Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
รอยอาญา ๒๓ (ธัญรัตน์)




โสภายืนจ้องมองเพื่อนต่างวัยที่ตั้งแต่มาถึงบ้านเธอ ก็เอาแต่นั่งร้องให้อยู่ในห้องนอนเธอไม่หยุด ความแปลกใจที่เห็น ระพีพรรณมาหาในกลางดึกแทนที่จะกลับไปหาพ่อเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เลิกงานแล้วจะรีบกลับบ้าน มีในใจของโสภาไม่น้อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปไตร่ถามอะไรมาก เพราะระพีพรรณแทบไม่อยากจะมองหน้าใครเลย
แม้แต่ภคินที่แปลกใจกับการมาของระพีพรรณไม่แพ้กับพี่สาว แต่ระพีพรรณก็ไม่ได้ให้ความสนใจเลย ได้แต่ขออยู่คนเดียวในห้อง แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด

“เพลง ดึกมากแล้ว พี่ว่าเพลงพักผ่อนเถอะนะ มีอะไรแล้วค่อยแก้ไขกันใหม่ พี่โทรไปบอกคุณลุงแล้ว ว่าเพลงจะค้างที่บ้านพี่ พรุ่งนี้ถึงจะกลับบ้าน” โสภาตัดสินใจเข้าไปบอกเธอ
“ขอบคุณค่ะพี่โสภา เพลงขอรบกวนหน่อยนะคะ” เธอบอกกับโสภา แต่น้ำตายังคงอาบแก้มอยู่
“เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ พี่ไม่กวนแล้ว”
โสภารู้ดีถึงนิสัยเพื่อนที่ไม่ต้องการใครในเวลานี้ แล้วเธอก็ค่อย ๆ ออกจากห้องไป ทิ้งให้เพื่อนที่หอบความเสียใจด้วยเรื่องอะไรที่เธอไม่สามารถจะคาดเดาได้ ให้ครอบครองห้องนอนเธอทั้งคืน ส่วนตัวเองก็ไปนอนห้องภคินแทน

“เป็นยังไงบ้างพี่โสภา” ภคินถามทันทีที่เห็นพี่สาวโผล่เข้ามาในห้อง
“ยังไม่รู้อะไรเลย พี่ก็ไม่กล้าถาม เพราะคิดว่าเพลงคงจะไม่อยากให้ใครกวนในเวลานี้ เอาไว้พรุ่งนี้พี่จะค่อย ๆ ถามเพลงก็แล้วกัน นอนเถอะดึกมากแล้ว” โสภาบอกน้องชาย แล้วก็เดินไปที่เตียงนอน ส่วนภคินก็หอบผ้าห่มผืนใหญ่ลงมานอนกับพื้น
“ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรกับคุณเพลงอีกนะพี่ ผมสงสารเธอจริง ๆ เลย เมื่อไหร่จะครบสัญญาก็ไม่รู้”
ภคินไม่วายที่จะพูดกับพี่สาว

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้เดาก็คงไม่พ้นนายดำนั่นหรอก มันจะต้องทำอะไรกับยายเพลงแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นยายเพลงคงไม่เป็นแบบนี้หรอก” โสภาสมทบกับภคิน
“แต่ก็ไม่แน่หรอกนะพี่โสภา ปกติคุณเพลงไม่ค่อยจะเก็บเอาเรื่องที่นายดำแกล้งหรือด่ามาร้องไห้แบบนี้นะ หรือว่าจะเป็นกับ เอ่อ..” ภคินหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อในความคิดหวนกลับไปคิดถึงคนที่จะทำให้ระพีพรรณต้องเสียใจจนร้องไห้ขนาดนี้
“นายก๊อปหนะเหรอ” โสภาถาม
“ก็จะใครที่ไหนอีกล่ะพี่” เขารับเสียงอ่อย ๆ

“แต่พี่ว่าไม่ใช่หรอก ยายเพลงไม่เคยเสียน้ำตาให้นายก๊อปมานานแล้วนะ ตั้งแต่ที่ไปเจอกันที่บ้านนายดำนั่นน่ะ แล้วยิ่งตอนนี้ก็หมั้นกับยายมิ้นไปนานแล้ว ยายเพลงยิ่งไม่น่าจะเก็บมาเสียใจใหญ่เลย โอย...ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่เถอะ พรุ่งนี้พี่จะถามเพลงให้รู้เรื่อง เป็นอันว่าเรานอนก่อนก็แล้วกันนะ พี่เหนื่อยมากแล้ววันนี้”

โสภาตัดบทสนทนาแล้วก็เอื้อมมือไปปิดไฟห้องทันที แล้วในห้องก็ถูกปลกคลุมด้วยความมืดเข้ามาแทนที่ โดยที่ไม่มีเสียงของโสภาเล็ดลอดออกมาอีกเลย เพราะทั้งสองต่างก็เหน็ดเหนื่อยมาจากการงานแล้วทั้งวัน
โทรศัพท์มือถือถูกวางไว้บนเตียง หลังจากที่ระพีพรรณโทรไปหากำพล เพื่อบอกว่าติดงานที่ต้องทำส่งลูกค้ากับโสภาแล้วจะกลับบ้านเมื่อเสร็จงานแล้ว น้ำตาที่เพิ่งจะเหือดแห้งไปเมื่อใกล้รุ่ง มันได้ไหลรินออกมาอีกครั้ง เมื่อในความคิดได้วาดภาพของใบหน้าพ่อหากได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าจะเจ็บปวดแทนเธอมากแค่ไหน

“คุณพ่อขา เพลงขอโทษค่ะ เพลงขอโทษที่ไม่เชื่อคำตักเตือนของคุณพ่อ เพลงโง่จริง ๆ เพลงมันโง่”

เสียงรำพึงกับตัวเองด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าขาวจนเป็นซีดได้ถูกซุกลงไปกับหมอนอย่างหมดอาลัยกับชีวิต เรี่ยวแรงในร่างกายดูเหมือนจะเป็นใจกับเธอ เพราะมันแทบไม่อยากจะขยับเขยื้อนไปไหนเลยตั้งแต่เช้าหลังจากลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เพราะไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อคืน
ความมืดมนในความคิดที่จะเรียบเรียงเรื่องราวที่จะบอกกับใคร ๆ นั้นยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น แล้วกับเรื่องอนาคตของตัวเธอเอง และคนรอบ ๆ ข้าง ที่เฝ้ารอเธอด้วยความหวัง เธอจะทำอย่างไรกับชีวิตอีกสองชีวิตที่รอเธออยู่ แล้วยังไม่รวมกับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะลืมตามาดูโลกที่แสนจะโหดร้ายในความคิดของเธอในเวลานี้อีก

ลูกที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้กำเนิด จะมีชีวิตอย่างไร เธอจะต่อสู้กับชีวิตที่เหลืออย่างไร ความกังวลต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาในห้วงความคิดของเธอ จนไม่อาจจะหาหนทางแก้ไขได้อีกแล้ว เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะพบกับชีวิตแบบนี้เลย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวังเอาไว้เลย หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาเป็นเครื่องระบายความคับแค้นในใจออกมาโดยไม่คิดที่จะสนใจสิ่งรอบ ๆ ตัวอีกต่อไปแล้ว

“เพลง เป็นอะไรไป มาคุยกันก่อนซิ เพลงร้องไห้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ พี่ต้องรู้แล้วล่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เสียงโสภาดังมาจากเบื้องหลัง ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าโสภาเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่โสภา”
ระพีพรรณผละจากหมอนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ร่างบางโผเข้าไปกอดโสภาประหนึ่งต้องการหาที่ยึดเหนี่ยวทางใจก็ไม่ปาน
“เพลงมีอะไร บอกพี่ได้ไหม เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ มีอะไรเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหานะ เพลงอย่าลืมสิว่ายังมีพี่กับคินอยู่อีกตั้งสองคน ไหนลองเล่าให้พี่ฟังซิ ว่าเกิดอะไรขึ้น” โสภาโอบกอดเธอเอาไว้ด้วยความรักและผูกพันเช่นกัน

“เพลงไม่เหลืออะไรแล้วพี่โสภา ช่วยเพลงด้วย เพลงเหนื่อย ๆ เหลือเกิน เพลงเสียใจ”
เธอร่ำไห้ขณะที่ซุกหน้ากับอกของโสภา
“ไม่ต้องเสียใจ ไหนบอกพี่มาซิ ว่ามีอะไร ใครมาทำน้องพี่ให้เป็นแบบนี้ เล่ามาให้หมด ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่จะไม่ปล่อยให้เพลงต้องเป็นแบบนี้แน่” โสภาบอกเพื่อนต่างวัย สีหน้านั้นรู้สึกสงสารระพีพรรณไม่น้อย

“เพลง.....”
ทุกเหตุการณ์ได้ถูกถ่ายทอดออกมา ให้โสภาฟังทั้งในเรื่องของอดีตที่เธอยังเก็บงำไม่ยอมบอกโสภาด้วยไม่อยากจะประจานผู้ให้กำเนิดตัวเอง แต่มาถึงเวลานี้แล้ว โสภาก็ควรจะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดเสียที เพราะเธอได้รับรู้แล้วว่า มีเพื่อนที่ดีที่สุดที่ยืนเคียงข้างเธอทั้งยามทุกข์และสุขอย่างโสภานี่เอง

“ไม่ได้นะเพลง เรื่องอะไรเราจะมาอมทุกข์อยู่คนเดียว นายดำเป็นคนก่อเรื่อง เขาจะต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้เรามานั่งรับกรรมแบบนี้ อะไรกัน ทำไมนายคนนี้ถึงใจดำผิดผู้ผิดคนนัก คนอะไรวัน ๆ เอาแต่จมปรักอยู่แต่กับความแค้นอยู่ได้”
โสภาโวยวายทันทีที่ได้รู้เรื่องทั้งหมด
“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะพี่โสภา เราทำอะไรเขาไม่ได้ ก็อย่างที่เขาบอกไว้ค่ะ ว่าเราไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน”
เธอบอกเป็นเชิงห้ามปรามโสภา

“ไม่มีได้ยังไง ก็ลูกในท้องเพลงนี่ไง ใจจริงนายนี่จะปล่อยให้ลูกตัวเองไปตกระกำลำบากกับแม่ที่ไม่มีแม้แต่ที่จะอยู่อย่างนั้นเหรอ พี่ล่ะเกลียดจริง ๆ เลยนายคนนี้” โสภาไม่ยอมหยุด
“พอเถอะค่ะพี่โสภา เราทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ เพลงเหนื่อยแล้ว เพลงจะกลับบ้านไปหาคุณพ่อค่ะ”
เธอบอกด้วยความเหนื่อยอ่อน

“ไม่ได้ มานี่เลย พี่จะพาไปคุยกับนายดำให้รู้เรื่อง ไปเพลง เรื่องอะไรจะมาทนทุกข์อย่างนี้ เรามันไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอกนะ จะได้ให้เขามารังแกแบบนี้ การศึกษาเราก็มี เรื่องอะไรมันต้องมีทางแก้สิ มาเลยพี่จะพาไปหานายดำ คุยกันให้รู้เรื่อง”
โสภารีบคว้าเอาแขนของเธอแล้วดึงให้เดินตามออกไปห้อง โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะขัดขืนอย่างไร

“คิน เอารถออกให้พี่ด้วย พี่จะพาเพลงไปหานายดำ”
โสภาบอกภคินที่นั่งรอฟังผลจากพี่สาว แล้วก็ทำหน้างง ๆ กับคำสั่งของพี่ แต่เขาก็ไม่ได้ไตร่ถามอะไร ได้แต่รีบเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วก็เดินตามพี่สาวไปที่รถและขับออกไปจากบ้านโดยเร็ว


“คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้ทำยายเพลงท้องยังงั้นเหรอคุณดำ ฉันไม่เชื่อคุณหรอก”
เสียงโสภาดังขึ้นเมื่อได้รับคำปฏิเสธกลับจากดนุพร หลังจากที่ทุกคนในห้อง ซึ่งมีพิสิทธิ์ที่โสภาโทรตามให้มาร่วมรับฟังด้วย และมีลัดดา พร้อมกับเด่นณรงค์เข้ามาร่วมรับฟังด้วยเพื่อเป็นพยาน ส่วนภคินนั้นดนุพรไม่อนุญาตให้เข้ามาในห้องทำงานเขา ระพีพรรณนั้นแทบไม่อยากจะพูดอะไรอีกเลย นอกจากนั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้โสภาเป็นคนเจรจา

“ไม่เชื่อก็ตามใจคุณสิ มันเรื่องของคุณ หมดธุระพวกคุณหรือยัง ถ้าหมดแล้วก็เชิญกลับไปกันได้แล้ว ผมกับทุกคนในบ้านจะพักผ่อน วันนี้มันเป็นวันหยุด”
ดนุพรเถียงโสภาอย่างไม่แยแสต่อสายตาของทุกคู่ที่จ้องมองมาที่เขา และเขาก็พอจะเดาได้ว่าทุกคนคิดอะไร

“ฉันไม่กลับเด็ดขาด จนกว่าจะมีคนรับผิดชอบลูกในท้องของเพื่อนฉัน ยายเพลงไม่เคยไปเหลวไหลที่ไหน คุณเป็นคนทำให้ยายเพลงท้อง คุณขืนใจยายเพลง เอายายเพลงไปกักขังตั้งนานสองนาน แล้วไหนจะสั่งให้ยายเพลงขึ้นมานอนอยู่บ้านใหญ่อีกตั้งนาน เพื่อที่คุณจะได้เข้าไปหายายเพลงได้สะดวกใช่ไหม แล้วคุณก็จัดการให้แม่บ้านคุณไปอยู่ที่อื่น เพราะจะได้ไม่ต้องมีใครมาเห็นการกระทำของคุณไง คุณสั่งให้หมอมาตรวจอาการยายเพลง พอคุณมั่นใจว่ายายเพลงท้อง คุณก็หลบหน้าไม่ยอมพบยายเพลง หรือคุณจะเถียงว่าสิ่งที่ฉันพูดมานี่ มันไม่จริง” โสภาดักคอเขา

“คุณมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือคิดอะไรก็ได้ แต่มันไม่ใช่ความจริง ผมไม่สนใจหรอกนะว่าเพื่อนคุณจะเหลวไหลหรือเหลวแหลกหรือว่าดีเด่ยังไง แต่อย่ามาดึงผมไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด คนอย่างผม ไม่เอาตัวเองลงเกือกกั้วกับเลือดชั่ว ๆ ของนายกำพลหรอก”
เขาด่ากลับโสภาด้วยอารมณ์ที่ไม่แพ้กัน
“เอาล่ะ ๆ พอกันได้แล้วทั้งสองคน อะไรกัน เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ทำไมไม่พูดคุยกันดี ๆ” เสียงลัดดาห้ามทั้งสองเอาไว้

“พี่เห็นด้วยนะดำ ใจเย็น ๆ แล้วค่อย ๆ คุยกันดีกว่า”
เด่นณรงค์ที่แทบไม่จะอยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากปากของโสภา เขาพยายามสงบสติอารมณ์และความเสียใจเอาไว้
“ผมเห็นด้วยนะครับพี่เด่น เราน่าจะค่อย ๆ หาหนทางแก้ไขกันดีกว่า” พิสิทธิ์ออกความเห็นบ้าง

“แกจะไปแก้ไขอะไรสิทธิ์ ฝ่ายเราไม่ได้ทำอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไร ทำไมจะต้องมาแก้ไขด้วย หรือว่าแกไม่เชื่อฉัน คุณแม่กับพี่เด่นด้วย” ดนุพรรีบพูดดักคอฝ่ายของตัวเอง โดยไม่ได้มองหน้าระพีพรรณแม้แต่น้อย
“คุณไม่ได้ทำเหรอ แล้วใครมันทำ จู่ ๆ ยายเพลงจะไปท้องกับไม้ถูกพื้น หรือว่าเครื่องซักผ้าเหรอ วัน ๆ ยายเพลงจะได้โผ่หน้าไปหาใคร พอถึงวันหยุดก็รีบกลับบ้านไปหาพ่อ พอเช้าวันจันทร์ก็รีบกลับมาทำงานให้ทันตีห้า แล้วจะเอาเวลาไปหาใครที่ไหนไม่ทราบ” โสภาเริ่มโมโหขึ้นอีก
“นั่นมันเรื่องของเพื่อนคุณ ผมไม่รู้ แล้วทำไมคุณไม่ไปถามคนรักเก่าของเพื่อนคุณล่ะ”
ดนุพรบอกด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยลง

“จะเอายังไงดีพ่อสิทธิ์ ป้าไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
ลัดดาหันไปหาพิสิทธิ์เพราะหมดหนทางจริง ๆ ส่วนตัวเองก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่ทั้งโสภาและดนุพรถกเถียงกัน
“คงต้องพิสูจน์ครับคุณป้า” พิสิทธิ์ออกความเห็น
“พิสูจน์ยังไงล่ะสิทธิ์”
เด่นณรงค์ที่ทำท่าเป็นกังวลถามขึ้น ซึ่งมันก็เป็นคำถามเดียวที่ค่อนข้างจะตรงกับใจของโสภาไม่น้อย

“ถ้าจะหาคำตอบตอนนี้ก็คงจะต้องหาพยานบุคคลครับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่คอนโดของเจ้าดำมัน แล้วก็คนที่บ้านพักตากอากาศด้วยครับ แล้วก็ยังมีนายสมพงศ์คนรถอีก แต่ถ้าทุกคนจะเอาความชัดเจน ก็คงจะต้องรอตรวจ ดีเอ็นเอ ของเด็กที่กำลังจะเกิดมาครับ ว่าตรงกับของเจ้าดำหรือเปล่า” พิสิทธิ์ออกความเห็น
“ไอ้วิธีของคุณทนายมันก็เข้าท่าอยู่หรอกนะคะ แต่ไม่ทราบว่าไอ้พยานบุคคลที่คุณว่ามานี่ ใครหน้าไหนมันจะกล้ามาเป็นพยานให้เจ้านายตัวเองบ้าง หรือไม่อีกอย่างเพื่อนคุณอาจจะไปบล็อกเอาไว้แล้วก็ได้ ใครจะไปรู้”
โสภาไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ และยิ้มออกมาเหมือนความคิดของพิสิทธิ์ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

“ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอให้คุณเพลงคลอดก่อน แล้วก็ตรวจ ดี เอ็น เอ แล้วล่ะคุณ”
พิสิทธิ์บอกอีกครั้ง พร้อมกับมีสีหน้าที่เชื่อโสภาครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะขัดแย้งหรือออกความคิดเห็นได้ยังไง ถึงแม้ว่าในใจอาจจะค่อน ๆ ไปทางเชื่อโสภาไม่น้อย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นเพื่อนจะมีทีท่าในทางนั้นกับระพีพรรณเลย
“ก็แล้วทำไมต้องรอล่ะ ทำไมคุณดำไม่ยอมรับออกมาเลย ลูกผู้ชายน่ะ กล้าทำมันก็ต้องกล้ารับ จะมาให้รอ แล้วเพื่อนฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” โสภาบอก

“ไม่เห็นต้องเอาไปไว้ที่ไหนเลยนี่ คุณทำยังกับเพื่อนคุณเป็นคนมีหน้ามีตาใหญ่โตในสังคมยังงั้นล่ะ....”
ดนุพรย้อนกลับให้โสภาเจ็บใจ และมันก็ทำให้ระพีพรรณเสียใจไม่น้อยกับคำพูดของดนุพร
“ทำไมเหรอคะ การมีหน้าตาในสังคมมันต้องเกี่ยวกับการมีเงินมีทองมากมายเหมือนคุณด้วยเหรอ อย่างน้อย ๆ ยายเพลงก็มีสังคมของเขา มีเพื่อน ๆ ที่จะให้อายที่ดันท้องไม่มีพ่อ” โสภาไม่ยอมลดละ

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะยอมให้รอพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ก็ได้ แต่ในระหว่างที่รอ ระพีพรรณจะต้องกลับมาทำงานเหมือนเดิมโดยไม่ขาดไม่ลาใด ๆ ทั้งสิ้น ลาคลอดก็ไม่ได้ ถ้าหายไปแม้แต่วันเดียวสัญญาถือเป็นโมฆะทันที พอใจพวกคุณหรือยัง”
ดนุพรบอกแล้วกวาดสายตาไปหาระพีพรรณที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวนอกจากปล่อยให้น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาอาบแก้มเท่านั้น และมันก็ทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ด้วยกลัวความอ่อนแอของตัวเอง
“ดำ...มันจะไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ คนท้องยังไง ๆ ก็ต้องลาคลอด” ลัดดาเตือนสติเขา
“จริงด้วยดำ พี่ไม่เห็นด้วยเลย” เด่นณรงค์สมทบ

“ผมไม่สนใจว่าใครคิดจะยังไงครับ ผมเป็นคนทำสัญญาและทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับผม มันเป็นเงินของผม และผมคิดว่าผมมีสิทธิ์ที่จะกำหนดข้อตกลงต่าง ๆ ได้ ถ้าใครคิดว่าทำไม่ได้ทุกอย่างก็จบ” เขาแย้งพี่ชายกับมารดาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
“นั่นสินะฉันลืมไป ว่าคุณเป็นคนกำหนด คุณก็เลยไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าคุณจะทนดูลูกในท้องยายเพลงต้องลำบากตามแม่ก็ตามใจคุณ ฉันจะให้ยายเพลงทนทำงานที่นี่จนกว่าจะถึงวันคลอด ให้มันรู้ไปว่าไอ้พ่อใจร้ายมันจะนั่งดูคนที่อุ้มท้องลูกของมันทำงานไปจนตายโดยไม่รู้สึกผิด” โสภาประชดเขาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าโกรธจัด

“พี่โสภาพอเถอะค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะนะคะ อย่าไปเถียงเขาเลย ยังไง ๆ เราก็ไม่ชนะหรอกค่ะ”
ระพีพรรณทนไม่ได้ต้องรีบห้ามโสภา พร้อม ๆ กับลุกขึ้นมารั้งแขนโสภาเอาไว้
“ไม่ได้นะเพลง เรื่องอะไรเราจะไปยอม” โสภายืนยันเสียงแข็ง
“พี่ว่าดำลองคิดใหม่อีกทีดีมั้ย” เด่นณรงค์พยายามจะโน้มน้าวเขา
“ไม่ครับ ผมใจดีมามากพอแล้วสำหรับคนพวกนี้ พี่เด่นลืมไปแล้วเหรอครับว่าพี่ต้องพบกับอะไรบ้าง จากการกระทำของคนพวกนี้ รับได้ก็รับ ถ้าไม่รับก็ตามใจ แล้วอย่ามาหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ”
เขายืนยันเสียงแข็งจนทำให้เด่นณรงค์ไม่อยากจะไปขวางเขาอีกแล้ว เพราะดูท่าทางน้องชายคงจะไม่ยอมให้กับระพีพรรณง่าย ๆ เป็นแน่ในเวลานี้

“เรากลับกันเถอะค่ะพี่โสภา เพลงไม่อยากได้อะไรแล้ว มันเป็นของ ๆ เขา ในเมื่อเขาไม่ได้ตั้งใจจะคืนให้เราแต่แรก มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมาทวงคืน กลับบ้านเราเถอะค่ะ นะคะเพลงขอร้อง”
ระพีพรรณพยายามเรียกสติโสภากลับคืนมาและเขย่าแขนโสภาให้หยุด
“เดี๋ยวก่อนสิแม่เพลง จะรีบกลับไปไหน เธอควรจะอยู่คุยให้มันรู้เรื่องนะ ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนไม่มีความยุติธรรม ถ้าลูกชายฉันทำจริง ๆ ฉันก็ยินดีจะให้เขารับผิดชอบ เธอควรจะหาวิธีให้เรื่องทั้งหมดมันยุติลง ไม่ใช่เดินหนีปัญหาแบบนี้”
ลัดดาเตือนเธอ

“พี่เห็นด้วยกับคุณแม่นะคุณเพลง” เด่นณรงค์รีบออกความคิดเห็น
“นี่คุณแม่กับพี่เด่นเป็นอะไรไปครับ นี่ไม่เชื่อที่ผมพูดใช่ไหมครับ ว่าผมกับแม่นี่ไม่มีอะไรกัน ทำไมจะต้องมาพิสูจน์อะไรให้มันยุ่งยากด้วย ถ้าเขาไม่รับข้อเสนอที่ผมยื่นให้ ก็ปล่อยให้เขาไปสิครับ แล้วอย่ามาหาว่าใจร้ายนะ เธอเลือกทางของเธอเองนะ ฉันไม่เกี่ยว” ดนุพรบอกออกไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้หันไปสบตากับคนที่เขาพูดด้วยเลยแม้แต่น้อย

“พี่ไม่ยอมให้เพลงต้องเป็นแบบนี้นะ ลูกทั้งคน ไม่ใช่จะเลี้ยงได้ง่าย ๆ นะเพลง มันมีอีกหลาย ๆ อย่างที่เพลงจะต้องเจอ” โสภาไม่ยอม
“ช่างเถอะค่ะ ไม่ว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน เพลงก็จะทนค่ะ เรากลับกันเถอะนะคะ ถ้าเขาไม่รับก็ไม่เป็นไรค่ะ ลูกของเพลงแค่คนเดียว เพลงเลี้ยงได้ ไม่ต้องให้ใครที่ไหนมาช่วย นะคะพี่โสภา เพลงขอร้อง เพลงเหนื่อยค่ะ”
ระพีพรรณอ้อนวอนโสภาด้วยความเจ็บปวด ขอบตาที่แดงกร่ำไปด้วยคราบน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาฟ้องให้เห็นความเจ็บปวดยิ่งนัก จนโสภาแทบจะไม่อยากพูดอะไรออกมาอีกแล้ว เพราะดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะดนุพรได้แล้ว

“เพลงแน่ใจเหรอ ว่าต้องการอย่างนี้” โสภาถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ค่ะพี่โสภา” เธอบอก
“ก็ตามใจเพลงก็แล้วกัน” แล้วโสภาก็ยอมแพ้ตามเธอ
“คุณเพลง แน่ใจแล้วเหรอครับ” พิสิทธิ์ถามเพื่อความแน่ใจ
“ค่ะ ขอบคุณ คุณพิสิทธิ์มากนะคะ ที่เสียเวลามา คุณท่านกับพี่เด่นด้วยค่ะ เพลงขอโทษนะคะที่มารบกวน เพลงขอตัวค่ะ”
เธอบอกพลางยกมือไหว้คนทั้งสอง พร้อม ๆ จูงแขนโสภาที่ไม่อยากจะก้าวขาออกไปไหน
“คุณเพลง แล้วคุณเพลงจะไปไหนครับ” เด่นณรงค์ยืนขึ้นแล้วเดินไปหาทั้งสองด้วยความห่วงใย

“เพลงจะไปอยู่ในที่ของพวกเราค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เธอยิ้มให้เขาด้วยความมีไมตรีทั้ง ๆ น้ำตายังนองหน้าอยู่ เพราะรู้สึกดีใจที่อย่างน้อย ๆ เธอก็ยังมีเด่นณรงค์ที่ไม่ได้เกลียดเธอเหมือน ๆ กับที่น้องชายเขาเป็น
“แล้วเธอจะให้เวลาที่มาทำงานที่นี่มันเสียเปล่าเหรอแม่เพลง” เสียงลัดดาถามขึ้น
“ถ้ามันแลกกับการตัดขาดจากการจองเวรซึ่งกันและกันได้ เพลงก็ยินดีค่ะคุณท่าน” ระพีพรรณบอกออกไป

“ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่ฉันอยากจะให้เรื่องทั้งหมดระหว่างครอบครัวสองครอบครัวจงจบลงแค่นี้ และนับตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันขอให้เราจงเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต”
เธอพูดแล้วก็หันหน้าไปหาดนุพรด้วยแววตาแห่งความเจ็บปวด แล้วทั้งสองก็ออกจากห้องไปโดยไม่หันหลังกลับมามองสายตาแทบทุกคู่ที่จ้องมองตามคนทั้งสองไป พ้นออกมาจากห้องได้ไม่นานระพีพรรณกับโสภาต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีคนในบ้านมายืนรออยู่ก่อนแล้ว เหมือนจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น

“คุณเพลงจะไปไหนคะ” แพงถามขึ้น
“ป้าแพง เพลงไปก่อนนะคะ เอาไว้วันหลังเพลงจะติดต่อมาหาป้าแพง รักษาตัวด้วยนะคะ” เธอเข้าไปสวมกอดแพงเอาไว้
“ทำไมคะคุณเพลง เกิดอะไรขึ้นคะ เขาทำอะไรคุณเพลง”
แพงถามด้วยความสงสัย และมันก็ไม่แพ้กับหลาย ๆ คนที่ยืนรอฟังคำบอกเล่าของเธออยู่
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ถึงเวลาที่เพลงต้องไปก็เท่านั้น ขอบคุณป้าแพงมาก ๆ ค่ะ ที่คอยดูแลและช่วยเหลือเพลงมาโดยตลอด” ระพีพรรณบอกและกวาดสายตาไปยังหลาย ๆ คนที่ยืนอยู่

นิตยาซึ่งถึงแม้จะไม่ค่อยชอบหน้าระพีพรรณสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของระพีพรรณในเวลานี้ ก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า เกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าจะให้คาดเดา มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ไม่อย่างนั้นระพีพรรณคงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้เป็นแน่ เพราะนิตยาก็อดชื่นชมในความอดทนกับงานหนัก ๆ มาได้ไม่น้อย

“พี่เพลงจะไปไหนครับ” ดอนเข้ามาโอบกอดและร้องไห้ซุกหน้าไว้ที่เอวเธอ
“คุณพ่อพี่เพลงไม่ค่อยสบายค่ะ พี่จะต้องไปดูแลท่าน และจะกลับไปอยู่บ้านค่ะ ไม่ได้หนีไปไหนไกล คุณดอนต้องขยันเรียนนะคะ ต่อไปนี้พี่เพลงคงจะไม่ได้มาสอนการบ้านให้แล้วนะคะ”
ระพีพรรณเดินไปโอบกอดเด็กหนุ่มเอาไว้ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง ที่จะต้องจากเขาไป น้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งก็ไหลรินออกมาอีกเมื่อได้กอดเด็กน้อยเอาไว้

เธอยังจำได้ว่าเมื่อวันแรกที่เธอเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ ดอนยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ในสายตาเธอ แต่วันนี้เวลาผ่านไปหลายปี เขาค่อย ๆ เติบโตขึ้น และมันก็ทำให้เธอรู้สึกใจหายเหลือเกิน ที่ต่อไปจะไม่ได้เห็นเขาเติบโตอีกแล้ว เพราะเธอไม่คิดว่าจะก้าวเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้อีกตลอดชีวิต
บ้านหลังนี้กับคนที่นี่ในความรู้สึกของเธอ มันเป็นเหมือนโรงเรียนดี ๆ นี่เอง โรงเรียนที่ให้เธอได้เรียนรู้ชีวิตของคนอีกสังคมหนึ่ง ซึ่งต่อไปนี้ ตัวเธอเองก็จะต้องไปดำรงค์ชีวิตในสังคมนี้ โดยที่จะไม่มีโอกาสได้กลับมาร่ำรวยตามที่เธอคาดหวังเอาไว้อีกแล้ว

“พี่เพลงอย่าไปเลยนะครับ ดอนขอร้อง มีปัญหาอะไรให้คุณพ่อช่วยได้มั้ยครับพี่เพลง”
เด็กหนุ่มยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ และร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ มันช่างไม่ต่างอะไรกับผู้ที่กำลังจะจากไปเลย น้ำตาแห่งความเสียใจได้หลังไหลออกมาจากคำพูดของเด็กที่ไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน หนูน้อยคงไม่รู้หรอกว่าคนที่เขาบอกให้เธอไปขอความช่วยเหลือนั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือต้นเหตุแห่งความสูญเสียของเธอนั่นเอง
“พี่ไปก่อนนะคะคุณดอน แล้วเราค่อยพบกันใหม่ค่ะ เป็นเด็กดีของคุณย่านะคะ พี่ฝากคุณดอนช่วยดูแลอาดาด้วยนะ”

ระพีพรรณบอกก่อนจะหอมแก้มเด็กชายด้วยความรัก แล้วก็มองไปยังทุกคนที่จ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา แล้วสายตาเธอก็มองไปยังทุกคนที่เพิ่งจะออกมาจากห้องทำงานของดนุพร และเดินมาดูการจากไปของเธอ
ระพีพรรณบอกตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไงกับคนพวกนั้น แต่ก็รู้ตัวว่าเปล่าประโยชน์ที่จะไปคิดถึงพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะต่อไปนี้เธอและพวกเขาก็จะเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันอีกต่อไป ระพีพรรณละสายตามาหากลุ่มคนที่เป็นเสมือนเพื่อนร่วมงานที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอมา

“เพลงไปก่อนนะทุก ๆ คน”
เธอกล่าวลาและมองหน้ารำพึงกับสมพรที่ยืนจับมือกันเอาไว้แล้วส่งสายตาแห่งความอาลัยมาให้เธอ ส่วนแพงนั้นไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เพราะสงสารระพีพรรณที่ทำภาระกิจไม่สำเร็จดังที่ตั้งใจเอาไว้ แตนที่เพิ่งจะกลับมาเมื่อวานมีอาการค่อนข้างจะดีใจด้วยซ้ำที่ขวากหนามหัวใจไปได้เสียที
ระพีพรรณจ้องมองไปที่สมพงศ์ ผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างเขาและเธอมาโดยตลอด แต่เธอก็ไม่คิดที่จะหาความเดือดร้อนใส่ตัวเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะรู้ดีว่าเขาคงจะไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ จะยังไงเสีย เขาก็คือคนของดนุพร

“เราไปกันเถอะครับคุณเพลง”
เสียงของภคินเรียก ทำให้ความคิดในหลาย ๆ เรื่องกลับมาอยู่กับตัว แล้วเธอก็ก้าวขึ้นรถไปโดยไม่ได้หันมามองใครอีกเลย อีกไม่นานต่อมา รถก็มาส่งระพีพรรณถึงบ้านทั้ง ๆ ที่โสภาขอร้องให้ไปพักที่บ้านเธอก่อน แต่ระพีพรรณก็ไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้น นอกจากกลับบ้านไปหาพ่อ แต่พอมาถึงบ้านเข้าจริง ๆ ระพีพรรณก็เอาแต่ร้องไห้เพราะวาดภาพไม่ถูกว่าพ่อจะเสียใจมากแค่ไหน ถ้าหากได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“เพลงพี่ว่าไปนอนบนห้องก่อนดีกว่านะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปหาคุณพ่อก็แล้วกัน”
โสภาเห็นอาการของเพื่อนที่ตั้งแต่ออกจากบ้านดนุพรมา น้ำตาก็ไม่เหือดแห้งเลย

“เพลงสงสารคุณพ่อค่ะ เพลงผิดเอง เพลงไม่ดี เพลงทำงานไม่สำเร็จ” ระพีพรรณพร่ำบอกสิ่งที่อยู่ในใจเธอเรื่อยมา
“อย่าโทษตัวเองเลยนะเพลง ขึ้นไปพักข้างบนเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปดูคุณพ่อให้เอง แล้วคืนนี้พี่จะไปนอนเป็นเพื่อนนะ เชื่อพี่อย่าดื้อ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ เหมือนที่เพลงเคยบอกพี่ สมัยที่เราอยู่เมืองนอกด้วยกันไง คินพี่ฝากพาเพลงไปพักข้างบนด้วย” โสภาปลอบใจเพื่อน และก็หันไปหาน้องชายที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
“ครับพี่” เขารับคำแล้วก็เดินไปหาระพีพรรณ

“ไม่เป็นไรค่ะ เพลงไปเองได้ ฝากคินไปดูแลคุณพ่อก็แล้วกันนะคะ”
ระพีพรรณบอกแล้วก็เข้าบ้านไป โดยไม่ได้สนใจโป่งที่กำลังยืนงงเพราะความไม่เข้ากับอาการและบทสนทนาของคนทั้งสามเลยแม้แต่น้อย
“ลุงโป่งคะ คุณลุงหลับหรือยังคะ” โสภาหันไปถามโป่ง ขณะออกเดินไป
“ยังครับ” โป่งตอบ แล้วก็เดินตามโสภาเพื่อตรงไปยังเรือนของกำพล โดยมีภคินเดินตามไป

“มาแล้วเหรอยายเพลง” กำพลถามเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่เรือนตัวเอง แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นโสภาแทนลูกสาวตัวเอง
“อ้าว...หนูโสภา แล้วยายเพลงไปไหนล่ะจ๊ะ”
กำพลถามแล้วก็ยิ้มให้โสภา แต่ก็ต้องแปลกใจที่สีหน้ของโสภานั้น แตกต่างไปจากหลาย ๆ วันที่เขาเห็น







Create Date : 08 ตุลาคม 2551
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 9:35:48 น. 6 comments
Counter : 654 Pageviews.

 
ช้ามากเลยค่ะ

ผิดเวลาไปนิดนึงน่ะค่ะนิ

เเต่ม่ะเปนรายค่ะ
เพราะชอบตอนนี้มากเลย
ขอบคุนน่ะค่ะ


นายดำตายเเน่ๆๆ


โดย: ออย IP: 222.123.217.82 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:9:48:40 น.  

 
ขอโทษทีนะคะออย

พอดีตอนเช้าจะต้องไปเป็นชาวสวนก่อนค่ะ
เพราะแดดไม่แรง ก็เลยได้มาโพสตอนมีแดดแล้ว

ขอบคุณนะคะที่ติดตาม อยากจะคุยด้วยจังเลย
แต่ไม่เคยออนตรงกันสักทีนะ


โดย: ธัญญะ วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:9:52:34 น.  

 
แอบมาโพสต์ตอนเรางีบแอบงีบนะ แต่ไม่เปนไรตื่นมาแล้วมีให้อ่านถือว่าดีแล้วค่ะ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง อยากรู้ว่าเมื่อไรนายดำจะกระอั่กเลือด อิอิ


โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:13:30:25 น.  

 
หึ หึ หึ เอาละสินายดำ

มีแต่คนรอตืบ ตายแน่ ๆ เลย


โดย: ธัญญะ วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:14:23:21 น.  

 
ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ล่ะคะ
อย่างนี้เพลงต้องเอาคืนให้หนักๆเลย


โดย: noognig IP: 202.136.14.9 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:18:52:01 น.  

 
เอาไว้ให้ถึงตอนเพลงเอาคืนก่อนนะคะ
แล้วคุณหนุงหนิงค่อยมาบอก
ว่าหนักพอหรือยัง

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ


โดย: ธัญญะ วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:22:31:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.