พฤษภาคม 2564

 
 
 
 
 
 
1
2
4
5
7
8
9
11
12
14
15
16
18
19
21
22
23
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 12 หน้า 4
เมื่อครอบครัวเรียกประชุมด่วน คุณนายปิ่นไหมในชุดเดรสสีครีมดูสง่า นั่งกอดอกมองหน้าสามีนักธุระกิจหมื่นล้าน ในชุดสูทราคาแพง

ส่วนสามีผู้เป็นนักธุระกิจมีรายได้อันดับต้นๆ ของเมืองไทย นั่งมองหน้าภรรยาที่แลดูไม่ยิ้มแย้มอย่างสงสัยในการเรียกประชุมครอบครัวด่วนแบบนี้ มองสีหน้าไม่สู้ดีนัก

จะมีเรื่องอะไรมาต่อรองกับเขาเป็นแน่ แต่การเจรจาแบบนี้ เขาเสียเปรียบแน่นอน


“แม่ วันนี้มีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่า?”


นักธุระกิจใหญ่วัย 60 เอ่ย พยายามหาข้อมูลจากสีหน้าและท่าทางของภริยาที่อยู่กินกันมาร่วม 36 ปี


“พ่อ ที่บนเกาะ ฉันยกให้เป็นเอก”


นางแจ้งในที่ประชุม


พ่อหันมามองหน้าลูกชายคนเล็ก


“อะไรกันแม่?”

ณรงค์เอก เอ่ยอย่างตกใจ


“ตรงนั้น ฉันจะให้ลูกทำโรงพยาบาล”


“แม่การทำโรงพยาบาลมีแต่จะขาดทุน คนบนเกาะมีไม่ถึง 100 เลยมั้ง”


“พ่อ แล้วใครอนุญาตพ่อไปสร้างโรงแรม?”


พ่อกับบุตรชายคนโตมองหน้ากัน ความแตกตอนไหนกัน อุตส่าห์ว่าจะสร้างให้เสร็จก่อนแล้วค่อยบอก


“แม่ ตรงนั้น ทำเลสวย เหมาะแก่การพักผ่อน”


“ตรงนั้น เป็นที่บรรพบุรุษของฉัน ญาติๆ ฉันยังอยู่ที่นั่น แล้วนี่ ใครออกคำสั่งให้พวกนักเลงไปก่อกวนญาติฉัน”

นางเริ่มเสียงเฉียบ คิดเรื่องนี้แล้วมันพุ่งเกินจะต้านจริงๆ



“แม่ ลองคิดดูนะ ถ้าเราทำโรงแรม เราจะได้รายได้จากเศรษฐีที่อยากไปพักผ่อนดูธรรมชาติ พ่อคิดเรื่องทำโรงแรมและรีสอร์ทแบบชาวเลไว้ให้แล้ว” 

พ่อทำเสียงอ่อนเข้าลูบ



“พ่อ ธรรมชาติ ของเกาะนั้นยังอุดมสมบูรณ์มาก ให้ ญาติพี่น้อง ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยู่กับ ธรรมชาติ และทรัพยากรที่ยังไม่เสื่อมโทรม ที่บนบกมีแยะเยอะมากมาย พ่อสร้างโรงแรมยังไม่พอใจอีกหรือ?”


แม่ตั้งคำถามอย่างไม่แคร์พ่อ


“คุณนายปิ่นไหมครับ สมัยนี้เขานิยมพักผ่อนกับธรรมชาติ หรือไม่ก็นิวนอมอร์กันหมดแล้วนะครับ แล้วโปรเจคผม ไม่ต้องการทำลายธรรมชาติ”


“คุณณรงค์เอก การที่คนเข้าไปบุรุกที่ธรรมชาติขนาดนั้น คิดหรือว่าความเป็นธรรมชาติจะไม่ถูกทำลาย”


“คุณนายปิ่นไหม ผมจะทำการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ ซึ่งมันกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวผมจะจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ต่างๆ อย่างดี”


“คุณณรงค์เอก ฉันต้องการที่จะให้ญาติ พี่น้อง ฉันมีโรงพยาบาล สาธารณสุขที่ดี”


“คุณปิ่นไหมครับ โรงพยาบาล สร้างรายได้ไม่ได้มากหรอกครับ แถมจะขาดทุนอีกต่างหาก”


“คุณณรงค์เอก ลืมไปหรือไงคะ ว่าลูกดิฉันเป็นศัลกรรมมือหนึ่ง เขาสามารถเรียกคนไข้ และสามารถสร้างรายได้มหาศาลมากกว่า โรงแรมคุณอีก”


การโต้แย้งที่ไม่มีใครยอมใคร ลูกชายทั้งสองมองหน้ากัน แล้วพยักหน้า รู้อยู่แล้วว่าใครจะชนะ


“แม่...”

พ่อเรียกแม่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมาโดยไม่คิดถึงความพ่ายแพ้


“ตอนนี้ที่ตรงนั้นเป็นของเป็นเอกแล้ว ลูกฉันสามารถฟ้องพวกคุณได้ที่บุกรุกไปก่อสร้างอาคารในพื้นที่ของเขา”


“ทำไมแม่ทำแบบนี้!!!”

พ่อถึงกับช็อค



“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณจะไม่ยอมฉัน ที่ตรงนั้นไม่ใช่สินสมรส คุณไม่มีสิทธิ์ไปสร้างโรงแรมโดยไม่แจ้งฉันก่อน”


“คุณทำแบบนี้ ไม่ไว้หน้าผมเลยนะครับ”

พ่อเริ่มมีอารมณ์เดือด



“การที่คุณไปก่อกวนญาติฉัน ไปรุกรานที่หมู่บ้านชาวประมง ก็เท่ากับไม่ไว้หน้าฉันเช่นกันใช่ไหมคะ”

แม่ตาเหลือกลานยื่นหน้าเข้าไปหา


พ่อต้องปรับสีหน้าจะราดน้ำมันบนกองเพลิง มันจะเผาใครถ้าไม่ใช่ตัวเอง


“แม่ใจเย็นๆ ก่อน เราค่อยคุยกันเรื่องนี้อีกที”


“ที่คุณ ไม่คิดยกเลิกโครงการโรงแรมใช่ไหม?”

แม่ตั้งคำถามตรงๆ



“มันลงทุนไปแล้ว จะให้ถอนทุนได้ไงล่ะแม่”


“ฉันขอหย่าขาดจากคุณ สินสมรสแบ่งคนละครึ่ง อันไหนที่ใช่สินสมรส ฉันจะไม่ยุ่งกับของคุณ ลูกก็แบ่งคนละคน แล้วให้คุณถอนทุนออกจากที่ดินลูกฉันด้วย”



ชายทั้ง 3 ต่างตะลึงอึ้งกับการตัดสินใจของคุณนายปิ่นไหม


“แม่ครับ”


เป็นเอกจับแขนมารดาเบาๆ


“แม่ แก่ปูนนี้เรายังจะหย่ากันอีกเหรอ ”

พ่อเอ่ยอย่างตกใจ


“ฉันไม่ต้องการทนอยู่กับคนที่ไร้จริยธรรมอย่างคุณ พวกนายทุนหน้าเลือด มองเห็นชีวิตชาวบ้านเป็นแค่เศษเงินที่จะจ่ายให้พวกเขา คุณดูถูกตระกูลฉัน”


“แม่ใจเย็นๆ แก่แล้วยังจะมานั่งทะเลาะให้ลูกดูแบบนี้ตัวอย่างไม่ดีนะ”

พ่อเอ่ย พยายามหาน้ำเย็นๆ มาลูบ


“แม่ครับ คุณพ่อไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นนะครับ”

เป็นหนึ่งที่นั่งอยู่นานเอ่ย


“ใช่ครับคุณแม่ คุณพ่อ ไม่กล้าขัดคุณแม่หรอกนะครับ เรื่องสร้างโรงพยาบาลกับโรงแรม ให้เป็นหน้าที่ผมกับพี่หนึ่งเถอะนะครับ”


เป็นเอกรีบหาทางไกล่เกลี่ย เมื่อเรื่องเริ่มจะบานปลายหนัก


“ฮึ คนอย่างพ่อแก มันก็พวกนายทุนหน้าเลือด”


“ใช่ไหมครับ คุณพ่อ คุณพ่ออนุญาตผมกับพี่หนึ่ง ทำโปรเจคต่อร่วมกัน คุณพ่อจะวางมือจากที่นั่นแล้วนะครับ”



เอกพยักเพยิดหน้าให้พ่อยอมรับ


“เออ เออ..”

พ่อมองหน้าลูกเมียอย่างขัดใจ




“คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ พวกผมโตแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่จะมาหย่ากัน แบ่งทรัพย์สิน แบ่งลูกกันตอนนี้ไม่ดีแน่ คุณแม่กับคุณพ่อควรใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข เป็นคุณปู่คุณย่าเลี้ยงหลานเล็กๆจะดีกว่านะครับ เรื่องธุระกิจปล่อยเป็นหน้าที่พี่หนึ่งกับผมจะดีกว่า”


เอกรีบยื่นข้อเสนอ



คุณนายปิ่นไหมเริ่มมีทีท่าเปลี่ยน เมื่อได้ยินลูกพูดถึงเธอจะได้เป็นย่ามีหลานเล็กๆ



“ใช่แล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ แก่แล้วอย่าทะเลาะกันเลยนะครับ”


เป็นหนึ่งสนับสนุนน้อง



“ก็ได้ เพื่อเห็นแก่ลูก แม่ไม่หย่าก็ได้”



คุณนายเปลี่ยนท่าทีอ่อนลง



“แต่เราจะแยกกันอยู่ระยะหนึ่ง ถ้าพ่อแกนิสัยดีขึ้นเมื่อไหร่ ค่อยมาว่ากัน”




“แม่ จะไปอยู่ไหนล่ะ”




“เชอะ”



นางสบัดหน้าใส่สามี


“เอก หลานคนแรกให้แม่เลี้ยงนะ”


นางหันมาทำเสียงอ่อนหวานกับลูกชายคนเล็ก



“ห๊า อะไรน่ะ หลานคนแรก”


สองหนุ่มต่างวัยสบตากันร้องประสานเสียง มองหน้าเป็นเอก
เป็นเอกทำหน้าไม่ถูก




“อ้อ ครับ คุณแม่ต้องได้เลี้ยงแน่นอนครับ เพราะงั้น อย่าทะเลาะกับคุณพ่ออีกนะครับ เดี๋ยวหลานจะงอแง แล้ว ผมอยากให้หลานโตมาเห็นพวกเรารักกัน เขาจะได้มีความสุข”



“ได้ แม่ไม่ทะเลาะกับพ่อแกแล้ว”


แม่รับปากเอาง่ายๆ



“อะไร แกเคลียร์มาเลยนะเอก”



พี่ชายรีบถามอย่างอยากรู้



“ใช่ ทำไมพ่อไม่เห็นรู้เรื่องเลย”


พ่อก็สงสัยอีกคน



กลายเป็นว่าทุกคนอยากรู้เรื่องของเป็นเอกแทน



“หนึ่ง แกน่ะ แก่กว่าเอกตั้ง 4 ปี มัวเป็นลอยไปลอยมาเมื่อไหร่มีจะมีหลาน”



คุณนายปิ่นไหมหันไปเล่นงานลูกชายคนโต




“อ้อ...แม่ครับ ผมน่ะลูกพ่อครับ ใช่ไหมครับคุณพ่อ”



พ่อมองลูกชายคนโตที่พยายามหาพวก




“พ่อยังไม่รอดเลย อย่าหาเรื่องมาให้พ่อนะลูก”

 



Create Date : 13 พฤษภาคม 2564
Last Update : 14 พฤษภาคม 2564 7:25:52 น.
Counter : 714 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณnewyorknurse

  
ตกลงว่าชื่อเอกณรงค์หรรือณรงค์เอกคะ 55

โดย: หอมกร วันที่: 13 พฤษภาคม 2564 เวลา:20:46:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]