1.ต้องหาคนที่สามารถอธิบายความได้ดี คนเก่งหลายคน อธิบายความไม่ได้ หรือได้ก็ไม่ดี
คนที่ว่าต้องสามารถแปลงสิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างยาก มาเป็นรูปธรรมอย่างง่ายได้
2.คนสองต้องมองเห็นภาพรวมของวิชาหรือหนังสือนั้นๆ อย่างกระจ่าง
และต้องบอกภาพรวมเป็นรูปธรรมอย่างง่ายให้นักเรียนได้รับรู้
ที่สำคัญต้องบอกภาพรวมนี้แทบทุกครั้งที่เข้าสอน
และบอกอีกว่าจากภาพรวมนั้น วันนี้ เราจะมาเรียนเรื่อง D นะ
สมมุติว่าเป็นวิชาหนึ่งในชั้น ป.4 ก็แล้วกัน
เช่นวิชาการเรียนรู้เรื่องไม้ยืนต้น ก็ต้องบอกถึงภาพรวม ของไม้ยืนต้นว่า
มี ราก ลำต้นกิ่ง ใบ ดอก ผล
คนสอนในชั่วโมงนั้นๆ ต้องบอกทวนกลับไปที่ภาพรวมของต้นไม้ว่า
ไม้ยืนต้นนั้นนักเรียนคงจำได้ว่า มีองค์ประกอบอยู่ 6 ส่วนนะ
คือ ราก ลำต้นกิ่ง ใบ ดอก ผล
วันนี้เราจะมาเรียนเรื่อง "ใบ" กันนะ อะไรทำนองนี้
3.การสอนให้เป็นลำดับตาม สารบัญ หรือ course out line
4. การวัดผลประเมินผล ก็ต้องสอดคล้องตาม ข้อ. 3
5.ฝึกฝนให้เด็กแสดงออก และรู้จักคิด ตอบคำถาม
เมื่อมีการตอบผิดซึ่งเป็นเรื่องปกติ ครูที่ดี จะต้องไม่ดุ หรือว่ากล่าว
ที่เด็กตอบผิดเป็นเพราะคนสอนไม่ดีเอง นี่คือ สิ่งที่ต้องปรับปรุง
หากเด็กตอบผิดต้องอธิบายความเสียใหม่ ให้ง่ายกว่าเดิม
โดยจะต้องไม่อธิบายแบบเดิมต้องพยายาม หาทางยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมให้ชัดเจน
และเป็นรูปธรรมที่ง่ายสุดๆ
หลายครั้งเมื่อเด็กตอบผิด สิ่งที่ตามมาคือ ความโมโหโกรธา ของคนสอน
สุดท้ายในห้องจะมีแต่ความเครียด ไม่เกิดผลดีกับใครๆ
ที่ร้ายที่สุดคือ คนสอนจะถูกมองว่าเป็น ปีศาจ มากกว่าที่จะเป็นครู
6.คนที่จะเป็นครูได้ นั้น ต้องมีความเป็นครู อยู่ในจิตวิญญาณ ต้องมีเมตตาธรรมขั้นสูง
หากไม่มีแล้วและเข้ามาเป็นครู ก็น่าวิตกอยู่ว่า พรุ่งนี้ ของประเทศไทย จะลงนรกขุมไหนกันแน่
เมื่อมีปีศาจมายืนพูดอยู่หน้าห้องเรียน