ต้นไม้ ดอกไม้ ธรรมชาติ
วิทยาศาสตร์
Special Activity
ย้อนไปในอดีต....
Tea time
จดหมายจากสายลมเหนือ
<<
กันยายน 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
22 กันยายน 2549
อะไรจะเกิดขึ้น.. เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว .....
แผ่นดินใหว เกิดขึ้นได้อย่างไร...
แผ่นเปลือกโลก
รู้มั้ยว่าประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลัง.....
นอนยาวรวดเดียวผิดธรรมชาติ ตื่นพักเบรกกลางดึกดีกว่า
13-15 มี.ค. นี้ เชิญชมดาวเคียงเดือน
ชื่อกลุ่มดาวไทย ฉบับพจนานุกรมของสมาคมดาราศาสตร์ไทย
ปริศนาซากซุปเปอร์โนวา 400 ปี
วิทยาศาสตร์ของซุปเปอร์มูน
MESSENGER เข้าสู่วงโคจรรอบดาวพุธ
โรงผลิตพลังงานที่เอนเซลาดัส
เที่ยวบินสุดท้ายของดิสคัฟเวอรี่
นิว ฮอริซอนส์ ถึงวงโคจรยูเรนัสแล้ว
ยอดนักล่าดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก
กล้องตัวใหม่บนเมานาคี
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........6 อิอิ จบแล้วครับ
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........5
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........4
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........3
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........2
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........1
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ดาวแคระน้ำตาลที่เย็นนนนนนน......ที่สุด
จากขั้วเหนือดาวอังคาร ........
ฟอสซิลบนดาวอังคารจะมีสภาพอย่างไร.....
กระจุกดาวกำพร้า .............
NGC 3603 ดาวฤกษ์ที่โดดเด่นของทางช้างเผือก......
ข่าวลือเกี่ยวกับดาวอังคาร.................
ฝนดาวตกเจมินิดส์ ครั้งสุดท้ายของปี 52นี้ พลาดไม่ได้ (แก้ตัวลีโอนิดส์เดือนที่แล้ว)
ฝนดาวตกลีโอนิค (Leonids Meteors shower)
ดาวอังคารเย็นกว่าที่เคยคิดไว้ (แล้วใครคิดกันน๊า)......
เลื่อนซ่อมฮับเบิล
กล้องเพื่อการสำรวจความรุนแรงในอวกาศ
เรื่องอัศจรรย์ของดาวพุธจาก MESSENGER ..........
กล้องรุ่นใหม่ใหญ่ขึ้นอีก ............
นาซ่าเผยรายละเอียดการซ่อมฮับเบิล
เรื่องอัศจรรย์จากขอบระบบสุริยะ........
กาแล็คซีแอ็บแบ๊ว.....
ความเคลื่อนไหวด้านอวกาศของประเทศแถบเอเชีย...........
คืนวันที่ 14 ธค.นี้ อย่าพลาด เทศกาลดูฝนดาวตกฝนดาวตก Geminids ด้วยประการทั้งปวง...อิอิ
การแข่งขันด้านอวกาศของชาติในเอเชีย...(แย่จังเลย...ที่ไม่มีประเทศไทย)
ดาวหาง 17/P Holmes สว่างขึ้นอย่างน่าสนใจ
แฟชั่นชุดอวกาศ .......
M81 กังหันแสนสวยงาม
พร้อมส่งยานฟีนิกซ์
เปรียบเทียบดาวหาง
ปิดกล้องอาเรซิโบ ....
ตารางฝนดาวตกประจำปี
สุริยุปราคาบางส่วน 19 มีนาคม 2550..
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนมีนาคม 2550..
จันทรุปราคาเต็มดวง ....
ภาพแอบถ่ายจากดาวอังคาร..............
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ดาวเสาร์ใกล้โลก 10 กพ.2550 (Saturn Opposition).........
มาร์ส โกลบอล เซอร์เวเยอร์ อาจจะถึงจุดสิ้นสุด ...............
หาดาวเคราะห์คล้ายโลก ............
ดงหินที่อยู่เลยเนปจูนออกไป ............
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2549
ฝนดาวตกเดือนนี้...
ซ่อมกล้องหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ...
เผยโฉมจรวดใหม่ของนาซ่า .........
นาซ่าไฟเขียวซ่อมกล้องฮับเบิล ...
ตารางการส่งกระสวยอวกาศฉบับปรับปรุง ..
เอาดาวตกมาฝากครับ..อิอิ
ดาวพุธทรานสิท ...
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนพฤศจิกายน 2549
ภาพตัวอย่างฝนดาวตก และดวงดาว
ฝนดาวตก ในคืนนี้ และเดือนตุลาคมนี้....
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนตุลาคม 2549
อะไรจะเกิดขึ้น.. เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว .....
ดาวหาง 4P/Faye........
ครึ่งทางปฏิบัติการแคสสินี .....
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนกันยายน 2549
จันทรุปราคาบางส่วน ในคืนวันที่ 7 กย. 49 นี้. (ในเมืองไทย)
เป็นข่าวใหญ่โต เมื่อพลูโตจะโดนปลดจากเก้าอี้ ตัวที่ 9...
SDSS พบบริวารใหม่ของทางช้างเผือก ...
สปิตเซอร์ช่วยไขปัญหาฝุ่นในอวกาศ ...
ฝนดาวตกเปอร์เซอิด (Perseid Meteors shower)
หรือโลกจะแพร่ชีวิต ...
บทเรียนจาก KBO ประหลาด .......
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนสิงหาคม 2549
ดวงจันทร์ใหม่ของพลูโตได้ชื่อทางการแล้ว .....
ดาวเคราะห์นอกระบบมวลต่ำ.....
ระบบสุริยะสวนทิศทาง ......
ดาวพลูโตและผองเพื่อน.....
ดิสก์วงที่สองของ Beta Pictoris จากฮับเบิล ..........
ปฎิทินท้องฟ้าประจำเดือนกรกฏาคม 2549
ทายาทของกล้องฮับเบิลเป็นรูปเป็นร่าง (6 ก.ค. 2549)
ตารางการบินกระสวยอวกาศเที่ยวต่อไป.....
กล้องหลักของฮับเบิลหยุดทำงาน
เมื่อฟ้าถล่ม.....
ภาพแรกจากยานวีนัสเอกเพรส
หลุมอุกกาบาตใหม่ในอียิปต์
รูปร่างประหลาดของขอบระบบสุริยะ
หลุมดำเตรียมควบรวมกัน
พายุบนดาวพฤหัสบดี
ดาวที่ซ่อนอธิบายความประหลาดของซุปเปอร์โนวา
กำเนิดดวงจันทร์ของพลูโต
มวลดาวแคระน้ำตาล
อะไรจะเกิดขึ้น.. เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว .....
ยุคน้ำแข็งยุคสุดท้ายบนโลกผืนแผ่นดินถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง (Glaciers) จำนวน 32 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันนี้ธารน้ำแข็งเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ หากธารน้ำแข็งทั้งหมดบนโลกและน้ำแข็งอื่นๆบนพื้นผิวละลายไปจนหมด ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 270 ฟุต หรือ 70 เมตร ธารน้ำแข็งอาจมีอายุยาวนานหลายล้านปี การเปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มขึ้นหรือการหดตัวของธารน้ำแข็งขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ปกติธารน้ำแข็งจะไหลหรือเคลื่อนที่อย่างช้าๆ และใช้เวลาเป็นศตวรรษหรือนับพันปี ทว่าขณะนี้มันเปลี่ยนแปลงภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
ภาพถ่ายปริมาณน้ำแข็งบริเวณอาร์ติก เซอร์เคิล เมื่อปี ค[1].ศ. 2003 โดยดาวเทียมเทอรา
ปี ค.ศ. 2003 ดาวเทียมตรวจสภาพแวดล้อม เทอรา ขององค์การนาซ่าตรวจพบว่าน้ำแข็งบริเวณ อาร์ติกเซอร์เคิล ขั้วโลกเหนือละลายไปเป็นจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โครงการเทอรากล่าวว่านี่คือหลักฐานแสดงว่าโลกร้อนขึ้นซึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์และเป็นสัญญาณในระดับอันตราย
ต่อมาในปี ค.ศ. 2004 นักวิทยาศาสตร์สองทีมเผยผลการศึกษาสภาวะโลกร้อนขึ้นซึ่งได้ผลตรงกันว่า อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นราว 1 องศาฟาเรนไฮต์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 และในบริเวณอาร์กติกอุณหภูมิสูงขึ้น 4 ถึง 7 องศาฟาเรนไฮต์ในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว มันทำให้ปริมาณหิมะลดลง และธารน้ำแข็งละลายลงสู่ทะเล การเปลี่ยนแปลงนี้ยังคุกคามต่อชีวิตหมีขั้วโลก 25 ปีที่ผ่านมาพวกมันลดจำนวนลง 15 เปอร์เซนต์และน้ำหนักตัวลดลดลงด้วย ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาธารน้ำแข็งบริเวณแอนตาร์กติกา ขั้วโลกใต้ และอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ ละลายอย่างรวดเร็วรวมทั้งแผ่นน้ำแข็งชายฝั่งก็ละลายจนแตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาหลายก้อน
การศึกษาล่าสุดโดยทีมวิจัย British Antarctic Survey(BAS) นำโดยอลิสัน คุก ซึ่งตีพิมพ์ผลงานในนิตยสาร journal Science. ฉบับวันที่ 22 เมษายน 2005 เผยว่า ธารน้ำแข็งจำนวน 84 เปอร์เซ็นต์ ในบริเวณบางส่วนของแอนตาร์ติกหดตัวจากการละลายตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทีมวิจัยบาสทำการศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศจำนวน 2,000 ภาพ ซึ่งบางภาพถ่ายไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1940 รวมทั้งภาพถ่ายจากดาวเทียมด้วย คุกกล่าวว่า ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาธารน้ำแข็งเกือบทั้งหมดบริเวณแอนตาร์กติกซึ่งไหลลงจากภูเขาสู่ทะเลยาวขึ้นอย่างช้าๆตลอดมา ทว่า เดี๋ยวนี้มันกลับตรงกันข้าม 5ปีหลัง ธารน้ำแข็งส่วนใหญ่หดตัวอย่างรวดเร็ว
เดวิด วอนจ์ นักธารน้ำแข็งวิทยา หนึ่งในทีมสำรวจบอกว่า การหดตัวของธารน้ำแข็งจำนวนมากบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกในช่วงเวลา 50 ปี มีสาเหตุใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ทีมวิจัยบาสเคยทำนายไว้ในปี ค.ศ. 1998 ว่า แผ่นน้ำแข็งชายฝั่งหลายก้อนรอบๆคาบสมุทรแอนตาร์กติกจะละลายเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น คำทำนายนี้กลายเป็นความจริงและรุนแรงกว่าที่คาดหมายไว้มาก มันเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 7มีนาคม 2002 แผ่นน้ำแข็งชายฝั่งชื่อ ลาร์เซน บี (Larsen B ice shelf) ขนาด 3,250 ตารางกิโลเมตร และหนา 200 เมตร ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรแอนตาร์กติกแตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่และเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกนับพันชิ้น ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดยาว 100 ไมล์ ชื่อ B15A และกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2005 แผ่นน้ำแข็งลาร์เซน บี แตกอีกครั้งหนึ่งส่วนที่แตกออกกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง ขนาด 16 คูณ 35 ตารางไมล์ ชื่อ A-53
แผ่นน้ำแข็ง ลาร์เซน บี ถ่ายจากเรือสำรวจ เจมส์ คลาร์ก รอส ของทีมวิจัยบาส เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2002
ทีมวิจัยบาสเชื่อว่าอากาศบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกคงที่เป็นเวลาอย่างน้อยที่สุด 1800 ปี แต่ปัจจุบันนี้มันกำลังเปลี่ยนแปลงไป 50 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิบริเวณนี้สูงขึ้น 4.5 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 2.5 องศาเซลเซียส มากกว่าพื้นที่อื่นๆในบริเวณขั้วโลกใต้ ทางด้านอาร์กติกขั้วโลกเหนือ ธารน้ำแข็งก็หดสั้นลงและละลายอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันกับขั้วโลกใต้
ปลายเดือน ธันวาคม 2004 ทีมสำรวจธารน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์รายงานว่า ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์ชื่อ Jakobshavn Isbrae มีอัตราการละลายเป็นสองเท่าจากเดิมและไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว ธารน้ำแข็งนี้เคยไหลลงทะเลในอัตราความเร็ว 3.45 ไมล์ต่อปีในระหว่างปี 1992-1997 แต่ในปี 2003 มันไหลด้วยอัตราความเร็ว 7.83 ไมล์ต่อปี และความหนาของมันลดลงราว 49 ฟุตในทุกๆปีนับตั้งแต่ปี 1997เป็นต้นมา ผลจากการละลายอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น .002 นิ้วต่อปี(.06 มิลิเมตร) หรือราว 4 เปอร์เซนต์ของอัตราการเพิ่มของระดับน้ำทะเลในศตวรรษที่ 20 และธารน้ำแข็งอื่นๆในกรีนแลนด์ก็บางลงประมาณ 1 เมตรต่อปีซึ่งเกิดจากการละลายด้วยสาเหตุโลกร้อนขึ้น
โลกร้อนขึ้นเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก(greenhouse effect) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ชั้นบรรยากาศของโลกถูกห่อหุ้มด้วยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งกั้นรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ตกลงบนผิวโลกไม่ให้สะท้อนกลับขึ้นสู่อวกาศ เหมือนเรือนกระจกที่ใช้เพาะปลูกต้นไม้ในประเทศเขตหนาว ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านเข้าไปภายในเรือนกระจกได้แต่ความร้อนยังคงอยู่ภายใน ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญมี 6 ชนิด ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน (HFCS) ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน (CFCS) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ (SF6) โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและยานยนต์เพิ่มปริมาณจาก 278 ส่วนในล้านส่วน ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็น 380 ส่วนในล้านส่วนในปี 2003
ผลการศึกษาภาวะโลกร้อนชิ้นล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์นาซ่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยนิวยอร์คและห้องปฏิบัติการลอว์เรนซ์เบิร์กเลย์ ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารไซน์ฉบับล่าสุดสรุปว่าโลกดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์มากกว่าที่สะท้อนหรือแผ่กลับไปสู่อวกาศทำให้พลังงานอยู่ในสภาวะไม่สมดุล ส่งผลให้โลกร้อนขึ้น ความไม่สมดุลของพลังงานมีค่าเท่ากับ 0.85 วัตต์ต่อตารางเมตร ซึ่งจะทำให้โลกร้อนขึ้น 0.6 องศาเซลเซียสหรือ 1 องศาฟาเรนไฮต์เมื่อสิ้นสุดศตวรรษนี้
จิม แฮนเซน หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ จาก NASA's Goddard Institute for Space Studies อธิบายว่า ความไม่สมดุลของพลังงานเป็นผลมาจากพอลลูชั่นในชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ มีเทน โอโซน และอนุภาคคาร์บอนดำ พอลลูชั่นเหล่านี้กั้นความร้อนที่แผ่จากโลกที่ไปยังอวกาศและยังเพิ่มการดูดกลืนแสงอาทิตย์อีกด้วย
เมื่อ 30 ปีก่อน นักอุตุนิยมวิทยาทำนายไว้ว่าภาวะโลกร้อนจะปรากฏเด่นชัดในบริเวณขั้วโลก ขณะนี้มันกลายเป็นความจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งที่ขั้วโลกไม่เพียงแต่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเคมีในมหาสมุทร การไหลเวียนของบรรยากาศและมหาสมุทรและระบบอากาศของโลกด้วย
บทความโดย
บัณฑิต คงอินทร์ bandish.k@psu.ac.th
Create Date : 22 กันยายน 2549
Last Update : 22 กันยายน 2549 18:15:19 น.
23 comments
Counter : 2439 Pageviews.
Share
Tweet
มีประโยชน์มากค่ะสำหรับความรู้ที่นำมาแบ่งปัน
แต่เราจะทำกันอย่างไรคะ เพราะดูเหมือนว่า ยิ่งเรารับรู้ข่าวคราวพวกนี้แล้ว เรายิ่งพากันปล่อยเลยตามเลย
ผู้คนส่วนมากทำตัวเป็นชนชั้นผู้ชม ชมแล้วก็ทอดถอนใจว่า "ช่างมัน ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เราก็ไม่ได้ตายคนเดียว" หรือไม่ก็ "แล้วเราจะทำอะไรได้ เพราะเราก็แค่มนุษย์ตัวเล็กๆ" ทั้งที่ต้นเหตุที่แท้จริงมันก็มาจากฝีมือมนูษย์ตัวเล็กๆอย่างเราๆ ท่านๆนี่แหละค่ะ
คิดแล้วก็น่าใจหายนะคะ
โดย:
บรรณภรณ์
วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:19:06:05 น.
ดูเหมือนมันจะเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันไปไม่รู้จบรู้สิ้นนะครับ .. แต่ไม่ต้องตกใจหรอกครับ จริงแล้วอาการน้ำแข็งขั้วโลกละลายมันก็เคยมีมาก่อนแล้ว ผมเคยเรียนมามันจะเป็นช่วง glacial ซึ่งเป็นยุคน้ำแข็ง สลับกันช่วง interglacial ซึ่งเป็นยุคอบอุ่น เพียงแต่ว่าคราวนี้มันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ทำนายเอาไว้มาก... แต่เชื่อว่ามนุษย์ก็คงปรับตัวได้แน่ๆ อิอิ
ว่าแต่ จขบ. สบายดีแล้วเหรอครับ
โดย:
T_Ang
วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:19:18:47 น.
เย้ๆๆๆ ที่ร้ากเรากลับมาแย้ว
หายเจ็บยังก๊ะ...อิอิ
โดย:
Love U forever.
วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:19:39:32 น.
เข้ามาหาความรู้ และมาส่งความคิดถึงน๊าคะ
โดย: d__d (
มัชชาร
) วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:21:30:38 น.
ตามมาอ่านคร้าบบ
โดย: Due_n IP: 203.155.227.35 วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:1:27:15 น.
เข้ามาอ่านด้วยค่ะ
โดย: Komi (
komi_to
) วันที่: 24 กันยายน 2549 เวลา:17:15:28 น.
โลกกำลังร้อนขึ้น เป็นเรื่องจริง แต่ที่ว่าร้อนเพราะปรากฏการณ์เรือนกระจก อาจเป็นเรื่องเหลวไหล
ในอดีตเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ตรงกับยุคที่เรียกว่า medieval warm โลกเคยร้อนกว่าปัจจุบันมาก ร้อนจนตอนใต้สุดของเกาะกรีนแลนด์มีทุ่งหญ้า และมีชาวไวกิ้งเข้าไปตั้งอานานิคม เป็นเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนทั้งทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดีรองรับ
ขอให้ลองไปดูใน blogของผม ดูในเรื่องของภูมิอากาศในยุคโบราณ และการตั้งถิ่นฐานของชาวไวกิ้งบนเกาะกรียด์แลนด์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=galama&group=8
โดย: กาลามะชน IP: 58.9.144.60 วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:20:12:45 น.
แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย:
mungkood
วันที่: 8 ตุลาคม 2549 เวลา:16:27:18 น.
ตายช้าหน่อย อยู่เชียงใหม่ (มั้ง???)
โดย:
jojotaweesak
วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:1:33:42 น.
ดีใจจังเพื่อนเรากลับมาแล้ว
โดย: น้อง IP: 203.172.157.131 วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:14:50:30 น.
น่ากลัวจังเลยนะยังใช้ชีวิตไม่พอเลยโลกแตกแล้ว
โดย: โม IP: 124.120.92.80 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:18:54 น.
0849016855ใครว่างโทรมานะ
โดย: โม IP: 124.120.92.80 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:19:42 น.
ถ้านักวิจัยนำแข็งเจาะนำแข็งผิดพลาด
โลกจะวิกิตเลยทีเดียว
โดย: ป.4 ร.ร.เมืองเอกศึกษา t. IP: 125.25.53.58 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:19:29:44 น.
ดังนั้นเราควรช้วยกันปลูกต้นไม้หรือไม่ก็ช้วยกันประหยัดไฟฟ้านนะไม่งั้นโลกแตกแน่เลย T.T
โดย: ผู้หวังดี IP: 124.121.128.58 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:12:53 น.
เราควรช่วยกันปลูกต้นไม้ไม่ให้โลกร้อน นะครับ
โดย: ม.1/1ร.ร.ck IP: 118.172.123.197 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:9:40:17 น.
*-* รักทุกคนที่อ่านนะคับ T_T
โดย: น้องเอครับ IP: 118.172.123.197 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:9:42:58 น.
BANK LOVE BOW
โดย: BANK IP: 118.172.123.197 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:9:50:45 น.
คิดแล้วก็น่าใจหายเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไรมียูมิจังทั้งคนเอาใจช่วยอยู่นะคะ จุ๊บจุ๊บ
โดย: ยูมิจัง IP: 118.175.220.88 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:10:11:49 น.
ช่วยกันที่โลกร้อนจังเลย ครับ
โดย: คนรักโลก IP: 118.175.210.79 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:11:04:14 น.
มีประโยชน์มากน่าจะส่งให้ทุกคนได้ดูจะได้รู้ว่ามันน่ากลัวมากเลย
โดย: คนนครปฐม IP: 125.27.209.131 วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:14:22:33 น.
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ ทำให้ตระหนักได้ถึงภาวะโลกร้อน และ รู้ว่ามันน่ากลัวถ้าหากยังไม่รีบช่วยกันแก้ไข
โดย: บี เด็กมหาลัย IP: 124.120.150.51 วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:16:56:23 น.
น่ากลัวจังเลยนะคะ
จะใช้ชีวิตได้ถึงเมื่อไหร่กัน อีกหน่อยโลกก็จะแตกซะแล้ว
เราทุกคนบนโลกใบนี้คงทำกรรมมาเยอะ
มาช่วยกันภาวนาให้โลกเราอยู่แบบนี้นานๆกันเถอะคะ อยากให้เพื่อนๆไปดูสารคดี home แล้วเพื่อนๆจะรักประเทศไทยขึ้นเยอะะะะะะะะะะะะ
โดย: น้อง ม ต้น IP: 125.26.109.190 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:16:51:38 น.
น่ากัวจัง*-*
โดย: เด็กดี ห้อง1/3 IP: 61.19.33.53 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:34:16 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
pooktoon
Location :
ระยอง Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
"มีคนให้เรารักก็เป็นสุขแล้ว ยิ่งคนที่เรารัก เขารักเรานั้นสุขยิ่งกว่า"
i'm not superman
ใบไม้ทะเล
น้องนู๋ปุ๊กก้าจัง
304 คอนแวนต์
ป้ามด
ริมยมนา
grippini
C'est ma vie
โอน่าจอมซ่าส์
NIRISSA
แม่น้องม่อน
กระต่ายลงพุง
Maihom
อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ
pim(พิม)
เที่ยงตรง
Love U forever.
แตนต่อย
หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง
อุ้มสี
ดอยปุย
Analayo
ชิงช้าไม้
Due_n
ผีหน้าคอม~
ปลายฟากฟ้า
บรรณภรณ์
tenno_jung
แพนด้าเริงระบำ
catt.
P Q BOY
Lilac Girl
Link_conner55
มัชชาร
กลกาล
ดาริกามณี
naj-chan
mungkood
varissaporn327
ชีริว
Susie
กากีซ่าส์
largeface
จิ้งจอกสาวฝึกหัด
LeaDGlasS
สาวอิตาลี
I am just fine^^
kulratt
งามหน้า
อานาตะโออาอิชิมัตสึ
เพราะฟ้ามืดดาวจึงสวย
dreammyoye
ชิฟฟอนคาปูชิโน่
~*Annie*~
quin toki
ข้าวฟ่างเปียก
ooybangyom
jenifaae
digitalkrash
pookpui
huytumhuy
DR.MOO CAN DO
pureoppo
ลูกอบรสเขียด
gorigo
ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
ฟ้าหมาดฝน
อิมาอิซัง
vad
Opey
okanemochi
BowSo
zulander
Rinsa Yoyolive
yyswim
Webmaster - BlogGang
[Add pooktoon's blog to your web]
homeloverthai
บ้านและสวน..
สมาคมดาราศาสตร์ไทย
องค์การการบินและอวกาศสหรัฐฯ
astronomy
Bloggang.com
แต่เราจะทำกันอย่างไรคะ เพราะดูเหมือนว่า ยิ่งเรารับรู้ข่าวคราวพวกนี้แล้ว เรายิ่งพากันปล่อยเลยตามเลย
ผู้คนส่วนมากทำตัวเป็นชนชั้นผู้ชม ชมแล้วก็ทอดถอนใจว่า "ช่างมัน ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เราก็ไม่ได้ตายคนเดียว" หรือไม่ก็ "แล้วเราจะทำอะไรได้ เพราะเราก็แค่มนุษย์ตัวเล็กๆ" ทั้งที่ต้นเหตุที่แท้จริงมันก็มาจากฝีมือมนูษย์ตัวเล็กๆอย่างเราๆ ท่านๆนี่แหละค่ะ
คิดแล้วก็น่าใจหายนะคะ