Jerome Become a Genius (1)




“เจอโรม” กลายเป็นอัจฉริยะ จริง ๆ เรื่องนี้เป็นชื่อเรื่องหนังสือที่แปลเป็นไทยว่า “สู่ความเป็นอัจริยะด้วยการพัฒนาสมอง” เขียนโดย Eran Katz แปลโดย เจิดจรัส ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ค้นพบหนังสือเล่มนี้เองหรอก เพื่อนสนิทฉันคนหนึ่งเป็นคนชี้ให้ฉันเห็นว่า “เล่มนี้ดี น่าอ่าน และควรอ่าน” แค่เห็นหน้าปกจั่วหัวที่หน้าปกหนังสือว่า “ทำไมคนยิวฉลาด” ยิ่งทำให้ฉันต้องค้นหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านอย่างจริงจัง

จริง ๆ แล้วฉันยังอ่านมันไม่จบหรอกนะ ยังไม่ถึงครึ่งเล่มด้วยซ้ำ ในหนังสือมีทั้งหมด 16 บท และฉันพึ่งอ่านมันไปได้เพียง 4 บท เมื่ออ่านยังไม่จบบทที่ 4 ดี ฉันก็คิดในใจแล้วว่าต้องเขียนอะไรสักอย่าง...จนฉันมานั่งเขียนอยู่ที่นี่

หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มคนที่คุยกันว่าทำไมคนยิวฉลาด เรามักเห็นชื่อนักวิทยาศาสตร์ดัง ๆ ติดอันดับโลกอย่างไอสไตน์ หรือแม้แต่นักปฏิวัติอย่างคาร์ล มาร์กซ และใครอื่น ๆ อีกหลายคนที่ล้วนคุ้นหูกันดี นั่นสิ !!! ทำไมถึงต้องเป็นคนยิว...แต่ใช่ว่าคนยิวจะอัจฉริยะชาติเดียว คนไทยอัจฉริยะก็ถมเถ แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่ พวกเขาเหล่านั้นสร้างความอัจฉริยะขึ้นมาได้อย่างไร

ข้อแรก... “หลักการแห่งจินตนาการ” คือ การจินตนาการสภาพที่แตกต่างออกไป ไม่ต้องสนใจความรู้สึกเกี่ยวกับตรรกและโอกาส ฉันค้นพบว่า “หลักการจินตนาการแบบพยากรณ์อนาคต (Prophetic Imagination) เพื่อทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงโดยวิธีการที่เป็นไปได้...ช่างคล้ายและสอดคล้องกับเรื่อง The secret สิ้นดี...ถ้าไม่เชื่อเธอลองเขียนสิ่งที่คุณปรารถนาสองข้อลงบนกระดาษดูสิ...เหมือนกับที่เธอคาดหวังให้ตัวเลขในบัญชีเพิ่มขึ้น มันก็สามารถเป็นจริงได้





ข้อสอง... “หลักการหนูเร่ร่อน ภูมิปัญญาเพื่อความอยู่รอด” ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองรู้สึกพอใจและสะดวกสบายในสิ่งที่เป็นอยู่ คุณควรเดินทางไปที่ไหนสักที่ หรือเร่ร่อนและเปลี่ยนสถานที่จากที่เป็นอยู่ มันอาจเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะมันจะทำให้สมองตื่น และความคิดไม่เฉื่อยชา...หลักการข้อนี้ฉันค้นพบด้วยตัวฉันเองได้เป็นอย่างดี หลายครั้งที่ฉันอยากเดินทาง อยากไปไหนสักที่ เวลาคิดหรือเขียนอะไรไม่ออก หรือแม้แต่รู้สึกไม่สบายใจ หลายคนเรียกวิธีการนี้ว่า “ไปชาร์ตแบท” แต่สำหรับฉันมันคือการเดินทางที่กลับมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง

ฉันรู้ดีว่าเธออาจแปลกใจทำไมฉันถึงชอบเดินทางคนเดียว ฉันมักทำตัวเป็นหนูเร่ร่อนที่ไม่ค่อยสนใจเสียงรอบข้างมากนัก ทำไมล่ะ...ก็แค่มีสองเท้า หนึ่งหัวใจ และเป้อีกหนึ่งใบ ฉันก็สามารถไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร ฉันไม่เคยอธิบายให้เธอเข้าใจได้สักครั้งว่าการเดินทางคนเดียวมันมีเสน่ห์อย่างไร ได้แต่บอกว่า “ต้องลองไปเอง” “เรียนรู้มันดัวยตัวเอง” ก็แค่ใช้ความกล้านิดหน่อยที่จะก้าวเท้าเดินออกมาคนเดียวตามลำพังก็เท่านั้น...นั่นแหละความพิเศษของการเดินทางคนเดียว พึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามันเป็นหนทางหนึ่งสู่ความเป็นอัจฉริยะด้วย

เรื่องนี้ยังไม่จบอยู่แค่นี้...ฉันควรจะเว้นช่วงไว้สักพักเพื่อให้เธอได้ลองไปหาหนังสือเล่มนี้อ่านด้วยตัวเอง และค้นพบมันด้วยตนเอง...คราวหน้า (ถ้าฉันไม่ขี้เกียจซะก่อน) ฉันจะมาเล่าเรื่องราวดี ๆ ให้เธอฟังอีก...

ฉันลืมบอกเธอไป ฉันชอบการค้นหาเรื่องนี้ด้วยบรรยากาศการสนทนาในร้านกาแฟจัง



ปรารถนาดีเสมอ
ห้าทุ่มสี่สิบสองนาที
17 มีนาคม 2551





Create Date : 18 มีนาคม 2551
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 12:35:13 น. 10 comments
Counter : 1189 Pageviews.

 
แอบเข้ามาเปิดบล็อคดูนะจ๊ะ และแล้วก็มีเรื่องใหม่ให้อ่านอีกแล้ว ตอนที่1 แสดงว่าจะต้องมีตอนที่สองอะจิ เขียนเร็วๆน๊า จาแวะเข้ามาอ่านบ่อยๆนะจ๊ะพี่สาว คิดถึงมากๆเลยค่ะไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าบ้างานเกินไปหละ


โดย: พิม IP: 222.123.186.238 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:3:34:10 น.  

 
ไม่ได้บ้างานจ้า แต่มันเยอะมากจนรู้สึกว่า วันหนึ่งยี่สิบสี่ชั่วโมงมันไม่พอแล้ว...

ปิดเทอมอยู่บ้านอย่ามัวแต่เล่นเกมส์นะน้องหนู ไหนบอกอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษไง หยิบหนังสือสนุก ๆ มาอ่านซะ คิคิ


โดย: โบกี้ IP: 61.19.236.82 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:9:47:29 น.  

 
อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกอยาก ออกไปนั่งอ่านหนังสือทำตัวว่างๆ ที่ร้านกาแฟที่ไหนสักแห่ง...จัง

แล้วเจอกันใหม่ เร็วๆนี้นะจ๊ะ ... คิดถึงนะ


โดย: พีช IP: 124.121.111.191 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:9:53:53 น.  

 
วิธีที่สองนี่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยบอกไว้ว่า
ถ้าใช้หัวคิดแล้วคิดไม่ออก ให้ลองใช้เท้าช่วยคิดบ้าง
ก็โดยลองเดินไปเดินมาเปลี่ยนสถานที่นี่แหละครับ
ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง

จะได้เป็นอัจฉริยะกับเขาบ้างงงง อิอิ


โดย: ความสุขเล็กๆ วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:15:11:23 น.  

 
ไม่เล่นแล้วจ้าเกมส์ หลังๆมานี้ก็พยายามดูหนังซาวแทค(เขียนถูกป่าวหว่า) ฟังเพลงสากล แล้วก็กินเยอะด้วย ฮ่าๆๆ
อ้อ...มีเว็บนุงดีมากเลย เค้าสอนภาษาพี่โบว์ลองเอาไปลองดู แต่ไม่รู้ว่าจะมีเวลาดูป่าวน้อ

//www.youtube.com/watch?v=53wvn_x4Fg8&feature=related

บะบาย take care นะจ๊ะ เปิดเทอมคงรู้สึกเหมือนกันที่ว่าเวลา24ชม. มันไม่พอ
อุ้ย! เกือบลืม เปลี่ยนสีสันต์บล๊อคใหม่ไฉไลกว่าเดิม


โดย: พิม IP: 117.47.29.165 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:1:18:10 น.  

 


เมื่อไหร่เราจะมากินกาแฟด้วยกันล่ะน้องโบว์
คิดถึงเสมอเลยนะ
ขอบใจที่แนะนำหนังสือดีดีจ๊ะ
หลับฝันดีเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:1:19:30 น.  

 
ขอบคุณค๊า..

ขอบคุณน้องพิมที่เอาเว็บดี ๆ มาแปะไว้
ขอบคุณพี่อุ้มที่มาแต่งบล็อคให้ค๊า

(ที่เห็นสวย ๆ แบบนี้น่ะ ไม่ได้ทำเองค่ะ ต้องยกความดีทั้งหมดให้พี่อุ้มค่ะ)

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ


โดย: โบกี้ IP: 202.28.182.12 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:17:03:11 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ครับ


โดย: ความสุขเล็กๆ วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:7:37:44 น.  

 


ดีจ้าน้องโบว์


โดย: อุ้มสี วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:10:00:31 น.  

 
ชอบภาษาเขียนของคุณมากเลยค่ะ อ่านแล้วสบายใจ
การที่วันนี้ได้เข้ามาอ่าน Blog ของคุณ
มันทำให้เกิดความคิดดีๆ ความกล้า และเกิดแรงใจที่จะอยู่กับตัวเอง เพื่อเรียนรู้ตัวเอง บางครั้งการที่เราออกเดินทางคนเดียวบ้าง น่าจะทำให้เราได้พบอะไรดีๆ หรือได้ความคิดดีๆบ้างก็ได้นะคะ จะลองดูค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: หลิงหลิง IP: 202.57.129.60 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:09:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.