รอยอาญา ๒๘ (ธัญรัตน์)
คุณเพลง....ใช่คุณเพลงหรือเปล่าครับ ผู้ที่ถูกเรียกหันไปหาเจ้าของเสียง ขณะที่มือก็ยังจับรถเข็นสินค้าที่เต็มไปด้วยข้าวของอยู่นั่นเอง คุณพิสิทธิ์ สวัสดีค่ะ มาทำอะไรแถวนี้คะ เธอทักทายเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร พร้อมกับสีหน้าก็ไม่ใคร่จะสบายใจนักที่จู่ ๆ ก็มาเจอพิสิทธิ์ที่นี่ และมันพลอยทำให้ใบหน้าของดนุพรนั้นลอยตามพิสิทธิ์มาได้ไม่ยากเลยในความคิดของเธอ ผมมาหาลูกค้าที่ห้างครับ ให้ผมช่วยนะครับ แล้วรถคุณเพลงจอดอยู่ที่ไหนครับ เขารีบเดินมาหาพร้อมกับช่วยเธอเข็นรถ
ทางโน้นค่ะ เธอปล่อยมือจากรถเข็นแล้วก็เดินนำหน้า แต่ก็ไปได้ไม่เร็วนัก ด้วยท้องนั้นโตมากแล้ว ทำให้พิสิทธิ์ที่มองตามหลังระพีพรรณอดสงสารไม่ได้ แต่เขาก็มีอาการโล่งอกไม่เบา ที่การพบกันในครั้งนี้ทำให้ระพีพรรณคิดว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เลย เขาใช้คนขับรถตามโสภาอยู่หลายวัน กว่าจะรู้ว่าระพีพรรณอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเขารู้ แต่ก็หาจังหวะที่จะเข้าใกล้ระพีพรรณด้วยเหตุผลที่แนบเนียนไม่ได้ จนสบโอกาสที่เธอออกมาซื้อของ แล้วเขาก็ขับรถตามมา และรอจนเธอซื้อของเสร็จนั่นเอง
ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ เธอบอกเมื่อเดินมาถึงรถ โดยมีพิสิทธิ์ช่วยขนข้าวของเข้าไปเก็บในรถให้ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมครับคุณเพลง เขาพูดและยิ้มเป็นการหยั่งเชิงเอาไว้ เป็นอะไรดีคะ เธอถามและก็ยิ้มให้เขาอย่างเสียไม่ได้ ผมขอข้าวเย็นมื้อหนึ่งก็พอครับ เขาบอกและยิ้มอย่างไม่จริงจังนัก เอ่อ...ปกติเพลงไม่ค่อยกินข้าวนอกบ้านค่ะ แล้วนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย เพลงต้องรีบกลับไปทำกับข้าวให้คุณพ่อค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะคะ วันนี้เพลงขอเสียมารยาทกับคุณพิสิทธิ์สักครั้งค่ะ เธอบอกด้วยความรู้สึกผิดไม่น้อย
งั้นก็ให้ผมไปกินข้าวที่บ้านด้วยก็ได้นี่ครับคุณเพลง บ้านอยู่ไกลหรือเปล่าครับ รถผมจอดอยู่ทางโน้น เขาพยายามต้อนให้เธอจนมุม ตามความถนัดเพราะต้อนใครต่อใครในศาลจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เอ่อ...เพลง...เอ่อ... เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก ผมสัญญาครับ ว่าการพบกันของเราวันนี้จะเป็นความลับ คุณเพลงไม่ต้องห่วง คุณเพลงไว้ใจผมได้ครับ เหมือนเขาจะรู้ใจเธอ
ความจริง ก็คงไม่มีใครอยากรู้ว่าเพลงจะอยู่ที่ไหนหรอกค่ะ เพลงรู้ แต่เพลงก็ไม่ค่อยอยากจะพบปะใครสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณพิสิทธิ์สัญญากับเพลงขนาดนี้ เพลงก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะ งั้นขับรถตามเพลงมาก็แล้วกันค่ะ เธอบอกพร้อม ๆ กับเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ ได้เลยครับ เขารับคำพร้อมกับยิ้มด้วยความดีใจ ที่ภาระกิจที่เด่นณรงค์ฝากเอาไว้ สัมฤทธิ์ผลในที่สุด
ตามสบายนะครับคุณพิสิทธิ์ จะเดินไปดูต้นไม้ในสวนพลาง ๆ ก่อนก็ได้ครับ กว่ายายเพลงจะทำกับข้าวเสร็จก็คงอีกสักพักใหญ่ ๆ ล่ะครับ กำพลบอกแขกที่เขาเคยได้ยินชื่อจากการบอกเล่าของระพีพรรณและโสภามานานแล้ว แต่ก็เพิ่งจะได้พบหน้าเป็นครั้งแรก ครับคุณลุง ไม่ต้องห่วงครับ งั้นให้ผมช่วยดีกว่านะครับ พิสิทธิ์บอกกำพลที่กำลังนั่งเด็ดชะอมใส่ถ้วย ขณะที่เขานั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้านนั่นเอง
งั้นก็ช่วยปอกบวบก็แล้วกันนะครับ เมนูนี้เป็นของโปรดเจ้าโป่งมัน เห็นมันรอให้ยายเพลงทำให้กินมาสองสามวันแล้ว
กำพลบอกพร้อมกับยกอุปกรณ์ให้เขา แล้วอีกฝ่ายก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ พิสิทธิ์มองไปรอบ ๆ บ้านหลังเล็กกระทัดรัด เห็นข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กอยู่หลายชิ้น เช่น เปลเด็ก อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ เสื้อผ้าเด็กที่ถูกพับไว้ในตะกร้าหวาย สามสี่ใบ ที่ถูกจัดวางเอาไว้ในชั้น แต่ยังไม่ได้ใช้งาน ไม่บอกเขาเองก็พอจะเดาได้ว่า ระพีพรรณคงจะเป็นแม่ที่ดีมากทีเดียว เพราะการตระเตรียมข้าวของนั้นพร้อมสรรพ แล้วเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจที่ได้เห็นการเป็นอยู่ของเธอ ส่วนเจ้าตัวนั้น ตั้งแต่มาถึง ก็จัดแจงเข้าครัวทำอาหารโดยมีสมจิตเป็นลูกมือ
แล้วลุงโป่งไปไหนครับคุณลุง เขาถามกำพล อ๋อ...พอลุกได้ก็หายไปในหลังสวนตั้งแต่บ่ายแล้วครับ เจ้านี่บอกแล้วก็ไม่ค่อยฟัง ยังไม่หายดีก็ไม่อยากให้ทำงาน มันก็ยังไม่วาย กำพลบ่น ผมว่าเอามาให้ผมทำดีกว่านะ คุณพิสิทธิ์นั่งคุยเฉย ๆ ก็พอ กำพลบอกหลังจากที่เด็ดชะอมเสร็จแล้ว และก็เอื้อมมือไปรับกะละมังบวบที่เกือบจะเละคามือของพิสิทธิ์ไปแล้วลูกหนึ่งมาทำแทน ผมไม่ค่อยได้ทำงานครัวสักเท่าไหร่ครับ เขารับสารภาพแต่โดยดี
ไม่เป็นไรครับ คนทำงานก็อย่างนี้ล่ะ เมื่อก่อนผมก็ทำไม่เป็นหรอก ก็เพิ่งจะมาหัดทำตอนมาอยู่ที่นี่ล่ะ อยากช่วยยายเพลงบ้าง วัน ๆ ทำงานอยู่กับโต๊ะเขียนแบบของเขาตั้งหลายชั่วโมง แล้วไหนจะทำอาหารให้คนพิการกับคนป่วยอีก ถ้าจะไปซื้อเขากินทุกมื้อก็ไม่ไหว สู้ทำกินกันเองไม่ได้ อร่อยกว่าด้วย แกงหม้อหนึ่ง ก็กินไปได้หลายมื้อ ประหยัดไปได้หลายบาทเหมือนกันนะคุณ แถมยังได้ตักแบ่งให้เพื่อนบ้านข้าง ๆ ด้วย กำพลบอกยิ้ม ๆ แต่สีหน้าของเขานั้น ไม่ได้บ่งถึงความทุกข์กับสภาพที่เป็นอยู่เลย จนทำให้พิสิทธิ์รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่จากมหาเศรษฐีอย่างเขา กลับปลงได้กับชีวิตที่ผลิกผันมากขนาดนี้
แล้วคุณเพลงใกล้คลอดหรือยังครับ ผมเห็นเตรียมข้าวของไว้พร้อมแล้ว เขาอดถามไม่ได้ ก็เดือนหน้าครับ ตอนนี้ก็เตรียมไว้ตามมีตามเกิด นี่ก็ให้เจ้าโป่งย้ายไปนอนด้านบนแทน เพราะยายเพลงคงสะดวก กำพลบอกไปเรื่อย ๆ อ้าว...พูดถึงก็มาเลย อายุยืนจริง ๆ นะเจ้าโป่ง กำพลทักเมื่อหันไปเห็นโป่งออกมาจากสวน โดยมือมีตะกร้าไม้เก่า ๆ ติดมือมาด้วยสองข้าง เอาอะไรมาด้วยล่ะเจ้าโป่ง นี่มารู้จักคุณพิสิทธิ์ก่อนสิ จำได้หรือเปล่าเขาเป็นทนายบ้านคุณลัดดา กำพลแนะนำตำแหน่งพิสิทธิ์ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่คนฟังนั้นรู้สึกไม่ค่อยจะสู้ดีนักที่ได้เป็นแขกที่เขาไม่คาดว่าจะได้พบ
สวัสดีครับคุณทนาย โป่งไหว้ด้วยความน้อบน้อม เรียกผมว่าสิทธิ์เฉย ๆ ก็ได้ครับลุง ไม่ต้องเรียกทนายหรอก ผมมานี่ในฐานะเพื่อนคุณเพลง ไม่ต้องกลัวอะไร เขารับไหว้ และก็รีบทำให้โป่งรู้สึกสบายใจขึ้น ทำให้กำพลอดชื่นชมในความเป็นทนายที่เดาสีหน้าคนได้ดีไม่น้อย ได้อะไรมาล่ะเต็มสองตะกร้าเลย กำพลถาม
คุณท่านดูนี่สิครับ นี่เห็ดโคนเชียวนะครับ เขาบอกว่ากิโลหนึ่งหลายร้อยเลย โชคดีมาก ๆ เลยที่ผมเข้าไปเจอก่อน ถ้าไปช้ากว่านี้นะ รับรองมันคงจะบานแล้วก็วายไปแล้วล่ะครับ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วจะชวนแม่จิตซ่อมขาเอาดินออก พรุ่งนี้เช้าจะเอาไปขายที่ตลาด แต่จะแบ่งเอาไว้ให้คุณเพลงทำกับข้าวก่อน จะได้เผื่อเพื่อนบ้านด้วย โป่งบอกด้วยความตื่นเต้น พร้อม ๆ กับทรุดตัวลงนั่งที่แคร่ใกล้ ๆ พิสิทธิ์แล้วก็ดึงหมวกออกจากหัว พัดไปมาเพื่อคลายร้อน ทำให้พิสิทธิ์เห็นหัวที่มีผมสั้นเตียนของเขานั่นเอง มันเพิ่งจะถูกหมอเจาะกะโหลกมาหนะครับ กำพลบอก เพราะเข้าใจว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เหรอครับ เขาพูดแค่นั้น คุณพ่อไปล้างมือได้แล้วล่ะค่ะ เพลงจะเจียวไข่กับผัดบวบให้ลุงโป่งแค่นั้นก็เสร็จ ระพีพรรณค่อย ๆ เดินออกมาสมทบ แล้วก็รับเอาชามชะอมและกะละมังบวบไป ได้เลยลูก กำพลรับ ให้ผมช่วยไหมครับคุณเพลง พิสิทธิ์ถาม ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าจะช่วยก็เอาสองหนุ่มนี่ไปล้างมือล้างไม้ แล้วก็รอทานข้าวได้เลยค่ะ เธอบอกก่อนจะกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง
ดูคุณลุงมีความสุขจังเลยนะครับคุณเพลง พิสิทธิ์กล่าว ขณะที่มีเธอเดินตามไปส่งที่รถ หลังจากอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้นไปได้สักพักแล้ว และทั้งหมดก็ช่วยกันซ่อมขาเห็ดโคนจนหมด ค่ะ ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ที่นี่ เพลงก็รู้สึกว่าชีวิตมันสงบดีค่ะ ไม่ต้องพบปะใครให้มากเรื่อง เสียดายนะคะ ถ้าเพลงรู้ว่าคุณพ่อมีบ้านที่ไถ่ไว้ให้ลุงโป่งที่นี่ตั้งแต่แรกก็คงจะดีค่ะ เราจะได้มาอยู่ที่นี่เลย จะได้ไม่ต้อง....เอ่อ... ระพีพรรณหยุดพูดไว้แค่นั้น
ผมเสียใจครับคุณเพลง ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ แต่ที่มันทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นเท่านั้น จริง ๆ แล้วเจ้าดำมันเป็นคนดีมาก ๆ ครับ ผมรับรองได้ เขารีบออกรับแทนเพื่อน ช่างเถอะค่ะ เพลงไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนั้นอีก ว่าแต่คุณพิสิทธิ์อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเพลงนะคะ ระพีพรรณรีบทวงสัญญาจากเขา ได้ครับ รับรองว่าจะไม่มีใครรู้เด็ดขาด เขารับคำอย่างมั่นเหมาะ เพราะในความรู้สึกเขาแล้วก็คิดว่าสถานะการณ์ในตอนนี้น่าจะลงเอยด้วยดีแล้ว
คุณท่านเป็นยังไงบ้างคะ คุณดาด้วย ระพีพรรณอดไม่ได้ที่จะไตร่ถาม คุณป้าก็สบายดีครับ แต่บ่นถึงคุณเพลงบ่อยเหมือนกัน ส่วนยายดาแรก ๆ มีเอ่ยชื่อคุณเพลงบ่อย แต่พอดีมีพี่เด่นไปช่วยดูแลก็เลยค่อยเพลา ๆ ลงแล้วครับ ส่วนอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ เขาบอก งั้นเพลงก็สบายใจค่ะ เธอบอกพร้อมกับยิ้มให้เขา ผมคงจะต้องขอตัวนะครับ ดึกมากแล้ว จะได้ให้คนท้องเข้านอนซักที แล้วผมขอมาเยี่ยมคุณเพลงอีกนะครับ เขาบอกเป็นเชิงถาม
ยินดีค่ะ คราวหน้าจะมาพร้อมพี่โสภาก็ได้นะคะ รายนั้นจะมาช่วงวันหยุดค่ะ แต่ก็ไม่ทุกอาทิตย์หรอกค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะ เธอบอกและยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัย จนพิสิทธิ์อดยิ้มรับไม่ได้ เมื่อนึกถึงหน้าโสภา แต่ไม่นานเขาก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อคิดได้ว่าจะต้องไปหาเรื่องแก้ตัวกับโสภาอีกที่บังอาจแอบมาหาระพีพรรณตามลำพัง ครับ งั้นพบกันใหม่นะครับ รักษาตัวด้วยผมเป็นห่วง เขาบอก
ขอบคุณค่ะ ระพีพรรณบอกและก็ยืนส่งแขกที่กำลังเข้าไปในรถและขับออกไปในที่สุด จนรถลับออกไปจากเขตบ้านสวน แล้วสีหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อสักครู่ก็กลับมาเป็นเศร้าสร้อย เมื่อหัวใจคิดไปถึงผู้ที่เป็นพ่อของลูกในท้อง ที่ไม่เคยแม้แต่จะมาใยดีกับเธอเลย
ของฝากครับคุณโสภา พิสิทธิ์วางถุงส้มโอลูกโต ๆ สามสี่ลูกไว้ที่โต๊ะเจ้าของเสียงโทรศัพท์ที่โทรจิกเขาตั้งแต่เช้าให้เข้ามาพบด่วน และเขาเองก็เดาได้ไม่ยากว่าคงไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องที่เขาแอบไปหาระพีพรรณมาเมื่อวันก่อนนั่นเอง
กองไว้ตรงนั้นล่ะค่ะ ฉันมีเงินซื้อกินเองได้ ไม่ต้องให้ใครซื้อมาเซ่นไหว้หรอก คงไม่ต้องให้ฉันบอกนะว่าเรียกคุณมาทำไม โสภาไม่ยอมเสียเวลา โธ่คุณก็ ไอ้ผมก็นึกว่าเรื่องคอขาดบาดตาย คุณนี่ทำผมตกใจแทบแย่เลยนะ คุณรู้มั้ยคนรักกันเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอกรู้ไว้ด้วย เขาไม่วายที่จะแหย่เธอเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง อ้อ...แล้วฉันก็ไม่ใช่คนรักคุณด้วย ไม่ต้องมาเหมารวม ตกลงคุณจะตอบได้หรือยังว่าคุณไปหายายเพลงทำไม ใครส่งคุณไป และให้ไปทำอะไร นี่พวกคุณยังไม่สะใจใช่มั้ยที่ยายเพลงต้องรับสภาพอยู่ทุกวันนี้ ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ นะ ว่าหัวใจพวกคุณทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ ฉันฝากบอกนายดำหน้าดุของคุณด้วยนะ ว่าต่อไปนี้ ฉันจะไม่ยอมงอมืองอเท้าให้มารังแกยายเพลงอีก ถ้าขืนใครล้ำเส้นเข้ามานะจะต้องได้เห็นดีกันแน่ ๆ ไม่เชื่อคอยดูสิ ฉันจะ.......
คุณโสภาครับพอ ๆ ก่อนครับ ผมตอบคำถามคุณไม่ทันแล้วนะ ไม่ใช่ตอบไม่ทัน จำไม่ได้ด้วยว่าถามอะไรบ้าง คุณใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหม ฟังผมก่อนนะ พิสิทธิ์รีบเข้าไปใช้มือปิดปากโสภาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย จนเจ้าตัวถึงกับตกกะใจตาเบิกกว้าง ถ้าคุณไม่หยุดผมจะจูบคุณ และปล้ำทำเมียเหมือนที่นายดำทำกับคุณเพลงด้วย หยุดหรือยัง พิสิทธิ์ทำท่าเอาจริง จนโสภาที่ไม่สามารถพูดได้ ต้องพยักหน้ารับแทน เขาจึงวางใจและปล่อยมือลง
คุณ ๆ นี่คุณมาทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุ.... ไม่ทันที่โสภาจะได้พูดอะไรต่อพิสิทธิ์ก็รวบร่างโสภาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ก้มลงจุมพิตอย่างรวดเร็ว จนโสภานั้นตั้งตัวไม่ทันได้แต่ใช้กำปั้นทุบไปที่หลังของเขา แต่ไม่นานแขนทั้งสองข้างก็เปลี่ยนเป็นโอบกอดเขาแทน ผมเตือนคุณแล้วนะ ว่าผมจะจูบถ้าคุณไม่หยุดพูด ทีนี้จะหยุดพูดและฟังผมดี ๆ หรือยัง ถ้ายังผมจะต้องใช้วิธีนี้อีก เขาบอกหลังจากถอนริมฝีปากออก เล่นเอาโสภาถึงกับอึ้งและพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น จนพิสิทธิ์ถึงกับออกอาการขำ แล้วก็ค่อย ๆ พาเธอไปนั่งที่ชุดรับแขกเล็ก ๆ ที่จัดเอาไว้ในห้องทำงานนั่นเอง
อะไรกันคุณอายุปูนนี้แล้ว อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยถูกผู้ชายจูบ เขาพูดพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และรู้สึกเสียดายกับรสจูบที่เพิ่งได้ลิ้มลองไปเมื่อสักครู่ คุณนี่ทำอะไร ฉันไม่ยอมนะ คนผีทะเล โสภาตั้งสติได้ก็ระดมหมัดทุบไปที่ไหล่ของเขาอย่างไม่คิดจะยั้งมือ โอ๊ย ๆ ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดตีผม ผมจะปล้ำคุณตอนนี้ด้วยนะ ไม่เชื่อคอยดูสิ พิสิทธิ์ใช้มือสองข้างรับหมัดของโสภาเอาไว้ และทำหน้าค่อนข้างจริงจัง จนอีกฝ่ายรู้สึกกลัวจึงต้องดึงมือออกมาจากการยึดครองไว้จากเขา
คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับนายดำเพื่อนคุณหรอก ป่าเถื่อน ผู้หญิงเขาไม่เต็มใจก็ใช้กำลังเข้าข่ม โสภาอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อเขา แต่ก็มีน้ำเสียงที่อ่อนกว่าตอนแรกลงมาก จนทำให้พิสิทธิ์ถึงกับยิ้มกว้างออกมา
แหม แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงเขาไม่เต็มใจ ไอ้ดำน่ะ ออกจะหล่อเหลาปานนั้น คุณรู้มั้ยว่าตอนเรียนหนังสือด้วยกันนะ มันไม่เคยต้องเสียเงินซื้อข้าวเที่ยงเลยสักมื้อ แม่โน่น แม่นี่คอยเรียงคิวมาเลี้ยงมันทุกวัน เขาแซวกลับ งั้นคุณก็หาว่าเพื่อนฉันไปให้ท่าเพื่อนคุณเหรอโสภาเริ่มทำเสียงสูงขึ้นอีก เปล่าผมไม่ได้ว่าอย่างนั้น ผมกำลังจะบอกคุณว่า เขาสองคนอาจจะรักกัน และมีความสุขด้วยกันก็ได้ ใครจะไปรู้ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นะ
ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายข่มขืนมันจะมีความสุขตรงไหน คุณอย่ามานอกเรื่องดีกว่า บอกมาว่าคุณรู้ได้ยังไงว่ายายเพลงอยู่แถวนั้น และไม่ต้องบอกเหมือนยายเพลงบอกฉันด้วยว่า มันบังเอิญ ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด ลูกความประเภทไหนจะนัดทนายไปเจอที่ห้างสรรพสินค้า โสภารีบดักคอ ทำเอาพิสิทธิ์ถึงกับจนมุม และยิ้มออกมาด้วยความสุข ที่จู่ ๆ เขาก็ได้ผู้หญิงที่รู้ทันเขาไปแทบทุกเรื่อง ไม่เสียเวลาเปล่า ที่เขาอุตส่าห์ปล่อยตัวให้เป็นโสดมานาน เอาล่ะ ๆ ผมยอมแพ้คุณก็ได้ คนอะไร รู้ดีไปทุกเรื่องเลย คุณกับคุณเพลงนี่แตกต่างกันคนละขั้วเลยจริง ๆ
ขืนมัวแต่มองโลกในแง่ดีเหมือนยายเพลง ก็ถูกพวกคุณรุมรังแกกันหมดพอดี ว่าไงห้ามนอกเรื่องบอกมา โสภารีบดักคออีก
ก็คือว่า พี่เด่นกับคุณป้ารู้สึกห่วงคุณเพลง กลัวว่าจะลำบาก จะอยู่กินยังไง และไปใช้ชีวิตอยู่แบบไหน ก็เลยไปขอร้องให้ผมช่วยไปดูให้หน่อยก็แค่นั้น นายดำไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เพราะพวกเราปิดเอาไว้ เขาบอกตามความจริง แล้วคุณก็เลยสะกดรอยตามฉันว่างั้นเถอะ โสภาดักคออีก ก็คุณไม่ยอมบอกผมนี่นาว่าคุณเพลงไปอยู่ที่ไหน นี่เจ้าตัวเองยังไม่โวยวายเหมือนคุณเลยนะ แล้วมันเรื่องอะไรกันคุณนี่ พิสิทธิ์โวยบ้าง
ก้อฉันห่วงยายเพลงกลัวนายดำจะหาเรื่องมารังแกอีกน่ะสิ แล้วคุณบอกทางโน้นหรือยังว่าเจอยายเพลงแล้ว โสภารีบถาม บอกแล้ว แต่บอกแค่ว่าคุณเพลงอยู่สุขสบายดี ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน เพราะผมให้เหตุผลว่าคุณเพลงอยากอยู่เป็นส่วนตัว ไม่อยากจะให้ใครไปรบกวน
พิสิทธิ์บอกตามความจริง เพราะเขาเพิ่งจะไปหาลัดดากับเด่นณรงค์ก่อนจะมาหาโสภา และเขาก็ตัดสินใจบอกไปตามที่บอกกับโสภา เพราะมองไม่เห็นประโยชน์ว่าจะบอกความจริงไปทำไม ในเมื่อในความคิดของเขาเอง ดนุพรนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกผิด หรือจะแสดงให้เขาเห็นว่ารักระพีพรรณเลย
แน่ใจนะ แน่สิคุณก้อ เห็นผมเป็นอะไร ผมรู้น่า ว่าจะต้องทำยังไง พอใจหรือยัง เขาย้อนกลับ ก็ได้ แต่ถ้านายดำหรือใครตามไปทำให้ยายเพลงเจ็บปวดอีกนะ ฉันจะเฉ่งคุณเป็นคนแรกเลย ไม่เชื่อคอยดู โสภาขู่เอาไว้ จ๊ะ ๆ กลัวแล้วจ๊ะ แม่คุณ ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันหรือยัง เขาวกกลับมาเรื่องของตัวเอง จนทำให้โสภาถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เอ๊ะ...คุณนี่ อย่ามาขี้ตู่นะ
ผมไม่ได้ขี้ตู่ เราเองก็ปูนนี้แล้วนะคุณ ดูคุณเพลงสิอายุน้อยกว่าเราตั้งเยอะจะมีลูกแล้ว ผมว่าเราน่าจะคิดเรื่องของเราได้แล้วนะ ถึงแม้ว่าเราสองคนจะรู้จักกันไม่นาน แต่ผมก็มั่นใจว่าเลือกรักผู้หญิงไม่ผิดหรอก เขาสารภาพรักเอาดื้อ ๆ คุณนี่ อะไร จู่ ๆ จะมาบอกรักกันตรงนี้ คุณกลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน โสภาแก้เขินด้วยการไล่เขาให้ไปให้พ้น ๆ ทำงานอะไรคุณ นี่มันจะเที่ยงอยู่แล้ว ไปเถอะไปกินข้าวกัน ผมหิวจะแย่แล้ว เราไปเที่ยวบ้านคุณเพลงก็ได้เอามั้ย เขาเสนอ ยายเพลงไม่อยู่บ้านหรอก ไปหาลูกค้าจะต้องทำแบบตกแต่งเสนอให้ด่วน โสภาบอก
อะไรนะ แล้วคุณรักเพื่อนคุณยังไง ท้องโย้ขนาดนั้นยังต้องไปดูหาลูกค้าอีกเหรอ เขาถามด้วยเสียงค่อนข้างสูงกว่าปกติ ฉันไม่ได้บอกว่าฉันเป็นคนให้ไปสักหน่อย แต่ลูกค้าน่ะสิ เคยเห็นงานของยายเพลงที่เคยไปออกแบบตกแต่งโรงแรมให้เพื่อนก็เลยติดใจ อยากให้ไปแต่งบ้านให้ลูกชายที่กำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี่ ฉันพยายามบอกว่าไม่สะดวกที่จะออกไปก็ไม่ยอม บอกว่าอยากคุยกับคนที่เคยทำงานครั้งก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะไม่จ้างเรา ฉันว่าจะยกเลิกแล้ว แต่ยายเพลงบอกว่าจะไปให้ไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็เลยต้องยอม วันนี้ก็ให้คินพาไปเย็น ๆ ถึงจะกลับ คุณเองก็เหมือนกันล่ะ ไม่ยอมฟังอะไรก่อน ก็เอาแต่มาว่าฉัน นี่เหรอเขาเรียกว่าคนรักกัน โสภาอธิบายพร้อม ๆ กับตัดพ้อเขา
ผมขอโทษ ก็มันตกใจไปหน่อย งั้นเราออกไปกินข้าวกันเถอะผมหิวจะแย่แล้ว เขาวกเข้าเรื่องเดิม ก็ได้ค่ะ โสภารับคำ เอารถผมไปนะ เสร็จแล้วผมจะขับมาส่ง พิสิทธิ์บอก ค่ะ โสภารับคำโดยง่าย จนทำให้พิสิทธิ์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่รีบเดินนำหน้าไปเปิดประตูห้องให้กับสาวเจ้าแต่โดยดี
ดนุพรนำรถเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หรูด้วยความเคยชิน โดยมีหญิงสาวสวยที่แต่งตัวน่ารักสมวัยยืนรอที่หน้าคฤหาสน์ ประหนึ่งรู้ว่าเขาจะมาเวลานี้ก็ไม่ปาน สวัสดีค่ะคุณดำมาตรงเวลาพอดีค่ะ นัชนินเดินมาหาเจ้าของรถหรูพร้อมกับเอามือไปคล้องแขนเขาประหนึ่งเป็นเจ้าของก็ไม่ปาน ส่วนเจ้าของแขนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร วันนี้คุณแม่อยู่บ้านด้วยค่ะ จะเข้าไปไหว้ท่านก่อนหรือเปล่าคะ นัชนินบอกขณะยืนยึดแขนเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
ก็ดีครับ พักนี้ไม่ค่อยได้เจอท่านสักเท่าไหร่ ดนุพรรับคำแล้วก็เดินตามเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่าย อ้าว...คุณดำสวัสดีค่ะ วันนี้นึกยังไงคะมาถึงบ้านป้าได้ ปกติเห็นพากันไปเที่ยวข้างนอก นินทกาลเอ่ยทักแขกอย่างเป็นกันเอง และรับไหว้แขกผู้มาเยือนที่ยกมือไว้เจ้าของบ้าน ก็คุณแนนบอกว่าคุณป้าอยู่ก็เลยแวะมาไหว้คุณป้าก่อนครับ อีกหน่อยก็จะพาคุณแนนออกไปซื้อของ เขาบอกพร้อม ๆ กับทรุดตัวลงนั่งที่ชุดรับแขกตามเจ้าของบ้าน โดยมีนัชนินนั่งข้าง ๆ และก็ยังคงเกาะแขนเขาเอาไว้ ประหนึ่งกลัวจะหลุดหาย จนมารดาต้องจ้องตาเขม็ง นัชนินจึงได้ยอมปล่อยมือออก
ป้านัดช่างตกแต่งเอาไว้น่ะค่ะ ทำไมยายแนนช๊อปปิ้งบ่อยจังเลยลูก อยู่ติดบ้านบ้างเถอะนะวันนี้แม่ให้เขาทำอาหารที่เราชอบตั้งหลายอย่าง จะปล่อยให้แม่กินข้าวเย็นคนเดียวอีกแล้วนะ พ่อเราก็อีกคน วันนี้ก็มีงานเลี้ยงรุ่นอะไรของเค้านั่นน่ะ แม่ละเบื่อจริง ๆ เลย ดูสิคุณดำ มีลูกสาวอยู่แค่คนเดียวก็ไม่ค่อยจะอยู่กับป้าเท่าไหร่เลย นินทกาลบ่นลูกสาว อ้าว...แม่ศรีนวลมีอะไรเหรอ ไม่ทันที่ดนุพรจะได้ตอบโต้อะไร ก็มีสาวใช้เดินเข้ามาหา พอดีช่างตกแต่งที่คุณท่านนัดไว้มาถึงแล้วค่ะ จะให้เข้ามาหาที่นี่เลยหรือเปล่าคะ ศรีนวลนั่งคุกเข่ารายงานเจ้านายด้วยความนอบน้อม
ไม่ต้องก็ได้เดี๋ยวฉันจะพาเขาไปที่เรือนหอเลย...งั้นตามสบายนะคะป้าขอตัวก่อน นินทกาลบอกแล้วก็ลุกไปด้านนอก คุณดำจะไม่ไปดูบ้านฝีมือคุณดำสร้างเหนื่อยเหรอคะ พี่หนึ่งเห็นรูปแล้วยังชอบเลยค่ะบอกว่าถูกใจมาก นี่ถ้าช่างตกแต่งที่คุณแม่หามาฝีมือดีสมราคาคุยนะคะ รับรองว่านิติยสารบ้านและสวนต้องขอเอาไปลงแน่ ๆ เลยค่ะ นัชนินถามแกมเชิญชวน
ก็เอาสิครับ ถ้าคุณแนนไม่รีบไปช๊อปปิ้ง ผมยังไงก็ได้ครับวันนี้ งานไม่มีอะไรแล้ว เขาบอก งั้นเราไปดูก่อนก็แล้วกันนะคะ จะได้ลาคุณแม่ด้วยค่ะ นัชนินบอกพร้อมกับดึงแขนให้เขาลุกขึ้น และเธอก็ยังไม่วายที่จะแสดงความเป็นเจ้าของเขาโดยการเกาะแขนเดินไปนั่นเอง ไม่นานทั้งสองก็มาถึง
อ้าว....จะมาดูเรือนหอฝีมือตัวเองเหรอคะคุณดำ
นินทกาลถามเมื่อเห็นทั้งสองเดินตามมา หลังจากที่ตัวเองเดินมาถึงได้สักพักแล้ว และชื่อของเขาก็ทำให้ระพีพรรณที่ก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดที่นินทกาลบอกอยู่นั้น ถึงกับต้องเงยขึ้นมามองทันใด แล้วภาพที่ได้เห็นมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเธอเองไม่น้อย จนต้องหันหน้าหนี
ดนุพรเองก็แทบจะช๊อคเมื่อช่างตกแต่งของนินทกาลก็คือ คนที่เขาพยายามที่จะไม่เอาหน้าตัวเองไปให้เธอได้พบได้เห็นเลย ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าคิดมาก่อนว่าความพยายามของตัวเองต้องมาจบสิ้นลง เพียงแค่เพราะเขามาหานัชชินเพื่อจะพาไปเลี้ยงข้าวและเดินช๊อปปิ้งเป็นการขอบคุณที่เธอได้พาเขาเข้าไปรู้จักลูกค้ารายใหม่นั่นเอง
เขาจ้องมองร่างกายที่เปลี่ยนแปลงของผู้หญิงที่กำลังอุ้มท้องผู้ที่เป็นสายเลือดของเขาเองอย่างไม่วางตา แต่ก็ต้องรีบตั้งสติและหันกลับมาสนใจกับคนที่ยืนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาอยู่ เพราะไม่อยากให้เป็นที่ผิดสังเกตแก่คนรอบข้าง
คุณดำคะ ไปดูห้องนอนกันเถอะค่ะ เสียงนัชนินบอกและรั้งแขนเขาไปในทิศทางที่เธอต้องการ ได้ครับ เขารับคำอย่างว่าง่ายและเดินตามนัชนินเข้าไปในตัวบ้าน ภคินที่ตั้งหน้าตั้งตาวัดขนาดห้องอยู่ถึงกับตกตลึงเมื่อเจอดนุพรจัง ๆ ในห้องนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรในเวลาต่อมา ได้แต่ทำงานตัวเองต่อไป แต่ในใจนั้นนึกสงสารระพีพรรณขึ้นมาจับใจ ที่จู่ ๆ จะต้องมาเจอกับผู้ชายที่เฝ้าแต่ทำร้ายเธอและคนในครอบครัว
ทำไมคุณเพลงถึงหนีไม่พ้นนายคนนี้ซักทีนะ เขาคิดในใจ เป็นไงบ้างคะท่านวิศวกร ผลงานเป็นที่พอใจหรือเปล่าคะ นินทกาลทักหลังจากที่ทั้งเขาและลูกสาวเดินออกมาจากห้อง ครับ เขารับคำแค่นั้น แล้วก็ยิ้มให้นินทกาล แต่สายตายังไม่วายที่จะแอบไปชำเลืองดูคนที่ดูจะไม่ให้ความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาคงจะเหมือนคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาเธอแล้วกระมัง ในความคิดของเขา
เอ่อ...จริงสิคะคุณดำ พอดีป้าลืมแนะนำไปค่ะ นี่คุณระพีพรรณมันฑนากร คนที่ออกแบบตกแต่งโรงแรมคุณมงคลไงคะ...หนูเพลงจ๊ะนี่คุณดนุพร เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลาย ๆ ที่ค่ะ โครงการไหน ๆ คุณดำก็ขายหมดเกลี้ยงเลยยค่ะ หรือจะเรียกว่าคุณดำก็ได้นะคะ ป้าจะแนะนำเอาไว้ให้ เผื่อวันหลังคุณดำมีงานด้านนี้จะได้ป้อนงานทำไงคะ เพราะไหน ๆ ก็ทำงานแนวเดียวกันแล้ว คุณดำสร้างบ้านเสร็จ คุณเพลงก็จะได้รับงานต่อเลยไงคะ นินทกาลแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
|
Create Date : 13 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 13 ตุลาคม 2551 12:19:20 น. |
|
3 comments
|
Counter : 699 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:48:45 น. |
|
|
|
โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:19:15:21 น. |
|
|
|
โดย: ธัญญะ วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:20:57:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|