่างคนต่างทำงานที่คิดสร้างสรร แต่เจ้านายสั่งงานมาก็ทำให้น้อย คราวนี้มันจะกระทบกับงานที่จะส่งให้ลูกค้าแล้วซิ เพราะงานที่เป็นงานสั่ง บางส่วนเป็นงานที่ต้องส่งลูกค้า คราวนี้ละก็สนุกแน่ๆ เพราะไม่มีคนทำงานเพื่อจะส่งให้ลูกค้า...
ระบบงานทุกระบบย่อมมีจุดอ่อน และ จุดแข็งของมันเอง ไม่มีระบบไหนสมบูรณ์ การใช้งานระบบใหม่ๆ ก็เช่นกัน อย่าง KPI ที่กำหนดกัน ส่วนใหญ่กำหนดรายปี มากที่สุดก็กำหนดครึ่งปีครั้ง แล้วหากเจอคนตรงมากๆ โดยไม่คิดถึงความสำคัญของบริษัทฯมาก่อน อาจจะทำให้บริษัทฯ เกิดความเสียหายได้ อย่างเช่น มีงานพิเศษที่ไม่อยู่ใน KPI แต่เป็นงานที่สามารถทำเงินได้อย่างมากหากทำสำเร็จ แล้วน้องในทีม เกิดทำงานแต่ KPI แล้วไม่ทำงานที่สั่ง เพราะคิดว่านี่ไม่ใช่งานที่จะใช้ในการตรวจวัด KPI มันจะไม่มีผลงานในปลายปี พองานเข้ามาพร้อมกัน ก็ต้องทำงานที่สามารถตรวจวัดตาม KPI ก่อน พนักงานไม่ผิด แต่ บริษัทฯ อาจจะไม่ได้เงิน หรือ อาจจะโดนปรับจากการส่งงานล่าช้า... องค์กรอาจจะล่มสลายไม่ช้าหากมีแต่คนประเภทนี้...
คนบางประเภทแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แก้ตัวเป็นไฟ หาเหตุผลมากมายมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเอง สร้างภาพ ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองเก่ง หรือ ตนเองเด่นดีในด้านนั้นๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว เขาอาจจะเป็นเพียงพนักงานธรรมดา ที่สื่อสารได้ดี แต่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ได้ พนักงานในรูปแบบนี้มาเยอะไป...
ผมเห็นชีวิตของคนทำงานแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนเหมาะกับการเป็นพนักงานธรรมดา เขาเก่งทางด้านการทำงานให้สำเร็จไม่ได้เก่งคิด เจ้านายที่เก่งคิด ก็จะจัดให้คนๆนี้ แป๊ก... เป็นเรื่องปกติ... แต่ในทางกลับกัน คนที่เก่งคิด ฉลาด สร้างภาพ สื่อสาร รวมทั้งพยายามปรับปรุงส่วนต่างๆให้ดีขึ้น แต่กลับไปอยู่กับเจ้านายที่ชอบในการทำงานที่เป็นระบบ ต้องการทำงานตามขั้นตอน ห้ามลัด ห้ามนอกคอก ก็จะทำให้พนักงานที่เป็นเช่นนี้ แป๊ก... เช่นกัน
หัวหน้างานเป็นอย่างไร มักชอบลูกน้องที่เป็นอย่างนั้น ในทางกลับกัน ความก้าวหน้าและการเลื่อนขั้นของลูกน้องส่อให้ถึงว่า เจ้านายเป็นเช่นใดด้วย มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนโดยทั่วไป...
คนเราก็แปลก สิ่งอะไรแปลกใหม่ ย่อมอยากรู้อยากเห็นแล้วบอกว่าสิ่งนี้แหละดี เด่น อย่างบางคน ชอบเสาะหาของอร่อยทาน เมื่อแรกเจอร้านที่อร่อย ก็จะบอก จะชมไม่ขาดปาก แล้วก็จะไปทานบ่อยๆ เมื่อทานบ่อยเข้าก็รู้ว่า อาหารร้านนี้อร่อย แต่ก็ไม่เข้าไปทาน หรือ ทานเป็นบางครั้งไม่บ่อยครั้งเหมือนตอนแรก อย่างข้าวขาหมูตรองซุง ทำอาหารรสชาดดีมาตลอด แต่เกิดเหตุแค่ครั้งเดียว ทำให้คนรับประทานข้าวขาหมูลดการบริโภคไปนาน... ที่ผมกล่าวมาข้างต้นก็เพื่อบอกว่า เจ้านายก็เช่นกัน คนเก่งๆ ทำงานฉลาดๆ เสนองานได้ดี ดูดีมีผลงาน แน่นอนแรกๆ เจ้านายย่อมเห็น คุณค่าของคนๆนั้น แต่หากคนเก่ง ก็เก่งได้ตลอดเวลา เจ้านายย่อมมองเห็นว่า คนนี้นะเก่ง แต่ก็ไม่ได้ชื่นชมเหมือนแรกๆแน่นอน ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่เขาสามารถทำได้ไปเสียแล้ว ไม่ตื่นเต้นในผลงานหรอก นี่เป็นธรรมชาติของคนเราอีกเช่นกัน ส่วนความผิดพลาดนั้น มันย่อมส่งเสียงดังกว่า ผลงานเสมอสำหรับคนเก่งๆ เพราะว่า มันไม่ค่อยได้พบ ได้เห็นสิ่งผิดพลาดทีเกิดจากคนเก่งสักเท่าไหร่... มันก็เลยเป็นธรรมชาติของเจ้านานที่ต้องพยายาม บอก พยายามแจ้งในสิ่งเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้อีก มองในแง่ดีก็ดี มองในแง่ร้ายก็ร้ายได้เช่นกัน...
งานบริหาร งานบุคคล มันไม่ตายตัว... ก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวกัน แต่ทำกันคนละวัน คนละช่วงเวลา รสชาดก็ยังไม่เหมือนกันเลย ผมคิดว่า มันเป็นไปตามศิลปะของการทำ ตามแต่ละบุคคล ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว...
มันก็แค่ความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่ไม่ใช่ศาสตร์หรือทฤษฎีอะไร...
Create Date : 18 กรกฎาคม 2548 |
|
1 comments |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2548 21:01:31 น. |
Counter : 3082 Pageviews. |
|
|
|