
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันทอมแรกของปีที่ 2 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา หรือ ป.กศ. ของผมก็จะสิ้นสุดลง
ผมคิดถึงบ้าน!
คิดถึงพ่อแม่และน้องสาวทั้งสอง ส่วนสาวบัว-ผมจับหล่อนขังไว้ในใจตลอดเวลา... ปากแก้มคิ้วคางนวลปรางนางหอม คิดใคร่ดมดอมก็หอมชื่นนาสา แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ ที่หล่อนไม่เคยเขียนจดหมายถึงผมเลย
หรือแม่ของผมไปว่ากล่าวทำให้หล่อนไม่สบายใจ ...?
แต่ไม่หรอก... ผมเชื่อมั่น แม่ของผมเป็นคนฉลาดหนักแน่น คงไม่คิดหักด้ามพร้าด้วยเข่า ยิ่งเป็นสิ่งที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจลูก แม่ก็ยิ่งไม่คิดจะทำเป็นอันขาด
ผมรู้สึกกระวนกระวาย แม้จะไม่ถึงขั้นนั่งนอนไม่เป็นสุข แต่ก็อยากให้การสอบปลายภาคเสร็จสิ้นไว ๆ จะได้ปิดภาคเรียนและเดินทางกลับบ้าน แล้วจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาวบัว ส่วนข้อสอบที่จะลงมือสอบกันในวันสองวันนี้ ผมไม่หวั่นแม้แต่น้อย คะแนนเก็บระหว่างภาคเรียนที่ผ่านมาก็อยู่ในระดับ A บวกแทบทุกวิชา เพราะผมมุ่งมั่นที่จะเรียนให้จบแล้วออกไปสอบบรรจุเป็นครูอยู่ในชนบทให้ได้ ยิ่งช่วงหลัง ๆ ที่ผมได้สัมผัสกับสื่อก้าวหน้าที่ปลุกระดมความคิดให้เกิดพลังศรัทธาต่อพี่น้องประชาชนผู้ทุกข์ยาก ผมก็ยิ่งอยากจะจบออกไปเป็นครูเป็นร้อยเท่าพันเท่า ผมจึงมุมานะศึกษาตำรับตำราจนจำได้ขึ้นใจทุกบททุกตอน กระทั่งสอบเสร็จวันสุดท้ายผมก็รู้สึกโปร่งโล่ง เหมือนหยิบของหนักบนบ่าโยนทิ้ง คืนนั้นผมไม่ได้นอนที่หอพัก เพราะพี่โสภาสชวนไปเลี้ยงฉลองอำลาปากกาดินสอเทอมแรกที่หอพักของแก
เมื่อถอดชุดนักศึกษาและอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย ผมก็ฝากฝังหัวหน้าหอให้ช่วยเรียนอาจารย์ผู้ดูแลพวกเราว่า ผมขออนุญาตออกไปค้างกับเพื่อนข้างนอกหนึ่งคืน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพื่อนคนนั้นเป็นใคร และอยู่ที่ไหน แล้วผมก็เดินออกมาหน้า วค. สวนทางกับพวกนักศึกษาภาค่ำที่เดินตามหลังกันเข้าไปสอบปลายภาควันสุดท้ายกันเป็นแถว บ้างก็เดินมาคนเดียว บ้างก็มาเป็นกลุ่ม ที่ควงคู่หญิง-ชาย เป็นคู่ ๆ ก็มี พวกเขาหยอกล้อต่อกระซิกประสาคนรัก ทำให้อดคิดถึงสาวบัวไม่ได้ ป่านนี้หล่อนก็คงจะซุกกายหนาวใจอยู่ในป่าแห่งนั้นแน่
หล่อนจะคิดถึงผมบ้างไหมหนอ..?
อีก 3-4 วันเราคงได้พบกัน ผมปลอบใจตนเอง
งานเลี้ยงฉลองก่อนปิดเทอมที่หอพักพี่โสภาสเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่หรูหรา เพราะพวกเราเป็นนักศึกษา ขอเงินพ่อแม่มาใช้จ่าย แม้แต่ผมซึ่งมีเงินส่วนตัวอยู่พอสมควร ก็ไม่ได้คิดเห่อเหิมที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด
การเลี้ยงฉลองจัดขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ตามระเบียงหน้าห้องบ้าง ในห้องพักของตัวเองบ้าง เพราะหอพักหลังนี้จัดเป็นห้องส่วนตัวก็มี พักรวมกันแบบหอพักใน วิทยาลัยฯก็มี แต่ปกติทางหอมีกฎระเบียบห้ามนำสุรายาเมาเข้ามาดื่มกินกันในหอ หากแต่วันนี้คงต้องการยกประโยชน์ให้จำเลยเป็นกรณีพิเศษ... ตามธรรมเนียมของหอเอกชนทั้งหลายที่ต้องการเอาใจผู้มาเช่า คิดเสียว่านานทีปีหน ไม่พร่ำเพรื่อ ก็คงไม่เสียหายอะไร และอีกอย่างนักศึกษาชายสามสิบกว่าคนที่พักอยู่ที่หอพักนี้ซึ่งเป็นหอพักชายล้วน ก็ล้วนแต่เป็น "เด็กเรียน" กันทั้งนั้น ไม่มีใครเกเร ผมไปมาหาสู่กับพี่โสภาสอยู่บ่อย ๆ ผมสนิทกับพวกเขาเป็นอย่างดี
วงฉลองของพี่โสภาสจัดขึ้นที่ระเบียงด้านหน้าติดกับห้องพักของแก ก่อนที่ผมจะไปถึง ก็มีสมาชิกร่วมฉลองกันอยู่แล้ว 4-5 คนรวมทั้งพี่โสภาส มีเหล้าโรง 1 ขวด กับไก่ทอดที่รู้แน่ว่าซื้อมาจากหน้าวิทยาลัยฯจานย่อม ๆ จานหนึ่ง แล้วก็ถั่วเค็มสามสี่ถุง วางอยู่บนพื้นกระดานกลางวง จอกรินเหล้าใบเล็ก ๆ เท่าจอกน้ำชามีอยู่เพียงใบเดียว หมุนเวียนกันดื่มและพูดคุยสนุกสนานเฮฮากันไปอัตภาพ บางครั้งก็มีการโมงการเมืองสอดแทรกบ้าง แต่พี่โสภาสซึ่งนั่งคุมเกมก็มักพาเลี้ยวไปในทางบันเทิงขบขันเสียมากกว่า
เวลากินเหล้า ไม่ควรหยิบยกเรื่องศาสนาและการเมืองมาถกกัน
ผมเคยได้ยินมาอย่างนี้ และพี่โสภาสก็คงคิดเช่นนี้ แกจึงพยายามเขวหัวเรือไปทางอื่นเสีย
ครั้นเมื่อเหล้าขวดแรกหมดลงก็มีผู้อาสาไปซื้อเพิ่มจากร้านค้าใกล้ ๆ แล้วก็นั่งดื่มพูดคุยสนุกสนานกันต่อ จนได้เวลาสองทุ่มกว่า ๆ เพื่อนสามสี่คนที่มาก่อนก็ชักเมา และขอตัวกลับ ตรงนั้นจึงเหลือผมกับพี่โสภาสนั่งดวลกันต่อ พร้อมกับเหล้าขวดใหม่ เรานั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยร้อยแปดพันเก้า กระทั่งถึงรายการบันเทิง พี่โสภาสลุกเดินเข้าไปในห้องนอนของแก แล้วกลับออกมาพร้อมกีต้าร์และขลุ่ย
"เพลงอะไรก่อน" แกถามขึ้นหลังส่งขลุ่ยในมือขวาให้ผม
"ลาวดวงเดือน" ผมว่า "พี่อินโทรขึ้นมาแล้วผมจะคลอ"
"คิดถึงใครอยู่หนอ?" พี่โสภาสสัพยอกราวกับเดาใจคนที่นั่งใกล้ ๆ ได้ถูกต้อง จากนั้นกีต้าร์โปร่งในมือของแกก็ส่งเสียงกังวานขึ้น
ผมเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงอินโทรที่กระชั้นไพเราะจากสายกีต้าร์ตัวนั้น พลางนึกถึงแสงดาวเดือนในป่าดงเขายา นึกถึงใบหน้างามงดไร้จริตมารยาของสองศรีพี่น้อง-สาวบัวและหญิงหมอน ป่านนี้เธอสองคนคงจะหลับไหลกันไปแล้ว.. เพลงขลุ่ยลาวดวงเดือนของผมจึงพลิ้วแผ่วแว่วสำเนียงโหยหาอาลัยอาวรณ์ราวกับทิพย์ดนตรีลอยล่องลงมาจากสรวงสวรรค์
เมื่อเราเล่นเพลงลาวดวงเดือนจบ พี่โสภาสก็หันมายิ้มและสัพยอกซ้ำอีกว่า "ท่าจะมีคนคอยอยู่ทางโน้น?"
ผมไม่ตอบ แต่รู้สึกเลือดลมแล่นซู่ซ่าอยู่ตามใบหน้า แม้จะโดนพิษเหล้าขับให้มันแล่นซู่ซ่าเป็นทุนอยู่บ้างแล้วก็ตาม
หลังจากนั้นสักประมาณ 2-3 นาที ขณะเรากำลังขึ้นดนตรีเพลงใหม่ ก็ได้มีเสียงปืนแผดดังขึ้นสองนัดติดต่อกัน ซึ่งพอจะจับทิศทางได้ว่า มันดังมาจากหน้า วค. ที่อยู่เยื้อง ๆ กันนี้เอง ผมกับพี่โสภาสละมือจากเครื่องดนตรี ...สบตากันอย่างสงสัย และไม่ถึงเสี้ยวนาที ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์แล่นผ่านมาทางหน้าหอที่เรานั่งอยู่อย่างรวดเร็ว เราสองคนก้มหน้ามองลงไปพร้อมกัน จากแสงไฟริมถนนที่ส่องสว่างราวกลางวัน ทำให้เห็นมอเตอร์ไซค์คันนั้นกับผู้ที่นั่งซ้อนกันมาสองคนได้ถนัดชัดเจน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเด็กหนุ่มด้วยกันทั้งคู่ พวกเขาขับเลยผ่านหน้าหอของเราไปทางในเมือง ต่อจากนั้นก็เป็นเสียงตะโกนโหวกเหวกและเสียงหวีดร้องเจี๊ยวจ๊าวด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้น ผู้คนจึงต่างทยอยไปยังที่เกิดเหตุกันเป็นพรวน มองไปจากระเบียงที่เรานั่ง ก็เห็นพวกเขากลุ้มรุมกันอยู่ที่ตู้ยาม 1 ซึ่งเป็นที่ที่ผมคาดว่าเสียงปืนน่าจะเกิดขึ้นตรงนั้นเต็มไปหมด นักศึกษาภาคค่ำที่เพิ่งเลิกจากห้องสอบบางพวกยังเดินหาของกินอยู่แถวนั้น ยังไม่กลับหอพัก ก็เข้าไปมุงดูผู้ที่โดนยิง แล้วสักพักพวกนักศึกษาที่เช่าอยู่ที่หอพักเดียวกันนี้ก็กลับมาถึง ซึ่งตอนนั้นวงเลี้ยงฉลองของพวกเราได้เลิกรากันหมดแล้ว เพราะตื่นตกใจกับเหตุฆาตกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ จนไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งกินกันต่อ
พวกนักศึกษาภาคค่ำที่เพิ่งมาถึงเล่าให้เราฟังว่าไอ้ชาติถูกยิงตายแล้ว โดนเข้าที่กกหูกับที่ปากตายคาที่ พวกเราทุกคนในที่นั้นต่างก็พากันสมน้ำหน้า... ผมชวนพี่โสภาสว่า จะไปดูหน้าชุ่มของมันเลือดให้หายแค้นสักหน่อย แต่ก็ถูกพี่โสภาสยับยั้งไว้
"เราอยู่เฉย ๆ อย่าออกไป" แกว่า
"มีใครเห็นมือปืนบ้างไหม?" ผมถามพวกที่เอาข่าวมาเล่า พวกมันบอกว่าไม่มีใครทันได้สนใจ เพราะแค่ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น ปัง ๆ ก็แตกกระเจิงคนละทิศละทาง...
"แต่มีคนพูดว่าน่าจะเป็นเด็กมาจากข้างนอก" ใครคนหนึ่งพูดขึ้น "เพราะได้ยินกันต่อมาว่า ก่อนลั่นไกมือปืนได้ตะโกนอะไรออกมาก็ไม่รู้ฟังไม่ชัด เพียงแค่จับหางเสียงได้เลา ๆ ว่า ...พรรคคอมมิวนิสต์จงเจริญ ศัตรูของประชาชนจะต้องถูกกำจัด"
"ได้ยินมาอย่างนั้นจริงหรือ?" พี่โสภาสถามเขา
"ผมไม่ได้ยินกับหู แต่ฟังเขาพูดกันอย่างนั้น"
แน่ล่ะ! ผมกับพี่โสภาสไม่โง่พอที่จะไม่รู้ว่า ถ้ามือปืนพูดออกมาอย่างนั้นจริง พวกเขาคือใคร?
แม้จะตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ชวนสยดสยองมาสด ๆร้อน ๆ แต่เพราะพิษเหล้าก็ทำให้ผมอ้าปากหาว กระทั่งหลับเป็นตายตลอดคืน แถมตื่นสายอีกต่างหาก พี่โสภาสตื่นก่อนผม แกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งกินกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์รอผมอยู่ที่ร้านค้าหน้าหอพักของแกตั้งแต่เช้ามืด
"เห็นไข่นุ้ยกำลังหลับเลยไม่อยากขัดความสุข" พี่แกพูดอย่างผู้มีเมตตา และเข้าใจโลก "จะเอาข้าวต้มหรือกาแฟ?"
"ไม่ครับพี่-ขอบคุณครับ ผมจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร" ผมบอกพี่โสภาสแล้วขอตัวเดินกลับ วค. ผ่านหน้าร้านขายของชำ ร้านกาแฟ ร้านข้าวต้ม กระทั่งผ่านแผงรถเข็นขายขนม ขายไก่ทอด-ไก่ย่าง ผู้คนยืนจับกลุ่มพูดคุยซุบซิบกันถึงเรื่องเมื่อคืนตลอดทาง
ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาซุบซิบพูดคุยกันเรื่องอะไร? นอกจากเหตุการณ์สังหารยามเฝ้าประตูทางเข้า วค. ประตูแรก เมื่อคืนนี้
ผมเดินผ่านพวกเขา และผ่านซุ้มยามตรงประตูทางเข้าแห่งนั้น กลิ่นคาวเลือด ซึ่งเกิดจากอุปาทานหรืออย่างไรก็สุดเดา ลอยมาเข้าจมูกจนทำให้ต้องเหลียวไปมอง... และในที่สุดก็ปลงใจอโหสิกรรมให้ผู้ตาย และโดยไม่ได้คิดล่วงหน้าสักนิดว่า การตายของมันจะเป็นชนวนนำผมไปสู่ความยุ่งยากผันผวน และเดือดร้อนจนเลือดตาแทบกระเด็นในเวลาต่อมา
เพราะนั่นคือจุดหักเหของชีวิตที่แสนจะบัดซบทีเดียว
กลับถึงหอพักยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ก็มีเพื่อนชายที่พักอยู่ชั้นล่างคนหนึ่งวิ่งขึ้นกระไดกระหือกระหอบมาตาม บอกว่า มีคนรอพบอยู่ข้างล่าง ให้ผมลงไปพบด่วน
"รู้ไหมเขาเป็นใคร?" ผมถามเพื่อนนักศึกษาคนนั้น
"ท่าทางเหมือนเด็กอาจารย์พิเชฐ" เขาตอบ
"ขอบใจมากนะ บอกให้เขารอก่อน ผมจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า"
สั่งความไปกับเพื่อนคนนั้นเสร็จ ก็จัดแจงไขกุญแจเปิดตู้สัมภาระที่หัวเตียง ดึงผ้าเช็ดตัว สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และถอดเสื้อผ้าชุดที่นุ่งอยู่โดยเอาผ้าเช็ดตัวนุ่งแทน มองไปยังเตียงเพื่อน ๆ ที่เรียงรายเป็นแถวทั้งซ้าย-ขวา พบว่าเตียงเหล่านั้นว่างลงเป็นจำนวนมาก เพราะเจ้าของเตียงคงจะเดินทางกลับภูมิลำเนากันไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ส่วนพวกที่เหลือ... บางคนก็นอนอ่านหนังสืออ่านเล่น บางคนก็เอากีตาร์ขึ้นมาดีดสายรอเวลาลงไปกินข้าวที่โรงอาหาร
สำหรับพวกเขาดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติ แต่ครั้นย้อนคิดถึงตัวเอง... ทำไมความยุ่งยากวุ่นวายถึงได้พุ่งเข้าหาอยู่เรื่อยก็ไม่รู้?
อาจารย์พิเชฐจะเอายังไงกับกูอีกวะ ? ผมถามตัวเองขณะเดินเอื่อย ๆ ไปเข้าห้องอาบน้ำข้างกระไดขึ้นลงอาคาร
**************
Create Date : 12 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2554 22:19:12 น. |
|
31 comments
|
Counter : 1378 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: auyza วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:06:37 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:33:52 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:15:44 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:55:13 น. |
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:46:15 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:07:39 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:30:44 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:23:19 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:14:46 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:48:19 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:02:27 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:31:05 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:04:59 น. |
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 28 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:23:18 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:22:20 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:22:59 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:06:12 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 1 สิงหาคม 2554 เวลา:9:09:31 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:22:34:59 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:7:00:49 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:10:03:07 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:8:50:41 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:36:03 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:9:19:33 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:16:34:36 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:8:37:58 น. |
|
โดย: KeRiDa วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:9:05:58 น. |
|
| |
|
หลวงเส |
 |
|
 |
|
Thanks: ฟังวิทยุออนไลน์|Dictionary|หาเพื่อน|เกมส์|ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล