เมื่อการเขียนมากับความกลัว

จำได้ว่า
ฉันเริ่มอ่านหนังสือที่ดูมีสาระและเป็นเรื่องเป็นราว
ตอนที่ฉันอายุ 16 ในขณะที่เพื่อน ๆ อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น
ฉันกลับหยิบหนังสือวรรณกรรมมาอ่าน
กลิ่นสีและทีแปรงเป็นเล่มแรก ๆ ที่ฉันอ่าน
แล้วมันก็ทำให้ฉันใฝ่ฝันที่อยากมีชีวิตในรั้วมหาลัย
ที่ไม่ซ้ำแบบใคร มีเรื่องเล่าสนุก ๆ เก็บไว้ในความทรงจำ
แก่ตัวไปเวลารวมรุ่นจะได้มีเรื่องเล่าขำ ๆ
ให้ได้โม้กันกลางโต๊ะอาหาร

พอเข้ามหาลัยฉันก็เริ่มอ่านหนังสืออีกหลาย ๆ แบบ
วรรณกรรมเยาวชน , วรรณกรรมไทย , วรรณกรรมแปล
ตั้งแต่สมัยปฏิวัติสมัยหกตุลาโน่น
รวมไปถึงหนังสือปรัชญาหนัก ๆ ประวัติศาสตร์เล่มหนา ๆ ก็อ่าน
ใครเอ่ยชื่อหนังสือเล่มไหน
ใครว่าดีเป็นต้องหามาอ่านให้ได้
การสะสมความรู้ด้วยการอ่าน
สะสมถ้อยคำเด็ด ๆ ภาษาเด็ด ๆ จากการอ่าน
ไม่ได้ทำให้ฉันอยากเป็นนักเขียนนักหรอก
เพราะฉันได้แต่บอกตัวเองว่า
ฉันไม่มีทางเป็นนักเขียนที่ดีได้หรอก
เพราะฉันไม่กล้าให้ใครอ่านในสิ่งที่ฉันเขียน
เป็นหนอนหนังสืออ่านอย่างเดียวน่าจะดีกว่า

พอเริ่มโตมาหน่อยฉันก็ค้นพบว่า
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการเขียนให้คนอื่นอ่านนี่แหละ
แม้แต่ทำข้อสอบยังต้องเขียน
ทำรายงานก็ยังต้องเขียน
ขณะนี้ฉันก็กำลังเขียน
เคยคิดเหมือนกันนะว่าสักวันอยากเป็นนักเขียนสารคดี
เพราะจะได้เที่ยวไปเขียนไป
เก็บประสบการณ์เอาไว้เขียนนิยายหากินตอนแก่

ตอนนี้สิ...ฉันได้เขียนจริง ๆ แล้ว
แม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนที่มีชื่อติดตลาด
ไม่ใช่นักเขียนสารคดีร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่มันก็ก้ำกึ่งระหว่างสารคดีกับวิชาการ
และสิ่งสำคัญมันก็อยู่ตรงที่ว่า
“ฉันได้เขียน...แต่ฉันยังคงกลัวที่จะให้คนอื่นอ่าน”
คิดอยู่ในใจว่า
อย่างนี้จะเป็นนักเขียนที่ดีได้อย่างไรกัน
แม้แต่คำชมของคนที่อ่านงานของฉัน
ก็ไม่ได้ทำให้ฉันมั่นใจในการเขียนได้เลย
ตอนนี้ฉันหวังแต่เพียงว่าการเขียนมากๆ
จะทำให้ฉันกล้าหาญมากขึ้น

แต่ก็น่าแปลก
เพราะในขณะที่ฉันกำลังพร่ำบ่นอยู่นี้
ฉันกำลังเขียนให้เธออ่าน โดยปราศจากความกลัว
ขอบคุณที่การอ่านของเธอทำให้ฉันกล้าเขียนมากขึ้น

24 กุมภาพันธ์ 2551
ตีสามยี่สิบนาที




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2551
11 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 12:39:03 น.
Counter : 561 Pageviews.

 

นักเขียนถ้ามองงานตัวเองดีที่สุด ก็คงไม่มีเรื่องต่อไปแน่นอน พิมคิดว่านะ

ยังไงก็สู้ต่อไปนะพี่โบว์ พิมจะคอยอ่าน คอยคอมเมนต์ คอยให้กำลังใจอยู่ตรงนี้แหละ ถึงพิมจะไม่ได้มีมุมมองความคิด หรืออ่านหนังสือได้มากมายเหมือนกับพี่โบว์แต่ก็ใช้ความรู้สึกเข้าช่วยนี่แหละ ฮ่าๆ เหมือนมันจะตลก แต่ใช้ได้ผล......เอ้า สู้ๆ

 

โดย: พิม IP: 117.47.192.228 24 กุมภาพันธ์ 2551 3:38:49 น.  

 

เขียนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็จะเก๋าเอง
แล้วจะคอยอ่านเรื่องไปเที่ยวเด็ดๆนะครับ

 

โดย: ความสุขเล็กๆ 24 กุมภาพันธ์ 2551 9:10:02 น.  

 

เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วอ่ะค่ะ เพราะว่าหายกลัวแล้ว
คนอ่านอย่างเราไม่กลัวที่จะอ่านเลย และก็มา
เป็นกำลังใจให้นะค่ะสำหรับการเขียนคะ ...

 

โดย: JewNid 24 กุมภาพันธ์ 2551 9:18:22 น.  

 

everything come with time ค่ะ เขียนไปเรื่อยๆ ซักวันเราก็เก่งค่ะ

 

โดย: Summer Flower 24 กุมภาพันธ์ 2551 12:32:15 น.  

 

Happy ๆ ค่า ^^

 

โดย: โสมรัศมี 24 กุมภาพันธ์ 2551 12:35:38 น.  

 

เชื่อดิ มีอีกหลายคนที่ฝันอยากเป็น อยากทำเหมือนแก .. แต่ว่าก็ยังไม่ได้เริ่มเลย ..

จงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไปนะเพื่อนรัก ..ฉันจะคอยให้กำลังใจแกอยู่ห่างๆ

 

โดย: พีช IP: 124.121.117.118 24 กุมภาพันธ์ 2551 14:30:27 น.  

 



ดีมากน้องโบ
เชื่อมั่นว่าเมื่อน้องเขียนคำนี้ออกมาได้
แปลว่าหัวใจน้องอิสระเสรีจริงๆ แล้วล่ะ

 

โดย: อุ้มสี 25 กุมภาพันธ์ 2551 8:24:35 น.  

 

สนใจที่จะนำบทความนี้ลงในนิตยสารครับ รายละเอียดอื่นๆ กรุณาติดต่อกลับเพื่อให้ผมได้มีโอกาสชี้แจงด้วยครับ

ขอบคุณครับ

*ยังไม่บอกว่าชอบตรงไหน อิอิ

 

โดย: pingupa@hotmail.com IP: 124.121.135.165 25 กุมภาพันธ์ 2551 16:40:07 น.  

 

เข้ามาให้กำลังใจค่ะ.. อย่ากลัวที่จะเขียน.. เพราะเรายังไม่กลัวที่จะอ่าน

 

โดย: ชะอม IP: 65.78.189.193 3 เมษายน 2551 0:16:37 น.  

 

แกชอบเขียนอะไร แบบแอ่ะ
บแบ๊วว
เอง

 

โดย: drnoian@hotmail.com IP: 202.28.182.12 16 พฤษภาคม 2551 11:30:44 น.  

 

เรากฺ็เป็นคนหนึ่งที่ชอบที่จะเขียน..แต่ก็ไม่อยากให้ใครอ่าน..จริงนะ.เพราะบางเรื่องมันเป็นความรู้สึกลับๆๆของเรา......แต่ก็ชอบที่จะอ่านงานเขียนของคนกล้าหาญ..ขอบคุณนะ

 

โดย: พราว IP: 1.2.130.68 14 มกราคม 2557 9:52:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
24 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.