รอยอาญา ๒๙ (ธัญรัตน์)
สวัสดีค่ะ ระพีพรรณไหว้เขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แล้วเขาก็รับไหว้ตามมารยาท แล้วนี่ยายแนนลูกสาวป้าค่ะ นินทกาลแนะนำต่อ ระพีพรรณยิ้มให้ด้วยความมีไมตรี แต่ก็ไม่ได้ยกมือไหว้ เพราะคิดว่าอายุคงจะไล่เลี่ยกันหรืออาจจะอ่อนกว่าเธอด้วยซ้ำ ส่วนนัชนินที่ก็แค่รับเฉย ๆ
ป้ารู้สึกผิดจริง ๆ เลยค่ะ ที่ไปบอกคุณโสภาว่าต้องให้ช่างมาหาที่บ้านให้ได้ ไม่รู้ว่าหนูเพลงกำลังท้อง ถ้าติดปัญหาแบบนี้ ป้าให้คนอื่นทำให้ก็ได้นะคะ ป้าเกรงใจจริง ๆ เลย แต่ตาหนึ่งสิคะระบุมาว่าต้องให้คนที่ออกแบบโรงแรมคุณมงคลทำให้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะไม่พาเมียฝรั่งเข้าบ้านเลยล่ะค่ะ ป้าล่ะกลุ้มใจจริง ๆ เลย นิทนกาลบ่น
งั้นคุณแม่ก็ไม่ต้องให้พี่หนึ่งกลับมาสิคะ แนนจะได้ยึดบ้านหลังนี้เลย เรือนหอแนนก็ยังไม่มีนะคะ นัชนินพูดพร้อม ๆ กับกระชับมือที่คล้องแขนดนุพรเข้าให้แน่นกว่าเดิมอีก จนทำให้ระพีพรรณไม่อยากจะมองอีกต่อไป
งั้นเพลงขอเดินดูห้องก่อนนะคะคุณป้า เธอรีบตัดบทแล้วผละจากไป ทิ้งให้ดนุพรมองตามหลังไป พร้อม ๆ กับในหัวใจนั้นรู้สึกสับสนอลม่านกับเหตุบังเอิญในวันนี้เป็นที่สุด ใจหนึ่งเขาก็อยากจะเดินเข้าไปอุ้มเอาเจ้าของร่างที่ดูจะมีเนื้อมีหนังขึ้นกว่าเมื่อก่อน ให้กลับไปอยู่ที่บ้านและเป็นคู่ชีวิตของเขาตลอดไป
แต่อีกใจก็ดูเหมือนจะกังวลว่าหากทำแบบนั้นแล้ว ตัวเองจะเสียเหลี่ยมและเชิงชายเอาเสียเปล่า ๆ ก็ในเมื่อประกาศออกปาว ๆ ว่าเกลียดเขาทั้งโคตร แล้วเรื่องอะไรจะไปรักลูกสาวเขา แต่เขาก็ได้แค่คิดและยืนอยู่ที่เดิมอย่างนั้น
ไหนคุณบอกฉันแล้วไงว่าไม่ได้บอกใครว่ายายเพลงอยู่ที่ไหน แล้วทำไมอีตาดำนั่นถึงได้ไปเล่นงานยายเพลงอีกล่ะคุณพิสิทธิ์ โสภาขึ้นเสียงทันทีที่รับรู้เรื่องราวจากปากของภคินหลังจากที่ทั้งสองกลับจากบ้านนินทกาล ส่วนเธอและพิสิทธิ์ก็ล่วงหน้ามาตั้งโต๊ะอาหารรออยู่บ้านของระพีพรรณก่อนแล้ว
ผมไม่รู้จริง ๆ นะคุณ แล้วทำไมคุณไม่บอกผมล่ะว่าบ้านลูกค้าคุณเป็นคุณนินทกาลแม่คุณแนน ผมจะได้บอกว่านายดำเขาเป็นแขกประจำอยู่ พิสิทธิ์บอกออกไปโดยที่ไม่ทันได้คิด จนโสภาต้องจ้องตาเขม็งเขาจึงรู้ตัว
ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่โสภา อย่าไปโทษคุณพิสิทธิ์เลยค่ะ เพลงไม่ได้คิดอะไร เราต่างคนก็ต่างอยู่ ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ต้องพบกัน แต่ถ้าสังคมหรือหน้าที่การงานทำให้เราต้องพบปะกัน เราก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกันกับเรื่องงาน มันจะพลอยทำให้เสียหายไปกันหมด ระพีพรรณบอก แต่ในความคิดนั้นยังคงจำสีหน้าของนัชนินได้ไม่ลืมว่าปลาบปลื้มใจแค่ไหนที่ได้ควงเขา
แต่ผมขอยืนยันนะครับคุณเพลงว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย และผมก็เชื่อว่าดำก็คงจะไม่รู้เหมือนกันว่าคุณเพลงจะเป็นคนไปทำงานให้คุณนินทกาลครับ พิสิทธิ์พูดเสียงเข้ม เพื่อเป็นการยืนยันตัวเอง คุณก็พูดได้สิ ถ้าฉันมีหลักฐานว่าคุณวางแผนกับเพื่อนคุณนะ ชาตินี้ทั้งชาติเราอย่าได้มาคบกันอีกเลย ฉันล่ะเกลียดจริง ๆ เลย พวกใจร้ายนี่ โสภาไม่ยอมหยุด
เอาล่ะ ๆ ลุงว่าเราอย่าไปโทษคุณพิสิทธิ์เลยนะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว ว่าแต่เพลงต้องไปทำงานที่นั่นอีกหรือเปล่าล่ะลูก กำพลรีบห้ามทั้งสองและเปลี่ยนเรื่องทันที คงไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวจะฝากให้พี่โสภาเอาแบบไปเสนอค่ะ คุณนินทกาลเองก็บอกว่าถ้าเพลงไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร แต่เพลงก็จะดูงานนี้ให้ค่ะ ระพีพรรณบอก
งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วนะลูก เราก็อยู่ส่วนเราเขาก็อยู่ส่วนเขา กำพลบอกลูกสาว แต่ในใจนั้นรู้สึกสงสารลูกสาวเป็นที่สุด ค่ะคุณพ่อ ระพีพรรณรับคำบิดาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก จริงสิเพลง พี่ว่าช่วงนี้จะให้ภคินมาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อเกิดปวดท้องคลอดก่อนกำหนดจะได้พาไปโรงพยาบาลได้ทันไง โสภาบอก
คงไม่ต้องก็ได้ค่ะพี่โสภา เพลงกะว่าจะไปนอนโรงพยาบาลก่อนวันหมอนัดสักวันสองวัน ขอคุณหมอเอาไว้แล้ว หรือถ้าเกิดปวดท้องก่อนหน้านั้นอีก เพลงก็จะเรียกรถพยาบาลค่ะ โรงพยาบาลเอกชนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่เธอบอกให้โสภาหมดกังวล
แล้วคุณเพลงได้วันคลอดแล้วเหรอครับ ถ้าผมว่างผมจะได้มาช่วยอีกแรงหนึ่ง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะครับ ไม่ต้องเกรงใจให้ผมได้ทำอะไรเพื่อเพื่อนบ้างนะครับ พิสิทธิ์บอกด้วยน้ำเสียงที่อาทรต่อระพีพรรณจนทำให้โสภานั้นรู้สึกดีไปด้วย ขอบคุณ คุณพิสิทธิ์มากค่ะ พี่โสภารู้รายละเอียดทุกอย่างค่ะ ถ้าพี่โสภาบอกคุณพิสิทธิ์เพลงก็ไม่มีปัญหาค่ะ ระพีพรรณบอกและยิ้มให้โสภาเป็นเชิงแหย่ให้หายโมโห
ฝันไปเถอะคุณน่ะ เดี๋ยวก็ไปบอกอีตาดำหน้าดุให้ควงสาวมาเย้ยยายเพลงพอดี....อุ๊ย โสภาลืมตัวไปจี้จุดให้ระพีพรรณที่พอจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าขึ้นมาเมื่อสักครู่นั้นค่อย ๆ จางหายไป เอาเป็นว่าเราสามคนถ้าใครว่างมาช่วงนั้น พวกเราจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณเพลงก็แล้วกันนะครับ ภคินเสนอหลังจากที่เห็นพี่สาวและคนข้างตัวถกเถียงกันอยู่นาน
ลุงก็ว่าอย่างนั้นล่ะคิน แต่ยังไงลุงก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คนเลยนะ ที่ห่วงยายเพลงและคอยช่วยเหลือพวกเรามาโดยตลอด กำพลบอกและยิ้มให้กับไมตรีจิตที่เพื่อนต่างวัยของเขาคอยช่วยกันหยิบยื่นให้ แล้วเขาก็หันไปยิ้มกับโป่งที่เอาแต่นั่งกินข้าวโดยไม่ได้พูดอะไรตามประสาคนพูดน้อยอย่างเขา และโป่งก็ยิ้มตอบเจ้านายตามปกติ
บ
ดวงตาที่ปิดลงอย่างช้า ๆ ของผู้ที่นั่งรับศีลรับพรจากพระที่เธอเพิ่งจะตักบาตรเสร็จ ถึงแม้ภายนอกผู้ที่นั่งอยู่ดูจะมีอาการสงบนิ่ง แต่ในใจก็ไม่วายคิดไปถึงใครคนหนึ่งที่มีสาวสวยคอยเดินเคียงข้าง คอยเกี่ยวแขนเขาเอาไว้ประหนึ่งจะแสดงความเป็นเจ้าของก็ไม่ปาน แล้วกับสายตาที่ดูจะห่างเหินเหลือเกินเมื่อเวลาที่เขามองมาหาเธออย่างเสียไม่ได้ เพียงแค่คิดน้ำตามันก็ไหลรินออกได้มาไม่ยากเลย ดวงตาที่ปิดอยู่ค่อย ๆ เปิดขึ้น เมื่อเธอรับรู้ว่าพระได้เดินห่างออกไปไกลพอสมควรแล้ว
หญิงสาวรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่ท้อง เมื่อทารกดิ้นอย่างแรงจนต้องหยุดเดินไปชั่วขณะ มือเอื้อมไปลูบท้องด้วยความรู้สึกผูกพันกับทายาทของเขาที่กำลังจะเกิดมาในอีกไม่กี่วันนี้ เธอได้รับรู้ความผูกพันจากลูกที่อยู่ในท้องว่ามีต่อเธอมากแค่ไหน ในทุก ๆ ครั้งที่เธอรู้สึกเศร้าเสียใจจากการกระทำของผู้เป็นพ่อ ลูกจะแสดงออกให้เธอรับรู้ด้วยการดิ้นแรง ๆ
เหมือนจะบอกให้เธอว่า ไม่เพียงแต่แม่เท่านั้นที่เจ็บปวด หากแต่มีลูกด้วย ที่ร่วมรับรู้ไปด้วยแทบทุกครั้ง น้ำตาเจ้ากรรมมันไม่ยอมหยุดไหล พลอยทำให้เรี่ยวแรงที่จะเดินเหินนั้นหายไปดื้อ ๆ จนต้องค่อย ๆ พาตัวเองไปนั่งกับม้านั่งไม้ตัวยาวที่มีสภาพเก่าพอ ๆ กับบ้านที่ตั้งไปไว้ไม่ห่างจากหน้าบ้านนัก
เธออดคิดไม่ได้ว่าชีวิตวันข้างหน้าของตัวเอง และลูกจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน และก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ หากลูกที่เกิดถามหาพ่อผู้ให้กำเนิด เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้มแข็งและจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัวได้นานแค่ไหน เพราะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับหนทางที่เดินมา
แล้วความคิดก็กลับไปยังจุดเดิมนั่นคือใบหน้าของใครบางคน ที่เขาแทบจะไม่เคยเหลียวแลหรือห่วงหาอาทรเธอกับทายาทเลยแม้แต่น้อย เขาเกลียดบิดาเธอและผู้ที่สืบเชื้อสายเดียวกันมากจริง ๆ มากจนยอมทำทุกอย่าง ยอมให้ลูกแท้ ๆ ของตัวเองมาตกระกำลำบากโดยที่ไม่เคยแม้แต่จะสนใจ
เธอยังจดจำภาพที่เขาบอกปัดความรับผิดชอบวันนั้นได้ไม่ลืมเลือน ใบหน้าที่เฉยชาไร้ซึ่งความรู้สึดใด ๆ ให้เธอได้เห็น เพียงคิดแค่นั้น น้ำตาก็ถูกปล่อยให้หลั่งไหลออกมาโดยที่เจ้าของไม่คิดจะหักห้ามใจเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
เพลง กำพลที่ค่อย ๆ เข็นรถมาหาลูกสาวด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดแทนแก้วตาดวงใจของเขาเหลือเกิน คิดอะไรอยู่ลูก เขาเอื้อมมือไปจับมือลูกเอาไว้ด้วยความรัก พร้อมกับถามคำถามที่เขาแทบจะไม่ต้องการคำตอบใด ๆ คุณพ่อ... ระพีพรรณมองหน้าบิดาด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
ร้องเถอะลูก ถ้าน้ำตามันจะทำให้ลูกพ่อเจ็บปวดน้อยลง พ่อขอโทษนะลูก ที่การกระทำของพ่อในอดีตต้องย้อนมาทำร้ายลูกพ่อขนาดนี้ กำพลบอกด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดเหลือเกิน คุณพ่ออย่าโทษตัวเองอีกต่อไปเลยค่ะ เพลงต่างหากที่ควรจะเป็นคนขอโทษคุณพ่อ เพลงเป็นลูกไม่ดี ตอบแทนพระคุณที่คุณพ่อเลี้ยงมาไม่ได้ เพลงเป็นลูกที่แย่ใช่ไหมคะพ่อ ระพีพรรณร่ำไห้ให้บิดาได้เห็น
เพลงเป็นลูกที่ดีของพ่อเสมอมาลูก แต่พ่อไม่สบายใจเลยที่ต้องเห็นเพลงเจ็บปวดเพราะผลกรรมที่พ่อก่อเอาไว้ เขาคงจะโกรธและเกลียดพ่อมาก ถึงได้ทำกับลูกพ่อขนาดนี้ พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ ช่างเขาเถอะค่ะคุณพ่อ เขาจะคิดยังไงกับเราก็ช่างเขา เราต่างคนก็ต่างอยู่แล้วค่ะ เพลง...ลูกรักเขาใช่มั้ย กำพลตัดสินใจถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้เมื่อหลายเดือนมาแล้ว
เพลง.....เอ่อ...เพลงรักคนที่เกลียดเพลงไม่ได้หรอกค่ะคุณพ่อ เขาใจร้ายเกินไป เกินกว่าที่เพลงจะรักเขาได้ คุณพ่อได้ยินไหมคะ ว่าผู้ชายคนนี้ใจร้ายกับเพลงเหลือเกิน เพลงรักเขาไม่ได้ เธอพร่ำบอกทั้งน้ำตาที่ไหลรินออกมาสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เป็นบิดายิ่งนักจนไม่สามารถห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาให้ลูกเห็นได้ คุณพ่อ ระพีพรรณโผเข้ากอดบิดาด้วยความรักเมื่อเห็นน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาพ่อ
เอกสารที่เมธิตาหอบมาไว้ให้ที่คอนโดตั้งแต่เช้า ยังคงกองอยู่บนโต๊ะแทบจะยังไม่ได้ผ่านมือเขาไปเลยด้วยซ้ำ เขาทิ้งเรื่องเหล่านี้เอาไว้เบื้องหลังมาตั้งแต่เช้า แล้วตัวเองก็นอนทอดกายไปกับชุดรับแขกตั้งแต่อาหารมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นไป ไม่ว่าเขาจะพยายามข่มตาให้หลับ และลืมเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดยังไง เขาก็ไม่สามารถห้ามความคิดตัวเอง ให้ออกห่างจากร่างที่ดูจะอวบขึ้น พร้อม ๆ กับชุดคลุมท้องสีอ่อน ๆ กับใบหน้าที่ขมักเขม้นกับการทำงาน
โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่า จะมีสายตาของเขาคอยแอบมองอยู่ไม่ห่าง เธอคงจะไม่เห็นเขาในสายตามานานแล้ว แขนที่ดูจะหนักอึ้งถูกยกขึ้นมาก่ายไว้ที่หน้าผากอย่างช้า ๆ คำถามต่าง ๆ นานา ผุดขึ้นมาในความคิดเขาอีกแล้ว และคำตอบที่มีเขาก็คงพอจะเดาออกได้จากสายตาที่เฉยชาของอีกฝ่าย
ผมคิดถึงคุณเหลือเกินเพลง ผมรักคุณ อยากให้คุณมาอยู่ในอ้อมกอดของผมเหมือนที่เคยเป็นมา แล้วคุณล่ะเคยรักผมบ้างมั้ย คุณเคยมีความสุขบ้างมั้ยเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน
หัวใจเขาเฝ้ารำพึงรำพันถามตัวเองมาโดยตลอด แต่มันก็เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในใจเขาเท่านั้น เขาไม่ยอมที่จะแสดงออกมาให้ใครได้เห็นได้ เวลานี้เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนเหลืออยู่ตัวคนเดียว ระหว่างความแค้นที่มีในหัวใจ กับความรักที่มีต่อทายาทศัตรูนั้น เขาเองก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าความรู้สึกไหนมีมากน้อยกว่ากัน
เขาอยากจะเห็นหน้ากำพลว่าจะรู้สึกอย่างไรที่ลูกสาวที่รักถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขา จากบ้านช่องที่ใหญ่โตโอ่อ่าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แทบทุกอย่าง มาเป็นบ้านกลางสวนหาความสะดวกสบายไม่ได้ ป่านนี้กำพลจะดื่มด่ำกับความลำบากอย่างไร และจะรู้ซึ้งหรือยังว่ารสชาติของการสูญเสียนั้น มันเป็นอย่างไร เขารู้สึกว่าชัยชนะที่เขาได้รับจากการแข่งขันระหว่างเขากับกำพลนั้น ไม่ได้สร้างความสุขให้กับเขาแม้แต่น้อย
และเหนือสิ่งอื่นใดเขารู้สึกว่าเขากำลังจะแพ้หัวใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เขาเคยพร่ำบอกตัวเองเสมอมาว่า เขาจะต้องไม่เผลอใจไปรักลูกศัตรู และเขาจะต้องเลือกรักผู้หญิงที่เขาจะรัก แต่หัวใจเจ้ากรรมมันก็ไม่เคยฟังสิ่งที่เขาบงการเอาไว้เลย เสียงดังของโทรศัพท์ ปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ แรกทีเดียวเขาอยากจะปิดทิ้ง แต่พอรู้ว่าเป็นใครเขาก็รีบรับทันที
เป็นยังไงบ้าง เขากรอกเสียงถามไป เหรอ แล้วทำไมมันนานจัง ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ เอาล่ะเดี๋ยวผมจะไปแล้ว คุณช่วยดูให้หน่อยว่าแถวนั้นมีโรงแรมเล็ก ๆ อยู่บ้างหรือเปล่า จะได้ไปพักแถวนั้น คุณก็จะได้พักด้วย
เขาบอกอีกฝ่ายออกไปแล้วก็รีบวางสาย สีหน้าที่บอกถึงความกังวลมีเต็มเปี่ยม แต่เขาก็ทำอะไรได้ไม่มากนอกจากรอ เขาภาวนาขอให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะต้องเป็นคนที่เสียใจที่สุด และก็คงจะหาความสุขไม่ได้จากชีวิตที่เหลือเป็นแน่
เขารีบลุกเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ แต่ก็เดินยังไม่ถึงประตูห้องดีนัก ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เขาแทบจะวิ่งกลับมารับเลยทีเดียว แต่คราวนี้เขาค่อนข้างจะผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ใช่คนที่เขาคิดเอาไว้
มีอะไรสิทธิ์ เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใคร่จะยินดีนัก เอ้ย...ทำไมนัดไกลจังวะ เอาไอ้ที่มันใกล้ ๆ ไม่ได้เหรอ จะกินที่ไหนมันก็เมาพอกันนั่นล่ะ เขาถามกลับไปเมื่อรู้ว่าจุดหมายของคนโทรเข้ามาคืออะไร แล้วไอ้พวกนั้นมันจะถึงหรือยังล่ะ ถ้าถึงก่อนก็กินกันไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันไป แล้วแกอยู่ที่ไหนตอนนี้...อะไรนะ ไปทำอะไรที่โรงพยาบาล...ลูกความแกนี่รู้สึกจะชอบโรงพยาบาลนะ...เอ่อ ๆ เดี๋ยวไปแล้ว แค่นี้นะ
เขาวางสายลง แล้วก็ยิ้มให้กับตัวเองที่ได้ย้อนรอยเพื่อนรักได้ นี่ถ้าพิสิทธิ์ได้รู้ความจริงเข้าสักวัน เขาก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่าจะโดนต่อยหน้าเข้าให้ไปสักกี่หมัด แต่เขาก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เวลาแทบจะไม่ถึงสิบนาที เขาหันไปมองเอกสารที่โต๊ะก่อนจะผละออกจากห้องไป
ท่าทีที่กระวนกระวายอยู่หน้าห้องคลอดของโสภาทำให้พิสิทธิ์ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู หลังจากที่เขาแอบหนีเธอออกไปโทรศัพท์ คุณยิ้มอะไรคะ โสภาถามด้วยความสงสัย ก็ผมขำน่ะสิ คนที่คลอดลูกน่ะคุณเพลงนะคุณ แต่ดูคุณสิทำยังกับจะเป็นแม่ซะเอง งั้นสงสัยเราต้องรีบแต่งงานกันแล้วล่ะดีมั้ย เขาแหย่เธอ
นี่คุณน่าสิ่วหน้าขวานยังจะมาพูดเล่นอยู่ได้ ยายเพลงจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ทำไมไม่ออกมาซักที นี่ก็นานแล้วนะ ปวดท้องตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่คลอดอีก
โสภาทำตาดุใส่เขา เพราะความกังวลว่าทำไมเพื่อนไม่ยอมคลอดสักที ทั้ง ๆ ที่เริ่มปวดท้องตั้งแต่เมื่อคืนจนต้องโทรตามภคินที่ตั้งใจว่าจะไปนอนที่บ้านระพีพรรณในคืนของวันรุ่งขึ้น เพราะว่าเป็นวันที่ระพีพรรณเตรียมจะมานอนโรงพยาบาลรอคลอดก่อนวันหมอกำหนดไว้สองวัน แต่ก็ปวดท้องก่อนจึงทำให้ทั้งบ้านวุ่นวายไม่น้อยเพราะทำอะไรไม่ถูก ดีแต่ที่ระพีพรรณเตรียมข้าวของเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็เลยตัดปัญหาในข้อนี้ไปได้
แต่จนป่านนี้ระพีพรรณก็ยังไม่คลอดเสียทีทั้ง ๆ ที่ปวดท้องมานานแล้ว ยังผลให้โสภารู้สึกกังวลไม่น้อย เพราะความที่ตัวเองยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ก็เลยไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลามากแค่ไหน
คุณเพลงอยู่ใกล้ ๆ หมอคงไม่เป็นอะไรหรอกคุณ ใจเย็น ๆ เถอะ เขาบอกพร้อม ๆ กับดึงโสภาให้กลับไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้องคลอด ก็ฉันห่วงเพื่อนฉันนี่ คุณลุงโทรมาถามตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ อยากรู้ว่าหลานปลอดภัยหรือเปล่า จนป่านนี้ยังไม่คลอดเลย โสภาไม่วายห่วง เชื่อผมเถอะคุณ เพื่อนคุณน่ะเป็นคนดี รับรองว่าคุณเพลงไม่เป็นอะไรหรอก ใจเย็น ๆ แล้วเรื่องของเราล่ะว่าไง เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดี พิสิทธิ์วกกลับมาเรื่องเดิม
แล้วใครบอกว่าฉันจะแต่งกับคุณล่ะ อย่ามาขี้ตู่นะ โสภาพูดด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเอียงอาย อ้าวแล้วกันสิคุณ ผมนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก ถ้าคุณไม่ยอมแต่งงานกับผมนะ ผมจะ.... ไม่ทันที่เขาจะได้พูดต่อ พยาบาลก็ออกมาจากห้องคลอด เป็นยังไงบ้างคะคุณพยาบาล โสภาชิงลุกไปก่อนและถามออกไปด้วยความห่วงใย
คลอดแล้วค่ะ ได้ลูกชาย แต่แม่ยังไม่ปลอดภัยค่ะ พยาบาลบอก อ้าวทำไมล่ะคะ โสภาตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ คนไข้เสียเลือดในการคลอดลูกมากเกินไปค่ะ ตอนนี้ต้องให้เลือดก่อน และเราต้องรอเลือดจากโรงพยาบาลอื่นที่จะส่งมาให้อยู่ค่ะ ขอตัวนะคะ พยาบาลบอกแล้วก็รีบเดินไป
ยายเพลงโธ่ จะเป็นอะไรมากหรือเปล่าก็ไม่รู้ โสภารำพัน คุณรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมจะไปดูว่าคุณพยาบาลจะทำยังไงต่อ พิสิทธิ์บอกและรีบวิ่งไปโดยที่ไม่ได้สนใจว่าโสภาจะถามอะไรอีก ไม่นานเขาก็ตามมาทันพยาบาล คุณพยาบาลครับ แล้วเลือดที่จะส่งมาอีกนานหรือเปล่าครับ
ยังไม่ทราบว่าจะได้จากที่ไหนค่ะ ต้องรอผลการติดต่อประสานงานก่อน เพราะเลือดคนไข้เป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากค่ะ พยาบาลบอกและเดินไปด้วย กรุ๊ปอะไรครับ พิสิทธิ์ถาม
ถึงหรือยังวะ มาเร็ว ๆ หน่อยสิ พิสิทธิ์พูดกรอกไปตามโทรศัพท์ด้วยความร้อนรน ใกล้จะถึงหรือยังคะ พยาบาลคนเดิมเดินมาถามเขาที่ใจจดใจจ่อรอผู้บริจาคเลือดอยู่ มาโน่นแล้วครับ แต่คุณพยาบาลอย่าลืมที่ผมบอกนะครับว่าไม่ระบุชื่อผู้รับ เขาย้ำกับพยาบาลอีกครั้งหลังจากที่ได้รับรู้ว่ากรุ๊ปเลือดของดนุพรสามารถให้แก่ระพีพรรณได้
ได้ค่ะ มันอะไรของแกนักหนาวะลูกความแกนี่ คราวที่แล้วก็เงินล้าน คราวนี้ก็จะขอเลือดฉัน แกจะต้องแบ่งเงินปันผลเพิ่มให้ฉันอีกนะ ไม่งั้นฉันจะไม่ยอมจริง ๆ ด้วย เขาถามออกไปอย่างนั้น ขณะที่เดินเข้ามาหาพิสิทธิ์กับพยาบาล งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ พยาบาลบอกและเดินนำไปยังห้องบริจาคเลือด แล้วแกจะขอบคุณฉัน พิสิทธิ์บอกแค่นั้น
ขอบคุณอะไรไม่ทราบ รอยยิ้มที่มุมปากของเขาเพื่อนคงจะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่เขาก็แกล้งถามเพื่อนออกไปพร้อม ๆ กับตัวเองก็เดินตามพยาบาลเข้าไปในห้องโดยมีพิสิทธิ์ตามไปด้วย ก็ขอบคุณที่แกได้ทำบุญไง พิสิทธิ์บอกยิ้ม ๆ แต่ก็ต้องคอยหลบเมื่อพยาบาลที่เข้ามาอีกทีพร้อม ๆ กับอุปกรณ์เจาะเลือด
เอ่อ...แล้วค่อยคุณกันที่ร้านอาหารนะ เพื่อน ๆ รออยู่แล้ว เสร็จแล้วแกก็ไปที่โน่นก่อนเลย เดี๋ยวฉันเสร็จธุระทางนี้แล้วจะตามไป .... ขอบใจมาก ๆ นะดำ พิสิทธิ์บอกเขาและรีบเผ่นออกจากห้องไป เพราะนึกขึ้นได้ว่าผละจากโสภามานานแล้ว ดนุพรยิ้มบาง ๆ ตามหลังเพื่อนไป เพื่อนรักของเขาคงไม่มีวันรู้หรอกว่า วันนี้เขารักเพื่อนมากแค่ไหนที่ทำให้เขาได้มีโอกาสไถ่โทษให้ตัวเองด้วยการให้เลือดกับใครบางคนบ้าง คุณหายไปไหนมาคะ โสภาถามทันทีที่เห็นพิสิทธิ์ตามมาสมทบที่หน้าห้องไอซียู
ผมก็ไปหาคนมาให้เลือดคุณเพลงไง พิสิทธิ์บอกออกไป แต่ก็รู้สึกโกรธตัวเองไม่น้อยที่เผลอไปเปิดทางให้โสภา เพราะเขายังไม่ต้องการให้ใครรู้ความจริงในตอนนี้ โดยเฉพาะโสภา คุณหาเหรอ....แล้วไปหาใคร....ไม่ใช่ไปเหล่พยาบาลสวย ๆ ที่เดินไปเดินมาหรอกเหรอคะ โสภาถามออกไปด้วยเสียงที่ไม่ค่อยปกติ เพราะรู้ดีว่าพิสิทธิ์ไม่ได้บอกความจริง
แหม...คุณนี่รู้ทันผมไปซะทุกเรื่องเลย ก็พยาบาลที่นี่สาว ๆ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ถ้าคุณไม่ตกลงแต่งงานกับผมนะ ผมจะมาจีบแถว ๆ นี้ล่ะ เขาแหย่โสภาด้วยอาการโล่งอก เชิญ...ก็ดี ฉันจะได้เห็นธาตุแท้ของคุณ คุณเองก็คงไม่ต่างอะไรจากเพื่อนรักของคุณนักหรอก โสภาทำสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำบอกเล่าของพิสิทธิ์ โธ่...คุณก้อ ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นล่ะ ใครจะไปเหมาะกับผมมากไปกว่าคุณกัน..แล้วคุณเพลงเป็นยังไงบ้าง แล้วลูกคุณเพลงล่ะ เขาถามอย่างเป็นการเป็นงาน
หมอให้อยู่ไอซียูก่อนค่ะ ถ้าได้เลือดมาให้ยายเพลงแล้วคิดว่าคงจะพ้นขีดอันตราย ส่วนหลานก็อยู่ห้องเด็กอยู่ค่ะ โสภาบอก เฮ้อ....โล่งอกซักที ผมว่าคุณน่าจะพักผ่อนบ้างนะ ไปนอนที่ห้องด้านบนเถอะ ผมจะรอดูอาการคุณเพลงเอง เขาบอกเมื่อเห็นโสภามีสีหน้าที่อิดโรย เพราะรอลุ้นตั้งแต่ระพีพรรณเข้ามาแอดมิดแล้ว ยังค่ะ ฉันอยากจะรอดูว่าหมอได้เลือดมาให้ยายเพลงหรือยัง โสภาไม่ยอม
คงไม่มีอะไรแล้วมั้งคุณ โรงพยาบาลเขาถึงกัน ที่ไหนขาดก็หาที่อื่นมาให้ คุณอย่าห่วงเลย เขาพยายามปลอบใจโสภา แต่หมอบอกว่ากรุ๊ปเลือดยายเพลงเป็นกรุ๊ปที่หายาก ไม่รู้จะหาได้หรือเปล่า โสภาทำสีหน้าที่กังวลไม่น้อย คุณอย่ากังวลมากไปหน่อยเลยน่ะ ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวหมอก็มาบอกเราเองนั่นล่ะ นั่นไงเห็นมั้ย พยาบาลเอาเลือดมาแล้ว เขาบอกเมื่อเห็นพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับเข็นรถที่บรรจุถุงเลือดและอุปกรณ์อื่น ๆ ตรงมายังห้องไอซียู
จริงด้วยค่ะ โสภาเห็นและยิ้มให้พยาบาลด้วยความดีใจ ฉันจะโทรไปบอกคุณลุงก่อนนะคะ แล้วเราค่อยไปรอดูอาการยายเพลงที่ห้องค่ะ โสภาบอกและยิ้มให้พิสิทธิ์ด้วยสีหน้าที่คลายกังวลไปมาก ทำให้พิสิทธิ์รู้สึกสบายใจไปด้วย
คุณพ่อ...ลูกเพลงเป็นยังไงบ้างคะ ลูกเพลงปลอดภัยหรือเปล่าคะ คุณแม่คนใหม่ถามคำถามแรกหลังจากที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องพักแล้ว และเห็นใบหน้าของผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และยิ้มให้เธอด้วยความดีใจ
เพลง...ลูกเพลงปลอดภัยดีจ๊ะ พ่อได้หลานชายนะรู้มั้ย เกือบสี่กิโลแน่ะลูก เดี๋ยวอีกหน่อยพยาบาลคงจะเอาเข้ามาให้นะ กำพลบอกลูกสาวด้วยความดีใจและตื่นเต้นกับสมาชิกใหม่ในบ้าน
แล้วคนอื่น ๆ ไปไหนกันหมดคะพ่อ ระพีพรรณนึกได้ว่าก่อนคลอดมีโสภา และพิสิทธิ์มาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนภคินนั้นกลับไปก่อนเพราะมีงานด่วนต้องรีบไปสะสาง หนูโสภากับคุณสิทธิ์กำลังจะมา สองคนนี้ช่วยดูแลเพลงตั้งแต่เพลงอยู่ไอซียูนะลูก เพิ่งจะได้กลับไปพักตอนที่หมอให้เพลงออกมาอยู่ห้องธรรมดาเมื่อคืนนี้นี่เอง เมื่อเช้าคินก็เลยไปรับพ่อกับเจ้าโป่งมา ตอนนี้ไปซื้อของอยู่ กำพลบอก
ทำไมเพลงต้องอยู่ไอซียูด้วยค่ะพ่อ เธอถามด้วยความสงสัยและจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หมอบอกว่าเพลงปวดท้องค่อนข้างนานกว่าจะคลอดก็เลยเสียเลือดมาก แล้วเลือดก็เป็นกรุ๊ปที่หายากด้วย ต้องไปหาที่โรงพยาบาลอื่นมา โชคดีจริง ๆ ที่หมอหามาให้ได้ทัน ไม่งั้นลูกพ่อก็อาจจะแย่เหมือนกัน เขาบอกและยิ้มให้เธอ พร้อม ๆ กับมือก็เอื้อมไปลูบศีรษะลูกสาวด้วยความรัก
มาแล้วคะ คุณแม่คนใหม่ตื่นแล้วเหรอคะ พยาบาลเอาลูกชายมาส่งให้แล้วค่ะ พยาบาลสองคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับมีทารกน้อยอยู่ในอ้อมแขน ขอบคุณค่ะ
เธอรับทารกน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยเข้ามาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรัก ระคนไปกับความรู้สึกที่อดน้อยใจกับ ผู้ที่มีเลือดในตัวทารกน้อยถึงครึ่งหนึ่ง แล้วน้ำตาของเธอก็หลั่งไหลออกมาฟ้องให้พ่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้เห็น ด้วยเธอไม่อาจจะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป เมื่อเธอรู้สึกเจ็บปวดกับความอาฆาตรแค้นที่เขามีต่อคนรอบข้างของเธอ และมันก็พลอยมีผลกระทบมาถึงชีวิตน้อย ๆ ที่เพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่วัน
ระพีพรรณอดสงสัยไม่ได้ว่า ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอและสายเลือดของเขาในตอนนี้นั้นมันจะเป็นเช่นไร เขาจะคลายความโกรธแค้นกับเรื่องราวในอดีต แล้วหันมาดีใจกับการให้กำเนิดชีวิตใหม่นี้ หรือจะยังคงมีความรู้สึกนั้นเสมอมาไม่เคยเสื่อมคลาย แต่ไม่ว่าความรู้สึกของเขาจะเป็นเช่นไร ท้ายที่สุดเธอก็คือคนที่ได้รับความเจ็บปวดจากการคาดร้ายหมายโทษของเขาไปแล้ว และมันช่างเป็นอาญาแห่งความปวดร้าวยิ่งนัก
เพลง... กำพลเอื้อมมือไปกุมมือลูกสาวเอาไว้ด้วยความสงสาร เมื่อเห็นหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอาบสองแก้ม ลืมเรื่องร้าย ๆ เถอะนะลูกพ่อ ชีวิตของเพลงในวันข้างหน้ายังมีหลาย ๆ อย่าง และหลาย ๆ ชีวิตรอเพลงอยู่นะลูก กำพลปลอบใจเธอด้วยเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวที่มีอยู่ในเวลานี้
ค่ะคุณพ่อ...เพลงจะลืมมันให้ได้ค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ง่ายเลยก็ตาม เธอรับคำบิดาทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจในตัวเองนัก แต่นั่นคือสิ่งที่เธอจะต้องทำให้ได้ เพราะรู้ดีว่ามีอะไรหลาย ๆ อย่างรอเธออยู่ ดั่งคำบิดาได้บอกเอาไว้นั่นเอง
|
Create Date : 14 ตุลาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 20:54:43 น. |
Counter : 910 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|