ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
<<
พฤศจิกายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
15 พฤศจิกายน 2554
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
ตัวเมืองแห่งนี้ แม่มีญาติผู้ใหญ่อยู่ท่านหนึ่ง เป็นข้าราชการชั้นโท(ยังไม่ใช้ระบบ ซี)ประจำอยู่ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับโรงพักที่เขาเอาผมไปขังไว้ แม่กับพ่อจึงเดินทางมาพบข้าราชการท่านนั้นหลังจากผมถูกคุมขังอย ู่ที่นี่ได้ 2 วัน ซึ่งท่านก็มาเยี่ยมผมที่โรงพักพร้อมกับพ่อและแม่ของผมด้วย ผมมองลอดซี่กรงออกไปเห็นพวกตำรวจยกมือไหว้ท่านประหลก ๆ ไม่ว่าชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตร
ก้อแน่ล่ะ ข้าราชการกรมที่ดินสมัยนั้นกว้างขวางน้อยเสียเมื่อไหร่...
"คดีพยามฆ่า ลูกรอดตัวไปแล้ว" แม่ยืนเกาะลูกกรงห้องขังพูดคุยกับผม "อาจารย์พิเชฐอะไรนั่นฟื้นและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรว จได้แล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับมือปืนอยู่ เป็นพวกติดยาติดผงไม่ใช่คอมฯอย่างที่พวก อส.พวกนั้นให้ปากคำปรักปรำนักศึกษากันหรอก"
"แล้วข้อหาคอมมิวนิสต์ละครับ" ผมถาม
"แม่กำลังให้ลุงของลูกเจรจารับรองอยู่" ดูท่าทางแม่ของผมจะมั่นใจในบารมีของญาติของท่านคนนั้นมาก "แต่ตามระเบียนเขาต้องส่งไปอบรมที่ค่ายบ้านเอียนเสียก่อนถึงจะป ล่อยให้เป็นอิสระได้"
ผมพยักหน้ารับทราบ เพราะตอนไปเยี่ยมคุณตาที่อำเภอเวียงสระก็เคยได้ยินเรื่องนี้จาก พวกญาติ ๆ บ้างแล้ว พวกที่ขึ้นเขาไปร่วมขบวนการปฏิวัติบางคนเมื่อกลับใจเข้าม อบตัวกับเจ้าหน้าที่ ก็จะถูกส่งตัวไปอบรมความรู้ทางด้านการเมืองในระบอบประชาธิปไตยท ี่ค่ายทหารค่ายนี้เสียก่อน หรือไม่ก็ส่งไปที่ค่ายทหารดอนนกที่สุราษฎร์ธานี กระทั่งผ่านการอบรมจนครบหลักสูตรจึงจะปล่อยให้กลับไปประกอบอาชี พการงานที่บ้านได้ตามเดิม
แต่นั่นหมายถึงผมต้องยอมรับว่า "เป็นคอมฯ" เหมือนกับพวกคอมฯบนภูเขาที่ลงมามอบตัวเสียก่อน เพราะถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องสู้คดี ซึ่งผมเล็งเห็นแล้วว่ายุ่งยาก สิ้นเปลืองเงินทอง และเสียเวลาทำมาหากินของพ่อแม่โดยใช่เหตุ
จึงเป็นอันว่าผมต้องยอมรับผิดในข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิ สต์ คิดขบถล้มล้างรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพื่อต้องการให้ทุกอย่างจบสิ้นเร็ว ๆ กระทั่งในที่สุดผมก็ถูกส่งตัวไปอบรมที่ค่ายบ้านเอียนในฐานะ "คอมฯกลับใจ" อย่างมีเส้นสายเล็กน้อยจากญาติฝ่ายแม่ผู้นั้น เพราะมิฉะนั้นผมจะต้องขึ้นศาลทหาร และเมื่อถึงขั้นนั้น โอกาสติดคุกและถูกขังลืมค่อนข้างสูง
45 วันกับการเข้ารับการอบรมเรื่องการเมืองการปกครอง ผมก็ได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ พอสมควร ทว่ามิใช่ความรู้เรื่องประชาธิปไตย เพราะเรื่องนั้นผมแทบจะสอนวิทยากรผู้อบรมเสียเองก็ว่าได้ หากแต่ความรู้ใหม่ที่ว่านี้ ก็คือเรื่องราวของนักปฏิวัติที่เคลื่อนไหวอยู่ตามหมู่บ้าน รวมทั้งความเป็นอยู่ของพวกเขาในค่ายใหญ่ที่ในป่าและบนภูเขา ซึ่งผู้เข้าอบรมด้วยกันนำมาเล่าให้ฟัง
ว่างจากการอบรม พวกเรามักนั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเสมอ ผมแซวพวกคอมฯกลับใจเหล่านั้นว่า พวกเขาเป็น "คอมฯแกลบ" ซึ่งหมายถึง คอมฯใจเสาะ หรือคอมฯเก๊ สักแต่ว่าเป็นคอมฯ แต่ปราศจากอุดมการณ์ของคอมฯอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนม้าพื้นเมือง ที่เรียกกันว่า "ม้าแกลบ" เพราะตัวมันเล็กผิดกับม้าเทศที่เขาเลี้ยงไว้แข่งขันประลองความเ ร็ว หรือเลี้ยงไว้ใช้ในกิจการทหาร-ตำรวจ ซึ่งตัวของมันโตใหญ่น่าเกรงขาม ผมบอกพวกคอมฯกลับใจทั้งหลายว่า ต่อไปถ้าคิดจะกลับขึ้นเขาอีก ก็จะต้องเยื้องย่างขึ้นไปอย่างสง่างามแบบม้าเทศ อย่าได้หลบลี้ขึ้นไปแบบม้าแกลบอีกเลย เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร
การอบรมเรื่องประชาธิปไตยในค่ายบ้านเอียนก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าก ินแล้วนอน นอนแล้วตื่น ตื่นแล้วกิน กินแล้วก็ไปนั่งฟังการบรรยาย และร่วมกิจกรรมนันทนาการสลับรายการกันบ้างนิดหน่อยพอเป็นที่ครึ กครื้น ไม่ทำให้เบื่อระอาจนเกินไป เมื่อจบการอบรมและล่ำลากันด้วยน้ำตาอย่างอาลัยอาวรณ์ทั้งวิทยาก รและผู้เข้าอบรมกันเสร็จแล้ว ผมก็เดินทางไปที่ วค. อีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นเปิดภาคเรียนที่ 2 ไปกว่าสองสัปดาห์แล้ว
การเดินทางไป วค.ครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปเรียน แต่ไปเก็บข้าวของบางสิ่งที่เหลืออยู่ในตู้ไม้หัวเตียงเอากลับบ้ าน บางอย่างก็ยกให้เพื่อนสนิทบางคน เพราะผมถูกสั่งพักการศึกษา 1 ปี เช่นเดียวกับพี่โสภาส ซึ่งก็โดนเข้าไป 1 ปีเหมือนกัน แต่พี่โสภาสกำไรกว่าผมนิดหนึ่ง เพราะอย่างน้อยแกก็จบ ป.กศ. ต้น มีประกาศนียบัตรรับรองวุฒิไว้ในมือฉบับหนึ่งแล้ว แม้พ้นโทษพักการเรียนแกจะไม่กลับมาเรียนต่อในระดับ ป.กศ.สูง อีก ก็สามารถสอบบรรจุเป็นครูได้แล้ว
การกลับมา วค . เที่ยวนี้ ผมกับพี่โสภาสก็ไม่ได้เจอหน้ากัน สอบถามเพื่อฝูงก็ไม่ได้ข่าวคราวแต่อย่างใด จนผมอดคิดแบบขัน ๆ ไม่ได้ว่า ป่านนี้แกน่าจะขึ้นไปเป็นครูอยู่บนภูเขาแถว ๆ บ้านแกเสียแล้วก็ได้
ผมกลับไปเหมือง... ไอ้บองหลา ไอ้หมึก ไอ้พริ้ง สามสหายพากันดีอกดีใจแทบกระโดดขึ้นจากพื้น เมื่อเห็นผมนอนอ่านหนังสืออ่านเล่นรอพวกมันอยู่บนแคร่หน้าทับนอ นหลังนั้น
เมื่อพบหน้ากัน พวกเราสามสี่คนยังคงพูดจาหยอกเล่นสนุกสนานกันเหมือนเคย ช่วยให้ความสับสนเกี่ยวกับการเรียนของผมค่อยผ่อนคลายลงได้บ้าง
"แม่มึงตังค์ให้หาบ ต่อให้ขึ้นไปเรียนโรงเรียนเอกชนที่กรุงเทพฯก็ยังได้ กลัวอะไร?" ไอ้บองหลาปลอบใจผม คำว่า "ตังค์ให้หาบ" หมายถึง ความร่ำรวย มีเงินทองมากมาย ต่อให้ใส่สาแหรกหาบคอนไปใช้จ่ายล้างผลาญยังไงผลาญไม่หมด ซึ่งอาจจะเป็นโวหารที่ออกจะเกินเลยไปสักหน่อย แต่มันก็สำแดงภาพของคนมีฐานะได้อย่างแจ่มชัด ทว่าแม่ผมไม่ได้มีฐานะร่ำรวยขนาดนั้น เพียงพอมีพอใช้ไม่ขัดสนแค่นั้นเอง
"กูต้องการเป็นครูอย่างเดียว" ผมว่า "ถ้านอกเหนือไปจากนั้นก็ทำเหมืองกับพวกมึงที่นี่ หรือไม่ก็ทำสวนอยู่ที่บ้านกับพ่อดีกว่า"
"ถึงจะเป็นข้าราชการอย่างอื่น ก็เป็นคนมีเกียรตินะเว้ย มึงดูตัวอย่างภารโรงอำเภอบ้านเราซิ แม่-ง แค่ลูกจ้างประจำเท่านั้น คนแก่ ๆ ยกมือไหว้กันประลก ๆ ยังกะนายอำเภอแน่ะ"
ไอ้หมึกพูดแล้วหัวเราะ ฮา ฮา
"เกียรติหรือเกือกมันก็กินไม่ได้ทั้งนั้นแหละเว้ย" ไอ้พริ้งขัดคอ "มึงดูปลัดหนอมสิ - - แม้แต่ไก่สักตัวยังไม่มีปัญญาซื้อกิน ต้องขอชาวบ้านอยู่เรื่อย"
"อ้ายนั่นมันนอกคอก" ไอ้หมึกตามมุขไอ้พริ้งไม่ทัน "ไม่ใช่มันไม่มีปัญญาซื้อ แต่สันดานมันชอบรีดไถ"
"อ้าว! - - แล้วไอ้คนที่ชอบรีดไถ มันมีเกือกหรือมีเกียรติกันแน่วะ - -กูสงสัย"
พอเจอลูกย้อนเข้าอย่างนี้ ไอ้หมึกก็ถึงบางอ้อ พยักหน้าหงึก ๆ
"อ้อ... ยัดแม่-ง มึงก็เล่นมุขอยู่ได้ไอ้ห่า" แล้วมันก็หันมาถามผม "อีบัวรู้เรื่องมึงรึยัง?"
ผมพยักหน้า
"รู้แล้ว... น้านุ่นแกโพนทะนาไปทั่วหมดแล้ว"
"เออ-ยายคนนั้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าโลงเสียที ชอบพูดแต่เรื่องชาวบ้าน... เรื่องของมึงกับอีบัวด้วย--เขารู้กันทั่วอำเภอแล้ว"
ผมหัวเราะ
"ช่างแกเถอะ ขาดน้านุ่นไปเสียคน บ้านเราก็ขาดหอกระจายข่าว ต่อไปใครทำอะไรที่ไหนก็จะไม่รู้กัน ข้อสำคัญเรื่องที่แกเก็บเอาไปพูดขอให้เป็นเรื่องจริงก็พอ"
"แล้วตกลงเที่ยวนี้มึงจะพักอยู่กับพวกกูที่นี่ หรือไปอยู่กับเมียมึงที่ทับลุงทองอีก" ไอ้บองหลาถามขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ
"กูขอคิดดูก่อน" ผมตอบบ่ายเบี่ยง เพราะตั้งแต่โดนเรื่องร้าย ๆ รุมเล่นงานในระยะนี้ ผมค่อนข้างจะหัวหมุนอยู่สักนิด และอีกอย่างก็เพิ่งรับปากกับแม่ว่าจะไม่สร้างปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นม าอีก
ลูกรักชอบหญิงบัวแม่ไม่ว่า แต่อย่าด่วนชิงสุกก่อนห่าม อย่าทำอะไรตามอำเภอใจ ชีวิตไม่ใช่ของเล่น ต้องนึกถึงอนาคตให้มาก ๆ และอีกอย่าง ลุงทองกับป้าพัว-ก็ต้องรู้จักให้เกียรติเขา ไปยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวเขา-ก็ต้องรับผิดชอบ เกิดหญิงบัวท้องไส้ขึ้นมานุ้ยจะแก้ปัญหาอย่างไร อายุเพิ่ง 18 กว่า ๆ ริจะมีเมียแล้วหรือ? รักชอบกันจริงก็ต้องมีความอดทน รู้จักอดใจรอ ต้องหมั่นฝึกฝนหักห้ามจิตใจตนเอง ไม่ปล่อยไปตามอำนาจของความใคร่ นั่นแหละจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่สมบูรณ์ ...
ก่อนเดินทางเข้ามาในดงเขายาเที่ยวนี้ แม่เรียกผมไปอบรมเป็นชั่วโมง สิ่งที่แม่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งถูกต้อง ถ้าปฏิบัติได้ก็จะเป็นมงคลแก่ชีวิตอย่างแน่นอน แต่ทว่าความรักของผมคืออะไรก็ไม่รู้ มันยังไม่แจ่มชัดพอที่ผมจะตอบตัวเองได้ หากแต่ส่วนหนึ่งผมก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ของเราที่ต่อเยื่อเผื่อใยมากระทั่งบัดนี้ มันมิใช่เพื่อความใคร่เพียงสิ่งเดียว เพราะตลอดเวลาผมมีสาวบัวอยู่ในใจเสมอ ภาพวาดแห่งอนาคตระหว่างผมกับหล่อนปรากฏขึ้นแต่ละครั้งช่างสดใสง ดงาม แต่ครั้นเหตุการณ์ผันแปรมาเช่นนี้ ภาพนั้นก็ดูเหมือนจะหายวับไป ยิ่งเมื่อได้สดับคำตักเตือนของแม่เข้าอีก จิตใจของผมก็ดูเหมือนจะสับสนยิ่งขึ้น... แต่ก็อย่างว่าแหละ-ผมมันคนใจอ่อน คืนแรกที่หวนกลับเข้าสู่ดงเขายา แม้ผมจะใคร่ครวญอยู่นาน... ทว่าในที่สุดก็น่าขำ เมื่อผมตัดสินใจไปนอนกับสาวบัวที่ทับลุงทองอีกจนได้ แต่ก็เพียงนอนกอดหล่อนไว้ในอ้อมแขนเฉย ๆ จนกระทั่งรุ่งสางโดยมิได้ล่วงเกินอะไรเลย
"ท่าทางจะเหนื่อยกับการเดินทาง" หม้ายสาวยื่นปลายนิ้วเรียวงามบีบปลายคางผมหยอกเล่น ก่อนจะลุกขึ้นไปคว้าสบู่และยาสีฟันแล้วชวนผมไปล้างหน้าล้างตาด้ วยกันที่ลำธารในตอนรุ่งสาง
ความเปลี่ยนแปลงภายในดงเขายาในระยะเวลาสี่-ห้าเดือนที่ผมไปอยู่ วค. และต้องคดีความมั่นคงจนต้องไปอบรมอยู่ในค่ายบ้านเอียนก็ไม่มีอะ ไรมาก นอกจากร่องรอยการขุดคุ้ยค้นหาขี้ตะกรันของพวกนักแสวงโชคซึ่งปรา กฏให้เห็นทั่วไปหมด แม้แต่ทับที่พักของชาวเหมืองบางเจ้า ซึ่งเจ้าตัวไปติดธุระที่อื่น ยังโดนพวกนักแสวงโชคกำมะลอขุดรื้อเข้าไปจนถึงใต้ถุนเพื่อค้นหาส ิ่งที่มันต้องการ จนทับหลังนั้นพังทลาย และในที่สุดเมื่อพวกมันเห็นว่าสิ่งที่ต้องการได้หมดไปแล้วจริง ๆ จึงได้พากันยกทัพปรับขบวนกลับออกไปจากป่าแห่งนี้จนหมดสิ้น ความสงบสุขจึงได้กลับคืนสู่ผืนป่าอันเปรียบเสมือนวิมานไพรของเร าอีกครั้ง
ช่วงนี้เป็นปลายฤดูฝน แต่ฝนยังคงตกชุก บางครั้งตกติดต่อกันไปทั้งวันทั้งคืนเป็นอาทิตย์ไม่ยอมแล้ง น้ำในลำธารเป็นสีน้ำตาลอ่อนเอ่อล้นตลิ่งและไหลพุ่งแรงอย่างน่าก ลัว สาวบัวกับหญิงหมอนต้องรอน้ำลดจึงจะออกไปร่อนแร่ในลำธารกันได้ ต่างจากงานเหมืองของพวกผมที่เป็นเหมืองแล่น ซึ่งต้องใช้แรงน้ำในการชะล้างกระสะและพัดพาหินทรายกับผงแร่ลงสู ่รางที่เราขุดแต่งหินดินดานรองรับไว้ด้านล่างอย่างมากมายมหาศาล ดังนั้น บางครั้งเมื่อสาวบัวและหญิงหมอนหยุดรอฝนแล้ง ผมจึงชวนพวกหล่อนไปช่วยงานที่หน้าเหมืองของเราด้วย โดยมอบหน้าที่ช้อนหินกับให้เก็บรากไม้หรือเศษไม้เล็ก ๆ ที่ไหลปะปนกันมาเป็นเกลียวพร้อมกับกระสะแร่ที่โดนกระแสน้ำชักพา ลงสู่ราง ซึ่งพวกหล่อนสองคนก็คุ้นเคยกับงานแบบนี้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย พวกเราทำงานกันอย่างเพลิดเพลิน ยิ่งเมื่อบุกเบิกไปเจอสายแร่เข้าก็ยิ่งเพลินจนแทบไม่รู้สึกหิวข ้าว แม้บางครั้งจะล่วงเลยเวลาไปบ้างก็ตาม
วันไหนได้สาวบัวกับหญิงหมอนมาช่วยงาน วันนั้นเรื่องกับข้าวกับน้ำสำหรับพวกเราก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่ง เพราะฝีมือทำกับข้าวของสองสาวสุดยอดอยู่แล้ว บางคืนเมื่อฝนซาเม็ดให้สักพัก ไอ้หมึกกับไอ้พริ้งซึ่งชอบออกส่องสัตว์ ก็ออกไปยิงกระจงบ้างไก่ป่าบ้างได้มาตัวสองตัวพวกหล่อนก็แกงพริก แกงคั่วรสเด็ดให้เรากิน ถ้าคืนไหนไปส่องกบ ก็จะได้กินแกงส้มกบกับลูกระกำซึ่งเป็นสุดยอดแกงส้มปักษ์ใต้ เราก็ซัดกันซะพุงกางไปเลย
"บัว - - อีกหน่อยไอ้นุ้ยก็คงถูกมึงขุนอ้วนเป็นหมูตอนแน่" ไอ้บองหลาพูดหยอกเล่นกับสาวบัว
"ไม่รู้ว่านุ้ย หรือพี่บัวกันแน่...ที่จะอ้วนเป็นหมูตอน" หญิงหมอนพลอยหันไปหยอกพี่สาวของหล่อนที่นั่งติดกันด้วยอีกคน "เพราะตอนที่นุ้ยไม่อยู่นี่ เห็นกินข้าวคำสองคำก็อิ่มแล้ว แต่พักนี้ดูซิ... ฮา ฮา เกือบจะสองชามแล้วนะเนี่ย"
สาวบัวอายหน้าแดง
"พูดบ้า ๆ จานเดียวก็ยังไม่หมด" ว่าแล้วก็หันมาสบตาผมอย่างเขินอาย
ไอ้บองหลาซึ่งนั่งติดอยู่กับผมหันไปมองสาวบัวแล้วหันกลับมาทางผ ม แล้วถามว่า "พวกเอ็งสองคนได้กินยาหรือใส่ปลอกป้องกันกันบ้างหรือเปล่าวะ"
แม้น้ำเสียงของเพื่อนรักจะเปี่ยมไปด้วยความหวังดี แต่ทว่าสะกดทุกคนให้นั่งเงียบกันไปชั่วอึดใจหนึ่ง หญิงหมอนทอดสายตามองจานข้าวตนเองนิ่งเฉย ไอ้พริ้งกับไอ้หมึกเมินหน้ากันไปคนละทาง คงเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าไอ้บองหลาจะถามดื้อ ๆ เข้าอย่างนี้
ผมเองก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน
************************************************************ *******
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 12:16:50 น.
10 comments
Counter : 978 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาให้กำลังใจท่านค่ะ
โดย:
go far far
วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:46:37 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณหลวงเส แวะเข้ามาทักทายกันยามเช้าที่อากาศกำลังเย็นสบายด้วยความคิดถึงและห่วงใย มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:26:54 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ คุณหลวงเส แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงน๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:46:57 น.
มาเยี่ยมอ่านงานแขบแบบหยาบหยาบ (หมายถึงอ่านเร็วๆ)
ได้ซึมซาบอดีตกาลผ่านมาหลาย
เป็นกระจกอดีตส่องมองนิยาย
เสรีร่ายอร่อยแท้แม่คุณเอย
โดย:
pantamuang
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:21:59 น.
ขอคุณมิรสหายทึุกกท่านที่ติดตามอ่าน อีกทั้งขอบคุณอาจารย์ไพบูลย์มาก ๆ เลยคับ ผมกำลังจะรวบรวมส่งให้อาจารย์ช่วยปรู๊พพอดี ครับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:59:20 น.
- - ขอบคุณค่ะ...ที่แวะไปเยี่ยม
- - ช่วงนี้หนูมีปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ทค่ะ
- - เนื่องจากน้ำท่วมบ้านย่านแนวคลองทวีวัฒนา..ริมคลองมหาสวัสดิ์..ซึ่งไม่ลดลงเลย
- - ต้องหอบน้องหมา...มาอยู่แถวชลบุรี...
- - ไว้มีเน็ทฯ...สมบูรณ์ หนูจะกลับไป Thai writter นะคะ
- - ติดตามผลงานท่าน...นะคะ
- - Prangpun 10913 ค่ะ
โดย:
go far far
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:36:30 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ค่ะ คุณหลวงเส
โดย:
KeRiDa
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:55:32 น.
ขอบคุณคุณหลวงเสที่แวะทักทายค่ะ
วันนี้เอิงมาแบบสั้นๆ จะแวะมาอีกครั้ง มาตามอ่านนิยายแบบละเอียดๆ
(เด๊วต้องไปทำการบ้านจากโรงเรียนภาษาหน่อย)
ปล.เอา polenta มาฝากจานนึงค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:16:47 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารค่ะ คุณหลวงเส ขอบคุณนะค่ะสำหรับความห่วงใย ไม่ใช่้บ้านของต้อยหรอกค่ะ บ้านของพี่สาวและหลานชาย แล้วต้อยจะนำไปบอกเขาน๊าว่าให้ระวังอะไรบ้าง แต่ทั้งสองบ้านคงจ้างบริษัททำความสะอาดเข้ามาฟื้นฟูบ้านแหละค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:32:11 น.
สร้างกริตเตอร์
-------------------------------------------------------
ช่วงนี้เปิดเทอม ก็เริ่มยุ่งอีกแลัว ต้องซ้อมการแสดงเพื่อเข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน และต้องเตรียมงานแสดง ในวันที่5ธันวาคม ที่ หล่มสัก เพชรบูรณ์อีก ค่อยยังชั่วหน่อยงานเริ่มมีเข้ามาหลังจากช่วงลอยกระทง งานงดหมดเลย ระลึกถึงนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:23:38 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
แวะมาให้กำลังใจท่านค่ะ