|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
มะเมียะเป็นสาวแม่ค้า คนพม่าเมืองมะละแหม่ง ...มะเมี๊ย...
สวัสดีคะเพื่อนๆชาวบล็อก... ช่วงนี้สาวอาจหายหน้าไปบ้าง แต่ก็ยังคิดถึงทุกคนเสมอ วันนี้กลับมาพร้อมกับเรื่องราวจากละครสั้นชุดปากกาทอง ที่นำเสนอทางช่อง 7 นำแสดงโดย กบ สุวนันท์ และหนุ่ม ศรราม สาเหตุที่หยิบเรื่องนี้มาฝากเพราะบังเอิญได้อ่านเรื่องราวของเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าองค์สุดท้ายแห่งล้านนา และยังได้กล่าวถึงเจ้าแก้วนวรัฐ ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าน้อยสุขเกษมหรือ เจ้าอุตรการโกศลน้อยศุขเกษม ณ เชียงใหม่ ซึ่งเรื่องของท่านน่าประทับใจใจแลดโศกเศร้ายิ่งนัก
เรื่องราวความรักที่ต่างเชื้อชาติ ระหว่างเจ้าน้อยศุขเกษมและมะเมียะ อันกลายมาเป็นตำนานรักที่จบลงอย่างโศกสลด และได้รับการกล่าวขานมาถึงปัจจุบัน ถูกถ่ายทอดโดยเจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม อดีตคู่หมั้นของเจ้าน้อยศุขเกษม) แม้ว่ามะเมียะจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ล้านนาโดยตรง แต่สำหรับเจ้า (น้อย) ศุขเกษม ราชบุตรองค์ใหญ่ของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าหลวงเชียงใหม่ (พ.ศ.๒๔๕๒-๒๔๘๒) กับแม่เจ้าจามรีแล้ว มะเมียะเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเจ้าน้อยฯ ก็ว่าได้
ในปลายรัชสมัยของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระปิยะมหาราช เจ้าน้อยศุขเกษม ราชบุตรองค์ใหญ่ซึ่งประสูตรจากเจ้าหญิงจามรี รัชทายาทของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้าน้อยศุขเกษมเป็นชายหนุ่มรูปงาม ซึ่งชาวพม่า มอญ ยกย่องสรรเสริญความงามของหม่อมเจ้าน้อยศุขเกษมเสียเลิศลอย เจ้าน้อยถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก เป็น รร.แคธอลิกของฝรั่งที่พม่าตั้งแต่อายุได้ เพียง ๑๕ ปี และได้ใช้เวลาอยู่ ณ ต่างด้าวต่างแดนถึง ๕ ปีเต็มๆ
มะเมียะเป็นแม่ค้าสาวชาวพม่า หน้าตาพริ้มเพรา ได้พบกับเจ้าน้อยศุขเกษมครั้งแรก เมื่ออายุเพียง ๑๖ ปี ขณะนั้นมะเมียะเป็นเพียงแม่ค้าขายบุหรี่ซะเล็กอยู่ที่ตลาดใกล้บ้านในเมืองมะละแหม่ง มะเมียะหารายได้ด้วยความหวังเพื่อจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งอยู่ในฐานะปานกลาง วันหนึ่งเมื่อเจ้าน้อยศุขเกษมได้ออกเดินเที่ยวตามห้างร้านในตลาด จึงได้พบกับมะเมียะ ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองตองอู หลังจากไปอาศัยอยู่กับป้าของเธอเป็นเวลาหลายปี ทั้งคู่เกิดถูกใจในกันและกัน จึงได้คบหากันเรื่อยมา หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองจึงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา ด้วยความสนับสนุนของทางบ้านของมะเมียะ และในวันพระทั้งสอง จะพากันไปทำบุญตักบาตรและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองมะละแหม่งอยู่เสมอ วันหนึ่ง ณ ลานกว้างหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่น ทั้งสองได้กล่าวคำสาบานต่อกันว่าจะรักกันตลอดไป และจะไม่ทอดทิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่มีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น จากนั้นไม่นานก็ถึงกำหนดการเดินทางกลับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าน้อยฯ เพิ่งจะมีอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้ตัดสินใจให้มะเมียะปลอมตัวเป็นชายติดตามขบวนเพื่อกลับไปยังเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเพื่อนหนุ่มชาวพม่า โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของตนได้หมั้นหมายเจ้าหญิงบัวนวล ธิดาของเจ้า สุริยวงษ์ (คำตัน สิโรรส) ให้เป็นคู่หมั้นของเจ้าน้อยฯ เป็นการภายในตั้งแต่ปีที่เจ้าน้อยฯ เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนในเมืองพม่า หลังจากที่ต้องแอบซ่อนมะเมียะไว้ในบ้านหลังเล็ก ที่เจ้าพ่อและเจ้าแม่จัดเตรียมไว้ให้เป็นที่พักมาแล้วหลายวัน เจ้าน้อยศุขเกษมได้ใช้เวลาคิดใคร่ครวญและตัดสินใจเล่าความจริงให้ทั้งสองฟัง แม้ว่าจะไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยออกมาในขณะนั้น แต่เจ้าน้อยฯ ก็พอจะทราบได้ว่าทั้งสองไม่ยอมรับมะเมียะเป็นศรีสะใภ้อย่างแน่นอนเนื่องจากปัญหาใหญ่ในขณะนั้น คือเจ้าน้อยเป็นผู้ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะได้รับตำแหน่งเจ้าหลวงองค์ถัดไปจากเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ ซึ่งเป็นพระเจ้าลุง หากเจ้าน้อยฯ เลือกมะเมียะมาเป็นศรีภรรยา ประชาชนย่อมต้องเกิดความอึดอัดใจในการยอมรับมะเมียะผู้เป็นหญิงต่างชาติมาดำรงฐานะศรีภรรยาของเจ้าเมืองอย่างแน่นอน ในสถานการณบ้านเมืองขณะนั้นน่าวิตกมาก เนื่องจากมหาอำนาจอังกฤษกำลังแผ่อิทธิพลไปทั่วดินแดนในคาบสมุทรเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มะเมียะซึ่งเป็นคนในบังคับของอังกฤษและกำลังอาศัยอยู่ในคุ้มของอุปราช (ขณะนั้นเจ้าแก้วนวรัฐดำรงตำแหน่งอุปราชเมืองเชียงใหม่) อาจเป็นชนวนของปัญหาทางการเมืองที่ใหญ่โตได้ในภายหลัง ในที่สุดเจ้าพ่อและเจ้าแม่จึงเรียกตัวเจ้าน้อยฯไปพบ และยื่นคำขาดให้เจ้าน้อยส่งตัวมะเมียะกลับเมืองมะละแหม่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง ในยามเย็นวันนั้นเอง เจ้าน้อยได้เข้าพิธีเรียกขวัญและรดน้ำมนตที่เจ้าพ่อกับเจ้าแม่จัดขึ้น เพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายที่ท่านทั้งสองเชื่อว่ามะเมียะได้กระทำแก่เจ้าน้อยฯ อันเป็นเหตุให้เจ้าน้อยฯ หลงไหลในตัวนาง หลังจากพิธีรดน้ำมนต์ผ่านพ้นไป ช้างพาหนะและไพร่พลที่จะใช้ในการส่งตัวมะเมียะกลับเมืองมะละแหม่งก็ถูกจัดเตรียมทันทีตามคำสั่งของเจ้าแก้วนวรัฐ เมื่อเจ้าน้อยฯ กลับไปถึงที่พักในคืนนั้น มะเมียะได้รับการเกลี้ยกล่อมโดยหญิง-ชาย ชาวพม่าฝ่ายละคน ให้นางกลับไปรอเจ้าน้อยฯ ที่เมืองมะละแหม่ง มิฉะนั้นบ้านเมืองอาจเดือดร้อน นางได้เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจและยินยอมจากไปเพื่อมิให้ผู้ใดได้รับความเดือดร้อน แม้ตัวนางจะจากไกล แต่ความรักอันมั่นคง ยังคงอยู่ดังคำสาบานที่เคยให้ไว้แก่กันและกัน ฝ่ายเจ้าน้อยฯ ยังคงยืนยันในความรักที่มีต่อมะเมียะ และขอให้นางกลับไปรอที่บ้านก่อน หากมีวาสนาจะกลับไปรับนางมาอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ให้ได้ ในเช้าวันหนึ่งของเดือนเมษายน นับเป็นวันเดินทางกลับเมืองมะละ แหม่งของมะเมียะที่ดูเหมือนจะเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์ ณ ประตูหายยาที่เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่ใคร่เห็นโฉมหน้าของมะเมียะ ที่ลือกันว่างามนักงามหนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความหดหู่และเศร้าหมอง เมื่อเจ้าน้อยฯ พูดภาษาพม่ากับมะเมียะได้เพียงไม่กี่คำ นางผู้มีใจรักมั่นได้ร่ำไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ ในอ้อมแขนที่ยากจะแยกจากกันได้ เวลานั้นก็ล่วงเลยไปมากแล้ว เจ้าน้อยฯ ได้รับปากกับมะเมียะว่าตนจะยึดมั่นในคำปฏิญาณที่ให้ไว้ต่อหน้าพระพุทธรูปวัดใจ้ตะหลั่นจนกว่าชีวิตจะหาไม่ หากท่านนอกใจมะเมียะโดยสมรสกับหญิงอื่น ขอให้ชีวิตของตนประสบแต่ความทุกข์ทรมานใจ แม้แต่อายุก็จะไม่ยืนยาว เจ้าน้อยฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายใน เดือนจะกลับไปหามะเมียะให้จงได้ นางจึงคุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้า สยายผมออกเช็ดเท้าเจ้าน้อยฯ ด้วยความอาลัยหา ก่อนที่เธอจะขึ้นไปบนกูบช้าง เมื่อกลับไปถึงเมืองมะละแหม่งแล้ว มะเมียะได้มอบเงินทองจำนวนหนึ่งซึ่งเจ้าแก้วนวรัฐและเจ้าแม่จามรีมอบให้นางก่อนเดินทางกลับเป็นการปลอบขวัญแก่พ่อแม่และน้อง จากนั้นนางได้แต่เฝ้ารอคอยเจ้าน้อยฯ จนครบกำหนด เดือนที่ท่านได้รับปากไว้ แต่นี่กระไรกลับไร้วี่แววใดๆ มะเมียะจึงตัดสินใจเข้าพึ่งใต้ร่มพุทธจักร ครองตนเป็นแม่ชีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่านางยังซื่อสัตย์ ต่อความรักที่มีต่อเจ้าน้อยศุขเกษม หลังจากที่มะเมียะทราบข่าวการเข้าพิธีมงคลสมรส ระหว่างร้อยตรีเจ้าอุตรการโกศล (ยศของเจ้าน้อยฯ ในขณะนั้น) กับเจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่ (ตามตำนานวเล่าว่าเจ้าหญิงบัวนวลได้ถอนหมั้นไปก่อนแล้วเจ้าน้อยจึงได้แต่งกับกับเจ้าหญิงบัวชุม)แม่ชีมะเมียะจึงเดินทางมายังเมืองเชียงใหม่และขอเข้าพบเจ้าน้อยฯ เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแสดงความยินดีกับชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ องค์อดีตสวามีผู้เป็นที่รัก ก่อนที่ตนจะตัดสินใจครองตนเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต แต่เจ้าน้อยศุขเกษมผู้ยึดสุราเป็นที่พึ่งดับความกลัดกลุ้มอันเกิดจากความรักอาลัยในตัวมะเมียะ ชีวิตที่ไม่เคยมีความสุขในชีวิตสมรส ท่านไม่สามารถหักห้ามความสงสารที่มีต่อมะเมียะได้ จึงไม่ยอมลงไปพบแม่ชีมะเมียะตามคำขอร้อง เพียงแต่มอบหมายให้เจ้าบุญสูง พี่เลี้ยงคนสนิท นำเงินจำนวน ๘๐บาท ไปมอบให้กับแม่ชีมะเมียะเพื่อใช้ในการทำบุญ พร้อมกับมอบแหวนทับทิมประจำกายอีกวงหนึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าน้อยฯ ให้กับแม่ชีมะเมียะ เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทำให้มะเมียะและเจ้าน้อยต่างสะเทือนใจเป็นที่สุด หลังจากเดินทางถึงเมืองมะละแหม่ง มะเมียะได้ครองชีวิตเป็นแม่ชีตามความตั้งใจ จนกระทั่งถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.๒๕๐๕ รวมอายุได้ ๗๕ ปี
รูปประกอบหน้าปกหนังสือ (ซึ่งรูปจริงไม่มีใครเคยเห็นคะ) นำมาประกอบ จาก //topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/04/K6541956/K6541956.html
กลอนประกอบที่แสนประทับใจ
" พิศโฉมและฟังเสียง ละก็เพียงจะขาดใจ โอ้นอนจะหลับไหล ฤาฉะนี้นะอกเอ๋ย ขืนนอนก็ร้อนเร่า ฤดีเฝ้าคนึงเชย หากขืนจะนอนเฉย อุระอาจพังภินทร์ "
" ขนตายาวราวปีกคลีของผีเสื้อ มองไม่เบื่อจูงใจไปจำหลัก ตาคมซึ้งตรึงอุระดังชะนัก เป็นรอยปักแนบแน่นแก่นชีวิต "
" สิ่งกีดขวางระหว่างชนสองคนเพศ ใช้เส้นเขตขีดรอบเป็นขอบขันธ์ ใช้สัญชาติ, ศาสน์, เหล่าหรือเผ่าพันธ์ แต่สิ่งนั้นคือศักดิ์ที่รักดี "
"มะเมี๊ยะไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ลบหลู่ใครมะเมี๊ยะเป็นคนดี ข้าเจ้ารักมะเมี๊ยะ มะเมี๊ยะเป็นหัวใจของข้าเจ้า ข้าเจ้าเป็นหัวใจของมะเมี๊ยะ เราเคยสาบานกันต่อหน้าพระธาตุมะระแหม่งว่า ถ้าใครทรยศต่อรักแล้ว ขอให้อายุสั้น ข้าเจ้ารักมะเมี๊ยะเจ้าแม่ "
"มะเมี๊ยะเห็นใจเจ้าแล้ว มะเมี๊ยะต้องจากเจ้าไป ตลอดชีวิตของมะเมี๊ยะจะไม่ขอเป็นของใครอีก มะเมี๊ยะจะเป็นของเจ้าคนเดียวเท่านั้น มะเมี๊ยะมีใจเดียวรักเดียว จะขอรอเจ้าจวบจนชีวิตดับ"
"สุดที่รักของฉัน ฉันเกิดมามีกรรม เราเคยสาบานกันว่าใครทรยศต่อรักขออย่าให้อายุยืนยาว แล้วฉันก็ต้องทำลายเธอ ทำลายชีวิตเธอทางอ้อมขอกลับไปรอฉันที่บ้านเถิด หากฉันมีบุญวาสนาในวันหน้า ฉันจะไปรับเธอกลับมาอยู่เชียงใหม่จนได้ มะเมี๊ยะจ๋า ฉันจะรักเธอจนวันตาย"
" แม้มิได้เป็นมหาสมุทรกว้าง ขอเป็นทะเลก็พอใจฉัน แม้มิได้เป็นเหมือนดวงตะวัน ขอเป็นจันทร์เจิดแจ่มแอร่มดู "
ขอบคุณที่มาและเพลง จากเว็บโลกล้านนา //www.lannaworld.com/person/mamia.htm บทกลอนจากเว็บ //www.pantown.com/board.php?id=23691&area=3&name=board7&topic=15&action=view
ข้อมูลประกอบจาก //forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=48015&mode=threaded&pid=6964133
"มะเมียะ"
มะเมียะเป็นสาวแม่ค้า คนพม่าเมืองมะละแหม่ง งามล้ำเหมือนเดือนส่องแสง คนมาแย่งหลงรักสาว มะเมียะบ่ยอมรักไผ มอบใจหื้อหนุ่มเชื้อเจ้า เป็นลูกอุปราชท้าวเชียงใหม่ แต่เมื่อเจ้าชายจบการศึกษา จำต้องลาจากมะเมียะไป เหมือนโดนมีดสับดาบฟันหัวใจ ปลอมเป็นพ่อชายหนีตามมา เจ้าชายเป็นราชบุตร แต่สุดที่รักเป็นพม่า ผิดประเพณีสืบมา ต้องร้างลาแยกทาง
โอโอก็เมื่อวันนั้น วันที่ต้องส่งคืนบ้านนาง เจ้าชายก็จัดขบวนช้างให้ไปส่งนางคืนทั้งน้ำตา มะเมียะตรอมใจอาลัยขื่นขม ถวายบังคมทูลลา สยายผมลงเช็ดบาทบาทา ขอลาไปก่อนแล้วชาตินี้เจ้าชายก็ตรอมใจตาย มะเมียะเลยไปบวชชี ความรักมักเป็นเช่นนี้ แลเฮย.........
Create Date : 03 มิถุนายน 2552 |
|
75 comments |
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 7:41:41 น. |
Counter : 6561 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 3 มิถุนายน 2552 16:23:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวใหม 3 มิถุนายน 2552 17:50:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: katoy 3 มิถุนายน 2552 18:44:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 3 มิถุนายน 2552 19:49:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีฟ้าใส 3 มิถุนายน 2552 20:00:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: pim(พิม) 3 มิถุนายน 2552 22:32:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 3 มิถุนายน 2552 22:37:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 3 มิถุนายน 2552 23:17:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: Annie l 4 มิถุนายน 2552 1:14:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: KOok_k 4 มิถุนายน 2552 6:32:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: fleuri 4 มิถุนายน 2552 7:06:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 4 มิถุนายน 2552 7:10:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 4 มิถุนายน 2552 7:50:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 4 มิถุนายน 2552 10:22:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 4 มิถุนายน 2552 20:22:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 4 มิถุนายน 2552 23:05:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 5 มิถุนายน 2552 0:26:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 5 มิถุนายน 2552 1:40:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: a_music 5 มิถุนายน 2552 7:18:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 5 มิถุนายน 2552 7:38:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 5 มิถุนายน 2552 9:40:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีฟ้าใส 5 มิถุนายน 2552 19:18:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: katoy 5 มิถุนายน 2552 20:56:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวใหม 6 มิถุนายน 2552 2:38:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 6 มิถุนายน 2552 7:31:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 6 มิถุนายน 2552 10:00:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: fleuri 6 มิถุนายน 2552 11:41:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 6 มิถุนายน 2552 20:45:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 7 มิถุนายน 2552 7:18:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 7 มิถุนายน 2552 10:45:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 7 มิถุนายน 2552 11:04:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวใหม 7 มิถุนายน 2552 13:19:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 8 มิถุนายน 2552 7:44:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 8 มิถุนายน 2552 8:41:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 9 มิถุนายน 2552 7:37:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: fleuri 9 มิถุนายน 2552 8:32:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|