ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
กุมภาพันธ์ 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
16 กุมภาพันธ์ 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
4.หยาดน้ำค้างกลางแสงจันทร์
ฟ้าโล่งเหนือผืนป่าและขุนเขา พระจันทร์กลมโตลอยเด่นดวงอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวกระพริบพราย นาน ๆ จะมีปุยเมฆบาง ๆ ลอยผ่านไปสักครั้ง ผมนั่งชันเข่าบนพื้นทรายอ่อนนุ่มแหงนมองฟ้ารายรอบ ความงามของดวงพระจันทร์ยั่วเย้าจิตวิญญาณที่โหยหาอาวรณ์ต่ออารมณ์ความรู้สึกชนิดหนึ่งของผมให้ล่องลอย...ลอยไปสู่สิ่งที่เด็กหนุ่มทั่วไปมักคาดหวัง?
เมื่อเจ้าตัวน้อยหลับลงแล้ว หล่อนยังจะกล้าก้าวเท้าเดินลงจากทับกลับมาหาผมไหมหนอ?
"เราคบกันแค่นี้พอแล้วนะ!"
ทำไม?
หรือหล่อนหึงหวงน้องสาวของต้ว...? หรือว่า...อิจฉา!
แต่นั่นมันหนังไทย มิตร-เพชรา นี่หว่า...
คิดแล้วก็ขำ...
แต่ทว่า-คิดไปคิดมาผมก็อดที่จะชะเง้อมองตรงทางเดินที่ทอดลาดลงไปสู่เนินทับลุงทองเสียมิได้ กระทั่งเวลาผันผ่านไปชั่วครู่...และผมก็รู้สึกหนาว ใบหน้าและท่อนแขนเปลือยเปล่านอกแขนเสื้อต้องหยาดละอองน้ำค้างที่พร่างพรมลงมาจนชุ่มชื้นไปทั่ว
ผมปลดผ้าขาวม้าที่คาดสะเอวขึ้นโพกหัว ทอดสายตามองฝ่าแสงจันทร์ออกไปโดยรอบ แรงปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ภายในกำลังจู่โจมขึ้นมาอย่างไม่ปราณีปราศรัย และลึกลงไปกว่านั้น--ผมรู้สึกเปลี่ยวเหงาอย่างจับจิต...
ตรงฟากฝั่งลำธารฝั่งโน้นเป็นทุ่งหญ้าที่เพิ่งถูกไฟป่าไหม้ลาม กระทั่งพื้นดินเตียนโล่งคล้ายพรมยักษ์สีมัว ๆ ปูทาบอยู่กลางผืนป่า บนตอไม้สูงยังมีเปลวไฟสีแดงไหม้ลนลามหลงเหลืออยู่เป็นแห่ง ๆ และมันก็ลุกโชติช่วง มองไกล ๆ คล้ายดวงตาของสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองมา
ผมละสายตาจากทุ่งหญ้าไฟลามผืนนั้น มองกลับมาที่สายน้ำซึ่งทาบทาแสงจันทร์ระยิบระยับอยู่อีกครั้ง แล้วก็ทอดตามองแมกไม้ทิวเขาที่แลเห็นเลือนรางอยู่ไกล ๆ ขณะลมป่าโชยพัดหอมกลิ่นสุคนธรสมารวยริน ผมเอื้อมมือไปหยิบขลุ่ยบนพื้นทรายขึ้นมาลูบเช็ดรอยน้ำลายของเจ้าตัวน้อย และรอยชุ่มชื้นจากหยาดน้ำค้างจนแห้งหาย แล้วจ่อริมฝีปาก เพลงอุทยานดอกไม้ในเวอร์ชั่นขลุ่ยไม้ไผ่ของผมก็พลิ้วแผ่วกังวาน...
"ชมผกา จำปา จำปี กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ-ทั้ง-กรรณิการ์
ลำดวน นมแมว ซ่อนกลิ่น ยี่โถ ชงโค มณฑา...สายหยุด-เฟื่องฟ้า-ชบาและสร้อยทอง"
"บานบุรี ยี่สุ่น ขจร... ประดู่ พุดซ้อน- พลับพลึง หงอนไก่ พิกุล-ควรปอง
งาม-ทานตะวัน รักเร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง...บานชื่น---สุขสอง พุทธชาดสะอาดแซม"
"........................... ..............."
ผมพลอยหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกังวานเสียงทุ้มต่ำของเพลงขลุ่ยที่ตนบรรจงกรีดนิ้วบรรเลงระริกรัว ครั้นถึงช่วงสุดท้านเมื่อเพลงขลุ่ยเพลงนั้นจบลง ผมก็ต้องสะดุ้งและตื่นจากภวังค์อันสุนทรี เมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างลอยมากระทบหัวไหล่ของผมเบา ๆ
ผมถอนขลุ่ยออกจากริมฝีปาก เพรียกหาแม่ยอดรักด้วยจิตใจที่สั่นระทึกรัว
"บัว!-อยู่ไหน.."
ปากก็พร่ำเพรียกเรียกร้อง...สายตาก็สอดส่องแลหา ทว่ารอบกายกลับอ้างว้างวังเวง ไม่เห็นแม้เงาของสาวเจ้า
หรือนางไม้นางไพรมากลั่นแกล้ง?
"บัว... ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"
เงียบ!
ผมเอามือป้องปากและส่งเสียงร้องเรียกดังขึ้นกว่าเก่า
"สาวบัว...! ผมคิดถึงใจจะขาดแล้วนะ อย่าแอบซ่อนอยู่เลย ออกมาให้ชื่นใจหน่อยเถอะ"
รอบนี้ได้ผล!
หลังโขดหินห่างจากผมออกไปไม่เกินสามวา สาวงามอรชรในชุดกางขาสั้นรัดรูปอวดทรงองค์เอวและส่วนโค้งเว้าอย่างแนบสนิท ก็ก้าวเดินออกจากที่ซ่อนมาหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้าผม เชิ้ตแขนยาวสีลาย ๆ พับแขนสามส่วนที่สวมใส่ปกปิดเนินเนื้อสงวนอยู่ท่อนบนถูกรวบชายผูกรัดไว้เหนือสะเอว บ่งบอกความคะนองก๋ากั่นเหมือนนางเอกนิยายที่เธออ่าน
โอ้-แม่หยาดน้ำค้างกลางไพร แม่เเทพธิดาของข้าหนอ ผมจ้องมองเรือนร่างอันงามงดของเทพธิดาผู้นั้นอย่างตะลึงลาน ราวต้องมนต์สะกดจากความงามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เมื่อแรกเห็นตอนอยู่บนกระท่อมทับผมไม่ได้เพ่งพิศหล่อนมากนัก เพราะขณะนั้นภายในจิตใจมัวแต่ครุ่นพะวงอยู่กับหม้ายสาว-แม่ยอดชู้คู่ชื่นของผม
บัดนี้แม่นางเนื้อทรายได้เยื้องย่างมาอวดโฉมให้เยือนยลอยู่ใต้แสงจันทร์ส่อง ณ บนผืนทรายเบื้องหน้าอย่างเต็มสองนัยน์ตา...
นี่ผมฝันไปหรือเปล่า !?
ผมรีบลุกขึ้นยืน เหน็บขลุ่ยไว้ที่สะเอว พร้อมกับเอ่ยปากเรียกหล่อน
"หญิงหมอน"
"ผิดหวังละซี?" อีแม่สาวเชิดหน้าประชดถาม"พี่บัวเขาวานให้ฉันมาตามนายไปกินขนม"
ผมยืนฟังแน่นิ่งราวกับน้ำเสียงของเธอนั้นล่องลอยมาจากดินแดนอันไกลโพ้น
หญิงหมอนหมุนตัวกลับ ผมเอื้อมมือรุดไปยื้อแขนข้างหนึ่งเธอมากุมไว้
"เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป"
แม่นางไพรหยุดชะงัก พร้อมสะบัดปลายแขนหลุดจากการเกาะกุมของผมในทันที และหันมาเผชิญหน้าในระยะที่ปลายจมูกโด่งเป็นสันงามของผมกับแก้มสาวขาวนวลของหล่อนห่างกันไม่ถึงคืบ...
"อย่ามาทำบ้า ๆ นะ แม่ตะบันปากฟันหลุดจะบอกให้"
หล่อนกำหมัดข้างหนึ่งชูขึ้น
ผมถอนกรูดมาตั้งหลัก
" แม่คนสวย โปรดจงอยู่อวดโฉมเป็นขวัญตาแก่คนบุญน้อยอีกสักหน่อยเถอะ"
"อ๊วก!"
ผมหัวร่อก๊าก ก่อนฉวยโอกาสรวบมือสองข้างของสายสมรขึ้นมาแตะปลายจมูกอย่างฉับไว
เพี๊ยะ !
"ชั้นไม่ใช่พี่บัว"
น้ำเสียงของหล่อนแม้ไม่เฉียบขาดดุดัน แต่ก็สามารถที่จะเรียกสติผมซึ่งกำลังจะเพริดหลงไปไกลให้วกกลับทิศทางเดิมได้ทันที
เช้าวันต่อมาขณะผมกับไอ้บองหลาช่วยกันสุมฟืนก่อไฟหุงข้าว... ไอ้หมึกตื่นแบกปืนแก๊ปเดินไปตรวจบ่วงแร้วดักสัตว์ที่ตีนเขาด้านทิศใต้ตั้งแต่เช้ามืด ไอ้พริ้งหอบถ้วยจานลงไปล้างที่ลำธาร
ไอ้บองหลาถามผมว่า
"เมื่อคืนมึงไปแหย่อะไรนังหมอน กูเห็นมันเดินหน้ามุ่ยกลับมาเชียว"
"ไม่มีอะไร---แค่กูหยอกมันเล่นนิดหน่อย..."
...แล้วผมก็เล่าให้มันฟัง
เพื่อนผมหัวเราะ หึ ๆ ในลำคอ แล้วเตือนว่า
"มึงอย่าริเป็นอ้นหน่อยเลยว่ะ...คนบ้านเราเขาถือกันนะ-เรื่องนั้น"
คนบางกอกเขามักจะให้ฉายาพวกผู้ชายเจ้าชู้ที่ชอบฟาดเรียบหมดทั้งบ้านว่า "พระยาเทครัว" แต่แถวบ้านผมเขาเรียก "อ้น" ซึ่งหมายถึงสัตว์ป่าสงวนพันธุ์ประเภทหนึ่ง ลำตัวอ้วนอุ้ยอ้าย และมีปลายขนอ่อนนิ่มเหมือนหนู หากแต่ของมันตัวใหญ่กว่าพวกหนูที่พบเห็นตามในป่าเป็นสิบ ๆ เท่า อ้นชอบขุดรูหากินอยู่ใต้กอไผ่ และมันก็กินรากไผ่เป็นอาหาร เมื่อขุดรูไชชอนลงไปสร้างรังอยู่ใต้กอไผ่กอไหนเข้า มันก็จะลงมือกัดกินรากไผ่จนหมดทั้งกอ กระทั่งไผ่กอนั้นเฉาตายก็จะย้ายออกไปหาทำเลใหม่อีก ชะรอยไอ้บองหลาคงเกรงว่าไผ่อ่อนที่ทับลุงทองลำนั้นจะพลอยเหี่ยวเฉาเพราะฤทธิ์คะนองของผมลงไปอีกสักลำหรือไม่ก็ไม่รู้ มันจึงติงผมไว้ และผมก็ทนนั่งฟังมันพล่ามไปอย่างนั้นเอง ประเภทเข้าหูซ้ายทะลุหูขวานั่นแหละ...
พอดวงตะวันโผล่แย้มทิวไม้ทิศตะวันออก... ไอ้หมึกก็กลับออกมาจากป่าพร้อมกับลากเม่นตัวใหญ่มากับบ่วงแร้วที่ปลดออกจากคันมาแล้วตัวหนึ่ง พวกเราช่วยกันก่อไฟตรงหน้าทับขึ้นอีกกอง เอาเม่นไปจุ่มน้ำในลำธารจนหนังขนของมันเปียกชื้นทั่วทั้งตัว แล้วนำกลับมาโยนใส่กองไฟ เผาและขูดหนังที่มีขนแหลม ๆ ซึ่งไหม้ไฟส่งกลิ่นเหม็นขื่นด้วยมีดทำครัวกระทั่งตัวมันขาวเหมือนสำสี แล้วผมก็เรียกให้ไอ้หมึกผู้ที่จะลงไปอาบน้ำชำระเหงื่อไคลในลำธารจัดการเอาไปชำแหละที่นั่น เพื่อเอาเนื้อกลับมาแกงและย่างรมควันตุนไว้เป็นเสบียงวันหลังด้วย
"มึงไม่คิดจะเอาไปฝากพ่อตาบ้างรึ?" ไอ้หมึกล้อผม
"มึงเอาไปซี"ผมตีหน้าตาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วปากกับใจไม่ตรงกัน และผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า บัดนั้นผมอยากจะไปเห็นหน้าใครกันแน่-ที่ทับลุงทอง?
"หัวทอ..." ไอ้บองหลาหัวเราะ แล้วยื่นพวงเนื้อสดที่ร้อยกับหวายเส้นเล็ก ๆ พวงหนึ่งส่งให้ผม "เอาเนื้อเม่นไปให้เมียมึงแกง เสร็จแล้วมึงก็พลอยแดกข้าวกับเขาที่โน่นแหละ แดกเสร็จแล้วค่อยตามพวกกูไปหน้าเหมือง ไม่ต้องวกไปวกมาให้เมื่อยตีน เข้าใจไหม?"
ผมหันไปยิ้มกับมันอย่างขวยเขิน... และรีบดีดตัวกระโดดฉากออกมา ก่อนที่จะโดนลูกถีบจากส้นตีนหนา ๆ ของมันพุ่งมาถึง... ซึ่งไม่ต่างอะไรกับนกน้อยหลุดออกจากกรงบินปร๋อ ครู่เดียวผมก็ย่ำเท้าถึงกระไดทับลุงทอง
ป้าพัวนั่งตะบันหมากอยู่บนระเบียง พร้อมส่งสายตาเฝ้าระวังหลานกำพร้าตัวน้อยๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ มิให้พลัดตกลงไปข้างล่าง ผมไม่เห็นลุงทอง สอบถามป้าพัวได้ความว่าออกไปสอยใบกระท่อมที่ทับของพวกชาวเหมืองทางเหนือเมื่อตอนเช้ามืด หญิงหมอนกำลังหุงข้าวทำกับข้าวขลุกอยู่ในครัว ขณะผมหิ้วเนื้อเม่นพวงนั้นก้าวขึ้นกระไดเดินเข้าไปส่งให้เธอ แม่นางไพรของผมละมือจากมีดหั่นผักป่าบนเขียงไม้ยื่นมารับ
"พี่บัวไปล้างจาน..." หล่อนบอก
ผมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะอยากนั่งขายขนมจีบ
"อยากชิมฝีมือทำกับข้าวของหมอนจัง หุงข้าวเผื่อผมด้วยนะ"
"อ้าว! คิดจะหักค่าเนื้อเม่นพวงนี้รึไร?"
อีแม่สาวชำเลืองค้อน แล้วหัวร่อหึ ๆ ในลำคอ ทำให้ผมเขินอายจนหน้าชา ยืนอ้ำอึ้งพูดไม่ออก กระทั่งได้ยินเสียงหล่อนว่าต่อ
"พวกเราชาวเหมืองชอบกินของร้อนของเผ็ด มันอาจไม่เหมาะกับลิ้นของพวกนักเรียนนักศึกษาก็ได้"
ช่างเป็นน้ำคำที่ยั่วยวนกวนจิตใจชวนให้วอกแวกเสียนักหนา หากแต่ผมก็ครวญคิดถึงคำพูดของไอ้บองหลา... ระวัง - -อีนั่นปากคอจัดจ้านเหมือนหมา.. ผมจึงพูดกับหล่อนขึ้นเบา ๆ ว่า
"แกงเลียงถ้วยเล็ก ๆ ให้ซักถ้วยก็ได้"
หญิงหมอนย่นจมูก
"ฮึ ! งานนั้น- -ต้องยกให้พี่บัว" หล่อนว่า "รีบตามไปบอกให้เขากลับมาแกงให้กินสิ ชักช้าประเดี๋ยวไปหน้าเหมืองสายหรอก"
และในที่สุดกับข้าวมื้อเช้าของผมวันนั้นก็มีแกงเลียงยอดผักป่าของสาวบัวเสริมมาอีกอย่าง ซึ่งผมยอมรับว่าฝีมือการปรุงรสแกงเลียงของหม้ายสาวอร่อยถูกปากผมมากเลย
"กินให้อิ่มนะจะได้มีแรงขุดดิน"
หม้ายสาวพูดขณะนั่งเป็นเพื่อนกินข้าวกับผมอยู่ในครัว
ลุงทองไปเก็บใบกระท่อมยังไม่กลับ หญิงหมอนเลี่ยงออกไปนั่งหยอกเล่นกับหลานสาวที่หน้าระเบียง ป้าพัวบอกว่ายังไม่หิว เพราะปกติแกกินข้าวพร้อมกับลุงทองตอนสาย ๆ ทุกวัน
"วันนี้ไม่ออกไปร่อนแร่หรือ?" ผมถามสาวบัว
"ไป"
"แถวไหน?"
"ทำไม?" หล่อนขมวดคิ้วย้อนถาม พร้อมกับทำตาดุ"นุ้ยจะตามไปหรือ ? อย่านะ!-อีหมอนมันจะเพ่นกระบาลเอา..."
"คืนนี้ให้ผมมาเที่ยวที่นี่อีกได้ไหม?" ผมทำตาหวาน
"จะย่องมากินขนมอะไรอีกล่ะ?"
ผมวางช้อนกินข้าวลงบนขอบจาน เอื้อมมือเชยคางหล่อนให้เชิดขึ้น วงหน้ารูปไข่ที่ดูออกคล้ำเพราะกรำแดดนั้นช่างสวยงามอย่างน่าเสน่หา ปาก จมูก คิ้ว คาง สอดรับกันอยู่บนนั้นอย่างลงตัว
หม้ายสายสบตาผมแน่นิ่ง--แววท้าทายผุดพรายออกมาจนเห็นได้ชัด ทำให้ผมรู้สึกสั่นหนาวสะท้านทรวงอย่างบอกไม่ถูก
"ก้อขนมสายบัวคนนี้ไงล่ะ" ผมระบายเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ
"จะกินทิ้งกินขว้างใช่ไหม?"
น้ำคำยอกย้อนที่เปรยออกมานั้นทำให้ผมอัดอั้นตันใจสุดบรรยาย
"เอาไว้คืนนี้เราค่อยว่ากัน"
ผมพูดขึ้นหลังหมดข้าวคำสุดท้ายในจาน พร้อมกับขอน้ำกิน...
"นุ้ยกินข้าวนิดเดียวเอง อิ่มจริงหรือ?"
หม้ายสาวรับขันน้ำคืนไปจากผม และถามด้วยน้ำเสียงที่บอกให้รู้ว่าห่วงใย
ผมพยักหน้าและโน้มตัวไปหอมแก้มให้รางวัล แล้วบอกลา เพื่อตามไปสมทบกับเพื่อน ๆ ที่หน้าเหมือง ซึ่งป่านนี้พวกมันคงจะล่วงหน้าไปอีกเส้นทางหนึ่งแล้ว
*********************************
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2554 14:32:55 น.
30 comments
Counter : 1221 Pageviews.
Share
Tweet
ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนน้ำมิตรทุกท่านที่ได้แวะเวียนมาให้กำลังใจ
แต่ว่า อินเทอร์เน็ตของผมมันใช้น้ำมันตราเต่าน้อย เลยวิ่งได้ช้าอย่างน่าสงสาร
จึงเมื่อมีเวลาได้แวะไปเยี่ยมเยียนพวกท่าน ความชักช้ายืดยาดของระบบอีการ์ดอินเทอร์เน็ตทำให้ผมต้องรอจนกระทั่งง่วงหาวแล้วก็ผลอยหลับไปเสียก่อนทุกคราว
เพราะฉะนั้น ถ้าหากหลวงเสไปเยี่ยมเยียนพวกท่านได้ไม่ครบทุกคน ก็ขอให้รำลึกถึงสาเหตุแห่งความจำเป็นข้อนี้ก็แล้วกันนะครับ
แล้วท่านก็จะได้ไม่คิดว่าหลวงเสใจดำ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:44:27 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสค่ะ แวะมาทักทายกัน
โดย:
KeRiDa
วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:27:06 น.
ขอโทษที่หายไปสองวัน งานเข้าค่ะ วันที่๒๖ก.พ.นี้เทศบาลและอบต.จัดงานกีฬากลุ่ม ทางคณะผู้บริหารของเทศบาลและอบต.๓แห่งได้ไว้ใจและมอบงานแต่งขบวนให้ เลยช่วงนี้สาละวนกับการsetชุด เสื้อผ้าหน้าผม ช่างแต่งหน้า เลยมีเวลาเข้ามาทักทายน้อยมาก พรุ่งนี้วันหยุดก็คงไม่ได้พักผ่อนอีกตามเคย ไม่เป็นไร มีงานดีกว่าไม่มี....พรุ่งนี้มีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่าคะคุณหลวงเส มีความสุขมากมายนะคะ....
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:47:16 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันศุกร์ วันมาฆบูชา
เข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์ จิตใจผ่องใสนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:3:10:13 น.
ว้าว...บ่ช่ายเจ้า บ่ด้ายแหลงหรอยบ่าวสักเตื้อ
เพื่อนบล้อกเขาขอมา ก็จัดให้ตามคำขอ
แง แง จาฟ้องแม่ มาว่าเค้า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:17:57 น.
มาส่งความสุขและพรในวีนมาฆะบูชาให้หลวงเสค่ะ อย่าลืมทำบุฯทำทานสร้างกุศลให้ตัวเองด้วยนะคะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:30:07 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:59:35 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ
คุณเส แวะมาทักทายกันเป็นประจำ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:49:57 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ คุณเส
โดย:
KeRiDa
วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:41:04 น.
สวัสดีเช้าวันทำงาน มีความสุขมากมาย ระลึกถึงเสมอค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:18:56 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารค่ะ แวะมาทักทายจ้า คุณเส
โดย:
KeRiDa
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:11:05 น.
มีแขกมาเยี่ยมเต็มบ้าน แต่เจ้าของกลับเพิ่งตืนนอน เชิญหาที่นั่งพักผ่อนตามสบายนะครับ
เจ้าของบ้านจะไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฮา ฮา
โดย:
หลวงเส
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:07:57 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ แวะเข้ามาทักทาย ทำใจให้เบิกบาน ยิ้มรับอรุณรุ่งของวันใหม่น๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:10:51 น.
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:34:07 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอาทิตย์ จิตแจ่มใส หัวใจเบิกบาน ได้พักผ่อนอยู่กับบ้าน สบ๊าย สบาย แวะเข้ามาทักทายค่ะ
เอ...หายไปไหนนิ หลวงเสไม่สบายหรือเปล่าเอ่ย
โดย:
KeRiDa
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:26:25 น.
สวัสดีตอนเช้าค่ะ หลวงเส นิยายบทใหม่มาแล้วนะคะ ถ้าว่างก็แวะเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:7:46:52 น.
Thanks:
ฝากรูป
dictionary
ห่างหายไปเสียสองสามวัน มัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานอยู่ค่ะ วันนี้ว่างสิ่งแรกที่ทำคืออัฟblogและนำรูปมาฝากกัน ระลึกถึงและขอบคุณมิตรภาพบนโลกไอทีค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:57:15 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ แวะมาทักทายจ้า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:4:55:16 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสบดี
มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:2:50:01 น.
ยามเช้าๆนี้อากาศไม่ร้อนมาก แต่พอสายลงนิดแทบจะนั่งไม่ได้เลย ร้อนมากมาย ต้องพึ่งแอร์คอนดิชั่นตลอดเลย พักผ่อนมาได้สามวันโดยไม่หยิบจับอะไรทั้งสิ้น วันนี้เตรียมsetชุดแสดงในงานแถลงข่าว"งานวีรชนปู่ดอก-ปู่ทองแก้ว"ของอำเภอวิเศษฯที่จะมีขึ้นในวันที่๑๖ที่จะถึงนี้ ระลึกถีงอยู่เสมอนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:9:11:10 น.
สวัสดียามเช้าค่ะคุณหลวงเส อากาศร้อนใจคนอย่าร้อนนะคะ คิดถึงคร่าาาาาา
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:10:10:37 น.
เห็นภัยธรรมชาติที่เกิดกับญี่ปุ่นน่ากลัวจังเลยโลกใบนี้เริ่มปรวนแปรแล้ว ช่วงสองวันไม่สบายนิดหน่อยอาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนมากมาย แอบหน้ามืดเป้นลมเลยค่ะ แต่ตอนนี้สบายดีแล้ว ช่วงนี้ซ้อมการแสดงหนักเหมือนกัน งานจะมีขึ้นในวันพุธนี้แล้วค่ะ ระลึกถึงอยู่เป็นนิจนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:10:24:47 น.
เจ้าของเน็ตอาพาธเสียหลายวัน สมาชิกแวะมาทักทายกันจมหู เห็นทีต้องตามไปขอบคุณเสียหน่อย
โดย: หลวงเส IP: 101.109.74.183 วันที่: 15 มีนาคม 2554 เวลา:14:40:24 น.
สวัสดียามเช้าวันพุธค่ะ คุณหลวงเส ขอบคุณสำหรับกำลัง
ใจที่มีให้กันเสมอมานะค่ะ
ในที่สุดตอนที่ 4 ก็คลอดเสียที หลังจากที่รอมานาน แต่
ขอแปะไว้ก่อนน๊า ค่อยกลับมาอ่านคราวหน้าจ้ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:9:25:27 น.
เช้านี้อากาศเย็นสบาย สดชื่นจริงๆ ช่วงบ่ายวันนี้มีงานแถลงข่าวรำลึกวีรชนปู่ดอก-ปู่ทองแก้วที่ อ.วิเศษฯ จังหวัดอ่างทอง แล้วจะเก็บภาพมาฝากกันนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:10:25:55 น.
มาตามอ่านฮับผม แล้วจะขอมาวิจารณ์งานเขียนของหลวงเสทีหลังนะฮับ
โดย: วัวป่าหลงเงาจันทรา IP: 125.25.192.108 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:11:13:55 น.
สวัสดีตอนเช้าวันศุกร์ ฝนตกอากาศหนาวเย็น หมั่นดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:3:35:25 น.
อรุณสวัสดิ์วันเสาร์ อากาศหนาวเย็น
แม้ฝนจะหยุดตกแล้ว หมั่นรักษาสุขภาพ
ทำความอบอุ่นให้กับร่างกายน๊า
แน๊ะ..หันไปกอดคนข้าง ๆ ก็ได้ อุ่นไอรักดี อิอิ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:5:50:52 น.
แวะมาทักทายในวันพักผ่อนที่หนาวเย็น คุณหลวงเส สบายดีนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:8:48:29 น.
สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ
ขอให้มีความสุขกับวันที่แสนสบายน๊า
ตื่นมาดูพระจันทร์กลมโต
เปล่งประกายสวยงาม จะขออะไรจันทร์ดีเอ่ย
โดย:
KeRiDa
วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:4:38:41 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
แต่ว่า อินเทอร์เน็ตของผมมันใช้น้ำมันตราเต่าน้อย เลยวิ่งได้ช้าอย่างน่าสงสาร
จึงเมื่อมีเวลาได้แวะไปเยี่ยมเยียนพวกท่าน ความชักช้ายืดยาดของระบบอีการ์ดอินเทอร์เน็ตทำให้ผมต้องรอจนกระทั่งง่วงหาวแล้วก็ผลอยหลับไปเสียก่อนทุกคราว
เพราะฉะนั้น ถ้าหากหลวงเสไปเยี่ยมเยียนพวกท่านได้ไม่ครบทุกคน ก็ขอให้รำลึกถึงสาเหตุแห่งความจำเป็นข้อนี้ก็แล้วกันนะครับ
แล้วท่านก็จะได้ไม่คิดว่าหลวงเสใจดำ