
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23

ตอน สหายสุภาพ
ป่าดงเขายากว้างใหญ่ไพศาล เป็นบ่อเกิดต้นน้ำลำธาร เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นแหล่งทำกินของผู้คน กระทั่งเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังเคลื่อนไหวต่อสู้รัฐบาล ซึ่งเรียกตนเองว่ากองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย หรือ ทปท. เหมือนอย่างที่ผมเคยเจอพวกเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนไปร่วมกิจกรรมรณรงค์เผยแพร่ความรู้เรื่องการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่เคยเล่ามาหนหนึ่งแล้ว
บ่ายวันหนึ่ง ผมกับสาวบัวกลับจากหน้าเหมือง แล้วชวนกันเลยไปเก็บยอดผักป่าตรงปากคลองเขายา ผมแบกปืนแก๊ปของไอ้หมึกติดบ่าไปด้วย พร้อมกระสุนและดินปืนสำรองใส่ย่ามสะพายไหล่ สาวบัวถือมีดพร้าด้ามเล็ก ๆ เดินนำหน้า เราสองคนเดินกันไปเงียบ ๆ ไม่พูดคุย ชั่ว ตดไม่ทันหายเหม็น เหมือนที่ไอ้บองหลาชอบพูดติดปาก ก็ได้ยินเสียงสายน้ำกระทบแก่งหินดังซู่ซ่าอยู่เบื้องหน้า
ตรงนั้นเป็นบริเวณที่ราบชายคลอง ไม่มีทับชาวเหมืองปลูกสร้าง เพราะฤดูน้ำหลาก น้ำป่าจะเอ่อล้นขึ้นมาสูงมาก แต่ถึงอย่างไรความสมดุลของระบบนิเวศก็ทำให้มันเปรียบเสมือนตลาดสดของพวกเรา ในคลองมีสัตว์น้ำ บนบกมีสัตว์ป่า มีนกหนูต่าง ๆ ให้เราได้ล่าเป็นอาหาร แม้ผมจะยิงปืนไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ แต่ก็เคยยิงกระรอกแถวนี้ได้มาแล้วสามสี่ตัว เพราะความชุกชุมของมัน
บ่ายวันนั้น เมื่อเราสองคนล่วงไปถึง ป่าเงียบสงัดผิดปรกติจนผมรู้สึกได้ ผักป่าริมทางมีร่องรอยเพิ่งถูกเด็ดและถูกถอน ไปหมาด ๆ กระรอกกระแตเงียบเสียง ไม่ร้องทักสิ่งแปลกปลอมเหมือนก่อน และที่สำคัญผมได้กลิ่นบุหรี่สามิตซองสั้น ซึ่งเป็นบุหรี่ที่ส่งกลิ่นขจรขจายไปไกลมากทีเดียว
แม้ผมจะไม่ติดบุหรี่ แต่ผมก็จำกลิ่นมันได้ บุหรี่สามิตกลิ่นหอมแต่รสจืด ชาวเหมืองแถบนี้ไม่นิยมสูบ ไม่ว่าจะซองสั้นหรือซองยาว นอกจากยาใบจากซึ่งครองอันดับหนึ่งตลอดกาล พวกเขาก็จะสูบกรุงทองและกรองทิพย์เท่านั้น
ผมปลดปืนแก๊ปลงจากบ่า สำรวจความพร้อมของดินชนวน พร้อมกับหยิบแก๊ปจากในย่ามครอบสวมลงไป ปิดทับด้วยแผ่นกระดาษบางเท่าปลายนิ้วก้อย เสร็จแล้วลดนกประทับลงบนเสี้ยวกระดาษนั้นอย่างเตรียมพร้อม
ง้างนกสับเมื่อไหร่ก็เหนี่ยวไกลั่นกระสุนออกไปได้เมื่อนั้น !
สาวบัวหันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่มีคำถาม ผมเอาปลายนิ้วชี้ข้างหนึ่งแตะริมฝีปากเป็นเชิงบอกให้ระมัดระวัง อย่างส่งเสียงหรือทำอะไรให้เกิดเสียงดัง พร้อมกับชี้ลงไปบนพื้น เพื่อมิให้เดินสะเปะสะปะไปเหยียบกิ่งไม้ใบไม้อันจะทำให้เกิดสุ้มเสียงขึ้นมาได้
หล่อนพยักหน้ารับรู้ และหันมองไปรอบ ๆ อย่างสำรวจตรวจตรา ไม่มีแววตื่นตระหนกเล็ดลอดออกมาจากดวงตาของหล่อน นอกจากความเชื่อมั่นและพร้อมจะเผชิญกับทุก ๆ สิ่งอยู่ตลอดเวลา
เมื่อดูท่าทางของสาวบัวตอนนี้แล้ว ก็ดูเหมือนว่า หล่อนจะหมดอารมณ์ที่จะสอดส่ายสายตาเลือกหายอดผัก หรือมองหาหน่อไม้อ่อน ๆ ที่รอดพ้นคมเขี้ยวหมูป่าเหมือนก่อน เช่นเดียวกับผมที่หมดอารมณ์จะค้นหาเป้าหมาย พวกนก กระรอก หรือตัวบ่างบนกิ่งไม้ เพื่อสอยมันด้วยลูกปืนไปเป็นอาหารอีกแล้ว
ใช่ ! เรากำลังค้นหาเป้าหมายแปลกปลอม ซึ่งผมมั่นใจว่า คงไม่ใช่นักแสวงโชคที่จะมาเสาะหาขี้ตะกรันเหมือนเมื่อก่อนอย่างแน่นอน เพราะขี้ตะกรันหมดป่าไปตั้งแต่คราวนั้นแล้ว อีก ๑๐๐ เมตร ข้างหน้าที่เราสองคนกำลังจะล่วงไปถึงเป็นป่าโปร่ง ข้างล่างเป็นพื้นทรายเตียนโล่ง บางซอกมุมมีก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายก้อน คล้ายใครหยิบมาวางไว้เป็นที่นั่งพักเหนื่อย มีขนาดโตใหญ่และแบนราบราวกับเตียงนอน ผมกับสาวบัวเคยไปนั่งเล่นกันอยู่แถวนั้นบ้างแล้ว เมื่อเรามาเสาะหาผักป่าด้วยกัน ในครั้งก่อน ๆ สาวบัวหันมามองผมอีกครั้ง เมื่อเดินเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว และผมก็ยังคงส่งสัญญาณให้หล่อนเดินไปอย่างระมัดระวังเหมือนเคย
เมื่อคิดถึงตอนนี้ ผมก็นึกขำ เพราะจินตนาการมันล่องลอยไปถึงเรื่อราวของชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาสมัยก่อน ตอนที่คนพวกนั้นทำสงครามจรยุทธ์กับมนุษย์ผิวขาวผู้รุกราน คิดถึงตอนที่พวกเขาเล็ดลอดเข้าไปสอดแนมภายในค่ายพักศัตรู กระทั่งสืบสภาพได้ครบถ้วนก็กลับไปพาพรรคพวกบุกเข้ามาโจมตี จนทำให้พวกผิวขาวได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดหลายครั้ง กว่าจะเอาชนะได้ด้วยแสนยานุภาพที่เหนือกว่า เหมือนผู้ใหญ่รบกับเด็ก ซึ่งเด็กก็ต้องแพ้วันยังค่ำ จน ในที่สุดพวกชนพื้นเมืองดังกล่าว ซึ่งก็คือ อินเดียแดง ที่เสียเปรียบในด้านกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ บาดเจ็บล้มตายลดจำนวนลงไปเรื่อย ๆ กลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และถูกกวาดต้อนไปอยู่รวมกันเป็นนิคม ๆ เรียกว่า "เขตสงวนอินเดียแดง" กันในที่สุด ซึ่งนิคมใหม่ดังกล่าว บางแห่งก็ไม่สามารถทำการกสิกรรมได้ จึงต้องคิดนโยบายจัดหารายได้ด้วยการตั้งบ่อนคาสิโนให้พวกเขาเก็บค่าต๋งเลี้ยงชีพ
นั่นแหละ รางวัลของความพ่ายแพ้ที่อเมริกันผิวขาวมอบให้ชนพื้นเมืองซึ่งเป็นเจ้าของทวีปตัวจริง ที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ก็เพราะขณะนั้นผมกำลังคิดเพ้อเจ้อว่า ตนคือชนเผ่าอินเดียแดงนะซี ! อินเดียแดงตัวผู้กับอินเดียแดงตัวเมียที่ไร้ม้าศึก แต่ชวนกันเดินเท้า และค่อย ๆ เยาะย่างไปอย่างช้า ๆ คนหนึ่งถือปืนแก๊ป คนหนึ่งถือมีดพร้า ชวนย่องเข้าหาศัตรูอย่าระแวดระวัง ว๊าว ! อะไรจะขนาดนั้น
แต่นั่นคือบุคลิกหรือจริตนิสัยที่แท้จริงของผม ซึ่งไม่ใคร่กังวนต่อสิ่งใดให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเกินไปนัก นอกจากระมัดระวังและไม่ประมาทแค่นั้นเอง กระทั่งในที่สุดเราสองคนก็ทะลุสู่เป้าหมาย เพราะพวกเขาซุ่มมองเราอยู่ และปล่อยให้ผ่านเข้าไปโดยไม่ได้ขัดขวาง
เมื่อเราสองคนเดินไปถึงลานทรายใต้ต้นหลุมพอใหญ่ ซึ่งมีแผ่นศิลาแบนราบเหมือนเตียงนอนวางอยู่ ผมก็ได้พบกับชายคนหนึ่ง ผมเผ้าหนวดเครารุงรัง นุ่งยีนส์สีดำ สวมเสื้อสีขี้ม้าแขนยาว นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงขอบศิลาก้อนนั้น ปืนอาก้าวางพาดอยู่ทางขวามือ
แม้ชายผู้นั้นจะปล่อยผมเผ้าหนวดเครารกรุงรังเหมือนอย่างผม แต่ทว่าผมจำเขาได้ทันทีที่ได้เห็น
"พี่โสภาส!"
ผมร้องทักเสียงดังด้วยความดีใจ
"อ้าว นุ้ยนี่" แกลุกขึ้นและตรงเข้ามาจับมือผมลากไปนั่งตรงนั้นด้วยกัน
"บัว นี่ไงพี่โสภาสที่ผมเล่าให้ฟัง"
"สวัสดีค่ะ" สาวบัวพิงด้ามพร้าไว้กับเข่าของหล่อนแล้วยกมือไหว้ทำความรู้จัก จากนั้นก็เดินไปนั่งบนขอนไม้ที่ล้มพาดอยู่ใกล้ ๆ และหันมามองเราสองคนนั่งคุยกันด้วยความสนใจ
"ผมได้กลิ่นยาสูบ พี่ยังสูบสามิตอยู่อีกหรือ?" ผมถามสหายโสภาส ซึ่งความจริงขณะนั้นแกมีชื่อจัดตั้งว่า สหายสุภาพ พรรคพวกของแกที่แขวนเปลนอนอยู่ตามโคนไม้ ซึ่งเป็นค่ายพักชั่วคราว เรียกแกว่า "คุณสุภาพ" และคุณสุภาพก็พูดให้ผมฟังว่า เรื่องบุหรี่นั้นแกจะสูบเฉพาะช่วงปลอดภัย เหมือนกับสหายอื่น ๆ การอยู่ป่าต้องรอบคอบ และระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นจะ เสียลับได้ง่าย
เราสองคนนั่งพูดคุยกันอยู่สักครู่ ก็มีคนชงกาแฟมาให้ เป็นชายหนุ่ม หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณขาวสดใสคล้ายสตรี ท่าทางจะเป็นลูกจีนบ้าบ๋า สวมใส่เสื้อผ้าปรกติ มิได้อยู่ในชุดทหาร แต่สะพายปืนยาวติดอยู่กับบ่า ปากกระบอกปืนชี้โด่อยู่ตรงหัวไหล่กระบอกหนึ่ง ในขณะที่สองมือถือถ้วยกาแฟพลาสติกใบเล็ก ๆ เดินมาให้ ผมกับพี่โสภาสรับถ้วยกาแฟมาถือไว้ และบอกขอบคุณเขา ส่วนสาวบัวปฏิเสธอย่างสุภาพว่าหล่อนไม่ดื่มกาแฟ "ใจสั่นค่ะขอบคุณมาก"
"ยังคิดจะกลับไปเรียนหนังสืออยู่อีกไหม?" พี่โสภาสถามผม หลังจิบกาแฟคำแรก
"ก็ว่าอย่างนั้นแหละ" ผมว่า "พี่ล่ะ หรือคิดจะเอาดีทางนี้เสียแล้ว?"
"เอาดีอะไรกัน" พี่โสภาสหัวเราะ เบา ๆ "อุทิศตัวเพื่อมวลชน ต้องรับผิดชอบหมู่สหายในสายงานผจญภยันตรายรอบด้าน จะเรียกว่าเอาดีได้หรือ? พลาดท่าเสียทีวันไหนก็ต้องเสียสละ หรือไม่ก็พิการทุพลภาพ"
"ถ้าอย่างนั้น ผมก็อยู่ในข่ายพวกเอารัดเอาเปรียบใช่ไหม?" ผมถามเพื่อจะหยั่งความรู้สึกของสหายที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน
"มันขึ้นอยู่กับนุ้ยจะปฏิปักษ์ หรือปฏิกิริยาต่อกองทัพหรือไม่? ก็ว่ากันไป แต่ถ้าไม่ ก็ไม่เห็นจะเอารัดเอาเปรียบตรงไหน อยู่ที่ราบก็ช่วยเหลือมวลชนและกองทัพได้เหมือนกัน"
"แต่เขาว่าผมเป็นพวกเสพสุข"
"อ๋อ- คนพวกนั้นในกองทัพก็มี" พี่โสภาสพยักหน้า "เป็นพวกติดยึด สุขอยู่หน้า ทุกข์อยู่หลัง ต้องสัมมนาและวิจารณ์กันอยู่เรื่อย อย่างนุ้ยนี้ไม่ใช่หรอก เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา เงื่อนไขต่าง ๆ ยังไม่อำนวย หรือจะว่า...ยังไม่สุกงอมก็ได้"
"พวกที่อบรมการเมืองด้วยกันกับผมที่ค่ายบ้านเอียนก็พูดอย่างนี้ พวกเขาบอกผมว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะต้องเข้าป่า แต่สถานการณ์บีบบังคับ เกิดเงื่อนไขที่ทำให้อยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ แล้วอย่างนี้กองทัพจะก้าวหน้าได้หรือ"
"ความก้าวหน้าของกองทัพขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของสมาชิกและมวลชน แต่คนพวกนั้นไม่อาจกำหนดเป็นสมาชิกหรือมวลชนจัดตั้งได้ เพราะเป็นพวกโลเลสร้างปัญหา กระทั่งสุดท้ายก็อาจตกเป็นเครื่องมือฝ่ายศัตรูก็มี
ผมกับสหายสุภาพนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสนิทสนมเหมือนเก่า พอเห็นสมควรแก่เวลาก็ชวนสาวบัวลากลับ โดยไม่สอบถามเป้าหมายการเคลื่อนไหวให้แกต้องลำบากใจ ทั้งที่อยากรู้ว่ากองทัพแดงส่งพวกแกมาเคลื่อนไหวอยู่แถวนี้อย่างถาวร หรือแค่ทางผ่าน ถามแต่เพียงว่า ได้พบปะกับพวกชาวเหมืองบ้างหรือไม่ ซึ่งแกก็บอกว่าไม่
"นอกจากพวกสำรวจทรัพยากรป่าไม้พวกนั้น ซึ่งเจอกันโดยบังเอิญ แล้วอีกอย่าง-พวกผมยังคงศึกษาสภาพกันอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็คิดว่าคงไม่นาน จะจัดประชุมขึ้นสักครั้ง แล้วจะเชิญคุณด้วย"
ผมนึกขำ เมื่อได้ยินสหายสุภาพใช้สรรพนามกับผมว่า คุณ เพราะแต่ไหนแต่ไร แกไม่เคยใช้คำนี้กับผมเลย
******************************
Create Date : 22 มีนาคม 2555 |
Last Update : 22 มีนาคม 2555 23:34:26 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1387 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: go far far วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:10:11:04 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:10:15:17 น. |
|
โดย: go far far วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:17:24:23 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:04:33 น. |
|
โดย: หลวงเส วันที่: 22 พฤษภาคม 2555 เวลา:6:30:39 น. |
|
| |
|
หลวงเส |
 |
|
 |
|
- - ร้อยมะลิ.มาลัย.ใส่น้ำอบ
- - กราบประกบ.แทบตัก.สลักสลวย
- - หมายจะรอ.ขอคำ.ทำให้รวย
- - เอื้ออำนวย.พรพรหม.รื่นรมย์ใจ
- - ขอให้ท่าน.อายุ.สุขะ.พละล้ำ
- - อยู่เคียงค้ำ.ลูกหลาน.ผ่านสมัย
- - ธุระกิจ.ยืนยาว.แลก้าวไกล
- - เป็นเยื่อใย.ต่อมวลมิตร.นิจนิรันดร์
...ท่านวางแผน..ไม่ต่อสัญญาพันทิป...ทำให้เพิ่มความคิดถึงนะคะ...อิอิ.