Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
รอยอาญา ๒๘ (ธัญรัตน์)




“คุณเพลง....ใช่คุณเพลงหรือเปล่าครับ”
ผู้ที่ถูกเรียกหันไปหาเจ้าของเสียง ขณะที่มือก็ยังจับรถเข็นสินค้าที่เต็มไปด้วยข้าวของอยู่นั่นเอง
“คุณพิสิทธิ์ สวัสดีค่ะ มาทำอะไรแถวนี้คะ”
เธอทักทายเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร พร้อมกับสีหน้าก็ไม่ใคร่จะสบายใจนักที่จู่ ๆ ก็มาเจอพิสิทธิ์ที่นี่ และมันพลอยทำให้ใบหน้าของดนุพรนั้นลอยตามพิสิทธิ์มาได้ไม่ยากเลยในความคิดของเธอ
“ผมมาหาลูกค้าที่ห้างครับ ให้ผมช่วยนะครับ แล้วรถคุณเพลงจอดอยู่ที่ไหนครับ”
เขารีบเดินมาหาพร้อมกับช่วยเธอเข็นรถ

“ทางโน้นค่ะ”
เธอปล่อยมือจากรถเข็นแล้วก็เดินนำหน้า แต่ก็ไปได้ไม่เร็วนัก ด้วยท้องนั้นโตมากแล้ว ทำให้พิสิทธิ์ที่มองตามหลังระพีพรรณอดสงสารไม่ได้ แต่เขาก็มีอาการโล่งอกไม่เบา ที่การพบกันในครั้งนี้ทำให้ระพีพรรณคิดว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เลย
เขาใช้คนขับรถตามโสภาอยู่หลายวัน กว่าจะรู้ว่าระพีพรรณอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเขารู้ แต่ก็หาจังหวะที่จะเข้าใกล้ระพีพรรณด้วยเหตุผลที่แนบเนียนไม่ได้ จนสบโอกาสที่เธอออกมาซื้อของ แล้วเขาก็ขับรถตามมา และรอจนเธอซื้อของเสร็จนั่นเอง

“ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ” เธอบอกเมื่อเดินมาถึงรถ โดยมีพิสิทธิ์ช่วยขนข้าวของเข้าไปเก็บในรถให้
“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมครับคุณเพลง” เขาพูดและยิ้มเป็นการหยั่งเชิงเอาไว้
“เป็นอะไรดีคะ” เธอถามและก็ยิ้มให้เขาอย่างเสียไม่ได้
“ผมขอข้าวเย็นมื้อหนึ่งก็พอครับ” เขาบอกและยิ้มอย่างไม่จริงจังนัก
“เอ่อ...ปกติเพลงไม่ค่อยกินข้าวนอกบ้านค่ะ แล้วนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย เพลงต้องรีบกลับไปทำกับข้าวให้คุณพ่อค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะคะ วันนี้เพลงขอเสียมารยาทกับคุณพิสิทธิ์สักครั้งค่ะ” เธอบอกด้วยความรู้สึกผิดไม่น้อย

“งั้นก็ให้ผมไปกินข้าวที่บ้านด้วยก็ได้นี่ครับคุณเพลง บ้านอยู่ไกลหรือเปล่าครับ รถผมจอดอยู่ทางโน้น”
เขาพยายามต้อนให้เธอจนมุม ตามความถนัดเพราะต้อนใครต่อใครในศาลจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“เอ่อ...เพลง...เอ่อ...” เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“ผมสัญญาครับ ว่าการพบกันของเราวันนี้จะเป็นความลับ คุณเพลงไม่ต้องห่วง คุณเพลงไว้ใจผมได้ครับ”
เหมือนเขาจะรู้ใจเธอ

“ความจริง ก็คงไม่มีใครอยากรู้ว่าเพลงจะอยู่ที่ไหนหรอกค่ะ เพลงรู้ แต่เพลงก็ไม่ค่อยอยากจะพบปะใครสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณพิสิทธิ์สัญญากับเพลงขนาดนี้ เพลงก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะ งั้นขับรถตามเพลงมาก็แล้วกันค่ะ”
เธอบอกพร้อม ๆ กับเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ
“ได้เลยครับ” เขารับคำพร้อมกับยิ้มด้วยความดีใจ ที่ภาระกิจที่เด่นณรงค์ฝากเอาไว้ สัมฤทธิ์ผลในที่สุด


“ตามสบายนะครับคุณพิสิทธิ์ จะเดินไปดูต้นไม้ในสวนพลาง ๆ ก่อนก็ได้ครับ กว่ายายเพลงจะทำกับข้าวเสร็จก็คงอีกสักพักใหญ่ ๆ ล่ะครับ”
กำพลบอกแขกที่เขาเคยได้ยินชื่อจากการบอกเล่าของระพีพรรณและโสภามานานแล้ว แต่ก็เพิ่งจะได้พบหน้าเป็นครั้งแรก
“ครับคุณลุง ไม่ต้องห่วงครับ งั้นให้ผมช่วยดีกว่านะครับ”
พิสิทธิ์บอกกำพลที่กำลังนั่งเด็ดชะอมใส่ถ้วย ขณะที่เขานั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้านนั่นเอง

“งั้นก็ช่วยปอกบวบก็แล้วกันนะครับ เมนูนี้เป็นของโปรดเจ้าโป่งมัน เห็นมันรอให้ยายเพลงทำให้กินมาสองสามวันแล้ว”

กำพลบอกพร้อมกับยกอุปกรณ์ให้เขา แล้วอีกฝ่ายก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ พิสิทธิ์มองไปรอบ ๆ บ้านหลังเล็กกระทัดรัด เห็นข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กอยู่หลายชิ้น เช่น เปลเด็ก อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ เสื้อผ้าเด็กที่ถูกพับไว้ในตะกร้าหวาย สามสี่ใบ ที่ถูกจัดวางเอาไว้ในชั้น แต่ยังไม่ได้ใช้งาน
ไม่บอกเขาเองก็พอจะเดาได้ว่า ระพีพรรณคงจะเป็นแม่ที่ดีมากทีเดียว เพราะการตระเตรียมข้าวของนั้นพร้อมสรรพ แล้วเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจที่ได้เห็นการเป็นอยู่ของเธอ ส่วนเจ้าตัวนั้น ตั้งแต่มาถึง ก็จัดแจงเข้าครัวทำอาหารโดยมีสมจิตเป็นลูกมือ

“แล้วลุงโป่งไปไหนครับคุณลุง” เขาถามกำพล
“อ๋อ...พอลุกได้ก็หายไปในหลังสวนตั้งแต่บ่ายแล้วครับ เจ้านี่บอกแล้วก็ไม่ค่อยฟัง ยังไม่หายดีก็ไม่อยากให้ทำงาน มันก็ยังไม่วาย” กำพลบ่น
“ผมว่าเอามาให้ผมทำดีกว่านะ คุณพิสิทธิ์นั่งคุยเฉย ๆ ก็พอ”
กำพลบอกหลังจากที่เด็ดชะอมเสร็จแล้ว และก็เอื้อมมือไปรับกะละมังบวบที่เกือบจะเละคามือของพิสิทธิ์ไปแล้วลูกหนึ่งมาทำแทน
“ผมไม่ค่อยได้ทำงานครัวสักเท่าไหร่ครับ” เขารับสารภาพแต่โดยดี

“ไม่เป็นไรครับ คนทำงานก็อย่างนี้ล่ะ เมื่อก่อนผมก็ทำไม่เป็นหรอก ก็เพิ่งจะมาหัดทำตอนมาอยู่ที่นี่ล่ะ อยากช่วยยายเพลงบ้าง วัน ๆ ทำงานอยู่กับโต๊ะเขียนแบบของเขาตั้งหลายชั่วโมง แล้วไหนจะทำอาหารให้คนพิการกับคนป่วยอีก ถ้าจะไปซื้อเขากินทุกมื้อก็ไม่ไหว สู้ทำกินกันเองไม่ได้ อร่อยกว่าด้วย แกงหม้อหนึ่ง ก็กินไปได้หลายมื้อ ประหยัดไปได้หลายบาทเหมือนกันนะคุณ แถมยังได้ตักแบ่งให้เพื่อนบ้านข้าง ๆ ด้วย”
กำพลบอกยิ้ม ๆ แต่สีหน้าของเขานั้น ไม่ได้บ่งถึงความทุกข์กับสภาพที่เป็นอยู่เลย จนทำให้พิสิทธิ์รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่จากมหาเศรษฐีอย่างเขา กลับปลงได้กับชีวิตที่ผลิกผันมากขนาดนี้

“แล้วคุณเพลงใกล้คลอดหรือยังครับ ผมเห็นเตรียมข้าวของไว้พร้อมแล้ว” เขาอดถามไม่ได้
“ก็เดือนหน้าครับ ตอนนี้ก็เตรียมไว้ตามมีตามเกิด นี่ก็ให้เจ้าโป่งย้ายไปนอนด้านบนแทน เพราะยายเพลงคงสะดวก” กำพลบอกไปเรื่อย ๆ
“อ้าว...พูดถึงก็มาเลย อายุยืนจริง ๆ นะเจ้าโป่ง”
กำพลทักเมื่อหันไปเห็นโป่งออกมาจากสวน โดยมือมีตะกร้าไม้เก่า ๆ ติดมือมาด้วยสองข้าง
“เอาอะไรมาด้วยล่ะเจ้าโป่ง นี่มารู้จักคุณพิสิทธิ์ก่อนสิ จำได้หรือเปล่าเขาเป็นทนายบ้านคุณลัดดา”
กำพลแนะนำตำแหน่งพิสิทธิ์ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่คนฟังนั้นรู้สึกไม่ค่อยจะสู้ดีนักที่ได้เป็นแขกที่เขาไม่คาดว่าจะได้พบ

“สวัสดีครับคุณทนาย” โป่งไหว้ด้วยความน้อบน้อม
“เรียกผมว่าสิทธิ์เฉย ๆ ก็ได้ครับลุง ไม่ต้องเรียกทนายหรอก ผมมานี่ในฐานะเพื่อนคุณเพลง ไม่ต้องกลัวอะไร”
เขารับไหว้ และก็รีบทำให้โป่งรู้สึกสบายใจขึ้น ทำให้กำพลอดชื่นชมในความเป็นทนายที่เดาสีหน้าคนได้ดีไม่น้อย
“ได้อะไรมาล่ะเต็มสองตะกร้าเลย” กำพลถาม

“คุณท่านดูนี่สิครับ นี่เห็ดโคนเชียวนะครับ เขาบอกว่ากิโลหนึ่งหลายร้อยเลย โชคดีมาก ๆ เลยที่ผมเข้าไปเจอก่อน ถ้าไปช้ากว่านี้นะ รับรองมันคงจะบานแล้วก็วายไปแล้วล่ะครับ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วจะชวนแม่จิตซ่อมขาเอาดินออก พรุ่งนี้เช้าจะเอาไปขายที่ตลาด แต่จะแบ่งเอาไว้ให้คุณเพลงทำกับข้าวก่อน จะได้เผื่อเพื่อนบ้านด้วย”
โป่งบอกด้วยความตื่นเต้น พร้อม ๆ กับทรุดตัวลงนั่งที่แคร่ใกล้ ๆ พิสิทธิ์แล้วก็ดึงหมวกออกจากหัว พัดไปมาเพื่อคลายร้อน ทำให้พิสิทธิ์เห็นหัวที่มีผมสั้นเตียนของเขานั่นเอง
“มันเพิ่งจะถูกหมอเจาะกะโหลกมาหนะครับ” กำพลบอก เพราะเข้าใจว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เหรอครับ” เขาพูดแค่นั้น
“คุณพ่อไปล้างมือได้แล้วล่ะค่ะ เพลงจะเจียวไข่กับผัดบวบให้ลุงโป่งแค่นั้นก็เสร็จ”
ระพีพรรณค่อย ๆ เดินออกมาสมทบ แล้วก็รับเอาชามชะอมและกะละมังบวบไป
“ได้เลยลูก” กำพลรับ
“ให้ผมช่วยไหมครับคุณเพลง” พิสิทธิ์ถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าจะช่วยก็เอาสองหนุ่มนี่ไปล้างมือล้างไม้ แล้วก็รอทานข้าวได้เลยค่ะ”
เธอบอกก่อนจะกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง


“ดูคุณลุงมีความสุขจังเลยนะครับคุณเพลง”
พิสิทธิ์กล่าว ขณะที่มีเธอเดินตามไปส่งที่รถ หลังจากอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้นไปได้สักพักแล้ว และทั้งหมดก็ช่วยกันซ่อมขาเห็ดโคนจนหมด
“ค่ะ ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ที่นี่ เพลงก็รู้สึกว่าชีวิตมันสงบดีค่ะ ไม่ต้องพบปะใครให้มากเรื่อง เสียดายนะคะ ถ้าเพลงรู้ว่าคุณพ่อมีบ้านที่ไถ่ไว้ให้ลุงโป่งที่นี่ตั้งแต่แรกก็คงจะดีค่ะ เราจะได้มาอยู่ที่นี่เลย จะได้ไม่ต้อง....เอ่อ...”
ระพีพรรณหยุดพูดไว้แค่นั้น

“ผมเสียใจครับคุณเพลง ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ แต่ที่มันทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นเท่านั้น จริง ๆ แล้วเจ้าดำมันเป็นคนดีมาก ๆ ครับ ผมรับรองได้” เขารีบออกรับแทนเพื่อน
“ช่างเถอะค่ะ เพลงไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนั้นอีก ว่าแต่คุณพิสิทธิ์อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเพลงนะคะ”
ระพีพรรณรีบทวงสัญญาจากเขา
“ได้ครับ รับรองว่าจะไม่มีใครรู้เด็ดขาด”
เขารับคำอย่างมั่นเหมาะ เพราะในความรู้สึกเขาแล้วก็คิดว่าสถานะการณ์ในตอนนี้น่าจะลงเอยด้วยดีแล้ว

“คุณท่านเป็นยังไงบ้างคะ คุณดาด้วย” ระพีพรรณอดไม่ได้ที่จะไตร่ถาม
“คุณป้าก็สบายดีครับ แต่บ่นถึงคุณเพลงบ่อยเหมือนกัน ส่วนยายดาแรก ๆ มีเอ่ยชื่อคุณเพลงบ่อย แต่พอดีมีพี่เด่นไปช่วยดูแลก็เลยค่อยเพลา ๆ ลงแล้วครับ ส่วนอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ” เขาบอก
“งั้นเพลงก็สบายใจค่ะ” เธอบอกพร้อมกับยิ้มให้เขา
“ผมคงจะต้องขอตัวนะครับ ดึกมากแล้ว จะได้ให้คนท้องเข้านอนซักที แล้วผมขอมาเยี่ยมคุณเพลงอีกนะครับ”
เขาบอกเป็นเชิงถาม

“ยินดีค่ะ คราวหน้าจะมาพร้อมพี่โสภาก็ได้นะคะ รายนั้นจะมาช่วงวันหยุดค่ะ แต่ก็ไม่ทุกอาทิตย์หรอกค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะ” เธอบอกและยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัย จนพิสิทธิ์อดยิ้มรับไม่ได้ เมื่อนึกถึงหน้าโสภา แต่ไม่นานเขาก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อคิดได้ว่าจะต้องไปหาเรื่องแก้ตัวกับโสภาอีกที่บังอาจแอบมาหาระพีพรรณตามลำพัง
“ครับ งั้นพบกันใหม่นะครับ รักษาตัวด้วยผมเป็นห่วง” เขาบอก

“ขอบคุณค่ะ”
ระพีพรรณบอกและก็ยืนส่งแขกที่กำลังเข้าไปในรถและขับออกไปในที่สุด จนรถลับออกไปจากเขตบ้านสวน แล้วสีหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อสักครู่ก็กลับมาเป็นเศร้าสร้อย เมื่อหัวใจคิดไปถึงผู้ที่เป็นพ่อของลูกในท้อง ที่ไม่เคยแม้แต่จะมาใยดีกับเธอเลย


“ของฝากครับคุณโสภา”
พิสิทธิ์วางถุงส้มโอลูกโต ๆ สามสี่ลูกไว้ที่โต๊ะเจ้าของเสียงโทรศัพท์ที่โทรจิกเขาตั้งแต่เช้าให้เข้ามาพบด่วน และเขาเองก็เดาได้ไม่ยากว่าคงไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องที่เขาแอบไปหาระพีพรรณมาเมื่อวันก่อนนั่นเอง

“กองไว้ตรงนั้นล่ะค่ะ ฉันมีเงินซื้อกินเองได้ ไม่ต้องให้ใครซื้อมาเซ่นไหว้หรอก คงไม่ต้องให้ฉันบอกนะว่าเรียกคุณมาทำไม” โสภาไม่ยอมเสียเวลา
“โธ่คุณก็ ไอ้ผมก็นึกว่าเรื่องคอขาดบาดตาย คุณนี่ทำผมตกใจแทบแย่เลยนะ คุณรู้มั้ยคนรักกันเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอกรู้ไว้ด้วย” เขาไม่วายที่จะแหย่เธอเพื่อกลบเกลื่อนความผิด

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง อ้อ...แล้วฉันก็ไม่ใช่คนรักคุณด้วย ไม่ต้องมาเหมารวม ตกลงคุณจะตอบได้หรือยังว่าคุณไปหายายเพลงทำไม ใครส่งคุณไป และให้ไปทำอะไร นี่พวกคุณยังไม่สะใจใช่มั้ยที่ยายเพลงต้องรับสภาพอยู่ทุกวันนี้ ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ นะ ว่าหัวใจพวกคุณทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ ฉันฝากบอกนายดำหน้าดุของคุณด้วยนะ ว่าต่อไปนี้ ฉันจะไม่ยอมงอมืองอเท้าให้มารังแกยายเพลงอีก ถ้าขืนใครล้ำเส้นเข้ามานะจะต้องได้เห็นดีกันแน่ ๆ ไม่เชื่อคอยดูสิ ฉันจะ.......”

“คุณโสภาครับพอ ๆ ก่อนครับ ผมตอบคำถามคุณไม่ทันแล้วนะ ไม่ใช่ตอบไม่ทัน จำไม่ได้ด้วยว่าถามอะไรบ้าง คุณใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหม ฟังผมก่อนนะ” พิสิทธิ์รีบเข้าไปใช้มือปิดปากโสภาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย จนเจ้าตัวถึงกับตกกะใจตาเบิกกว้าง
“ถ้าคุณไม่หยุดผมจะจูบคุณ และปล้ำทำเมียเหมือนที่นายดำทำกับคุณเพลงด้วย หยุดหรือยัง”
พิสิทธิ์ทำท่าเอาจริง จนโสภาที่ไม่สามารถพูดได้ ต้องพยักหน้ารับแทน เขาจึงวางใจและปล่อยมือลง

“คุณ ๆ นี่คุณมาทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุ....”
ไม่ทันที่โสภาจะได้พูดอะไรต่อพิสิทธิ์ก็รวบร่างโสภาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ก้มลงจุมพิตอย่างรวดเร็ว จนโสภานั้นตั้งตัวไม่ทันได้แต่ใช้กำปั้นทุบไปที่หลังของเขา แต่ไม่นานแขนทั้งสองข้างก็เปลี่ยนเป็นโอบกอดเขาแทน
“ผมเตือนคุณแล้วนะ ว่าผมจะจูบถ้าคุณไม่หยุดพูด ทีนี้จะหยุดพูดและฟังผมดี ๆ หรือยัง ถ้ายังผมจะต้องใช้วิธีนี้อีก”
เขาบอกหลังจากถอนริมฝีปากออก เล่นเอาโสภาถึงกับอึ้งและพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น จนพิสิทธิ์ถึงกับออกอาการขำ แล้วก็ค่อย ๆ พาเธอไปนั่งที่ชุดรับแขกเล็ก ๆ ที่จัดเอาไว้ในห้องทำงานนั่นเอง

“อะไรกันคุณอายุปูนนี้แล้ว อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยถูกผู้ชายจูบ”
เขาพูดพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และรู้สึกเสียดายกับรสจูบที่เพิ่งได้ลิ้มลองไปเมื่อสักครู่
“คุณนี่ทำอะไร ฉันไม่ยอมนะ คนผีทะเล” โสภาตั้งสติได้ก็ระดมหมัดทุบไปที่ไหล่ของเขาอย่างไม่คิดจะยั้งมือ
“โอ๊ย ๆ ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดตีผม ผมจะปล้ำคุณตอนนี้ด้วยนะ ไม่เชื่อคอยดูสิ”
พิสิทธิ์ใช้มือสองข้างรับหมัดของโสภาเอาไว้ และทำหน้าค่อนข้างจริงจัง จนอีกฝ่ายรู้สึกกลัวจึงต้องดึงมือออกมาจากการยึดครองไว้จากเขา

“คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับนายดำเพื่อนคุณหรอก ป่าเถื่อน ผู้หญิงเขาไม่เต็มใจก็ใช้กำลังเข้าข่ม”
โสภาอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อเขา แต่ก็มีน้ำเสียงที่อ่อนกว่าตอนแรกลงมาก จนทำให้พิสิทธิ์ถึงกับยิ้มกว้างออกมา

“แหม แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงเขาไม่เต็มใจ ไอ้ดำน่ะ ออกจะหล่อเหลาปานนั้น คุณรู้มั้ยว่าตอนเรียนหนังสือด้วยกันนะ มันไม่เคยต้องเสียเงินซื้อข้าวเที่ยงเลยสักมื้อ แม่โน่น แม่นี่คอยเรียงคิวมาเลี้ยงมันทุกวัน” เขาแซวกลับ
“งั้นคุณก็หาว่าเพื่อนฉันไปให้ท่าเพื่อนคุณเหรอ”โสภาเริ่มทำเสียงสูงขึ้นอีก
“เปล่าผมไม่ได้ว่าอย่างนั้น ผมกำลังจะบอกคุณว่า เขาสองคนอาจจะรักกัน และมีความสุขด้วยกันก็ได้ ใครจะไปรู้ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นะ”

“ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายข่มขืนมันจะมีความสุขตรงไหน คุณอย่ามานอกเรื่องดีกว่า บอกมาว่าคุณรู้ได้ยังไงว่ายายเพลงอยู่แถวนั้น และไม่ต้องบอกเหมือนยายเพลงบอกฉันด้วยว่า มันบังเอิญ ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด ลูกความประเภทไหนจะนัดทนายไปเจอที่ห้างสรรพสินค้า”
โสภารีบดักคอ ทำเอาพิสิทธิ์ถึงกับจนมุม และยิ้มออกมาด้วยความสุข ที่จู่ ๆ เขาก็ได้ผู้หญิงที่รู้ทันเขาไปแทบทุกเรื่อง ไม่เสียเวลาเปล่า ที่เขาอุตส่าห์ปล่อยตัวให้เป็นโสดมานาน
“เอาล่ะ ๆ ผมยอมแพ้คุณก็ได้ คนอะไร รู้ดีไปทุกเรื่องเลย คุณกับคุณเพลงนี่แตกต่างกันคนละขั้วเลยจริง ๆ”

“ขืนมัวแต่มองโลกในแง่ดีเหมือนยายเพลง ก็ถูกพวกคุณรุมรังแกกันหมดพอดี ว่าไงห้ามนอกเรื่องบอกมา”
โสภารีบดักคออีก

“ก็คือว่า พี่เด่นกับคุณป้ารู้สึกห่วงคุณเพลง กลัวว่าจะลำบาก จะอยู่กินยังไง และไปใช้ชีวิตอยู่แบบไหน ก็เลยไปขอร้องให้ผมช่วยไปดูให้หน่อยก็แค่นั้น นายดำไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เพราะพวกเราปิดเอาไว้” เขาบอกตามความจริง
“แล้วคุณก็เลยสะกดรอยตามฉันว่างั้นเถอะ” โสภาดักคออีก
“ก็คุณไม่ยอมบอกผมนี่นาว่าคุณเพลงไปอยู่ที่ไหน นี่เจ้าตัวเองยังไม่โวยวายเหมือนคุณเลยนะ แล้วมันเรื่องอะไรกันคุณนี่”
พิสิทธิ์โวยบ้าง

“ก้อฉันห่วงยายเพลงกลัวนายดำจะหาเรื่องมารังแกอีกน่ะสิ แล้วคุณบอกทางโน้นหรือยังว่าเจอยายเพลงแล้ว”
โสภารีบถาม
“บอกแล้ว แต่บอกแค่ว่าคุณเพลงอยู่สุขสบายดี ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน เพราะผมให้เหตุผลว่าคุณเพลงอยากอยู่เป็นส่วนตัว ไม่อยากจะให้ใครไปรบกวน”

พิสิทธิ์บอกตามความจริง เพราะเขาเพิ่งจะไปหาลัดดากับเด่นณรงค์ก่อนจะมาหาโสภา และเขาก็ตัดสินใจบอกไปตามที่บอกกับโสภา เพราะมองไม่เห็นประโยชน์ว่าจะบอกความจริงไปทำไม ในเมื่อในความคิดของเขาเอง ดนุพรนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกผิด หรือจะแสดงให้เขาเห็นว่ารักระพีพรรณเลย

“แน่ใจนะ”
“แน่สิคุณก้อ เห็นผมเป็นอะไร ผมรู้น่า ว่าจะต้องทำยังไง พอใจหรือยัง” เขาย้อนกลับ
“ก็ได้ แต่ถ้านายดำหรือใครตามไปทำให้ยายเพลงเจ็บปวดอีกนะ ฉันจะเฉ่งคุณเป็นคนแรกเลย ไม่เชื่อคอยดู” โสภาขู่เอาไว้
“จ๊ะ ๆ กลัวแล้วจ๊ะ แม่คุณ ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันหรือยัง”
เขาวกกลับมาเรื่องของตัวเอง จนทำให้โสภาถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“เอ๊ะ...คุณนี่ อย่ามาขี้ตู่นะ”

“ผมไม่ได้ขี้ตู่ เราเองก็ปูนนี้แล้วนะคุณ ดูคุณเพลงสิอายุน้อยกว่าเราตั้งเยอะจะมีลูกแล้ว ผมว่าเราน่าจะคิดเรื่องของเราได้แล้วนะ ถึงแม้ว่าเราสองคนจะรู้จักกันไม่นาน แต่ผมก็มั่นใจว่าเลือกรักผู้หญิงไม่ผิดหรอก” เขาสารภาพรักเอาดื้อ ๆ
“คุณนี่ อะไร จู่ ๆ จะมาบอกรักกันตรงนี้ คุณกลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน” โสภาแก้เขินด้วยการไล่เขาให้ไปให้พ้น ๆ
“ทำงานอะไรคุณ นี่มันจะเที่ยงอยู่แล้ว ไปเถอะไปกินข้าวกัน ผมหิวจะแย่แล้ว เราไปเที่ยวบ้านคุณเพลงก็ได้เอามั้ย”
เขาเสนอ
“ยายเพลงไม่อยู่บ้านหรอก ไปหาลูกค้าจะต้องทำแบบตกแต่งเสนอให้ด่วน” โสภาบอก

“อะไรนะ แล้วคุณรักเพื่อนคุณยังไง ท้องโย้ขนาดนั้นยังต้องไปดูหาลูกค้าอีกเหรอ” เขาถามด้วยเสียงค่อนข้างสูงกว่าปกติ
“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันเป็นคนให้ไปสักหน่อย แต่ลูกค้าน่ะสิ เคยเห็นงานของยายเพลงที่เคยไปออกแบบตกแต่งโรงแรมให้เพื่อนก็เลยติดใจ อยากให้ไปแต่งบ้านให้ลูกชายที่กำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี่ ฉันพยายามบอกว่าไม่สะดวกที่จะออกไปก็ไม่ยอม บอกว่าอยากคุยกับคนที่เคยทำงานครั้งก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะไม่จ้างเรา ฉันว่าจะยกเลิกแล้ว แต่ยายเพลงบอกว่าจะไปให้ไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็เลยต้องยอม วันนี้ก็ให้คินพาไปเย็น ๆ ถึงจะกลับ คุณเองก็เหมือนกันล่ะ ไม่ยอมฟังอะไรก่อน ก็เอาแต่มาว่าฉัน นี่เหรอเขาเรียกว่าคนรักกัน” โสภาอธิบายพร้อม ๆ กับตัดพ้อเขา

“ผมขอโทษ ก็มันตกใจไปหน่อย งั้นเราออกไปกินข้าวกันเถอะผมหิวจะแย่แล้ว” เขาวกเข้าเรื่องเดิม
“ก็ได้ค่ะ” โสภารับคำ
“เอารถผมไปนะ เสร็จแล้วผมจะขับมาส่ง” พิสิทธิ์บอก
“ค่ะ”
โสภารับคำโดยง่าย จนทำให้พิสิทธิ์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่รีบเดินนำหน้าไปเปิดประตูห้องให้กับสาวเจ้าแต่โดยดี


ดนุพรนำรถเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หรูด้วยความเคยชิน โดยมีหญิงสาวสวยที่แต่งตัวน่ารักสมวัยยืนรอที่หน้าคฤหาสน์ ประหนึ่งรู้ว่าเขาจะมาเวลานี้ก็ไม่ปาน
“สวัสดีค่ะคุณดำมาตรงเวลาพอดีค่ะ”
นัชนินเดินมาหาเจ้าของรถหรูพร้อมกับเอามือไปคล้องแขนเขาประหนึ่งเป็นเจ้าของก็ไม่ปาน ส่วนเจ้าของแขนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
“วันนี้คุณแม่อยู่บ้านด้วยค่ะ จะเข้าไปไหว้ท่านก่อนหรือเปล่าคะ” นัชนินบอกขณะยืนยึดแขนเขาไว้ไม่ยอมปล่อย

“ก็ดีครับ พักนี้ไม่ค่อยได้เจอท่านสักเท่าไหร่” ดนุพรรับคำแล้วก็เดินตามเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่าย
“อ้าว...คุณดำสวัสดีค่ะ วันนี้นึกยังไงคะมาถึงบ้านป้าได้ ปกติเห็นพากันไปเที่ยวข้างนอก”
นินทกาลเอ่ยทักแขกอย่างเป็นกันเอง และรับไหว้แขกผู้มาเยือนที่ยกมือไว้เจ้าของบ้าน
“ก็คุณแนนบอกว่าคุณป้าอยู่ก็เลยแวะมาไหว้คุณป้าก่อนครับ อีกหน่อยก็จะพาคุณแนนออกไปซื้อของ”
เขาบอกพร้อม ๆ กับทรุดตัวลงนั่งที่ชุดรับแขกตามเจ้าของบ้าน โดยมีนัชนินนั่งข้าง ๆ และก็ยังคงเกาะแขนเขาเอาไว้ ประหนึ่งกลัวจะหลุดหาย จนมารดาต้องจ้องตาเขม็ง นัชนินจึงได้ยอมปล่อยมือออก

“ป้านัดช่างตกแต่งเอาไว้น่ะค่ะ ทำไมยายแนนช๊อปปิ้งบ่อยจังเลยลูก อยู่ติดบ้านบ้างเถอะนะวันนี้แม่ให้เขาทำอาหารที่เราชอบตั้งหลายอย่าง จะปล่อยให้แม่กินข้าวเย็นคนเดียวอีกแล้วนะ พ่อเราก็อีกคน วันนี้ก็มีงานเลี้ยงรุ่นอะไรของเค้านั่นน่ะ แม่ละเบื่อจริง ๆ เลย ดูสิคุณดำ มีลูกสาวอยู่แค่คนเดียวก็ไม่ค่อยจะอยู่กับป้าเท่าไหร่เลย” นินทกาลบ่นลูกสาว
“อ้าว...แม่ศรีนวลมีอะไรเหรอ” ไม่ทันที่ดนุพรจะได้ตอบโต้อะไร ก็มีสาวใช้เดินเข้ามาหา
“พอดีช่างตกแต่งที่คุณท่านนัดไว้มาถึงแล้วค่ะ จะให้เข้ามาหาที่นี่เลยหรือเปล่าคะ”
ศรีนวลนั่งคุกเข่ารายงานเจ้านายด้วยความนอบน้อม

“ไม่ต้องก็ได้เดี๋ยวฉันจะพาเขาไปที่เรือนหอเลย...งั้นตามสบายนะคะป้าขอตัวก่อน”
นินทกาลบอกแล้วก็ลุกไปด้านนอก
“คุณดำจะไม่ไปดูบ้านฝีมือคุณดำสร้างเหนื่อยเหรอคะ พี่หนึ่งเห็นรูปแล้วยังชอบเลยค่ะบอกว่าถูกใจมาก นี่ถ้าช่างตกแต่งที่คุณแม่หามาฝีมือดีสมราคาคุยนะคะ รับรองว่านิติยสารบ้านและสวนต้องขอเอาไปลงแน่ ๆ เลยค่ะ” นัชนินถามแกมเชิญชวน

“ก็เอาสิครับ ถ้าคุณแนนไม่รีบไปช๊อปปิ้ง ผมยังไงก็ได้ครับวันนี้ งานไม่มีอะไรแล้ว” เขาบอก
“งั้นเราไปดูก่อนก็แล้วกันนะคะ จะได้ลาคุณแม่ด้วยค่ะ”
นัชนินบอกพร้อมกับดึงแขนให้เขาลุกขึ้น และเธอก็ยังไม่วายที่จะแสดงความเป็นเจ้าของเขาโดยการเกาะแขนเดินไปนั่นเอง ไม่นานทั้งสองก็มาถึง


“อ้าว....จะมาดูเรือนหอฝีมือตัวเองเหรอคะคุณดำ”

นินทกาลถามเมื่อเห็นทั้งสองเดินตามมา หลังจากที่ตัวเองเดินมาถึงได้สักพักแล้ว และชื่อของเขาก็ทำให้ระพีพรรณที่ก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดที่นินทกาลบอกอยู่นั้น ถึงกับต้องเงยขึ้นมามองทันใด แล้วภาพที่ได้เห็นมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเธอเองไม่น้อย จนต้องหันหน้าหนี

ดนุพรเองก็แทบจะช๊อคเมื่อช่างตกแต่งของนินทกาลก็คือ คนที่เขาพยายามที่จะไม่เอาหน้าตัวเองไปให้เธอได้พบได้เห็นเลย ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าคิดมาก่อนว่าความพยายามของตัวเองต้องมาจบสิ้นลง เพียงแค่เพราะเขามาหานัชชินเพื่อจะพาไปเลี้ยงข้าวและเดินช๊อปปิ้งเป็นการขอบคุณที่เธอได้พาเขาเข้าไปรู้จักลูกค้ารายใหม่นั่นเอง

เขาจ้องมองร่างกายที่เปลี่ยนแปลงของผู้หญิงที่กำลังอุ้มท้องผู้ที่เป็นสายเลือดของเขาเองอย่างไม่วางตา แต่ก็ต้องรีบตั้งสติและหันกลับมาสนใจกับคนที่ยืนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาอยู่ เพราะไม่อยากให้เป็นที่ผิดสังเกตแก่คนรอบข้าง

“คุณดำคะ ไปดูห้องนอนกันเถอะค่ะ” เสียงนัชนินบอกและรั้งแขนเขาไปในทิศทางที่เธอต้องการ
“ได้ครับ”
เขารับคำอย่างว่าง่ายและเดินตามนัชนินเข้าไปในตัวบ้าน ภคินที่ตั้งหน้าตั้งตาวัดขนาดห้องอยู่ถึงกับตกตลึงเมื่อเจอดนุพรจัง ๆ ในห้องนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรในเวลาต่อมา ได้แต่ทำงานตัวเองต่อไป แต่ในใจนั้นนึกสงสารระพีพรรณขึ้นมาจับใจ ที่จู่ ๆ จะต้องมาเจอกับผู้ชายที่เฝ้าแต่ทำร้ายเธอและคนในครอบครัว

“ทำไมคุณเพลงถึงหนีไม่พ้นนายคนนี้ซักทีนะ” เขาคิดในใจ
“เป็นไงบ้างคะท่านวิศวกร ผลงานเป็นที่พอใจหรือเปล่าคะ” นินทกาลทักหลังจากที่ทั้งเขาและลูกสาวเดินออกมาจากห้อง
“ครับ”
เขารับคำแค่นั้น แล้วก็ยิ้มให้นินทกาล แต่สายตายังไม่วายที่จะแอบไปชำเลืองดูคนที่ดูจะไม่ให้ความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาคงจะเหมือนคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาเธอแล้วกระมัง ในความคิดของเขา


“เอ่อ...จริงสิคะคุณดำ พอดีป้าลืมแนะนำไปค่ะ นี่คุณระพีพรรณมันฑนากร คนที่ออกแบบตกแต่งโรงแรมคุณมงคลไงคะ...หนูเพลงจ๊ะนี่คุณดนุพร เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลาย ๆ ที่ค่ะ โครงการไหน ๆ คุณดำก็ขายหมดเกลี้ยงเลยยค่ะ หรือจะเรียกว่าคุณดำก็ได้นะคะ ป้าจะแนะนำเอาไว้ให้ เผื่อวันหลังคุณดำมีงานด้านนี้จะได้ป้อนงานทำไงคะ เพราะไหน ๆ ก็ทำงานแนวเดียวกันแล้ว คุณดำสร้างบ้านเสร็จ คุณเพลงก็จะได้รับงานต่อเลยไงคะ” นินทกาลแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน







Create Date : 13 ตุลาคม 2551
Last Update : 13 ตุลาคม 2551 12:19:20 น. 3 comments
Counter : 699 Pageviews.

 
ตอนนี้พิสิทธิ์กับโสภามีแอบปิ๊งๆกันด้วย อิอิ ส่วนตัวแล้วชอบพิสิทธิ์ค่ะ


โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:6:48:45 น.  

 
หายไปไหนหว่าาาา ไม่สบายป่าวคะ?


โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:19:15:21 น.  

 
ขอโทษทีค่ะ วันนี้เนทเจ้ง ก็เลยมาอัพได้ช้ามาก ๆ ค่ะ

พรุ่งนี้ก็จะได้มาอัพช่วงบ่าย ๆ นะคะ


โดย: ธัญญะ วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:20:57:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.