ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 6 หน้า 1
เป็นเอกอ่านข่าวจากแอฟมือถือที่ชอบเตือนมาทุกวัน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยสนใจอะไรเท่าไหร่
นอกจากจะมีแต่ข่าวดาราและการเมืองที่ไร้จุดหมาย
เขาก็แทบจะไม่เคยสนใจข่าวพวกนี้เลย
แต่พอเห็นพาดหัวข่าวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้รางวัลใหญ่ฉลาก ธกส จังหวัดปทุมธานี
มองผ่านๆ ก็ไม่คิดว่าเป็นปิ่นมณี พอเพ่งพิศให้ดี รูปร่างโครงหน้าตาอันคุ้ยเคยเขาอย่างดีนั้น
ทำเอาหัวใจอ่อนระทวย ระยะเวลา 2 อาทิตย์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วและไร้การติดต่อจาก ปิ่นมณี
เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองไปจนเขาจำไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากข้างในที่สะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจน
แม้ปิ่นมณีจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร แต่เขากลับมีความรู้พอที่จะอ่านว่าปิ่นมณีเป็นคนอย่างไรจากสายตา คำพูดและพฤติกรรม ที่เป็นศาสตร์ความรู้พื้นฐานที่เขาได้เรียน
เป็นเอกไปที่ห้อง ผอ โรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่
“เชิญนั่งก่อนครับหมอเอก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“กลางเดือนนี้ผมหมดสัญญากับทางโรงพยาบาลแล้วนะครับ”
เขาเอ่ย
“นั่นสินะครับ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ผมจะทำเรื่องต่อสัญญาให้นะครับ”
“ผมมีเรื่องจะแจ้งท่าน ผอ ครับ ผมอาจจะไม่ต่อสัญญา”
“อ่ะ ทำไมล่ะครับ”
ผอ ถึงกับหน้าชา
เป็นเอก เป็นหมออัจฉริยะ ที่เขาได้มาครอบครองแบบโชคช่วย และสร้างชื่อเสียงให้โรงพยาบาลเขามาตลอด 5 ปี จากเดิมที่มีแค่เพียงการรักษาทั่วไป เขาได้เปิดแผนกศัลยกรรมขึ้นมา 4-5 ปีหลัง ทำเงินให้กับโรงพยาบาลอย่างมาก
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ หรือหมอเอกไม่พอใจในรายได้ที่ผมจ่าย”
จะว่าไป ค่าตัวหมอเอกถือว่ามากที่สุดในบรรดาหมอทั้งโรงพยาบาล
แถมเขาไม่เคยจู้จี้บังคับเรื่องเวลาทำงานของหมอเอกเลย
จะมากลับเวลาไหน จะหยุดหรือลานานเท่าไหร่ก็อนุมัติตลอด
แล้วเขาก็รู้มาว่าคลินิกที่หมอเอกทำอยู่ก็รายได้มากทีเดียว
แม้เขาจะไปรับงานเพียง เสาร์ อาทิตย์ แต่รายได้ของคลินิกนั้นมหาศาล เขามีทีมหมอศัลยกรรมที่เก่งหลายคน และคลิคนิกเขามีชื่อเสียงในโซเชียล
และที่สำคัญ ภูมิหลัง ของหมอ ก็ไม่ได้ธรรมดา
ผอ สูงวัย ขยับแว่นตามองหมอหนุ่มอนาคตไกลอย่างหาจุดประสงค์การมาครั้งนี้
“ผมจะทำงานอาทิตย์นี้เป็นวันสุดท้าย หลังวันที่ 18 เป็นต้นไป สัญญาเราก็หมดแล้วนะครับ”
“มันกระทันหันไปไหมครับ”
“ที่จริง สัญญานี้ร่างไว้ เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 5 ปี ก่อน และ เราก็ลงชื่อรับทราบทั้งสองฝ่าย จะบอกว่ากระทันหันในเวลานี้ก็คงไม่ได้แล้ว”
“หมอเอก หรือคุณจะคิดว่าตัวเพิ่ม”
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอกครับ”
เขารีบตอบ
ผอ ผู้สูงวัย ขยับแว่นอีกครั้ง ดูท่าจะขอร้องกันยากเสียแล้ว เขาควรมีขอเสนอที่ดีพอที่จะต่อรองกับเป็นเอก
“หมอจะทำอะไร หรือมีโรงพยาบาลใหม่ที่คุณหมายตาไว้ หรือว่างานสมาคมเพิ่มขึ้น เรื่องนั้นเราคุยกันได้นะครับ”
“ผมยังไม่คิดทำอะไรครับ งานสมาคมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ส่วนโรงพยาบาลอื่นยังไม่ได้มีเป้าหมาย”
เขาตอบเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
“เพียงแต่ผมมีงานของมูลนิธีที่อาจจะต้องเดินทางบ่อย เกรงว่าอาจจะทำงานให้กับโรงพยาบาลไม่เต็มที่เท่าไหร่”
เรื่องมูลนิธี เป็นสิ่งใหม่ที่ ผอ จะได้ยินจากหมอเอก
“มิทราบว่ามูลนิธีอะไรครับ?”
“อ้อ เป็นมูลนิธีของอาจารย์ผมครับ ผมช่วยงานท่านมา 8 ปี แล้ว และ ไม่อยากทิ้งงานนั้น”
“งานมูลนิธีรายได้ไม่สู้โรงพยาบาลนะครับ”
“ครับ เพราะเป็นงานการกุศลที่ผมไม่ได้รับค่าจ้าง”
ผอ ถึงกับอึ้ง ที่ได้รับคำตอบจากหมอศัลยกรรมหัวกระทิ ที่เขาคิดมาตลอดว่า เงินต้องเป็นสิ่งล่อให้เขารับงานที่ทำ แต่พอคุยมาถึงจุดนี้เขาต้องชะงักงั้น
นี่หมอเอกกำลังคิดทำการณ์สิ่งใด อัจฉริยะที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับโรงพยาบาลเขา กลับทิ้งงานที่โรงพยาบาลหรูๆ เพื่อทำงานไม่มีรายได้ตอบแทน เงินไม่สามารถเอามาต่อกรกับหมอเอกได้เลย
“เราทำสัญญาใหม่ได้นะครับ หมอเอกรับงานที่นี่อาทิตย์ละ 1 วัน หรือตามเคสก็ได้ ผมขอร้องล่ะครับ เราสร้างแผนกศัลยกรรมมาด้วยกัน ผมไม่อยากให้หมอเอกทิ้งพวกเราไป”
ผอ รีบเปลี่ยนท่าที หาน้ำเย็นเข้าลูบ
“ขอให้หมอเอกกลับไปคิดก่อนก็ได้นะครับ หรือจะช่วยจนกว่าผมจะได้หมอศัลยกรรมเก่งๆ มาแทนคุณก่อน ถึงตอนนั้นผมก็จะไม่รั้งคุณอยู่แล้วล่ะครับ”
เป็นเอกลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณครับ ที่ไว้วางใจผม เรื่องนั้น หลังจากนี้ 1 เดือน ผมจะให้คำตอบนะครับ”
เขายกมือไหว้ลาผู้สูงอายุแล้วออกไปจากห้อง ทิ้งความลำบากใจให้ ผอ ที่ต้องหาแพทย์มือดีมาสร้างรายได้ให้กับโรงพยาบาลแทนเขา