ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
<<
มิถุนายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
22 มิถุนายน 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
ตอน เสียลับ
เดินไปคิดไป ยังไม่เห็นทางออก ก็ถึงร้านทองร้านแรก ซึ่งเป็นร้านเล็ก ๆ มีตู้โชว์บุผ้ากำหยี่สีแดงขนาดปานกลางอยู่สองใบ ตั้งชิดขอบผนังซ้ายมือใบหนึ่ง ตั้งขวางหันหน้าออกมาหน้าร้านใบหนึ่ง มีทองคำรูปพรรณนานาชนิดทั้งสร้อยคอ สร้อยมือ แหวน กำไล วางเรียงยั่วนัยน์ตาอยู่เต็มตู้ มองไปจากหน้าร้านเห็นชัดเจน ขณะนั้นภายในร้านมีคนเข้าไปยืนเลือกซื้อทองและเจรจาต่อรองกับเจ้าของร้านอยู่คนสองคน ผมพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้สาวบัวและน้องสาวทั้งสองที่พากันหันมาผมมองเดินผ่านไปก่อน เพราะยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับเงินในกระเป๋าที่มีอยู่จำกัด แต่พอถึงร้านที่สอง ซึ่งเป็นร้านเล็ก ๆ เหมือนกัน ภายในร้านก็ตบแต่งเรียบง่ายแบบเดียวกัน มีอาเจ๊เจ้าของร้านนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนเก้าอี้ไม้มะเกลือลงชะแลกแวววับอยู่เพียงผู้เดียว สาวบัวหันไปมอง แล้วจูงมือจูงแขนน้องสาวของผมสองคนชวนกันแวะเข้าไป
ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเห็นอาเจ๊เจ้าของร้านทองวางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงบนเก้าอี้ และลุกเดินอ้อมไปยืนหลังตู้ทองของแก อาเจ๊ทักทายสาวบัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่จ้องมองอยู่ภายใต้กรอบแว่นส่งประกายแวววาวเหมือนประกายเพชรทองในตู้โชว์
"อาจี้ - -เลือกดูก่อนนะ จะซื้อให้ลูกหรือใส่เอง-จ๊ะ?"
"ค่ะ" หม้ายสาวพยักหน้า หันมองมาที่เจ้าตัวน้อยที่ผมอุ้มอยู่ "หนูจะหาสร้อยข้อมือให้ลูกสาวสักเส้นค่ะ แล้ว...อื่อ- -แล้วก็แหวนวงเล็ก ๆ ให้น้องสาวคนละวงด้วยค่ะ"
พูดจบหล่อนก็บอกสาวเล็กกับสาวหมา ที่ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ให้ชี้นิ้วเลือกแหวนในตู้กระจกกันคนละวง เพื่อให้เจ๊เจ้าของร้านหยิบขึ้นมาให้ลองสวมดู
ผมใจเต้นตุบตับ ขนาดคิดจะซื้อให้เฉพาะสองคน เงินในกระเป๋าก็แทบไม่พอ แล้วนี่แม่เจ้าประคุณทูนหัวยังจะซื้อสร้อยมือให้ลูกสาวตัวเองอีกด้วย ตายห่า-ละซี...กู กลับบ้านไม่มีเสื้อผ้าและข้าวของของน้องสาวตามที่รับปากก็คงไม่แคล้วความแตก แล้วไอ้ไข่นุ้ยก็ต้องตายแน่ ๆ
"หมากับเล็ก อยากได้แหวนจริง ๆ หรือน้อง" ผมถามน้องสาวสองคนเสียงอ่อย ๆ ทำท่าจะเป็นลม
สาวหมายืนกระพริบตาปริบ ๆ มองหน้าผมอย่างลังเล ไม่พูดอะไร หากแต่สาวเล็กพูดเสียงดัง ๆ ว่า "พี่บัวให้น้องเล็กเลือกเองได้ไหม?"
"จ้า ก้อพี่บัวชวนน้องเข้ามาเลือกกันเองยังไงเล่าจ๊ะ" แล้วหล่อนก็หันมาทางสาวหมา "น้องหมามาเลือกดูซิ ถูกใจอยากได้วงไหนก็ชี้บอกอาซิ้มเขาไปเลย แต่ต้องเป็นวงเล็ก ๆ นะ พี่บัวไม่รวยเหมือนพี่นุ้ย"
"บัว"
ผมอุทานออกมาอย่างลืมตัว อาเจ๊เจ้าของร้านหันมามองลอดแว่น แต่แกก็ส่งยิ้มให้ผมอย่างเอาใจ
กลับมาบ้านวันนั้นพวกน้อง ๆ โชว์ของที่ผมซื้อให้กับพ่อและแม่กันยกใหญ่ แต่แหวนทองที่สาวบัวซื้อให้เธอคนละครึ่งสลึง เธอแอบซ่อนกันมิดชิด เพราะเธอรู้ว่าแม่เห็นเข้าก็ต้องมากความ ดีไม่ดีแม่ก็จะยึดไปเก็บไว้ทันที
ผมนึกยิ้ม ๆ เราสามคนพี่น้องมีส่วนละม้ายคล้ายกันก็ตรงนี้แหละ ตรงที่มีอะไรค่อน ๆ กลาง ๆ ก็มักจะปกปิดไว้ก่อน แม้ภายหลังจะเผลอเปิดเผยออกมาจนถูกสำเร็จโทษ นั่นคือถูกแม่บังคับให้นั่งฟังการอบรมที่บางครั้งองค์ปาฐกผู้ให้การอบรม ว่ากล่าวอบรมไปพลางเอามือปาดหยดน้ำตาตนเองไปพลาง กระทั่งผู้นั่งฟังก็ต้องพลอยหลั่งน้ำตาตามไปด้วย หลังจากนั้นก็เกิดสำนึกและกราบขอโทษเพื่อให้แม่สบายใจ
สาวเล็กกับสาวหมาถูกจับได้ว่ามีคนซื้อทองให้หลังจากผมกลับไป ว ค. ได้สองวัน
แม่เร่งเขียนจดหมายตามหลังผมไปว่า
รัฐพล ลูกรัก
หมากับเล็ก ทะเลาะกันเรื่องแหวนจนลั่นบ้าน ทั้งที่แหวนสองวงนั้น น้ำหนักและรูปพรรณก็เหมือนกันราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน แต่เด็กก็คือเด็ก คิดอะไรแบบเด็ก ๆ เห็นของของตัวด้อยค่าอยู่ร่ำไป จึงมีความริษยาอยากได้ของผู้อื่นจนเกิดการทะเลาะวิวาท หรือไม่ก็ตรงข้าม เห็นของตนเองมีค่าเหนือกว่าของใคร ๆ ก็ชอบที่จะโอ้อวดจนผู้อื่นเกิดความอิจฉาริษยา และสุดท้ายก็ไม่แคล้วทะเลาะวิวาท
แม่ไม่ได้ลงโทษน้องด้วยไม้เรียวกับให้สมกับความผิดของเธอที่ร่วมกันปกปิดไม่ให้แม่รับรู้เสียแต่วันแรก แต่แม่ก็พูดให้ฟังถึงสาเหตุที่เธอทะเลาะกัน ว่าเป็นเพราะเหตุใด พร้อมกันนั้นแม่ก็ถามว่า พวกเธอสองคนมีความรู้สึกอย่างไรกับหญิงบัว ซึ่งเธอสองคนก็ตอบแม่ไม่ได้
หมากับเล็กน้องสาวของลูก ยังเด็กเกินกว่าที่จะคิดได้ว่า ทำไมหญิงบัวจึงซื้อของสิ่งนั้นให้เธอ ทั้งที่หญิงบัวก็ไม่ได้ร่ำรวยจนกระทั่งเที่ยวซื้อทองผูกมัดใจใครได้
รัฐพล อาจคิดว่าแม่ล่วงเกินความเป็นตัวตนของลูก แต่แม่ก็รักและปรารถนาดีต่อลูกจึงได้เขียนจดหมายฉบับนี้ย้ำเตือนมา อย่าให้ความใคร่กำหนัดในกามารมณ์ มาทำลายอนาคตของตนเสีย ต้องรู้จักอดทน อดกลั้น รู้จักยับยั้งชั่งใจ ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองทำจิตใจให้เข้มแข็ง
เกิดเป็นชายถ้าปราศจากความอดทนเข้มแข็ง ก็น่าเสียดายชีวิตที่เกิดมา หรืออย่าเกิดมาเสียเลยจะดีกว่า เพราะต่อไปภายหน้าจะยืดอกทระนงองอาจเป็นลูกผู้ชายและเป็นผู้นำได้อย่างไร
รักและคิดถึงลูกเสมอ
แม่
ผมอ่านจดหมายของแม่ฉบับนั้นจบลง ก็รู้จุดประสงค์ของแม่ทันที
โดยไม่รอช้า ผมจึงเขียนจดหมายโต้ตอบกลับไปทางไปรษณีย์
เนื้อความในจดหมายมีว่า
กราบเท้า คุณแม่ที่เคารพ
จดหมายที่คุณแม่ส่งไปนั้นลูกได้รับแล้วครับ ในโลกนี้จะหาใครรักลูกเท่ากับคุณแม่และคุณพ่อไม่มีแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตถึงบัดนี้ ลูกไม่เคยเลยสักครั้งที่จะลืมระลึกถึงความสำคัญในสิ่งนี้ อีกทั้งความกตัญญูรู้คุณก็ยังยึดมั่นอยู่ในจิตใจของลูกเสมอ
ที่ผ่านมาลูกอกตัญญูกับแม่และพ่อหลายสิ่งหลายอย่าง ลูกรู้ดี หากแต่ยังไม่มีเวลา หรือโอกาสที่จะเรียนให้ทราบถึงความรู้สึกที่แท้จริงของลูกว่า ที่ได้กระทำไปเช่นนั้นเพราะเหตุใด
คุณแม่ป้อนข้าวป้อนน้ำลูกมาตั้งแต่ฝ่าตีนลูกเท่าฝาหอยกระทั่งเติบใหญ่จนบัดนี้ คุณแม่ย่อมทราบดีว่าธาตุแท้ของลูกเป็นเช่นไร ลูกผิดพลาดต่อหญิงบัวก็ด้วยความคึกคะนองของวัยหนุ่ม ซึ่งบางครั้งก็หาเหตุผลมาอธิบายให้ใคร ๆ เข้าใจไม่ได้ แต่ลูกคิดว่า ทุกคนที่ผ่านวัยนี้มา ย่อมรำลึกถึงวันก่อนเก่าเหล่านั้นได้ดี ความเปลี่ยวเหงาและความเอ็นดูสงสาร ก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้มันเกิดขึ้นก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งซึ่งลูกขอให้แม่เชื่อมั่น ก็คือ จะดีชั่วอย่างไร ลูกของแม่คนนี้จะไม่เป็นคนอ่อนแอกระทั่งทำลายชีวิตและอนาคตของตนด้วยสิ่งนั้นเป็นอันขาด
หญิงบัวก็ใช่ว่าเธอจะเป็นคนเห็นแก่ได้ เพราะเท่าที่ลูกมองเธอด้วยสายตาที่เป็นธรรม เธอก็เป็นคนรู้จักประมาณตนพอสมควร อีกทั้งวันนั้นเธอก็ยังล่วงรู้ใจลูกว่า ลูกนั้นว้าวุ่นอยู่กับจำนวนเงินในกระเป๋าที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ย จึงได้ช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการซื้อแหวนทองวงเล็ก ๆ สองวง สนนราคาก็ไม่กี่บาทให้กับน้องหมาและน้องเล็กเสียเอง เพื่อให้น้องทั้งสองจะได้ไม่คิดน้อยใจ อีกทั้งคงต้องการผูกสัมพันธ์ไมตรี ซึ่งลูกคิดว่ามิใช่เรื่องเสียหาย
สุดท้ายนี้ลูกขอสัญญากับคุณแม่และฝากคำสัจจะไปถึงคุณพ่อด้วยว่า ลูกจะต้องหมั่นเพียรและเล่าเรียน ให้จบ เพื่อที่จะออกไปสอบบรรจุเป็นครูสอนนักเรียนให้จงได้ พันธะที่ลูกมีต่อหญิงบัวไม่ใช่อุปสรรคอะไรเลย
เคารพรักแม่และพ่อเสมอ
ไข่นุ้ย
นานนับสัปดาห์ แม่ก็ไม่ตอบจดหมาย ผมก็กระวนกระวายใจ... คิดเป็นห่วงหญิงคนรัก แต่ครั้นจะเขียนจดหมายไปสอบถามเนื้อความกับหล่อนเพื่อให้หล่อนตอบกลับมา ก็ทำไม่ได้ เพราะผมรู้ว่าระหว่างนั้นสุดที่รักของผมคงกลับเข้าป่าไปร่อนแร่ในดงเขายาเสียแล้ว แต่ถึงอย่างไรผมยังมั่นใจว่า ถ้ามีสิ่งร้าย ๆ เกิดขึ้น หล่อนก็คงจะแจ้งข่าวมาเอง เพราะผมจดที่อยู่ของผมที่ ว.ค.ให้หล่อนแล้ว
คิดเพียงแค่นั้นผมก็ตัดความกังวลทิ้งไป
ก่อนหน้านั้น 2 ปี ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยการชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยและขับไล่รัฐบาลเผด็จการทหาร ที่นำโดยขบวนการนิศิตนักศึกษา จนเกิดการจรจลนองเลือดทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาภายหลังเรียกกันติดปากว่า เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ และต่อจากนั้นความตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตยของประชาชนก็คุโชนเหมือนเปลวไปที่ไหม้ลามไปตามทุ่งนา ซึ่งเรียกกันตามภาษาปากชาวบ้านว่า "ไฟลามทุ่ง" เฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นิศิตนักศึกษาซึ่งถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น
วค.ของเราแม้จะอยู่ไกลปืนเที่ยง แต่เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์สำคัญนั้น ผู้นำนักศึกษาก็ได้เชิญชวนคณะนักศึกษาทั้งหมด เดินทัพออกไปสำแดงพลังกันที่สนามหน้าเมืองใกล้ ๆ ศาลากลางจังหวัด พร้อมกับสถาบันศึกษาอื่น ๆ ที่ยกขบวนเดินทางมาร่วมด้วยทุกวัน จนกระทั่งขบวนการนักศึกษาและประชาชนในกรุงเทพฯได้รับชัยชนะในที่สุด
ผมเปลี่ยนสภาพจากนักเรียนมาเป็นนักศึกษาที่ วค.แห่งนี้หลังเหตุการณ์นั้น 1 ปี จึงไม่ทันได้ร่วมกิจกรรมนั้น แต่หลังจากนั้นมาอีกปี ซึ่งเป็นปีที่ผมสมัครสอบเข้าเป็นนักศึกษาที่นี่ได้แล้ว เมื่อองค์กรการนักศึกษาจะจัดกิจกรรมใด ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมสาธารณกุศล ในหมู่พวกผมซึ่งสังกัดอยู่ในชมรมดนตรี-นาฏศิลป์ ก็มักจะถูกเชิญให้เข้าร่วมเป็นประจำ กระทั่งผมได้รู้จักมักคุ้นกับพวกรุ่นพี่ ๆ ที่เป็นแกนนำนักศึกษารุ่นนั้นเป็นอย่างดี อีกทั้งกับพวกชมรมวรรณศิลป์ ซึ่งมีบทบาทในฐานะเป็นผู้เขียนบทละครให้เราฝึกซ้อมกันอยู่บ่อย ๆ ผมก็สนิทสนมกับพวกเขาหลายคน
ครั้งหนึ่งพวกเราถูกเชิญให้ไปร่วมรณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยภาคประชาชนในท้องถิ่นชนบทแห่งหนึ่ง ไกลจากตัวเมืองไปเกือบ 100 กิโลเมตร โดยมีคณะนักศึกษาจากสถาบันอื่นไปร่วมด้วยสองสามสถาบัน และต่างก็นั่งรถมินิบัสของแต่ละสถาบันตามหลังกันไปเหมือนขบวนคอนวอย
งานดังกล่าวจัดขึ้นในสนามหญ้าหน้าโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กแห่งหนึ่ง มีพื้นเวทีที่ชาวบ้านร่วมกันจัดทำขึ้นตามมีตามเกิดให้พวกเราได้แสดง ภายในงานเราใช้เครื่องปั่นไฟสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเสียงชุดเล็กที่เรานำไปเอง ลำโพงที่ใช้ก็เป็นลำโพงฮอร์นปรับเสียงได้แค่ เสียงหนัก เสียงเบา ไม่มีการปรับแอคโค่ช่วยให้เสียงเจรจาของตัวละครไพเราะเสนาะหูเหมือนที่เราแสดงตามเวทีใหญ่ ๆ ในที่ในตัวเมือง หรือที่หอประชุมของ ว.ค. ของเราเอง เพราะหนทางแสนไกลและทุรกันดารขนย้ายลำบาก ถนนบางแห่งเป็นหลุมบ่อราวกับหนองบึง จนบางครั้งรถบรรทุกในขบวนคอนวอยของเราบางคันพลัดตกหลุมลงไปติดหล่ม ต้องลงไปช่วยเข็นกันอย่างทุลักทุเล แต่ก็รู้สึกสนุก และเมื่อถึงเวลางานแสดงหน้าเวที เราก็แสดงกันได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะเป็นละครที่พวกนักศึกษาชมรมวรรณศิลป์แต่งขึ้นเอง สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เนื้อหานั้นปลุกระดมความคิดของผู้ชมอย่างรุนแรง
การแสดงละครและการแสดงศิลปะพื้นบ้าน ประเภท หนังตะลุง มโนราห์ เพลงกระบอก จากคณะนักศึกษาที่มาร่วมจากสถาบันต่าง ๆ สลับกับการอภิปรายความรู้เรื่องการเมืองการปกครอง ชี้ให้ประชนที่มาร่วมงานทั้งยืนและนั่งท่ามกลางแสงแดนร้อนเต็มสนามหญ้าแห่งนั้นได้รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนในฐานะพลเมืองของประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก สนุกสนาน เพราะมีทั้งความบันเทิงจากการแสดงและขับร้องร่ายรำ สลับกับลีลาการอภิปรายของนักอภิปรายที่เต็มไปด้วยวาทศิลป์กระทั่งสำนวนโวหารถึงลูกถึงคน จนผมเองก็อดที่จะพลอยเพลิดเพลินไปด้วยไม่ได้
กระทั่งบ่ายเย็นย่ำใกล้เวลาเลิกรา ซึ่งถึงคิวของพวกผมที่จะต้องขึ้นไปแสดงละครล้อเลียนพฤติกรรมของนายทุนขูดรีดกับข้าราชการกังฉิน ซึ่งก็คือ พวกเสมียน ปลัด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ บนที่ว่าการอำเภอ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รีดไถประชาชน และนายทุนน้อยที่ขูดรีดกดขี่ชาวบ้านตาดำ ๆ เช่น พวกนายทุนเงินกู้ พวกเถ้าแก่รับซื้อยาง พวกพ่อค้าโรงสี ซึ่งมีพฤติกรรมหน้าเลือดเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ผมจำได้ว่า วันนั้นผมแสดงเป็นปลัดอำเภอที่ชอบเกาะเกะกับเมียชาวบ้านตอนออกตรวจเยี่ยมท้องที่ ซึ่งก็เรียกเสียงฮาจากผู้ที่ยืนชมนั่งชมจนลั่นสนาม หากแต่แวบหนึ่งผมเหลือบเห็นคนแต่งชุดเชียวสะพายปืนยาวเดินรี่มาหยุดยืนอยู่ข้างเวทีการแสดงสองสามคน ผมคิดในใจว่าตำรวจคงมาจับ เพราะคำสนทนาโต้ตอบที่ผู้เขียนบทเขียนให้มานั้น ค่อนข้างปลุกระดมความคิดรุนแรงมากทีเดียว...
ผมใจไม่ดี เสียสมาธิและชักจะออกนอกบทด้วยฤทธิ์ประหม่า กระทั่งเผลอชี้ไปที่พวกแต่งชุดเขียวสองสามคนนั้น แล้วว่า
"นี่แหละพี่น้องประชาชนที่รัก อ้ายพวกรับจ้างแบกปืนไปรีดไถชาวบ้าน"
ผมกล่าวจบก็มีเสียงโห่กันเกรียว... ตามด้วยเสียงผู้กำกับบทร้องบอกมาเบา ๆ จากหลังฉากเวทีว่า "ท่านปลัด คุณเป็นท่านปลัด ไม่ใช่กรรมกรสวนยาง..." นั่นแหละ ผมจึงได้สติ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ไหวพริบกลบเกลื่อนข้อผิดพลาดด้วยการเล่นนอกบทต่อไป เพื่อให้ผู้ชมคิดว่าผมออกมุข
ผมจึงกระทืบเท้าลงบนพื้นเวทีอย่างแรง เสียงดังปัง แล้วหันไปทางพวกชุดเขียวสองสามคนนั้นอีกครั้ง พร้อมกับชี้นิ้วตวาด
"เอ็งรู้ไหมข้าเป็นใคร ข้าเป็นปลัดป้องกันฯของที่นี่นะเว้ย ต่อไปห้ามพวกเอ็งเที่ยวเดินแบกปืนข่มขู่ชาวบ้านอีก- -ได้ยินไหม"
"ขอรับท่าน"
หนึ่งในพวกแต่งชุดเขียวข้างเวทีค้อมศีรษะยกมือไหว้รับมุข พลอยมีอารมณ์ร่วมไปกับผมด้วย
แต่ให้ตายเถอะพระเดชพระคุณท่านเจ้าข้าเอ๋ย อ้ายที่แต่งชุดเขียวและสะพายอาก้ามาด้วยสองสามคนนั้นมันไม่ใช่ทหารหรือตำรวจ เพราะดาวแดงที่หน้าหมวกแก๊ปที่พวกเขาเพิ่งงัดมาสวม และผมเองก็เพิ่งเพ่งสายตามองเห็นชัด ๆ บอกผมว่า พวกเขาคือ ทปท. หรือนักรบทหารปลดแอกแห่งประเทศไทยนั่นต่างหาก...อ๋อย!
****************************************
Create Date : 22 มิถุนายน 2554
Last Update : 22 มิถุนายน 2554 13:03:08 น.
8 comments
Counter : 862 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยมค่ะ ทักทายค่ะ
แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม
Vote
ให้ด้วยนะค่ะ
ThaiLand Travel
สถานที่ท่องเที่ยว
โดย:
nonguide
วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:13:08:52 น.
สวัสดีค่ะคุณหลวงเส
ตามมาอ่านนิยายบทใหม่
มีฉากการประท้วงเรื่องการเมืองไทย นึกถึงภาพความรุนแรง
ไม่น่าเชื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีไปนะคะ เฮ้อออ บ้านเราจะทะเลาะกันไปถึงไหน
ปล.ตอนนี้หวังว่าการเลือกตั้งคงได้คนดีมาปกครองบ้านเมืองค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:14:18:43 น.
ดีที่ ทปท. รับมุขนะคะ
โดย:
sierra whiskey charlie
วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:21:28:17 น.
แวะมาทักทายคุณหลวงเสค่ะ
รูปไม่ขึ้นไม่เป็นไร เอิงตามลิงค์ไปดูรูปได้ ฮ่ะฮ่ะ
ปล. มีเจลาโต้มาฝาก ทานร้อนๆ ชื่นใจมากค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:16:06:09 น.
สวัสดีเช้าวันศุกร์ ท้องฟ้าแจ่มใส ทำงานอย่างมีความสุขในวันนี้นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:9:01:17 น.
สวัสดียามเ้ช้าค่ะ คุณหลวงเส อ่านเรื่องราวที่คุณโพสให้ต้อยแล้ว
มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ดีใจกับเพื่อนของคุณหลวงเสด้วยนะค่ะ ที่เขาหายจากมะเร็งแล้ว ต่อแต่นี้ก็อยู่ที่การบำรุงรักษาร่างกายไม่ให้อ่อนแอ ใช่เลยนะ คนเราทุกคนเกิดมาย่อมตาย
ไม่ตายด้วยมะเร็งก็ต้องตายด้วยอย่างอื่น แล้วจะต้องไปกังวลทำไม ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่าเนอะ
ขอบคุณสำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่มีให้กันค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 25 มิถุนายน 2554 เวลา:8:21:54 น.
สร้างกริตเตอร์
แวะมาทักทายยามค่ำ ครูเกศกลับมาประจำการเช่นเดิมแล้วค่ะ ขอบคุณที่แวะเวียนไปเฝ้าบ้านให้นะคะและขอให้มีความสุขมากๆนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:20:41:41 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคาร พระพิรุณยังโปรยปรายไม่หยุด ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:8:37:31 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม Vote ให้ด้วยนะค่ะ
ThaiLand Travel สถานที่ท่องเที่ยว