รอยอาญา ๓๔ (ธัญรัตน์)
สายฝนที่โปรยปรายมาตั้งแต่บ่ายจนเย็นย่ำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ไม่ต่างไปจากผู้ที่ยืนพิงขอบหน้าต่าง แล้วมองออกไปภายนอกด้วยอาการของคนที่เหม่อลอย เขาไม่มีทีท่าว่าจะย้ายไปที่ไหน นับตั้งแต่กลับมาจากไปหาลูกค้า คงจะด้วยเพราะเพื่อนสนิทที่แต่งงานไปแล้ว ไม่ค่อยจะมีเวลามาสังสรรค์กับเขาบ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็มีสภาพที่ไม่ต่างจากพิสิทธิ์เท่าไหร่ ทุกคนต่างเปลี่ยนสถานะภาพไปเป็นสามีบ้าง เป็นคุณพ่อคนใหม่บ้าง
จะมีก็เพียงแต่เขาที่เฝ้าครองตัวเป็นโสดอย่างเหนียวแน่น ประหนึ่งจะเก็บตัวเองเอาไว้ให้ใครบางคนก็ไม่ปาน ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้เลยว่าจะมีวันที่เขาจะได้มอบความโสดให้กับคน ๆ นั้นหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับเรื่องที่ดูจะยุ่งยากไปหมด แล้วภาพที่ทุก ๆ คน ดูจะเปี่ยมสุขวันทำกินบาร์บีคิวที่บ้านสวนมันก็ลอยมาตอกย้ำให้เขาเจ็บปวดอีก
เขาได้เห็นแล้วว่าทุกคนสุขใจแค่ไหน ที่ได้อยู่ร่วมกันพูดคุยหัวเราะกันอย่างออกรส แม้กระทั่งพี่ชายของเขา ซึ่งเดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นแขกประจำบ้านโน้นบ่อยกว่าปกติ แรกทีเดียวเขาคิดว่าการกลับมาของระพีพงศ์จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายกับแม่ของลูกเขาจะยุติลง เพราะระพีพงศ์คงจะไม่ยอมเกี่ยวข้องด้วยเพราะความโกรธแค้นเขา
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด และมันดูเหมือนจะเป็นไปในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ระพีพงศ์กับพี่ชายเขาดูจะไปกันได้ด้วยดีเกินคาด จนบางครั้งเขาเริ่มสงสัยว่า ถ้าคน ๆ นั้นเปลี่ยนจากพี่ชายมาเป็นเขาแทนทุก ๆ คนจะปฏิบัติกับเขายังไง จะให้อภัยและอ้าแขนรับ หรือจะไล่ตะเพิดเขาจนแทบจะหนีออกมาไม่ทันกันแน่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังเขาคงจะทนไม่ได้ ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายอย่างเขา จะไม่ยอมให้ใครมาทำแบบนั้นเด็ดขาด
เสียงเคาะประตูทำให้เขาหยุดคิดและหันไปหาผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้อง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับผู้มาเยือนนอกจากขยับร่างไปนั่งที่ชุดรับแขกแทน ส่วนเด่นณรงค์ก็ตามไปติด ๆ
ยังไม่กลับบ้านเหรอดำ เย็นมากแล้วนะ คุณแม่รอกินข้าวด้วยแน่ะ เจ้าดอนก็บ่นถึงดำแล้วนะช่วงนี้ เด่นณรงค์บอกน้องชาย อีกหน่อยครับ ฝนยังไม่หยุด ขี้เกียจไปรถติดบนถนน เขาบอกไปอย่างนั้น แล้วก็รินเหล้าที่ตั้งไว้ตรงหน้า พี่เด่นเอาหน่อยไหมครับ แก้เครียด เขาถาม ไม่เอาดีกว่า พี่ไม่ค่อยมีเรื่องเครียดเท่าไหร่ ว่าแต่ดำเถอะเครียดอะไรเหรอ เขาถามไปอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่มีคำตอบอยู่แล้ว ก็เรื่องงานนิดหน่อย ไม่มีอะไรมาก เขายังปากแข็ง
เอ่อ...ดำ...ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว พี่อยากจะถามดำอีกครั้งเรื่อง...เอ่อ... เขาหยุดไว้แค่นั้น แล้วอีกฝ่ายก็เงียบประหนึ่งว่าไม่อยากจะได้ยินเรื่องที่พี่ชายจะถาม เรื่องอะไรครับ เขาถามในที่สุด เรื่อง...เอ่อ...เรื่องคุณเพลงน่ะ เขาบอกไปในที่สุด ทำไมครับ เขาถามเลี่ยง ๆ ดำจะว่าอะไรหรือเปล่า ถ้าพี่กับคุณเพลงจะ....เอ่อ....จะคบหากัน เด่นณรงค์อึดอัดเล็กน้อยที่จะบอก แต่เขาก็ต้องการความกระจ่าง คบหากัน หมายความว่ายังไงครับ คบแบบไหน เพื่อน พี่ชาย หรือว่า... เขาถามออกไปจนเหมือนจะเป็นประชด เพราะรู้สึกขัดใจนักที่ถูกต้อนแบบนี้ ก็อะไรประมาณนั้นล่ะ พี่ห่วงความรู้สึกดำน่ะ ก็เลยจะถามก่อน พี่ไม่อยากให้เกิดความไม่เข้าใจกัน เขาบอก
แล้วพี่เด่นมาถามผมทำไมครับ ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร ก็มันเป็นสิทธิ์ของพี่เด่น แล้วฝั่งโน้นเขาว่ายังไงล่ะครับ เขาลุกขึ้นเดินไปหน้าต่างที่เดิม และหันหลังให้พี่ชายเพราะไม่อาจจะให้เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของเขาได้ ดำเราก็โต ๆ กันแล้วนะ ที่พี่ถามดำก็เพราะว่าพี่ห่วงความรู้สึกดำ เพราะถ้าเรื่องระหว่างพี่กับคุณเพลงมันจะเกินเลยไปจากที่เป็นอยู่ พี่ก็อยากจะแน่ใจว่าน้องพี่เห็นด้วย เขาบอกน้องชายออกไป แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ ถ้าผมจะบอกว่าไม่เห็นด้วย พี่เด่นจะเลิกคบเขาหรือเปล่าล่ะครับ เขาถามทั้ง ๆ ที่ยังคงหันหลังให้อีกคน
มันก็ต้องมาดูเหตุผลว่าเพราะอะไรจึงไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเหตุผลของดำคือยังโกรธแค้นทางโน้นอยู่ ข้อนี้พี่คงจะบอกดำไม่ได้ว่าพี่จะทำตามได้หรือเปล่า เว้นแต่จะเป็นเหตผลอื่นที่ดำยังไม่ได้บอกพี่ เขาบอกเพื่อเป็นการดักทางน้องชายเอาไว้ แล้วพี่เด่นจะมาถามความคิดเห็นผมทำไมครับ พี่เด่นก็รู้ว่าเหตุผลของผมก็มีแค่นั้น เพราะยังไงพี่ก็จะต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้างไว้อยู่ดี ผมจะพูดอะไรมันก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อพี่ชาย พี่ก็แค่อยากจะให้ดำรับรู้ว่าพี่กำลังคิดอะไรทำอะไร จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาทีหลัง เด่นณรงค์รู้ทั้งรู้ว่าถูกน้องชายประชดประชัน แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเอาไว้ งั้นไม่มีอะไรแล้วพี่กลับก่อนนะ คุณแม่จะรอ แล้วดำจะกลับหรือยัง เขารีบตัดบท
ฝากบอกคุณแม่ด้วยนะครับ ว่าวันนี้ผมคงไม่กลับบ้าน จะไปนอนคอนโด พรุ่งนี้มีงานด่วนจะมาแต่เช้า เขาบอกออกไปอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรกว่าจะกลับบ้านวันนี้ แต่พี่ชายก็ทำให้เขาไม่อยากกลับเสียแล้ว ได้พี่จะบอกให้ และพี่ชายก็รับไปอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วเด่นณรงค์ก็ออกจากห้องไปในที่สุด เปลือกตาถูกปิดลงช้า หลังจากที่แน่ใจว่าพี่ชายลับจากห้องไปแล้ว ดนุพรบอกตัวเองไม่ได้เลยว่า เขาเจ็บปวดมากแค่ไหน แก้วเหล้าในมือถูกขว้างทิ้งโดยไม่ได้สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ที่ไหน เขาเดินผลุนผลันไปคว้าเอาข้าวของสองสามชิ้น แล้วก็ออกจากห้องไป
เสียงรถแล่นเข้าบ้านกลางดึกด้วยความเร็วพร้อมกับเสียงเบรคดังเอี๊ยด ก่อนรถจะถูกจอดทิ้งไว้ตรงหน้าบ้าน ไม่บอกลัดดาที่นั่งดูทีวีอยู่ก็เดาได้ว่าเป็นเสียงรถลูกชายคนเล็ก ที่พักหลังนี้ขยันหนีหน้าเธอและคนในบ้านขึ้นทุกวัน ๆ เขาเดินเข้าบ้านใช้เท้าเขี่ยรองเท้าออกแล้วเตะไปโดยไม่สนใจทิศทาง อาการเซนิด ๆ ของเขาทำให้มารดาที่หันไปมองอยู่ รู้ว่าลูกชายกินเหล้ามา ลัดดาส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ นานเท่าไหนแล้วที่เขาเป็นแบบนี้ เมื่อไหร่ลูกชายคนเดิมของเธอจะกลับมาสักที
พอได้ลูกคนโตมาอยู่ในอ้อมกอด และก็กำลังจะได้ลูกสาวกลับมา เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะเสียลูกชายคนเล็กที่เมื่อก่อนเป็นผู้ชายที่ใครอยู่ใกล้ ๆ แล้วรู้สึกอบอุ่น แต่เวลานี้เขาแทบจะไม่อยู่ทำความอบอุ่นให้ใครเลยแม้กระทั่งดอน ลูกชายกำมะลอที่เขารักมาก ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ลุงเด่นดูแลแทน
ดำกลับมาแล้วเหรอลูก มาหาแม่หน่อยสิ แม่อยากคุยด้วย ลัดดาเรียกเขาในที่สุด พอได้ยินเสียงมารดา อาการที่เดินเซก็เหมือนกลับหายไปโดยสิ้นเชิง เพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็ไม่อยากจะทำให้มารดาไม่สบายใจไปมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าพักนี้เขาจะทำตัวเหินห่างมารดาและคนในบ้านไปก็ตาม แม่มีอะไรครับ เขาเดินมาหาและนั่งลงที่โซฟา แตนไปบอกแม่แพงให้ช่วยหาอะไรร้อน ๆ มาให้คุณดำกินก่อนไป แล้วก็เอาผ้ากับน้ำอุ่นมาให้ฉันด้วย ฉันจะเช็ดตัวให้คุณดำ เสร็จแล้วเธอก็ไปนอนรอฉันที่ห้องได้ ลัดดาสั่ง
กินอะไรก่อนนะลูกแล้วค่อยคุยกัน แต่ก่อนอื่นเราน่ะถอดเสื้อออกมาให้แม่ เหม็นเหล้าคลุ้งเชียว หรือจะไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยลงมาหาแม่ ลัดดาบอก ไม่เอาครับ ให้แม่เช็ดตัวให้ก็ได้ เขาบอกและนอนลงไปที่โซฟาตัวยาวอย่างว่าง่าย เหมือนเด็กน้อยที่รอคอยการปรนนิบัติจากแม่ก็ไม่ปาน แตนไปหยิบเสื้อยืดคุณดำมาให้ฉันก่อนไป เอาเสื้อกล้ามก็ได้ ลัดดาบอกเมื่อแตนออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูและน้ำอุ่น ๆ แล้วลัดดาก็เข็นรถมาใกล้ ๆ ลูกชายและเช็ดตัวให้เขาด้วยความอ่อนโยน นานแล้วนะที่แม่ไม่ได้ดูแลลูก ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่เรายังเล็ก ๆ อยู่เลย ลัดดาพูดไปและก็เช็ดตัวให้เขาไป ทำให้เขาหวนคิดถึงภาพเมื่อในอดีตไม่ได้ ภาพความอบอุ่นของครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าพ่อ แม่ พี่ และน้อง เขาจำได้ว่าเขามีความสุขมากในตอนนั้น
แพงทำอะไรให้คุณดำกิน ลัดดาถามแพงที่เดินมาพร้อมถาดอาหารที่มีชามที่มีฝาปิดมาด้วย กับน้ำหนึ่งแก้วในมือ โจ๊ก กับน้ำตะไคร้อุ่น ๆ ค่ะคุณท่าน แพงบอกขณะวางถาดลงที่โต๊ะกลาง แล้วตัวเองก็ค่อย ๆ พาร่างที่ท้วมนั่งลงกับชุดรับแขก จัดแจงยกชามโจ๊กและแก้วน้ำตะไคร้ออกจากถาด ขอบใจมากนะแพง ไปนอนได้แล้วไป แตนด้วย ลัดดาบอกคนในบ้าน กินข้าวซะลูก ดูสิไปขลุกอยู่แต่คอนโดผอมหมดแล้วนะเรา ลัดดาบอกเขาอีกครั้งและก็ดูเหมือนเขาจะทำตามอย่างว่าง่ายเหมือนเด็กน้อย ทำให้ลัดดายิ้มออกมาด้วยความสบายใจที่เธอยังคงเอาลูกชายอยู่ได้ด้วยไม้อ่อน
แม่มีอะไรครับ เขาถามหลังจากกินโจ๊กเกือบหมดถ้วย เรื่องพี่เราน่ะ เมื่อวานเขามาบอกแม่ ว่าอยากให้แม่ไปเที่ยวบ้านแม่เพลง แล้วก็ไปคุยกับนายกำพล ลัดดาบอกและพยายามสังเกตอาการลูกชายอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่เห็นว่าพูดอะไรเธอจึงพูดต่อ พูดกันง่าย ๆ ก็คือ จะให้แม่ไปทาบทามแม่เพลงนั่นล่ะ แม่ก็ถามว่าคุยกับดำหรือยัง พี่เขาบอกว่าคุยแล้ว และก็ไม่เห็นดำว่าอะไร เธอบอกต่อ แล้วทางโน้นเขารู้หรือยังครับ
เขาถามออกไปแทบจะไม่เต็มเสียง และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงความผิดหวังออกมาทางสีหน้าให้มารดาได้เห็น เหมือนหลาย ๆ ครั้งที่เขาเคยทำมา แต่เขาก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่า ครั้งนี้ช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวเอาไว้ได้
เห็นพี่เขาบอกว่ารู้แล้วนะ เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่อย่างเดียวว่าถ้าแต่งงานกันไปแล้ว เขาจะไม่ย้ายมาอยู่นี่ แต่พี่เราจะต้องไปอยู่ที่โน่นแทน หรือไม่ก็หาเรือนหอหลังใหม่ ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เพราะแม่เพลงห่วงพ่อเขา ลัดดาบอกต่อและจ้องมองพิรุธจากลูกชาย แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
ก่อนที่แม่จะทำอะไร แม่อยากจะถามดำก่อนว่า ลูกเห็นเป็นยังไง แต่ความจริงแม่ก็ดีใจนะ ที่เห็นพี่เราดูมีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อก่อน พี่เขารับเคราะห์และเสียสละให้พวกเรามากแล้ว ถึงแม้ว่าการเสียสละจะถือว่าเป็นการเสียแรงเปล่าก็เถอะ แต่แม่ก็เห็นว่าพี่เขายอมเสียสละเพื่อพวกเรามาก ถ้าสิ่งไหนที่ทำให้พี่เขามีความสุข แม่ก็ไม่อยากจะขัด ถึงมันจะมีรอยแผลบ้างระหว่างบ้านเขาและบ้านเรา แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างลืม ก็คงจะไม่มีอะไรมาก ดำคิดว่ายังไงลูก ลัดดาบอกต่อไปเรื่อย ๆ และก็ยังคงจ้องมองไปที่ลูกชายอย่างไม่วางตา
ผมก็คงจะบอกตามที่บอกพี่เด่นมาแล้วล่ะครับ จะทำอะไรก็ตามใจ แม่มีเรื่องแค่นี้ใช่มั้ยครับ ผมง่วงแล้ว เขาบอกอย่างเสียไม่ได้ ถ้าลูกไม่มีอะไรแม่ก็ดีใจ งั้นแม่ก็จะทำตามที่พี่เขาขอก็แล้วกันนะ ขึ้นไปนอนเถอะลูก แม่จะดูข่าวรอบดึกแล้วก็จะไปนอน ลัดดาเห็นอาการที่ไม่อยากจะคุยต่อของลูกชายแล้วก็รีบปล่อยเขาไป ครับเขารับคำแค่นั้น แล้วก็เดินขึ้นชั้นบนไป
เขาลังเลสักพักเมื่อเดินผ่านห้องลูกชาย แต่แล้วก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องตัวเองไป แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้ร่างกายสดชื่นขึ้น แต่ไม่ว่าร่างกายจะสดชื่นแค่ไหน ก็ไม่อาจจะปิดบังดวงตาที่หม่นหมองของเขาไปได้ แทนการเดินไปที่เตียงนอน เขาก็เดินออกจากห้อง และค่อย ๆ เปิดประตูห้องดอนเข้าไปไฟหัวเตียงถูกเปิดขึ้น เขาค่อย ๆ เลื่อนผ้าห่มที่ห่มไว้แค่เอวให้เลื่อนขึ้นไปจนเกือบจะถึงคอให้ลูกชาย พลอยอดคิดถึงในหลาย ๆ ครั้งที่ระพีพรรณได้มาขลุกอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเกือบจะสี่ปี
เขาค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอนข้าง ๆ ลูกชายแล้วก็เอาหลังพิงหัวเตียงคล้ายคนอ่อนแรง แล้วก็หันไปมองระเบียงห้องที่ยังคงมีโต๊ะที่ระพีพรรณเคยใช้เป็นที่สอนหนังสือให้ลูกชายเขา ภาพรอยยิ้มที่เธอมีให้ลูกศิษย์จำเป็นอย่างเอื้ออาทร ขับให้หัวใจเขาเจ็บแปลบอย่างช่วยไม่ได้
เสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน เวลาที่เธอเล่านิทานเรื่องแล้วเรื่องเล่ายังคงก้องอยู่ในหูเขาไม่สร่างซา หมอนข้างใบเล็ก ๆ ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ผู้ที่หลับใหลถูกเขาดึงมากอดแนบอกเอาไว้ ไม่นานร่างหนูน้อยที่บัดนี้เริ่มจะโตเป็นหนุ่มน้อยขึ้นมาทุกที ๆ แล้ว ก็ค่อย ๆ ขยับแล้วเปลือกตาก็ลืมขึ้น เพราะหลับมาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว จึงตื่นมากลางดึกได้
คุณพ่อ ดอนคิดถึงคุณพ่อจังเลยครับ เด็กน้อยบอกเมื่อรู้ว่าพ่ออยู่ใกล้ ๆ และก็ลุกขึ้นมานั่งใกล้ ๆ ผู้เป็นพ่อด้วยความคิดถึง พ่อก็คิดถึงเราเหมือนกัน แล้วทำไมยังไม่หลับล่ะลูกพ่อ เขาอ้าแขนไปโอบร่างลูกชาย และเอื้อมมือไปลูบศีรษะเด็กน้อยอย่างรักใคร่ ก่อนจะก้มลงสูดดมหน้าผากหนูน้อย
หลับแล้วครับ แต่ตื่นตอนที่พ่อมานี่ไงครับ เมื่อกี้ดอนฝันเห็นพี่เพลงด้วย ฝันว่าพี่เพลงกำลังวิ่งหนีดอนไป พ่อครับ ดอนคิดถึงพี่เพลงจังเลย ทำไมไม่ให้พี่เพลงมาทำงานกับเราอีกครับ เด็กชายบอกและแนบแก้มไปกับอกของเขา พี่เพลงคงจะมาอยู่กับเราไม่ได้หรอกลูก เพราะอีกหน่อยเขาก็จะต้องแต่งงานและไปอยู่กับคนที่เขารักแล้ว เขาบอกออกไปอย่างคนเหม่อลอย
แต่งงานกับใครครับ แล้วทำไมพ่อไม่แต่งงานกับพี่เพลงครับ พี่เพลงจะได้มาอยู่กับเรา เอาน้องพิงมาอยู่ที่นี่ด้วย ดอนจะได้มีน้องไงครับ เด็กชายบอกไปด้วยความไม่เดียงสา จะแต่งได้ยังไงครับ ก็พี่เพลงของดอนไม่ได้รักพ่อนี่ เขารักคนอื่น เขาบอกด้วยหัวใจที่เจ็บปวด แล้วพ่อรักพี่เพลงหรือเปล่าครับ เด็กน้อยถาม ถามอะไรน่ะเรา เดี๋ยวนี้ชักจะแก่แดดใหญ่แล้วนะ เขายังคงกอดลูกชายเอาไว้ ก็ถ้าพ่อรักพี่เพลง พ่อก็แต่งงานกับพี่เพลงได้ ทำไมถึงจะแต่งได้ล่ะลูก เขาถามออกไปอย่างนั้น
ก็พี่เพลงเคยบอกดอนว่า พี่เพลงจะแต่งงานกับคนที่รักพี่เพลงไงครับ ถ้าคุณพ่อรักพี่เพลง คุณพ่อก็แต่งงานกับพี่เพลงได้ไม่เห็นจะยากเลย นะครับคุณพ่อ คำพูดของดอนนั้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ก็บั่นทอนจิตใจเขาไม่น้อย ใช่สินะระพีพรรณคงจะแต่งงานกับคนที่รักเธอ ซึ่งนั่นก็คือพี่ชายของเขา แล้วเขาล่ะหัวใจแทบทุกห้องของเขามีแต่เธอไปนั่งจนไม่มีที่ว่างให้ใครแล้ว เธอเคยรู้บ้างไหมว่าเขาคิดยังไงกับเธอ
มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกลูก ผู้ใหญ่น่ะเขามีอะไร ๆ ที่ซับซ้อนมากกว่าที่ดอนเห็นหรือได้ยินนะลูก เขาบอกเด็กน้อยด้วยเสียงที่เหนื่อยอ่อน ก็คงจะมีแต่เวลาอยู่กับลูกชายนี่กระมัง ที่เขาจะไม่ต้องคอยเก็บซ่อนอาการที่เจ็บปวดเอาไว้ แล้วพ่อไม่รักพี่เพลงเหรอครับ น้านิดบอกว่าคุณพ่อหล่อและรวย ผู้หญิงคนไหนก็อยากแต่งงานด้วย ถ้าคุณพ่อรักพี่เพลง ดอนว่าพี่เพลงก็ต้องอยากแต่งงานกับคุณพ่อแน่เลย เด็กชายยังคงไม่ละความพยายาม
เอาไว้พ่อจะไปลองคิดดูนะลูก ว่าพ่อจะทำให้พี่เพลงของลูกรักพ่อได้หรือเปล่า แต่ถ้าพ่อพยายามแล้วพี่เพลงของลูกยังไม่รักและไม่แต่งงานกับพ่อ ลูกก็ต้องยอมรับนะ ว่าเราแพ้แล้ว รู้จักหรือเปล่าครับว่ามีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะ และรู้อภัย เขาบอกออกไป และจากคำสุดท้ายนี่เอง ที่มันทำร้ายจิตใจเขาเป็นที่สุด ก็เพราะเขาไม่รู้จักการให้อภัยนี่ไม่ใช่หรือ ที่มันเป็นหอกคอยมาทิ่มแทงเขาจนเจ็บปางตายได้ขนาดนี้ เพราะเขาเพียงคนเดียวแท้ ๆ ครับคุณพ่อ แต่ดอนคิดว่าพี่เพลงจะต้องแต่งงานกับคุณพ่อดอนแน่ ๆ เลย ก็คุณพ่อทั้งหล่อ ทั้งรวย และยังใจดีอีก ดอนรักคุณพ่อครับ เด็กน้อยบอกและยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
พ่อก็รักดอนนะลูก...เอาล่ะ...พ่อว่าคนเก่งของพ่อควรจะนอนได้แล้วล่ะลูกดึกมากแล้ว พรุ่งนี้จะตื่นสายจนไปโรงเรียนไม่ทันนะ เขาบอกเด็กน้อย และจัดการห่มผ้าให้เหมือนเดิม กู๊ดไนท์ครับพ่อ เด็กน้อยอ้าแขนสองข้างรับกับแก้มของพ่อที่โน้มตัวลงมาจนถึงจมูกลูกชาย กู๊ดไนท์เหมือนกันครับลูกพ่อ หลับฝันดีนะลูกรัก เขาบอกหลังจากจูบลงไปที่หน้าผากลูกชาย แล้วก็ปิดไฟหัวเตียงและนำตัวเองออกมาจากห้อง เขาหันไปหาอีกห้องที่ครั้งหนึ่งระพีพรรณเคยใช้หลับนอนในระหว่างรอให้เขาแน่ใจว่าเธอตั้งท้องหรือยัง เขาทำท่าจะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็หยุดมือไว้แค่นั้น แล้วก็เดินกลับห้องตัวเองเอาดื้อ ๆ
ดำยังไม่นอนเหรอ เสียงเด่นณรงค์ดังมาจากทางบันได จนทำให้เขาที่กำลังจะเข้าไปในห้องต้องหยุดและหันหน้ามาหาพี่ชาย ครับ พี่เด่นไปไหนมากลับเอาป่านนี้ เขารับแค่นั้นและถามออกไปเพราะไม่รู้จะถามอะไรพี่ชายดี อ๋อ...พี่เพิ่งกลับจากบ้านคุณเพลง พอดีวันนี้คุณเพลงออกมาดูช่างที่กำลังทำบิ้วอินให้ลูกค้าน่ะ เขาบอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อพูดถึงระพีพรรณ ทำให้อีกฝ่ายนึกโกรธตัวเองที่ถามคำถามนี้ออกไป เหรอครับ เขาบอก
จริง ๆ แล้ว คุณเพลงไม่ต้องมาดูงานพวกนี้ก็ได้ แต่พอดีว่านายพีเข้ามาทำงานนี้ร่วมกับช่างอีกคนน่ะ ฝีมือนายพีก็ไม่เลวนะ ต่อไปคงจะรับเป็นซับคอนแทรคให้บริษัทคุณโสภาได้ ดีอีกเพราะต่อไปคุณเพลงจะได้ไม่ต้องปวดหัวเวลาหาช่างไม่ได้ เด่นณรงค์สาธยายให้น้องชายฟัง ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้อยากจะรู้เรื่องพวกนี้เลย แต่เขาก็อยากจะเล่า ๆ เพื่อให้เขาได้รับรู้ข่าวสารของระพีพรรณให้ได้มากที่สุด
ถ้าพี่เด่นไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปนอนนะครับ เขาตัดบทเอาดื้อ ๆ เดี๋ยวสิดำ...เอ่อ...คุณแม่คุยกับดำหรือยังเรื่องพี่ เด่นณรงค์ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ คุยแล้วครับ เขาบอก แล้วดำว่าไง เด่นณรงค์ถามอีก
ก็อย่างที่ผมเคยบอกไว้วันนั้นล่ะครับ ผมง่วงแล้ว ขอตัวนะพี่เด่น เขาบอกและไม่รอให้พี่ชายถามอะไรอีก รีบเดินหนีเข้าห้องนอนเอาดื้อ ๆ ทำให้เด่นณรงค์ยิ้มออกมาด้วยความขำกับอาการของน้องชาย
ใบหน้าที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนแบบให้ลูกค้าเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่ประจักษุ์แก่สายตาแล้วว่าผู้มาเยือนถึงห้องนั้นเป็นใคร ระพีพรรณผละจากโต๊ะเขียนแบบแทบจะทันที พี่โสภา มาได้ยังไงคะ เธอทักทายด้วยความดีใจ ก็ขับรถมาน่ะสิจ๊ะถามได้ยายเพลงนี่ยังไงกัน โสภาบอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และทรุดตัวลงนั่งที่ชุดรับแขกด้วยความเคยชิน
แล้วคุณพิสิทธิ์ยอมให้ขับรถเหรอคะ กำลังท้องกำลังไส้อยู่ แล้วตอนนี้หายแพ้ท้องหรือยังคะ ระพีพรรณถามด้วยความห่วงใยเพื่อนต่างวัย ที่ตั้งท้องอ่อน ๆ แล้วหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะจ๊ะ คุณสิทธิ์ไม่รู้หรอกว่าพี่ขับรถมาเอง บอกเขาว่าจะให้คนรถที่บ้านขับมาให้ แต่พอดีคุณพ่อคุณสิทธิ์ต้องไปทำธุระข้างนอกพอดี พี่ก็เลยขับมาเองซะเลย นี่ถ้าคุณสิทธิ์รู้เข้าสงสัยเอ็ดบ้านแตกแน่ ๆ เลย โสภาพูดถึงสามีด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุขยิ่งนัก
ตายจริงงั้นตอนกลับบ้านให้เพลงขับรถไปให้นะคะ เกิดเป็นอะไรขึ้นมากลางทางจะได้ไม่เท่าเสียนะคะ ระพีพรรณบอกด้วยความกังวล แหม...ยายเพลง ทำยังกะตัวเองไม่ขับรถไปไหนต่อไปตอนที่ท้องยังงั้นล่ะ เห็นขับรถเองจนท้องโย้ใกล้คลอดด้วยซ้ำไม่เห็นเป็นอะไร พี่บอกตั้งหลายทีก็ไม่ยอมฟัง แล้วทำไมจะมาห้ามพี่ซะงั้นล่ะ โสภาอดบ่นไม่ได้
ก็มันไม่เหมือนกันนี่คะพี่โสภา ระพีพรรณบอกแค่นั้น แล้วก็รู้สึกเศร้าใจกับเรื่องของตัวเองไม่ได้ จนทำให้โสภาที่พลั้งปากพูดออกไปด้วยความไม่ตั้งใจถึงกับหน้าถอดสี เมื่อเห็นหน้าเพื่อนซีดลง เพลงพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ โสภาบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิดไม่น้อย ไม่เป็นไรค่ะพี่โสภา เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว เพลงไม่เก็บมาคิดหรอกค่ะ อีกฝ่ายบอกไปอย่างนั้นแต่ความรู้สึกที่เศร้าในใจยังคงไม่ห่างหาย แม้จะนานแสนนานแค่ไหน
เอ่อ...จริงสิเพลง แล้วตกลงเพลงจะเอายังไงกับพี่เด่นน่ะ พี่ได้ยินคุณสิทธิ์บอกว่าพี่เด่นจะให้คุณลัดดาไปคุยกับคุณลุงเร็ว ๆ นี้ ใช่หรือเปล่าเพลง โสภาถามในเรื่องที่เธอตั้งใจมาหาระพีพรรณถึงที่นี่ เอ่อ...เพลงไม่รู้ค่ะ เพลงยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่เด่นถึงขั้นนั้นค่ะ ระพีพรรณบอกไปตามความจริง เพราะระหว่างเธอและเด่นณรงค์นั้นในความรู้สึกของเธอคงจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากพี่น้องเท่านั้น
ไม่รู้...จนป่านนี้แล้วเพลงยังไม่รู้อีกเหรอ พี่เด่นก็เป็นคนดีในสายตาพี่ ถ้าเพลงจะลงเอยได้ พี่ว่าก็คงจะดีนะเพลง อย่างน้อย ๆ พี่เด่นก็คงจะรักตาพิงได้ดีกว่าคนอื่น เพลงคิดว่ายังไง โสภาพูดไปตามที่ตัวเองคิด พี่โสภาคะ พี่โสภาก็รู้ว่าเพลงทำไม่ได้ เพลงละอายใจเกินไปค่ะ ที่จู่ ๆ จะมี....เอ่อ... ระพีพรรณหยุดไว้แค่นั้นเพราะพูดไม่ออกอีกต่อไป
ก็ช่างประไรล่ะเพลง นายดำนั่นเคยดูดำดูดีเพลงบ้างหรือเปล่า พี่เห็นแต่วัน ๆ เอาแต่เร่ไปกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า หรือไม่ก็กินแต่เหล้าเมายา วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในคอนโด ทำให้คนอื่น ๆ กลุ้มใจไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่คุณสิทธิ์ จนพี่แทบจะคิดว่านายดำนี่เป็นเมียเขาไปอีกคนแล้วมั้ง โสภาบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย เพลงว่าเราหยุดพูดเถอะค่ะ เอาไว้ให้เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ไข ระพีพรรณตัดบท
ก็ดีเหมือนกันยิ่งพูดยิ่งเบื่อนายดำขึ้นมา...เอ่อ...ว่าแต่เที่ยงนี้จะไปไหนหรือเปล่า ไปกินข้าวกับพี่หน่อยสิ อยากกินส้มตำไก่ย่างจะแย่อยู่แล้ว โสภาบอกและแสดงอาการเปรี้ยวปากขึ้นมาทันที เที่ยงไม่มีค่ะ แต่บ่ายมี ว่าจะไปดูพี่พีที่ไซด์งานก่อน แล้วจะเลยไปหาลูกค้า โทรมานัดให้ไปพบตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วค่ะ ยายจูรับเรื่องไว้ให้ เธอบอก เหรอใครกัน พี่รู้จักหรือเปล่า โสภาถาม
ไม่หรอกค่ะ ลูกค้าใหม่ เห็นบอกว่าซื้อบ้านเอาไว้อยากจะตกแต่งภายในก็เลยให้เพลงไปดูแล้วก็ให้เสนอราคาไปแข่งกับคนอื่นด้วย ระพีพรรณบอก แหม...เสน่ห์แรงใหญ่แล้วนะ มาทำงานแทนพี่ไม่เท่าไหร่มีลูกค้ารายใหม่มาเยอะเลย พี่เปรมนี่ชมเพลงไม่ขาดปากเลย งั้นไปกันเถอะหลานเริ่มหิวส้มตำแล้ว โสภาบอกและลูบท้องตัวเองเบา ๆ แต่ว่าพี่โสภาต้องให้เพลงขับรถไปส่งที่บ้านก่อนนะคะ ลูกค้านัดสี่โมงเย็นน่ะค่ะ มีเวลาไปส่งพี่โสภาได้เยอะเลย เธอบอกด้วยความเป็นห่วง จ้าแม่คุณ แล้วรถพี่จะให้ใครขับกลับล่ะ โสภาถาม
เพลงจะให้จูขับไปไว้ที่บ้านให้ก็แล้วกันนะคะ ขากลับบ้านให้นั่งแท็กซี่กลับ ระพีพรรณบอก และเก็บข้าวของจากโต๊ะเท่าที่จะใช้งานสำหรับลูกค้ารายใหม่ ไปค่ะ เธอบอกและเดินนำหน้าโสภาเพื่อไปเปิดประตูให้ และเธอก็ไม่ลืมที่จะบอกเลขาให้ปิดออฟฟิศให้ เพราะจะไม่กลับเข้ามาที่ออฟฟิศอีกแล้ว
รถป้ายแดงที่ระพีพรรณเพิ่งจะถอยออกมาได้ไม่นาน คันเก่านั้นยกให้ระพีพงศ์เอาไปใช้แทน เพราะเวลาทำงานบางครั้งจะไม่ค่อยตรงกัน ระพีพรรณค่อย ๆ ชลอความเร็วของรถและชิดเข้าข้างทางเพื่อยกแผนที่ ๆ ได้จากเลขาฯ ขึ้นมาดู ว่ามาถูกตามที่ลูกค้าแฟ็กส์ไปให้หรือไม่ แล้วเธอก็มองเห็นป้ายโครงการบ้านจัดสรรอยู่ไม่ไกลจากเบื้องหน้า จึงขับตรงไปและแจ้ง รปภ. หน้าหมู่บ้านสักพักก็นำรถไปจอดไว้หน้าสำนักงานขาย และรีบวิ่งเข้าไปสอบถามรายละเอียด ไม่นานก็มือพนักงานสาวเดินตามเธอมาแล้วก็ทำท่าชี้มือชี้ไม้เข้าไปในหมู่บ้าน ระพีพรรณรีบขับรถไปตามทิศทางของคนบอกที่นั่งรถมาด้วย ไม่นานเธอก็พบบ้านของลูกค้าที่อยู่เป็นหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน
ระพีพรรณลงจากรถและเดินตามผู้ร่วมทางที่เดินตรงไปเปิดประตูบ้านเข้าไปอย่างง่ายดาย เพราะมีกุญแจเป็นพวงใหญ่ เธอเดาว่าเจ้าของบ้านคงจะมอบให้โครงการดูแลให้ไปพราง ๆ ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่จริงนั่นเอง ไม่นานพนักงานก็เดินนำเธอไปในตัวบ้าน
คุณสมพงษ์กับภรรยาบอกว่าอีกสักพักจะมาถึงค่ะ ให้เชิญคุณดูสถานที่โดยรอบ ๆ ไปก่อน ห้องด้านบนมีสามห้องนอนค่ะ เจ้าของบ้านบอกว่าอยากแต่งออกแนวบาหลี ๆ ค่ะคุณจะไปดูข้างบนก่อนก็ได้นะคะ ดิฉันจะรออยู่ข้างล่างก็แล้วกันค่ะ พนักงานบอกแล้วก็ลอบถอนใจออกมาเมื่อสิ่งที่พูดผ่านพ้นไปด้วยดี ค่ะ งั้นถ้าคุณสมพงษ์มาก็รบกวนขึ้นไปเรียกดิฉันด้วยนะคะ
ระพีพรรณบอก ก่อนจะหอบเอาสมุดพกและตลับเมตรพร้อมอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายใหญ่ทำจากกระจูดซึ่งเป็นข้าวของที่ระพีพรรณชอบมาก เพราะเป็นอะไรที่เป็นของไทย ๆ เหมือนกับเสื้อผ้าที่เธอใช้แต่งอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นแบบไทย ๆ ที่เธอชื่นชอบมานาน แต่ก็ห่างหายการแต่กายแบบนี้ไปนาน เพราะต้องใส่ยูนิฟอร์มแทนเมื่อครั้งยังทำงานอยู่ที่บ้านลัดดา พอหลังจากนั้นก็ยังไม่ได้ใช้อยู่ดี เพราะท้องเริ่มโตขึ้นจะมีโอกาสได้ใช้ก็หลังคลอดลูกแล้วนี่เอง
และกับเครื่องแต่งกายเหล่านี้ ช่างทำให้เธอดูดีและมีสง่ายิ่งนัก ด้วยร่างที่บอบบาง สูงโปร่ง เอวที่คอดกิ่วได้รูป และหน้าอกที่ยังเต่งตึงถึงแม้ว่าลูกชายเธอยังคงกินนมแม่อยู่จนทุกวันนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ทรวดทรงเธอเสียไปแต่อย่างใด ระพีพรรณเดินสำรวจห้องต่าง ๆ มาจนถึงห้องสุดท้ายซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้าน
ระพีพรรณมองห้องอย่างพินิจพิเคราะห์ และก็วาดภาพในใจเอาไว้ว่าจะออกแบบให้เป็นแบบไหน แล้วเธอก็เหมือนได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาชั้นบน หญิงสาวหันไปทางประตูที่เธอเปิดทิ้งเอาไว้ แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อร่างของผู้มาเยือนเป็นคนที่เธอคิดไม่ถึง
คุณจะไปไหน นัดใครเอาไว้เหรอ ดนุพรถามทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังยืนพิงขอบประตูอยู่เพื่อขวางเธอเอาไว้ เพราะทันทีที่เธอพบว่าเป็นเขา เธอก็ทำท่าจะเดินหนีออกไปโดยเร็ว
|
Create Date : 27 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2551 16:04:29 น. |
|
2 comments
|
Counter : 647 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:19:03:23 น. |
|
|
|
โดย: สวนส้มน้อยคอยรัก IP: 124.120.70.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:21:34:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุนค่าาาาาา (^o^)