เปรียบเทียบดาวหาง
นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาดาวหางกำลังเริ่มจะเข้าใจข้อมูลมากมายที่ได้จากการทดลองปฏิบัติการ Deep Impact ที่ทำกับดาวหางเทมเพล 1(Tempel 1) ในปี 2005 และสิ่งที่ได้จากอนุภาคของดาวหางวิลด์ 2(Wild 2) ที่ส่งกลับสู่โลกในปี 2006 โดยยานสตาร์ดัสท์(Stardust) สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือดาวหางมีธาตุหลายอย่างเหมือนกัน ขณะเดียวกับที่แสดงความแตกต่างอย่างเด่นชัดด้วย
ดีพอิมแพคเผยให้เห็นรายละเอียดสเปคตรัมของดาวหางเทมเพล 1 ซึ่งบอกนักดาราศาสตร์ในความพยายามที่จะเข้าใจธาตุผสมในน้ำแข็งที่ประกอบอยู่ในดาวหาง :
นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ Carey Lisse จากห้องทดลองฟิสิกส์ประยุกต์(APL) ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์ หัวหน้าทีมสำรวจที่เฝ้าดูการชนของดีพอิมแพคกับดาวหางเทมเพล 1 โดยใช้สเปคโตรกราฟอินฟราเรดของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ Lisse ยังเป็นผู้เขียนนำรายงานเปรียบเทียบองค์ประกอบของเทมเพล 1 กับดาวหางเฮล-บอพพ์(Hale-Bopp) และเทหวัตถุอายุน้อย HD 100546 ซึ่งเป็นระบบดาวอายุน้อยแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยวัตถุกำเนิดดาวเคราะห์เหมือนดาวหาง
ซิลิเกตและ PAH(polycyclic aromatic hydrocarbon) ของเฮล-บอพพ์ผ่านกระบวนการแปรสภาพน้อยกว่าของเทมเพล 1 ซึ่งบอกว่าเฮล-บอพพ์ก่อตัวขึ้นก่อนเทมเพล 1 Lisse กล่าวว่า เทมเพล 1 อาจจะแตกต่างจากดาวหางอื่นๆ อย่างมากเนื่องจากมันก่อตัวขึ้นทีหลัง ไม่มีสสารที่จะถูกเผาโดยอาทิตย์อายุน้อยและคลื่นกระแทกที่เกิดเมื่อดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น หรือไม่ก็สสารในดาวหางดวงนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปตามเวลามากกว่าในดาวหางอื่นๆ การค้นพบของทีมของเขาจะเผยแพร่ในวารสาร Icarus ฉบับเดือนสิงหาคม
มีความคิดว่าดาวหางประกอบด้วยสสารดั่งเดิมจากเนบิวลาของดวงอาทิตย์(solar nebula) ซึ่งเป็นดิสก์ก๊าซฝุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยล้อมรอบดวงอาทิตย์ในช่วงทารก Lisse และทีมพบว่าเทมเพล 1 เป็นส่วนผสมน้ำแข็งของแมกนีเซียมและซิลิเกตที่เต็มไปด้วยเหล็กอย่าง โอลิวีน(olivine), ซิลิเกตแผ่นขนานที่เรียกกันว่า ฟิลโลซิลิเกต(phyllosilicate), คาร์บอเนตที่คล้ายชอล์ค, น้ำแข็ง, คาร์บอน และโลหะซัลไฟด์ ฝุ่นจากเทมเพล 1 ยังดูเหมือนจะประกอบด้วยเหล็กในโอลิวีนมากกว่า และมีแมกนิเซียมในซัลไฟด์มากกว่าวัตถุอื่นที่ทีมศึกษา สิ่งเหล่านี้บอกว่าฝุ่นของเทมเพล 1 ผ่านกระบวนการแปรสภาพมากกว่าที่เห็นในดาวหางอื่น
ดาวหางทั้งสามทั้งหมดประกอบด้วยโอลิวีน, ไพโรซีน(pyroxene) และโลหะ และพวกมันก็เปล่งสัญญาณของ PAH ออกมาด้วย ทีมนักดาราศาสตร์ที่ศึกษาตัวอย่างจากดาวหางวิลด์ 2 ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าดาวหางดวงนี้อาจจะไม่ได้ก่อตัวในระบบสุริยะส่วนนอกอย่างที่พวกเขาเคยเชื่อกัน Don Brownlee หัวหน้าโครงการสตาร์ดัสท์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่า เราได้พบของแข็ง(ในวิลด์ 2) ที่ก่อตัวในบริเวณที่อาจจะร้อนที่สุดในเนบิวลาของดวงอาทิตย์ และเราก็พบพวกมันในสถานที่ที่อาจจะเย็นที่สุด สารประเภท Calcium-aluminum intrusions ซึ่งเป็นหินที่มีขนาดหลายสิบไมครอน ถูกพบภายในดาวหาง Brownlee กล่าวว่า มันก่อตัวขึ้นในบริเวณที่ร้อนที่สุดในเนบิวลาของดวงอาทิตย์ในวงโคจรของดาวพุธ การวิจัยตัวอย่างอนุภาคของวิลด์ 2 กำลังดำเนินไปโดยมีนักวิจัยมากกว่า 200 คณะที่เกี่ยวข้อง
แหล่งที่มา: astronomy.com : a comparison of comets
rook [sararook@hotmail.com] :รายงาน
Create Date : 18 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2550 12:08:25 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1737 Pageviews. |
|
|
|
เลยใช่มั้ยคะตอนนี้โอ๋ก็อยากจะทราบว่าถ้าเราจะ
นัดกัน ไม่ทราบว่าใครสามารถจะมาได้บ้างแต่ยัง ไม่ได้ระบุวันนะคะ เพราะต้องการอยากรู้ว่า ถ้าเป็นช่วงเวลา หรือวันไหน เดือนไหน ที่ทุกคนจะว่างกันบ้างเพราะอยากจะเจอให้ได้มากที่สุด อยากให้ทุกคนมานะคะ
โดย: ao เพชรดา แอนด์ เดอะ แก๊งค์ IP: 58.9.161.38 31 กรกฎาคม 2550 20:39:58 น.