
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
ตอน : คอมแกลบ

"เมื่อคืนได้ข่าวว่าไม่ได้นอนที่หอใน?" อาจารย์พิเชฐ พูดพลางจ้องจับพิรุธผม
หอในหมายถึงหอพักของวิทยาลัย หอนอกเป็นหอเอกชน หน้า วค.
"ครับ อาจารย์"
"ได้แจ้งไว้หรือเปล่าว่าจะออกไปค้างที่ไหน กับใคร?"
คำถามนั้นทำให้ผมหูอื้อ แม้พัดลมเพดานเหวี่ยงใบพัดวับ ๆ อยู่บนหัวจะส่งเสียงลั่นไปทั้งห้อง ผมกลับไม่ได้ยิน...
แต่ในที่สุดก็ฉุกคิดขึ้นว่า การไม่แสดงที่อยู่ให้ชัดแจ้งระหว่างเกิดเหตุฆ่ากันตาย เป็นสิ่งไม่ดีสำหรับผม โดยเฉพาะผู้ตายคือ ยามสุชาติ ที่เคยสาดอารมณ์ใส่กันต่อหน้าอาจารย์ท่านนี้มาแล้ว
"ผมค้างที่หอน้าเจียร ครับ"
หลังคำตอบของผม ปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันผุดพรายที่มุมปากของอาจารย์ผู้ทำการสอบสวน ราวกับผู้กำชัยชนะ
"ครูคิดไว้ไม่ผิด" อาจารย์พิเชฐเอนหลังพิงพนักเอามือข้างหนึ่งลูบปลายคางถูไถไปมา "พวกเธอหมกมุ่นกับสิ่งไร้สาระเกินไปแล้ว รีบไปตามตัวนายโสภาสมาหาครู ประเดี๋ยวเราจะไปค่ายทหารด้วยกัน"
"หมายความว่าอย่างไรครับอาจารย์"
"เธอไม่มีสิทธิ์มาย้อน" อาจารย์ฝ่ายปกครองขึ้นเสียง "หรือเธอจะลองดีกับครู"
"ผมเพียงแค่สงสัยครับ ทำไมอาจารย์จะต้องพาผมกับพี่โสภาสไปยังค่ายทหาร"
ปลายนิ้วชี้มู่ทู่ของอาจารย์พิเชฐพุ่งเข้ามาเกือบถึงหน้าผากผม
"ครูเคยเตือนและคาดคั้นเธอไว้บ้างแล้วใช่ไหม? นายรัฐพล"
น้ำเสียงของท่านแข็งกร้าวสมกับเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง
แต่ในกรณีที่ผมตกเป็นผู้ต้องสงสัยของท่าน ผมกลับเชื่อในความบริสุทธิ์ของตัวเอง...
แม้ผมจะสะใจที่ยามสุชาติถูกยิงตาย เพราะผมเกลียดมันเหมือนขี้ แต่ผมไม่เคยคิดเกินเลยไปกว่าอยากด่าแม่ หรือไม่ก็ขอกระแทกหน้ามันสักทีสองทีพอให้หายหมั่นไส้-แค่นั้น
ระหว่างเดินกลับมาจากหอพักของพี่โสภาส ผ่านจุดที่มันถูกสังหาร ผมก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานอโหสิกรรมให้มันไปแล้ว
ที่สำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีใครรู้สาเหตุแน่ชัด!
แม้จะมีการกล่าว "จงเจริญ จงเจริญ " ออกจากปากมือปืนผู้ลั่นไกสังหารมันก็ตาม ทว่าของแบบนี้ใครก็คิดวางแผนโยนความผิดให้ผู้อื่นรับเคราะห์แทนกันได้ทั้งนั้น
หนุ่มสาวหลายคู่ถูกเรียกไปทำทัณฑ์บนก็เพราะฝีปากไอ้ชาติ อีกทั้งคอกัญชา ขาไพ่ และพวกที่เล่นการพนัน ซึ่งถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกพบและคาดโทษทำทัณฑ์บน ก็เพราะยามสุชาติเป็นคนคาบข่าวไปบอกฝ่ายปกครองทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นการตายของมัน อาจารย์พิเชฐจึงไม่ควรที่จะด่วนปักใจไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไม่ควรจะวกมาที่ผม ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย
"ผมว่า อาจารย์กำลังเข้าใจพวกผมผิด ๆ นะครับ" ผมพยายามชี้แจง
ฝ่ามือหนา ๆ ของอาจารย์พิเชฐตบโต๊ะปัง!
"หุบปากเดี๋ยวนี้- -ไอ้รัฐพล! กูให้เวลามึงหนึ่งชั่วโมง กินข้าวกินน้ำเสร็จแล้วไปตามไอ้เพื่อนของมึงคนนั้นมาพบกู ไม่อย่างนั้นกูจะเอาเจ้าหน้าที่ไปจัดการลากคอพวกมึง, ไป๊- - กลับไปจัดการตามที่สั่ง"
ผมเดินตัวปลิวออกมาจากสำนักงานแผนกปกครองและควบคุมความประพฤตินักศึกษา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "ฝ่ายปกครอง" ภายในสมองมีแต่คำถามระคนน้อยใจ เพราะก่อนหน้านั้นผมคิดถึงสถานภาพของตนเองอย่างตื้น ๆ แต่เพียงว่า นอกเหนือไปจากวิชาความรู้ในตำรับตำราเรียน ผมในฐานะนักศึกษาก็ควรจะเป็นผู้แสวงหาสิ่งอื่นเพิ่มเติมไม่ใช่หรือ... สิ่งไหนที่ยังไม่รู้และอยากรู้ ก็ควรที่จะต้องศึกษาค้นคว้าให้รู้แจ้งให้จงได้-ใช่ไหม? เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวความรู้นั้นเอามาเป็นประสบการณ์ หรือนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมในอนาคต
ผมคิดถึงหนังสือต้องห้ามหลายเล่มที่เคยผ่านสายตาผม นอกเหนือไปจากสองเล่มของพี่โสภาสที่โดนยึดไปโดยไม่ได้เปิดดูข้างในดังที่ท่านได้ทราบกันมาแล้ว ก็อาจมีใครล่วงรู้... แล้วพาลคิดว่าผมฝ่าฝืนคำสั่ง และอาจจินตนาการเลยเถิดกันต่อไปว่า ผมฝักใฝ่ลัทธิต้องห้ามจนกลายเป็นแนวร่วมของพรรคคอมมิวนิสต์ไปแล้วก็ได้?
หรือว่าเหนือไปจากนั้นอาจารย์พิเชฐกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมอาจารย์ไม่ติดต่อไปยังผู้ปกครองของพวกเรา แล้วเรียกมาทำทัณฑ์บน? ทำไมท่านไม่ขอความร่วมมือไปยังอาจารย์ที่ปรึกษาของเรา เพื่อสอบถามความประพฤติให้แน่ชัด? เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาก็เปรียบเสมือนครูประจำชั้นของนักเรียนชั้นประถม-มัธยม ท่านใกล้ชิดกับเรามากกว่าอาจารย์แผนกใด ๆ หรือถ้าจะลงโทษกันจริง ๆ ทำไมไม่ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักอธิการบดีฯให้ลงโทษด้วยการสั่งพักการศึกษา หรือไล่ออกตามกฎระเบียบ ถ้าเห็นว่าเราผิดจริง? จากนั้นจึงค่อยลงโทษกันตามระบิลเมือง... แต่นี่อาจารย์กลับลัดขั้นตอนจะส่งเราไปให้เขาสอบสวนยังค่ายทหารเสียทีเดียว ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
หรือว่ากระบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากภายนอก ได้รุกล้ำเข้าสู่เขตรั้ววิทยาลัยของเราแล้วจริง ๆ ?
ผมสงสัยเหลือเกิน
"เมื่อเป็นเช่นนี้ เราสองคนเห็นท่าจะต้องขอดรอปกันสักเทอมครึ่งเทอมเสียแล้วล่ะ ไข่นุ้ย"
ดรอป หรือ Drop หมายถึงขอพักการศึกษาชั่วคราว อาจเป็นรายวิชา หรือเหมาหมดไปทั้งเทอมก็ได้ถ้ามีเหตุจำเป็น
"เราไม่ต้องเสียเวลาไปอีกสามสี่เดือนหรือ--กว่าจะจบ?" ผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางขจัดปัญหาของพี่โสภาส
จะลาพักไปทำไม ในเมื่อในที่สุดพอหมดเวลาก็ต้องหวนกลับมาอีก?
"เรากำลังตกอยู่ในอันตราย ถอยไปตั้งหลักสักเดือนสองเดือนก็ยังดี"
"ผมไม่เข้าใจ"
"อาจารย์พิเชษฐเป็นมือตีน กอ.รมน. เพราะฉะนั้นไม่ช้าก็เร็วในหมู่พวกเรา--ไม่คนใดก็คนหนึ่ง" พี่โสภาส หมายถึงเพื่อนฝูงที่สนิทสนม และมักไปไหนมาไหนดัวยกัน หรือมักร่วมทำกิจกรรมด้วยกันประจำ "...อาจเป็นไข่นุ้ย หรือพี่ หรือใครก็ได้จะต้องกลายเป็นไก่ที่โดนเขาจับเชือดให้ลิงดู"
"จริงหรือ?"
"พี่คิดว่าไข่นุ้ยระแคะระคายบ้างแล้ว"
"ขอโทษเถิดพี่" ผมว่า "สำหรับการเมืองในเวลานี้ ผมสนใจแต่ในตำรับตำราอย่างเดียว"
พี่โสภาสรีบใส่เสื้อติดกระดุมและชวนผมเดินออกจากหอของแก บ่ายหน้าสู่สำนักงานฝ่ายปกครองภายใน วค. ด้วยกัน เมื่อเราไปถึงก็พบว่าอาจารย์พิเชฐได้นั่งรอเราอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่งของท่านอยู่ก่อนแล้ว พระบรมสาธิตลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีฯแขวนอยู่ที่ผนังเหนือศีรษะท่าน
อาจารย์พิเชฐนั่งพิงพนักเก้าอี้มองเราสองคนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่รับไหว้ เพียงแต่บอกให้นั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พัดลมเพดานเหนือหัวเราหมุดปับ ๆ ๆ ไม่หยุดนิ่ง นอกจากเสียงพัดลมที่กำลังหมุนดังก็ไม่มีเสียงอื่นสอดแทรกมา อาจารย์ปกครองมองเราสองคนสลับไปมาอีกครั้ง แล้วส่ายหน้าคล้ายคนผิดหวัง ซึ่งผมไม่รู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่
"นายโสภาส ครูว่าเธอกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก" สายตาของอาจารย์พิเชฐ จ้องเขม็งไปที่ใบหน้าพี่โสภาสเหมือนโกรธแค้นเสียเต็มประดา หากแต่น้ำเสียงแปรเปลี่ยนไปจากเดิม คล้ายรันทดหมดหวัง "เธอก็รู้ว่าครูปกป้องพวกเธอมาตลอด แต่เที่ยวนี้การต่อสู้ของพวกเธอมันข้ามขั้นไปแล้ว มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวธรรมดาอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นความรุนแรง เป็นปฏิบัติการณ์จิตวิทยามวนชนที่สร้างแรงกดดันมาสู่สถาบัน-ซึ่งครูไม่อาจเพิกเฉยได้ เพราะฉะนั้นครูจำเป็นต้องพาเธอและนายรัฐพล ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่ไม่เคยรับรู้อะไรเลยไปยังค่ายทหาร ให้เขาสอบสวนล้างคราบคาวสกปรกให้สะอาด เพื่อให้เกิดผลดีแก่ตัวเธอ หวังว่าเธอคงเข้าใจ หลังจากนั้น-ก็แล้วแต่เธอทั้งสองคนจะตัดสินใจอย่างไร"
ผมนั่งฟังอาจารย์พิเชฐพูดกับพี่โสภาสอย่างตั้งอกตั้งใจ กระทั่งเริ่มจะมองเห็นอะไร ๆ ขึ้นมาราง ๆ
เออหนอ---ความลึกลับซับซ้อนมันช่างมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง?
ด้วยความสัตย์จริง! จะเอาผมไปสาบานที่วัดไหนก็ได้ ผมไม่เคยระแคะระคายมาก่อนว่า ขณะนี้ภายใน วค. ของเราจะมีแนวร่วมกองทัพปลดแอกฯในคราบของคณาจารย์และนักศึกษา คืบคลานเข้ามาแทรกซึมอยู่บ้างแล้ว หรืออาจเต็มไปหมดแล้ว... ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ถึงอย่างไรผมก็เริ่มคิดได้แล้วว่า อาจเป็นเพราะท่าทีของผม ที่ทำให้พวกเขามิอาจแสดงตัว อีกทั้งหลายคนยังหายหน้าหายตาไปจากผม และไม่ยอมพูดจาวิสาสะกันเหมือนก่อน-ก็มี
แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาคงไม่คิดว่าผมเป็นปฏิกิริยา เพราะไม่อย่างนั้น-ไหนเลยพี่โสภาส (ซึ่งบัดนี้ผมเชื่อว่าแกต้องเป็นแนวร่วมให้กับพวกเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่บนภูเขาโน้น) ยังจะคบหากับผมอยู่
"คุณไม่รู้จริง ๆ หรือว่าคำสั่งนั้นมาจากเขตงานไหน?" นายพันตรีทหารบก- ผู้ทำหน้าที่สอบสวน ซึ่งประจำการอยู่ ณ ฐานที่มั่นภายในค่ายทหารแห่งนั้น สอบถามพี่โสภาสด้วยน้ำเสียงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก่อนเรียกพลทหารรักษาการซึ่งเฝ้าเวรยามอยู่ใกล้ ๆ นายหนึ่งให้มาพาผมออกไปรออยู่ข้างนอก
และสักประมาณยี่สิบนาทีพี่โสภาสก็เดินยิ้มแต้ตามออกมา
เป็นสิ่งปรกติที่ยิ้มของพี่โสภาสมักไม่ใช่ยิ้มธรรมดา บางครั้งในรอยยิ้มของแกเหมือนมีความหม่นเศร้าซุกซ่อนอยู่ และบางคราวก็เหมือนมีคราบความแค้นฝังแน่น นาน ๆ สักครั้งที่จะได้เห็นรอยยิ้มอันเปิดเผยของแก และผมก็โง่เกินกว่าจะระแวงกับสิ่งนั้น...
"จงเป็นลูกผู้ชายเหมือนอย่าง เช กูวาร่า"
เป็นคำพูดหลังรอยยิ้มที่ติดปากอยู่เสมอเมื่อแกต้องการปลอบใจใคร
หากแต่ผมก็เลินเล่อเกินกว่าเฉลียวใจ ว่านั่นคือคำพูดที่ผุดออกมาจากส่วนลึกภายในใจของแก
เราสองคนกลับจากค่ายทหารด้วยรถสองแถวรับจ้าง ไม่ได้นั่งรถตู้ของ วค. มากับอาจารย์พิเชฐเหมือนขาไป
เมื่อถึงหน้า วค. ใกล้ ๆ กับหอพักของพี่โสภาส เราลงจากรถแล้วก็ชวนกันเข้าไปนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยว สั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำกับแม่ค้าคนละถ้วย
ระหว่างแม่ค้ากำลังลวกเส้นและปรุงส่วนผสมใส่ลงในถ้วยให้เราอยู่หลังตู้กระจกเครื่องก๋วยเตี๋ยวของหล่อน ใครคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ก่อนที่โต๊ะข้าง ๆ กับพรรคพวกของเขาอีกสองคนก็ร้องถามหล่อนด้วยสุ้มเสียงที่ดังขึ้นเกินพอว่า
"ได้ข่าวหมู่นี้มีพวกคอมฯ เต็ม วค. ไปหมดมิใช่หรือ?"
แม่ค้าหันมาทำหน้าฉงน และว่า "ไม่ทราบเหมือนกัน วัน ๆ ฉันขายแต่ก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ออกไปไหน เลยไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขา"
"ผมอยากดูหน้ามันสักที หน้าตาของมันเหมือเราไหม?"
คนที่พูด- ถ้าจะให้เดาก็คงเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อาจเป็น อส. หรือไม่ก็ตำรวจ หรือทหารนายสิบ ส่วนอีกสองคนเป็นนักศึกษาชายรุ่นเดียวกับพี่โสภาส หุ่นสำอาง แต่งกายจิ๊กโก๋เต็มบรรทัด เสื้อ-กางเกง ทั้งลีวายและแรงเลอร์ยีนรุ่นที่พวกเขาสวมใส่อยู่นั้น แพงกว่าค่าลงทะเบียนเรียนของผมทั้งเทอม
"วันไหนถ้าเจ๊เห็นหน้าช่วยชี้ให้ดูหน่อยนะ"
พูดเสร็จก็เขาเรียกเก็บเงิน และชวนกันออกไปจากร้าน
ตอนที่เดินผ่านโต๊ะเราก็ทำเป็นหันมามอง แต่มิได้พูดจาว่าไร
***********************************
Create Date : 21 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 22 สิงหาคม 2554 19:16:57 น. |
|
34 comments
|
Counter : 1133 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: pantamuang วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:18:55:03 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:8:44:47 น. |
|
โดย: หลวงเส วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:19:10:56 น. |
|
โดย: หลวงเส วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:19:12:25 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:8:36:06 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:06:44 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:52:54 น. |
|
โดย: go far far วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:10:31:10 น. |
|
โดย: go far far วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:5:22:30 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:8:35:33 น. |
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:8:29:57 น. |
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:8:37:28 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:8:50:22 น. |
|
โดย: go far far วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:15:43:47 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:13:50:25 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:9:08:55 น. |
|
โดย: diamondsky วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:21:33:49 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:23:18:16 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:9:09:56 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:8:33:45 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:17:14:05 น. |
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:9:10:30 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:9:35:03 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:23:38:16 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:9:38:48 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:21:48:39 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:8:59:50 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:8:32:27 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:9:50:40 น. |
|
โดย: pantamuang วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:20:25:45 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 22 กันยายน 2554 เวลา:8:08:54 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:8:39:14 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 กันยายน 2554 เวลา:22:15:44 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:9:45:29 น. |
|
| |
|
หลวงเส |
 |
|
 |
|