ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
กุมภาพันธ์ 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
11 กุมภาพันธ์ 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
3.ทับลุงทอง
ขณะกำลังศึกษาวิชาครูอยู่ที่วิทยาลัยฯ ผมชอบคลุกคลีกับพวกนิยมชมชอบด้านศิลปบันเทิง กระทั่งสมัครเข้าร่วมกิจกรรมอยู่ในชมนุมดนตรี-นาฏศิลป์กับพวกเขา มีกิจกรรมที่ไหนก็เข้าร่วมทุกครั้ง มีงานมีการก็ช่วยเหลือเขาสารพัด ตั้งแต่งานแบกหามทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ กระทั่งช่วยรื้อและจัดเวที สร้างฉากประกอบการแสดงละคร ช่วยขนย้ายและควบคุมดูแลด้านแสงสีเสียงร่วมกับรุ่นพี่ ทำให้ผ่านประสบการณ์ด้านมานี้พอสมควร เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้ารุ่นพี่เห็นเราจริงเอาจังก็เปิดโอกาสให้ฝึกซ้อมดนตรีและฝึกแสดงบทบาทตัวละคร จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสแสดงละครเป็นตัวพระในเรื่องกามนิต-วาสิษฐี แต่เรื่องดนตรีนั้น ผมโหล่เอามาก ๆ ที่พอจะเป็นกับเขาบ้างก็มีแค่ขลุ่ยไทยอย่างเดียว และมักจะพกใส่ย่ามสะพายติดตัวไปไหนเสมอ ถ้าใช้ผ้าขาวม้าคาดสะเอวก็สอดเหน็บไว้ที่ขาวม้านั่นแหละ เหน็บไปมาจนติดนิสัย
คืนนั้น ผมก็เหน็บขลุ่ยของผมติดสะเอวไปด้วย
กระท่อมทับของหม้ายสาวกว้างใหญ่ราวกับกระท่อมปลายนา ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินสูงริมลำธาร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หลังคาทรงแหลมมุงด้วยใบระกำเย็บเป็นตับเหมือนตับจาก ปูพื้นด้วยฝากไม้ไผ่และยกเสาสูงเหนือบั้นเอวจนต้องใช้กระไดพาด ด้านหน้าเป็นระเบียงกว้าง ปูเสื่อผืนใหญ่ไว้ผืนหนึ่ง
ลุงทองกับป้าพัว- พ่อและแม่ของสาวบัว รวมทั้งสายสมรน้องสาวของหล่อนอีกคน ซึ่งผมเรียกเธอว่า "หญิงหมอ"ติดปากมาตั้งแต่ครั้งแก้ผ้าเล่นน้ำคลองด้วยกัน ล้วนสนิทสนมกับพวกผมเป็นอย่างดี
ผู้เฒ่าสองผัวเมียแสนปลาบปลื้มและยินดี เมื่อพวกเราหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังย่างกรายเข้าไปถึง
ก็แน่ล่ะ - คนมีลูกสาวถ้าไม่คิดที่จะคบค้าสมาคมกับเด็กหนุ่มขยันทำกินอย่างพวกเรา แล้วจะให้ไปคบหากับใครที่ไหน
โดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่แสนจะรู้ใจแกอย่างไอ้หมึก ลุงทองถึงกับยิ้มร่าเมื่อเห็นมันโผล่หน้ามา
"ผมไปยกมือไหว้ขอแบ่งจากน้าคล่องได้มาหน่อยหนึ่ง" ไอ้หมึกล้วงห่อกัญชาที่อุตส่าห์ดั้นด้นไปขอแบ่งมาจากชาวเหมืองที่อยู่เลยขึ้นไปทางด้านเหนืออีกหน่อย วางบนกระบะไม้อันเล็ก ๆ ที่ใช้ทำเชี่ยนมากพลูไว้รับแขก กลางผืนเสื่อตรงหน้าลุงทอง
"แหม ให้มันได้อย่างนี้ซีวะ"ลุงทองตบเข่าฉาด "ของลุงก็หมดเกลี้ยงพอดี กะว่าจะล่องสังขารไปขอแบ่งไอ้คล่องมาสักอยู่หน่อยเหมือนกัน- - แต่อ้ายชิบหายนั่นมันหวงของมันยังกะอะไร.."
พูดแล้วแกก็โคลงหัว
"จริงครับ"
ไอ้หมึกพยักหน้าพลางยื่นมือรับเขียงหั่นกัญชาจากลุงทองวางลงหน้าตะหมาด จัดแจงคลุกเคล้ากุลีดอกกัญชาที่แกะออกจากห่อเข้ากับฝอยยาเส้น เสร็จแล้วก็ลงมือหั่นอย่างผู้ชำนาญการ
ไอ้พริ้งกับไอ้บองหลานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จ้องเขียงกัญชาที่ไอ้หมึกกำลังหั่นอย่างไม่กระพริบตา
ผมเห็นว่าได้จังหวะก็เร่งฉวยโอกาสชิ่งออกมาทันที
อุตส่าห์หอบสังขารอดตาหลับขับตานอนมาเหยียบเรือนแม่หม้ายทั้งที เรื่องอะไรจะมานั่งดมกลิ่นกัญชาให้โง่ สู้แอบไปหาอย่างอื่นที่มันให้รสชาติหอมสดชื่นระรื่นใจน่าสูดดมยิ่งกว่านี้มิดีหรือ!
ว่าแล้วไอ้เสือแผนก็ค่อย ๆ คลานเข่าอย่างแผ่วเบาเข้าไปในทับนอนอันเปรียบประดุจกระท่อมน้อยหลังนั้นทีละน้อยละหน่อย เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา
อ้ายตัวเล็ก-ลูกสาววัยสองขวบของสาวบัวนอนหนุนหมอนดูดนมขวดอยู่ข้างตักยายอย่างมีความสุข มือหนึ่งจับขวดนม มือหนึ่งคว้าชายเสื้อคอกระเช้าของยายมาดึงเล่น ไม่หันมาสนใจ
ผ่านเธอไปแล้ว ไอ้แผนนุ้ยก็เจอด่านที่สอง
เมื่อเห็นหน้านายด่าน หัวจิตหัวใจของพ่อแผนก็เต้นรัวอยู่เป็นนานสองนานกว่าจะบังคับให้สงบลงได้
สายสมรจุดตะเกียงน้ำมันก๊าดนอนคว่ำหน้าอ่านนิตยสารเล่มเก่า ๆ ขวางอยู่หน้าประตูครัว พี่สาวของเธอกำลังก่อไฟควันโขมงเพื่อที่จะทำขนมให้พวกขี้กัญชาได้กินกันอยู่ในนั้น
ผมกระเถิบเข้าไปใกล้ ทำใจดีสู้เสือ ถามขึ้นเบา ๆ
"อ่านนิยายเรื่องไร?"
"หอมกลิ่นแม่หม้าย" ปากพูด สายตาจับจ้องอยู่บนหน้ากระดาษ
ท่ามกลางแสงวอมแวมของตะเกียงน้ำมันก๊าด หญิงสาวมิได้ใส่ใจทักทาย ราวกับผมมิได้อยู่ในสายตา
"อ่านหนังสือในที่ที่แสงสว่างไม่พอระวังสายตาจะเสีย"
ผมพูดแก้เขิน หวังจะให้หล่อนหลีกทาง ทว่าหญิงสาวกลับหันขวับ
"ตาเสียยังดีกว่าตาถั่ว"
เฮ้ย !
ผมอุทานและนึกงงงวยอยู่ในใจ ชะรอยอีแม่สาวคงจะรู้... หรือไม่ก็อาจระแคะระคายถึงปรากฏการณ์พญานาคคายพิษกลางสายน้ำเมื่อวันวานเข้าแล้วก็ได้
ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ และกล่าวชมเธอว่า
"ไม่พบเสียนาน สวยจนจำไม่ได้"
"สวยตาย..."
"จริง"
"ทำปากดี- -ระวังดุ้นฟืนปลิวมาจากครัว....จะว่าไม่เตือน"
คราวนี้ผมเผลอตัวปล่อยก้ากเสียงดังลั่น เป็นเหตุให้เจ้าตัวเล็กที่กำลังนอนดูดนมขวดอยู่เพลิน ๆ ตกใจ ถอดขวดนมออกจากปากส่งเสียงจ้า
"แม่-หนู -หาแม่..."
"บัวเอ้ย--มาอุ้มลูกลงไปเดินเล่นข้างล่างก่อนเถอะ มันร้องหนวกหู-พวกพ่อเขาจะคุยกัน" ป้าพัวร้องบอกลูกสาว เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานตัวเล็กคงจะไม่หยุดร้องลงง่าย ๆ "ประเดี๋ยวของในครัวพวกนั้น แม่กับนังหมอนจะเข้าไปจัดการกันเอง"
ผมรอโอกาสนี้มานานแล้ว จึงคลานเข่าเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าป้าพัว
"ส่งมาให้ผมช่วยอุ้มให้ก็ได้จ๊ะป้า" ว่าแล้วก็ดึงขลุ่ยไม้ไผ่ซึ่งสอดเหน็บกับผ้าขาวม้าที่สะเอวเหนือตะโพกยื่นส่งให้เจ้าตัวเล็ก "มาลูกมา มาหาน้านี่- -มาเร้ว..."
ลูกน้อยของหม้ายสาวเงียบเป็นปลิดทิ้ง ลุกพรวดมาคว้าขลุ่ยจากมือผมแล้วหันไปส่งเสียงเรียกแม่ของเธอเสียงลั่น
"แม่ แม่ ฉุ่ย ฉุ่ย"
ผมยิ้มให้เธอ
"ขลุ่ย-ลูก ขลุ่ย ไม่ใช่ฉุ่ย..... ไหนว่าใหม่ซิ ขลุ่ย"
เจ้าตัวเล็กยืนจ้องผมตาแป๋ว มือขวากำขลุ่ยไว้แน่น เป็นภาพไร้เดียงที่แสนงาม จมูก ปาก คิ้ว คาง ของเธอถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่ครบสิ้น
เหนือราวป่าสีดำหม่นเบื้องทิศตะวันออก พระจันทร์สีทองกลมโตสวยสดใสกำลังโผล่แย้มสาดแสงสว่างนวล เมื่อมองลอดเพิงหลังคาผ่านช่องประตูเห็นทิวเขาเรียงรายสลับเป็นเชิงชั้นงดงามในยามเดือนฉายที่ไกลโพ้นออกไป
"มาหาแม่-ลูก"
สาวบัวเดินสวนกับป้าพัวออกมาจากข้างในด้วยก้าวย่างที่แผ่วเบาจนผมไม่อาจรู้ตัว ก้มรวบตัวลูกสาวขึ้นไปอุ้ม ก้าวลงกระไดเดินฝ่าแสงจันทร์ตรงแน่วไปยังโขดหินน้อยใหญ่ที่ริมธารน้ำหน้าทับของหล่อนด้วยอากัปกิริยาที่ปึ่งชา มีได้หันมาใส่ใจทักทายผมให้สมกับที่คิดถึงเลย
ทว่าลูกผู้ชายชื่อไอ้แผนอย่างผมมีหรือจะไม่ประสีประสาจริตมารยาหญิง มีหรือจะไม่รู้ซึ้งซึ่งความขุ่นมัวของเจ้าหล่อน
ระดับในลำธารหน้าทับลุงทองตื้นและใสแจ๋ว ถ้าเป็นตอนกลางวันมองลงไปเห็นก้อนหินและเม็ดทรายกลางท้องธารชัดเจน มันเป็นสายธารเดียวกับที่ไหลผ่านไปยังทับนอนของพวกผม หากแต่บริเวณนี้เป็นเนินสูง สายน้ำที่ไหลทอดลงสู่เบื้องล่างจึงเชี่ยวปรี่ กระทบแก่งหินส่งเสียงซ่านซ่าได้ยินไปแต่ไกล
ก่อนที่ผมจะย่างเท้าพ้นจากขั้นกระไดทับลุงทองขั้นสุดท้าย เพื่อจะออกตามสาวบัว ก็แว่วเสียงลุงทองร้องสั่งมาว่า
"มึงบอกให้อีบัวหาอะไรปิดกระหม่อมลูกมันหน่อย อุ้มตากน้ำค้างกลางค่ำกลางคืนประเดี๋ยวหวัดก็จับเอาหรอก"
ผมขนลุกวาว คิดไม่ถึงว่าแกจะดักทางผมถูก หากแต่เมื่อได้ตัดสินใจใส่เกียร์เดินหน้าลงไปแล้ว ลูกผู้ชายชื่อไอ้แผนอย่างผมถ้าวกกลับมาใส่เกียร์ถอยมันก็หมาเท่านั้น
"ครับ - -เอ่อ- - ผมจะออกไปเดินเป็นเพื่อนเขาหน่อย" ผมหันไปบอกลุงทอง
"เออ- ว่าแต่อย่าชวนกันไถลไปให้ไกลนักล่ะ ประเดี๋ยวป้ามึงทำขนมสุกแล้วจะกู่เรียกไม่ได้ยิน"
กังวานเสียงของชายชราฟังแปร่ง ๆ คล้ายมีอะไรแอบซ่อนอยู่
ร้อนถึงไอ้หมึก ซึ่งชะรอยคงจะถุนกัญชาเข้าไปแล้วหลายบ้อง มันจึงแหย่ลุงทองด้วยลีลาสำนวนเคลิ้มควันกัญชาว่า
"ค่ำคืนนี้จันทร์เจ้าแจ่มกระจ่าง ปล่อยให้หนุ่มสาวเขาออกไปเดินกินลมชมจันทร์เล่นกันเถอะ อย่าไปขัดคอมันเลย เดี๋ยวจะเป็นบาปติดตัวไปเปล่า ๆ"
ลุงทองหัวเราะ ฮา ฮา
"... ก้อกูไม่ได้ว่าอาไร้"
พูดจบแกก็หยิบเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ที่พับเป็นแผ่นเล็ก ๆ แบน ๆ ยาวแค่นิ้วชี้ จ่อเข้ากับไฟตะเกียงที่วางอยู่กลางวงจนไฟลุกพรึบ แล้วนำมาลนผงกัญชาซึ่งยัดใส่ไว้ในกรวยบ้อง พร้อมกับสูดควันพ่นโขมงอย่างสบายใจเฉิบ
ยามมืดค่ำ กลางป่าดงดอยเงียบเหงาวังเวง ไกลออกไปในป่าลึกผมได้ยินเสียงไก่ป่าเพ้อขันดังแว่วขึ้นครั้งสองครั้งแล้วเงียบไป ครั้นสืบเท้าต่อไปจนใกล้ตอไม้ซึ่งทอดเงาตะคุ่มอยู่ริมทางเดิน ผมก็เห็นนกตบยุงปีกลายตัวหนึ่ง กำลังกางปีกร่อนโฉบเหยื่อฉวัดเฉวียนอยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งซึ่งคงจะเป็นคู่รักของมันกำลังส่งเสียงจุ๋ง ๆ เพรียกหาอยู่ตรงไหนซักแห่งที่ห่างออกไป ท่ามกลางแสงจันทร์อันสว่างไสวดุจกลางวัน ผมสอดส่ายสายตาแลหาไปจนทั่วแต่ไม่เห็นตัวมัน
ชะรอยนกป่าคงแอบซุ่มส่งสัญญาณเตือนภัยมายังชู้รักของมันนั่นเอง
เมื่อเดินผ่านขึ้นมาถึงบริเวณกลางเนินซึ่งเป็นพื้นราบ น้ำในลำธารก็ไหลเอื่อยเฉื่อยจนเกือบจะไร้สุ้มเสียง ผมเร่งสืบเท้าเดินเลาะเลียบแท่งหินน้อยใหญ่ริมธารด้ายซ้ายมือตามหลังหม้ายสาวไปอย่างกระชั้นชิด ในขณะที่ผิวน้ำซึ่งไหลสวนทางมาในสายธารต้องแสงจันทร์ทอประกายระยิบระยับแพรวพราวบาดนัยน์ตา
ยิ่งห่างไกลกระท่อมทับและห่างเสียงพูดคุยของพวกขี้กัญชา ผมก็รู้สึกเหมือนโลกกลางป่าลึกแห่งนี้เป็นของเรา...
บนหาดทรายขาวนวลริมสายธารตรงนั้น สาวบัวนั่งมองลูกน้อยของหล่อนวิ่งเล่นอยู่บนพื้นทรายอันอ่อนนุ่มขณะผมสาวเท้าตามไปถึง
"ถอยไปนั่งห่าง ๆ"
หม้ายสาวผลักไสเมื่อผมทรุดกายลงเคียงข้างและโอบกอด
"อย่าดิ้น เดี๋ยวลูกตกใจ" ผมออดอ้อนเสียงกระเส่า
"ก็ปล่อยซิ"
กังวานเสียงของหล่อนสั่นเครือและแผ่วเบาจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์
"คิดถึงใจจะขาด"
ลูกผู้ชายชื่อไอ้แผนแนบปากกระซิบข้างหูชู้รัก ก่อนฝังจมูกลงกลางแก้มนิ่มหวังสูดดมกลิ่นหอมจากกายสาวให้ชื่นใจ แต่มิอาจสมหวัง เมื่อสัมผัสเสียงหม้ายสาวผ่อนลมหายใจสะทกสะท้อนหนักหน่วงราวกับถอนสะอื้นสอดแทรกขึ้นมา
"นุ้ย เราคบกันแค่นี้พอแล้วนะ"
สาวบัวพูดหลังจากผมคลายอ้อมแขน น้ำเสียงของหล่อนฟังสร้อยเศร้าและบาดลึกลงกลางใจ
"เป็นเพราะเรื่องที่ผมพูดหยอกเล่นกับหญิงหมอนเมื่อครู่นั้นหรือเปล่า?" ผมปลอบถาม และยังมิทันที่หล่อนจะเอ่ยคำใดออกมา เจ้าตัวน้อยของหล่อนก็วิ่งตื้อตรงมาขัดจังหวะเสียก่อน
"แม่ แม่..."
หม้ายสาวรีบหยิบขลุ่ยไม้ไผ่ที่วางอยู่ตรงหน้าหล่อนยื่นส่งให้ผม
"เก็บไว้...อีอ้อร้อตัวนี้ชอบหยิบของเล่นโยนน้ำ"
อีอ้อร้อ! ในบริบทนี้เป็นคำชื่นชมลูกสาวตัวน้อยของหล่อน
ผมหัวเราะ พร้อมรับขลุ่ยไม้ไผ่จากมือหล่อนมาถือไว้
ลูกน้อยของหล่อนงอแงเมื่อพลาดหวัง- - แม่หยิบของเล่นที่หมายตาส่งให้ผู้อื่น
ปี๊ด ปี๊ด !
ผมแกล้งเป่าขลุ่ยเสียงแหลมเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกของเธอ แต่ไร้ผล เธอยิ่งส่งเสียงงอแงหนักขึ้น กระทั่งในที่สุดมือน้อย ๆ ข้างหนึ่งของเจ้าตังน้อยก็ยื่นมาฉกกระชากขลุ่ยเลานั้นไปจากปากผมโดยที่ผมไม่ทันระวัง
"อย่าลูก"
สาวบัวทำท่าจะแย่งคืน แต่ผมเอื้อมไปยึดแขนหล่อนไว้ และเสียงงอแงของเจ้าตัวน้อยก็เงียบลง
เธอยืนจ้องผมราวกับจะถามว่า-เอ็งจะทำอะไรแม่ข้าวะ!?
ดวงตาสองข้างของเจ้าตัวน้อยกลมแป้ว จ้องผมไม่กระพริบ
วูบหนึ่งในจิตสำนึก ผมรู้สึกเศร้ารันทดที่เห็นเธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องเสียพ่อบังเกิดเกล้าไปตั้งแต่ยังไม่ประสีประสา
ผมละมือจากแขนหม้ายสาวไปจับแก้มขาวยุ้ยของเธอดึงเล่นเบา ๆ
"ไหนลองเป่าขลุ่ยซิลูก เป่าเป็นไหม?-" ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กระทั่งเจอของดี... "โอ้ย!"
สาวบัวหัวเราะคิก เมื่อเห็นผมหดมือกลับมาลูบหน้าผากตัวเอง...
แต่เมื่อลูกสาวของหล่อนยกขลุ่ยเงื้อง่าตั้งท่าจะตีซ้ำลงมาที่ผมอีก หล่อนก็รีบคว้ามือเอาไว้ ทำให้เจ้าตัวน้อยไม่พอใจกรีดร้องหวีดแหลมออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกระทืบเท้าย่ำลงบนพื้นทราย สะบัดมือเหวี่ยงขลุ่ยเลานั้นกระเด็นกระดอนออกไปไกล ...จากนั้นเธอก็ร้องไห้ดีดดิ้นเป็นพัลวัน
"นอน แม่-นอน...นอน"
สาวบัวโน้มตัวไปรวบลูกสาวเข้ามาอุ้มแล้วลุกขึ้นยืน พร้อมกับเอาฝ่ามืออีกข้างปัดเม็ดทรายที่เกาะติดผ้าถุงตามตะโพกและหน้าขา ก่อนจะก้มหน้ามองผมที่ยังคงนั่งอยู่กับพื้น พูดว่า
"พี่กลับล่ะ ลูกสาวง่วงนอน..."
"ลูกหลับแล้วกลับมาอีกนะ ผมจะรอ..."
"รอคนอื่นดีกว่า"
หม้ายสาวสื่อวาจาตัดพ้อจนผมรู้สึกปั่นป่วนหัวใจ แต่ถ้าหากไม่เกรงว่าเจ้าตัวน้อยที่กอดคอซบอกหล่อนอยู่นั้นจะอาละวาดขึ้นมาอีก หล่อนก็คงไม้แคล้วโดนผมสำเร็จโทษ ซึ่งหล่อนก็เหมือนจะรู้ว่าผมกำลังคิดอกุศลใด หม้ายสาวจึงเปิดยิ้มอย่างมีชัย ก่อนจะอุ้มลูกสาวตัวน้อยของหล่อนเดินเลียบชายหาดและวกลงเนินลับหายไป
****************************************
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 6:13:25 น.
19 comments
Counter : 1166 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ มีอะไรจะแนะนำก็ขออย่าได้เกรงใจ
ขอบคุณครับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:00:49 น.
สวัสดีตอนเช้าวันเสาร์ค่ะ แวะมาทักทาย ยังจำได้เสมอน๊า
เด่วสาย ๆ จะกลับมาอ่านค่ะ ตอนนี้ขอเวลาไปทักทาย
เพื่อน ๆ ตามบ้านก่อนนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:56:10 น.
อ้อร้อน้อยแสบไม่ใช่เล่นนะค่ะ แล้วสาวบัวเขางอนอะไรหว่า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:57:31 น.
สวัสดีตอนเช้าวันอาทิตย์ สนุกสนานเบิกบานในวันหยุดสุดสัปดาห์นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:03:12 น.
สวัสดียามสายวันอาทิตย์ค่ะคุณหลวงเส เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:06:33 น.
www.rabbit4print.com
www.fast-book.com
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:42:11 น.
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:50:57 น.
เดาเรื่องสั้นผิดดีกว่าเดาถูกจริงค่ะ
โดย:
วัวป่าหลงเงาจันทรา
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:27:59 น.
แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ
โดย:
deeplove
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:34:07 น.
ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจครับผม
โดย:
หลวงเส
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:04:15 น.
สร้างกริตเตอร์
มีความสุขมากมายนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:17:48 น.
สุขสันต์วัน Valentine มีความรัก ความห่วงใย
มาฝากเพื่อน ๆ ชาว blog ขอให้สมหวังในรักทั่วทุกคนค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:10:27 น.
ชื่นใจหลาย ๆ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:31:30 น.
สุขสันต์วันทำงานค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:07:08 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:20:06 น.
ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ หลวงเส
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:29:46 น.
มาชวนไปเที่ยวกระบี่กันค่ะ :)
มีความสุขกันทุก ๆ วันนะจร้า :)
โดย:
สาวสะตอใต้
วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:49:34 น.
ตามมาอ่านด้วยคนค่ะ
มีเกี้ยวพาราสี อิอิอิ หนุ่มกับ(หม้าย)สาว
บรรยากาศลูกทุ่งนิดๆๆๆ เขียนได้สนุกมากเลยนะคะ
ปล. อิตาลีเหล้าไม่ค่อยมี แต่มีไวน์อร่อยๆ เยอะค่ะ
คนอิตาเลี่ยนดื่มเก่ง แต่ไม่เมา น่าแปลกมาก
ไวน์จากเขตทัสคานี ยี่ห้อดีๆ มีขายในเมืองไทยด้วยนะคะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:40:34 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ แวะมาทักทาย อย่าลืมหา
อะไรทานก่อนจะเริ่มงานวันใหม่น๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:46:37 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
ขอบคุณครับ