|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เศรษฐศาสตร์ 60120
1. ให้นักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ 1.1 ข้อสมมติที่สำคัญทางเศรษฐศาสตร์ที่สมมติให้สิ่งอื่น ๆ คงที่ (all other things being equal หรือ Centeris paribus ) คืออะไร จงยกตัวอย่างการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่มีการใช้ข้อสมมติในการศึกษา ตอบ ข้อสมมติสำคัญทางเศรษฐศาสตร์ที่สมมติให้สิ่งอื่น ๆ คงที่ หมายความว่า ในการศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดจะต้องให้ปัจจัยอื่น ๆ อยู่คงที่หรือไม่มีอิทธิพลใด ๆทั้งสิ้น ยกเว้นปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องที่จะศึกษา ยกตัวอย่างการขายสินค้า เรามักกล่าวว่าผู้ขายจะขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคให้ราคาที่สูงที่สุด ซึ่งคำกล่าวเช่นนี้จะเป็นจริงก็ต้องสมมติว่าปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของผู้ขายรายนี้อยู่คงที่หรือไม่แสดงอิทธิพลใด ๆ ออกมา มิฉะนั้นผู้ขายรายนี้อาจไม่ขายสินค้านั้นแก่ผู้ให้ราคาสูงที่สุด เพราะบังเอิญผู้ขายไม่ชอบหน้าผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุด หรือ ตั้งใจจะขายให้แก่ผู้บริโภคอีกรายหนึ่งที่เขาชอบเป็นพิเศษแม้ว่าจะได้ราคาที่ต่ำกว่าก็๖ม หรือผู้ขายรายหนึ่งอาจคิดว่าถ้าเขาลดราคาสินค้าลงจะทำให้ขายได้มากขึ้น แต่ถ้าไม่สมมติให้สิ่งอื่น ๆ คงที่ การลดราคาสินค้าของผู้ขายรายนี้อาจทำให้เขาขายได้น้อยลง เพราะคู่แข่งขันของเขาเกิดลดราคามากกว่า จึงทำให้ผู้ซื้อหันไปซื้อจากคู่แข่งขันมากขึ้น 1.2 การศึกษาทางเศรษฐศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 แขนง คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Microeconomics) และ เศรษฐศาสตร์มหาภาค (Macroeconomics) การศึกษาทั้ง 2 แขนงนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และจากการศึกษาเอกสารการสอนชุดวิชาหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ท่านคิดว่าหน่วยการสอนหน่วยใดบ้างจดอยู่ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์จุลภาค และหน่วยใดบ้างจัดอยู่ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับมหาภาคด้วยเหตุผลใด ตอบ เศรษฐศาสตร์จุลภาคหรือจุลเศรษฐศาสตร์ เป็นการศึกษาถึงพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจย่อย ซึ่งเป็นส่วนหึ่งของหน่วยหรือระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ เช่น การศึกษาเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ในการบริโภค ความขอบ การเลือกตลอดจนความพึงพอใจของแต่ละบุคคลที่มีต่อสินค้าและบริการ การศึกษาพฤติกรรมของผู้ผลิตในการตั้งราคา การคิดค้นต้นทุนการผลิตการจำแนกแจกจ่ายสิคาและบริการที่ผลิตแล้วไปยังผู้บริโภคหรือผู้ที่ต้องการ การศึกษากลไกตลาดและการใช้ระบบราคา เพื่อการจัดสรรสินค้าและบริการและทรัพยากรอื่น ๆ โดยที่เศรษฐศาสตร์จุลภาค ศึกษาเรื่องต่าง ๆซึ่งส่วนเกี่ยวข้องกับราคาในตลาดแบบต่าง ๆ เศรษฐศาสตร์แบบจุลภาค มีอีกชื่อหนึ่งว่า ทฤษฏีราคา เศรษฐศาสตร์มหาภาคหรือ มหาเศรษฐศาสตร์ เป็นการศึกษาพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจเป็นส่วนรวม เช่น รายได้ประชาชาติ การบริโภค การออม การลงทุน การจ้างงาน การเงิน การค้าระหว่างประเทศ และการคลังสาธารณะ อาจกล่าวได้ว่า มหาเศรษฐศาสตร์ คือ การนำเอาหน่วยย่อย ๆ ทั้งหมดที่ศึกษาในจุลเศรษฐศาสตร์มาศึกษาเป็นระบบเดียว หรือมองในด้านส่วนรวมมากกว่าจะมองในแง่ส่วนบุคคล เศรษฐศาสตร์ทั้งสองแขนงนี้ มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด หน่วยการสอนที่จุดอยู่ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับจุลภาค คือ - หน่วยที่ 3 อุปสงค์ อุปทาน และดุลยภาพ - หน่วยที่ 4 พฤติกรรมผู้บริโภค - หน่วยที่ 5 การผลิตและต้นทุนการผลิต - หน่วยที่ 6 ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ - หน่วยที่ 7 ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ - หน่วยที่ 8 ตลาดปัจจัยการผลิต หน่วยการสอนดังกล่าว จุศึกษาในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับราคาในตลาดแบบต่าง ๆ เป็นหน่วยย่อยในระบบเศรษฐกิจรวม หน่วยการสอนที่จัดอยู่ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับมหาภาค คือ - หน่วยที่ 2 ระบบเศรษฐกิจ - หน่วยที่ 9 รายได้ประชาชาติและการจัดรายได้ประชาชาติ - หน่วยที่ 10 ส่วนประกอบของรายได้ประชาชาติ - หน่วยที่ 11 การกำหนดและการเปลี่ยนแปลงระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพ - หน่วยที่ 12 การเงินและสถาบันการเงิน - หน่วยที่ 13 เงินเฟ้อและการว่างงาน - หน่วยที่ 14 การค่าและการเงินระหว่างประเทศ หน่วยที่ 15 ลักษณะและปัญหาของระบบเศรษฐกิจไทย หน่วยการสอนดังกล่าวจะศึกษาระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ เป็นการนำเอาหน่วยย่อย ๆ ในระดับจุลเศรษฐศาสตร์มาศึกษาเป็นระบบเดียว
1.3 ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity coot) ในทางเศรษฐศาสตร์คืออะไร และต้นทุนค่าเสียโอกาสทำให้ต้นทุนทางการบัญชีและต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์มีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ตอบ ต้นทุนค่าเสียโอกาสในทางเศรษฐศาสตร์ คือ ต้นทุนประเภทหนึ่งที่มิได้มีการจ่ายออกด้วยจริงหรือที่เรียกว่าต้นทุนจำบัง โดยต้นทุนค่าเสียโอกาสจะถูกหักจากกำไรสุทธิ กำไรในทางเศรษฐศาสตร์จะแตกต่างจากกำไรในทางบัญชี เพราะกำไรในแง่ของนักบัญชี หมายถึง รายได้สุทธิซึ่งก็คือ รายได้ทั้งหมดหักด้วยรายจ่าย แต่ในทางเศรษฐศาสตร์ นอกจากต้องหักต้นทุนที่มีการจ่ายจริงแล้วตังต้องหักต้นทุนจำบัง หรือค่าเสียโอกาส ในทางเศรษฐศาสตร์การปฏิบัติ นักเศรษฐศาสตร์มักจะตั้งหลักในการพิจารณาการลงทุนว่า ถ้าการดำเนินกิจการใดกำไรทางบัญชีต่ำกว่าค่าเสียโอกาสก็ไม่ควรดำเนินการ
1.4 จงอธิบายถึงกลไกการทำงานรวมถึงจุดอ่อนและจุดแข็งระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม (ระบบทุนนิยม) และระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (ระบบวางแผนจากส่วนกลาง) เมื่อพิจารณาถึงการจัดการปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ ตอบ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม เอกชนมีกรรสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนใหญ่ มีเสรีภาพในการดำเนินการหรือการเลือกประกอบกิจกรรม อาศัยกลไกราคาและระบบการแข่งขันเป็นเครื่องช่วยการตัดสินการทำงานของกลไกราคาและระบบการแข่งขันเป็นไปในลักษณะว่า เมื่อใครต้องการสิ่งใดก็จะแสดงความจำนงโดยการให้หรือเสนอราคาสิ่งของนั่นไปยังเจ้าของ โดยอาจเสนอเพียงลำพังหรือแข่งขันกับบุคคลอื่น ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด หรือให้ราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุดก็จะเป็นผู้ที่ได้สิ่งของนั้นจากผู้ผลิตหรือผู้ขาย อาจสรุปได้ว่า กลไกราคาหรือระบบตลาดจึงเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม คือ 1. ความคล่องตัว และสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ดี 2. มีเสรีภาพ กล่าวคือ บุคคลมีอิสรเสรีในการใช้ทรัพยากรหรือประกอบกิจการใดที่ต้องการ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย 3. มีประสิทธิภาพ กล่าวคือ ทรัพยากรสามารถหมุนเวียนไปที่ต่าง ๆ ได้โดยกคล่องและรวดเร็วโดยอาศัยกลไกราคาช่วย ข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม คือ 1. ด้านประสิทธิภาพ บางครั้งในทางปฏิบัติการจัดสรรทรัพยากรอาไม่ได้ประสิทธิภาพดีพอ ทรัพยากรอาจไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรี การแข่งขันอาจนำไปสู่ระบบการผูกขาด และการจัดสรรทรัพยากรอาจไม่สมดุล 2. ความเสมอภาค การยอมให้มีการเป็นเจ้าของ และการสืบทอดทรัพย์สมบัติอาจมีผลทำให้ไม่มีความเสมอภาคในการจัดส่งรายได้ และความมั่งคง
ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม หมายถึง ระบบที่รัฐบาลมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทุกอย่างและเข้าดำเนินการในกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกประเภทโดยการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ด้วยวิธีการเช่าซื้อหรือทำการก่อสร้างเองจากเงินภาษีอากรหรือเงินกู้ยืมจากประชาชน การดำเนินการของระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมบางรูปแบบมักอาศัยหน่วยวางแผนส่วนกลาง เช่น ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลเข้าไปดำเนินการก็อาจเรียกว่า รัฐวิสาหกิจ สภาหรือคณะกรรมการจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะผลิตสินค้าอะไร และบริการอะไร ในปริมาณแค่ไหนและขายในราคาเท่าใด ผู้บริโภคยังสามารถเลือกซื้อสินค้าอะไรก็ได้ตามกำลังเงินและความต้องการ กลไกราคาและระบบตลาดยังคงอยู่ แต่รัฐบาลอาจเข้าควบคุมหรือกำหนดราคาสินค้าบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่ ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม คือ การดำเนินการบางอย่างมีความคล่องตัว เช่น การล้มเลิกระบบการผูกขาดของเอกขนในธุรกิจบางชนิด ข้อเสีย คือ ระบบการวางแผนจากส่วนกลางมักไม่มีประสิทธิภาพและอาจผิดพลาดได้ง่าย ประชาชนไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ตลอดจนขาดเสรีภาพในการดำเนินการ
2. ตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคา (หน่วยเป็นบาท) ปริมาณความต้องการและปริมาณเสนอขายของหมูปิ้ง (หน่วยเป็นไม้)
ราคา (Price) ปริมาณความต้องการซื้อ (Quantity Demanded) ปริมาณการเสนอขาย (Quantity Supplied) 4 5 6 7 8 9 125 104 81 68 53 39 25 53 81 98 110 121
2.1 จงนำข้อมูลจากตาราง (วาด) กราฟที่แสดงเส้นอุปสงค์ อุปทาน และแสดงให้เห็นถึงราคาและปริมาณดุลยภาพ (Equilibrium price and quantity) ที่เกิดขึ้นของหมูปิ้ง
ปริมาณและราคาดุลยภาพ ที่อยู่ ราคา 6 บาท/หน่วย คือ ราคาซึ่งปริมาณสินค้าที่ผู้เสนอขายกับปริมาณสินค้าที่ผู้ต้องการซื้อเท่ากันพอดีนั่นคือ 81 ไม้ 2.2 เมื่อพิจารณาจากกราฟที่ได้จากข้อ 2.1 ถ้าราคาในตลาดอยู่สูงกว่าราคาดุลยภาพ กลไกตลาดจะทำการปรับตัวให้เข้าสู่ดุลยภาพได้อย่างไร และถ้าราคาในตลาดอยู่ต่ำกว่าราคาดุลยภาพ กลไกตลาดจะทำการปรับตัวให้เข้าสู่ดุลยภาพได้อย่างไร โปรดอธิบาย ตอบ ถ้าระดับราคาในตลาดอยู่สูงกว่าราคาดุลยภาพ จะทำให้เกิดมีอุปทานส่วนเกินของตลาดขึ้น เนื่องจากจำนวนอุปสงค์ส่วนเกิน เกิดการขาดแคลนสินค้าขึ้น กลไกตลาดก็จะเกิดความกดดันให้ราคาต่ำลงถ้าผู้ขายอยากจะขายสินค้าส่วนที่เกิดนี้ ถ้าราคาในตลาดอยู่ต่ำกว่าราคาดุลยภาพ ความต้องการสินค้าจะมีมากกว่าปริมาณที่เสนอขายทำให้เกิดมีอุปสงค์ส่วนเกิน เกิดขาดแคลนสินค้าขึ้น กลไกตลาดก็จะผลักดันให้ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผู้ขายไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าอย่างนั้นในเมื่อเขาสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่านั้น
2.3 จากข้อ 2.1 ถ้ารายได้ของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม จะส่งผลอย่างไรต่อปริมาณความต้องการซื้อปริมาณความต้องการ รวมถึงราคาและปริมาณดุลยภาพของหมูปิ้ง (ถ้ากำหนดให้หมูปิ้งเป็นสินค้าปกติ) โปรดอธิบายและวาดกราฟประกอบการอธิบาย ตอบ
เนื่องจากรายได้ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาบริโภคสินค้ามากขึ้น เส้นอุปสงค์ใหม่ คือ D1D1 การเลื่อนสูงขึ้นของเส้นอุปสงค์มีผลทำให้ปริมาณความต้องการซื้อ ณ ระดับราคาที่ปรากฏอยู่ในตลาดซึ่งก็คือราคา OP เพิ่มขึ้นจากจำนวนเดิม คือ OQ เป็น OQ2 เกิดอุปสงค์ส่วนเกิน ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับสินค้าจะพากันเสนอราคาที่สูงขึ้น มีผลให้เกิดดุลยภาพจุดใหม่ขึ้น คือ จุด E1 ราคาดุลยภาพและปริมาณดุลยภาพจึงเปลี่ยนไปจากเดิมเป็น OP1 และ OQ2 2.4 จากข้อ 2.1 ถ้าราคาเนื้อหมูอันเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม จะส่งผลอย่างไรต่อปริมาณความต้องการซื้อ ปริมาณความต้องการขาย รวมถึงราคาและปริมาณดุลยภาพหมูปิ้ง โปรดอธิบายและวาดกราฟประกอบการอธิบาย ตอบ
เนื่องจากราคาหมูสูงขึ้น ทำให้ปัจจัยการผลิตที่สำคัญเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม จะส่งผลให้ผู้ขายต้องปรับราคาสูงขึ้นแต่เมื่อราคาหมูปิ้งสูงขึ้นก็ทำให้ลูกค้าลดปริมาณการซื้อลง จนในที่สุดปริมาณทั้งสองก็กลับมาเท่ากันใหม่อีกครั้ง ณ ระดับราคาที่สูงขึ้นกว่าดุลยภาพเดิม และปริมาณที่ต่ำกว่าปริมาณดุลยภาพเดิม เมื่อเส้นอุปทานเลื่อนระดับไปทางซ้ายของเส้นเดิมเป็นเส้น S1S 1 จากกลไกราคา จุดดุลยภาพเปลี่ยนไปอยู่ ณ จุด E1 ราคาดุลยภาพจะเลื่อนสูงขึ้นเป็น OP1 และปริมาณดุลยภาพจะลดลงเป็น OQ1
3. จากตารางที่ให้มา เมื่อกำหนดปริมาณ (Output) ราคา (Price) และต้นทุนทั้งหมด (Total Cost) ของหน่วยธุรกิจ
3.1 จงคำนวณหารายรับทั้งหมด (Total Revenue ) กำไร (Profit) รายรับหน่วยสุดท้าย (Marginal Revenue) และต้นทุนหน่วยสุดท้าย (Marginal Cost)
ปริมาณ (Output) ราคา (Price) รายรับทั้งหมด(Total Revenue) ต้นทุนทั้งหมด (Total Cost) กำไร (Profit) รายรับหน่วยสุดท้าย ( Marginal Revenue) ต้นทุนหน่วยสุดท้าย (Marginal Cost) 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 300 300 300 300 300 300 300 300 300 300 - 300 600 900 1200 1500 1800 2100 2400 2700 150 200 300 450 650 900 1200 1550 1950 2400 - 100 300 450 550 600 600 550 450 300 - 300 300 300 300 300 300 300 300 300 - 50 100 150 200 250 300 350 400 450
3.2 จากข้อมูลที่มีอยู่ ตลาดของสินค้าที่กำลังพิจารณาอยู่มีลักษณะการแข่งขันอยู่ในรูปแบบใด (แข่งขันสมบูรณ์ แข่งขันไม่สมบูรณ์แบบผูกขาด ผู้ขายน้อยร้าย หรือกึ่งแข่งขันผูกขาด) พิจารณาได้อย่างไร โปรดอธิบาย ตอบ ตลาดของสินค้าที่กำลังพิจารณาอยู่มีลักษณะการแข่งขันสมบูรณ์ พิจารณาจากราคาสินค้าจะคงที่ตลอดไม่ว่าปริมาณการขายสินค้าจะเป็นเท่าใด เมื่อมีรายรับเฉลี่ยของหน่วยธุรกิจมีค่าเท่ากับราคา รายรับเฉลี่ยของหน่วยธุรกิจก็จะมีค่าคงที่ตลอดด้วยเช่นกัน นั้นคือรายรับเฉลี่ยของหน่วยธุรกิจในตลาดแข่งขันสมบูรณ์จะเป็นเส้นเดียวกับเส้นอุปสงค์ DD ของหน่วยธุรกิจ คือ เป็นเส้นขนานกับแกนนอน ณ ระดับราคาที่ปรากฏในตลาด และอันที่จริงไม่ว่าตลาดจะมีลักษณะใด เส้นรายรับเฉลี่ยก็ คือ เส้นเดียวกับเส้นอุปสงค์ของหน่วยธุรกิจ เพราะเส้นรายรับเฉลี่ยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสินค้าและราคา เพราะฉะนั้นรายรับเฉลี่ยและราคาสินค้าคือสิ่งเดียวกัน
3.3 จากข้อมูลที่ให้มา หน่วยธุรกิจหน่วยนี้ควรผลิตสินค้า ณ จุดใดจึงจะได้กำไรสูงสุด เพราะเหตุใด โปรดอธิบายและวาดกราฟประกอบอธิบาย ตอบ
การพิจารณาหาปริมาณการผลิตสินค้าที่เหมาะสมที่สุด จึงจะได้กำไรสูงสุด อาจทำได้โดยการเปรียบเทียบต้นทุน และรายรับของสินค้าไปทีละหน่วย จากสูตร MC = MR (ต้นทุนหน่วยสุดท้าย = รายรับหน่วยสุดท้าย) หากพิจารณาในตาราง จะพบว่าจุดที่ MC = MR คือ 6 หน่วย รายรับหน่วยสุดท้ายคือ 300 ต้นทุนหน่วยสุดท้ายคือ 300 หากพิจารณาจากกราฟจุดปริมาณการผลิตที่เหมาะสม คือ จุด E ซึ่งเป็นปริมาณการผลิต ณ จุดซึ่งต้นทุนหน่วยสุดท้าย มีค่าเท่ากับรายรับหน่วยสุดท้าย โดยต้นทุนหน่วยสุดท้ายอยู่ในภาวะที่กำลงเพิ่มขึ้น
ข้อ 4.2 - 4.3 พิจารณานโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล 4.2 นโยบายการคลัง นโยบายการคลัง ซึ่งประกอบด้วยนโยบายด้านรายรับอันได้แก่ นโยบายที่เกี่ยวกับภาษี และที่เกี่ยวกับรายรับอื่นที่มิใช่ภาษีอากร นโยบายด้านการใช้จ่ายของรัฐบาล ตลอดจนการจัดการส่วนที่เกินดุล หรือการหาเงินชดเชยส่วนที่ขาดดุล ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง 4.2.1 ด้านการคลัง รัฐบาลมีนโยบายใช้จ่ายสูงกว่ายอดรายรับ ทำให้ฐานะการคลังของรัฐบาลอยู่ในสภาพขาดดุล โดยรัฐ จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวมากขึ้น เพิ่มการใช้จ่ายทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) การก่อสร้างถนน ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ด้านสิ่งก่อสร้าง ของส่วนราชการต่างในงบประมาณแผ่นดิน
นอกจากนี้ การกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายเป็นงบประมาณแผ่นดิน จะทำให้เกิดการใช้จ่ายภาครัฐมากขึ้น หากการใช้จ่ายเงินงบประมาณมีประสิทธิภาพ และเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้มีเงินในระบบมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวได้
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบาย ด้านภาษีคือ เก็บภาษีมรดก และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็น ครั้งแรกของไทยที่มีการประกาศชัดเจนเรื่องภาษีมรดก นอกจากนี้ นโยบายเรียนฟรี เป็นการ แบ่ง เบาภาระของประชาชน นโยบายด้านชุมชนพอเพียง และการส่งเสริมวิสาหกิจ ในท้องถิ่น
4.2.2 นโยบายด้านการเงิน ธนาคารกลางจะเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายการเงินของประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ควบคุมปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงินนอกจากจะช่วยสนับสนุนนโยบายการคลังแล้ว ยังอาจช่วยในการทำให้เกิดความสมดุลกับผลของนโยบายการคลังด้วย รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการส่งออก การกระตุ้นการส่งออกทางหนึ่งคือการใช้นโยบาลเงินบาทอ่อน แต่เนื่องจาก ค่าเงินดอลล่าร์ อ่อนตัวลงมาก เนื่อง จากวิกฤติการในสหรัฐอเมริกา ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อ เทียบกับเงินดอลล่าร์ ส่งผลให้เงินบาท แข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับ ช่วงระยะเวลาก่อนที่รัฐบาลอภิสิทธิ จะเข้ามาบริหาร
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีบทบาทน้อยมาก ในการกำหนด อัตราดอกเบี้ย ในตลาด ยกเว้นการออกพันธบัตรเงินกู้ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 4 %
4.3 ผลกระทบ การกู้เงิน ในประเทศในรูปแบบชของพันธบัตร จะส่งผลให้ระบบขาดเงินไปเท่า กับจำนวนที่กู้ หากรัฐไม่ สามารถนำเงินจำนวน ที่กู้ไปนั้น ไปใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้ ระบบเกิดการขาดเม็ดเงิน อยู่ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจทำให้เกิด ภาวะชงักงันทางเศรษฐกิจใน ช่วง ระยะเวลาสั้นๆ ได้
ถ้าหากรัฐบาลสามารถกู้เงินจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศได้ จะเป็นการเติมจำนวนเงินเข้ามาใน ระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การกู้เงินจากต่างประเทศ จะมีภาระความเสี่ยงต่ออันตราแลกเปลี่ยน ที่อาจผันผวนในอนาคตเช่นกัน ถ้ารัฐบาลสามารถบริหารความเสี่ยงด้านนี้ลงไป น่าจะช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบาย เก็บภาษีมรดก ซึ่งเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการประกาศชัดเจน จะทำให้รัฐมีรายได้จากฐานภาษีทางด้านนี้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ นโยบายเรียนฟรี จะช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนที่เป็นฐานรากได้เป็นอย่างดี และปริมาณเงินที่ประชาชน ไม่ต้องใช้ในการชำระค่าเล่าเรียนนี้ จะถูกนำไปใช้หมุนเวียนในระบบอีกส่วนหนึ่ง
ด้านภาษี รัฐบาลมีนโยบาย เพิ่มจำนวนเงินยกเว้นขั้นต่ำของผู้เสียภาษีเงินได้บุคลธรรมดาให้สูงขึ้น ทำให้ประชาชน ระดับล่างหรือผู้มีรายได้ประจำ ชั้นล่าง ไม่ต้องมีภาะระภาษี ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะขาดเงิน รายได้ด้านนี้ลงไปส่วนหนึ่งเช่นกัน การส่งเสริมวิสาหกิจ ชุมชน จะเป็นทางหนึ่ง ที่น่าจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระดับฐานรากได้อย่างดี และจะส่งผลต่อพื้นฐานของระบบเศรษฐกจ ของประเทศในระยะยาว
ส่วนการที่ ที่รัฐบาลขายพันธ์บัตรช่วยชาติไปเป็นจำนวนเงิน 40,000 ล้านบาท ให้ แก่ ประชาชน ในประเทศนั้น จะทำให้เงินในมือของประชาน หายไป ทันที รัฐบาลจำต้องเร่งรัดแผน งาน โครงการ ต่างๆออกมา เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงิน จำนวนนี้อย่างเร็วที่สุด หากขาดการวางแผนที่ดี และการใช้จ่ายที่ล่าช้า อาจเกิดภาวะเงินฝืดได้โดยง่าย
การซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในตลาดพันธบัตร เป็นแนวทางหนึ่งของเครื่องมือของนโยบายการเงิน เมื่อธนาคารกลางขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน จะทำให้ปริมาณเงินลดลง ในขณะเดียวกันอุปทานของหลักทรัพย์ หรือพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ราคาของพันธบัตรลดลง และอัตราผลตอบแทน ของพันธบัตรจะสูงขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนเกิดแรงจูงใจในการซื้อมากขึ้น ธนาคารกลางจะสามารถปรับสภาพอุปสงค์และอุปทานของเงิน โดยขายหลักทรัพย์ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่าง ๆ และประธานทั่วไป
Create Date : 22 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 23:36:04 น. |
|
93 comments
|
Counter : 12331 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: da IP: 124.122.68.103 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:23:09:53 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:23:35:53 น. |
|
|
|
โดย: zenchompoo วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:23:41:26 น. |
|
|
|
โดย: CrackyDong วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:23:55:30 น. |
|
|
|
โดย: richysmile IP: 112.142.52.50 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:20:19:58 น. |
|
|
|
โดย: ก้อง IP: 118.173.43.216 วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:20:09:08 น. |
|
|
|
โดย: ow IP: 125.26.68.52 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:10:21:37 น. |
|
|
|
โดย: *-* IP: 118.173.145.172 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:13:02:04 น. |
|
|
|
โดย: ow IP: 113.53.74.191 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:8:22:05 น. |
|
|
|
โดย: เล็ก IP: 125.25.93.129 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:13:27:03 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊กไก่ IP: 114.128.38.44 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:20:42:41 น. |
|
|
|
โดย: เล็ก IP: 125.25.138.224 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:8:07:41 น. |
|
|
|
โดย: piw IP: 125.26.211.231 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:11:15:19 น. |
|
|
|
โดย: ow IP: 125.26.73.237 วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:17:17:04 น. |
|
|
|
โดย: richysmile IP: 58.8.251.5 วันที่: 30 สิงหาคม 2552 เวลา:11:42:05 น. |
|
|
|
โดย: ต้น IP: 58.64.56.189 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:17:01:40 น. |
|
|
|
โดย: มิ้ง IP: 118.174.92.136 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:17:34:33 น. |
|
|
|
โดย: koi IP: 61.7.170.85 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:20:22:12 น. |
|
|
|
โดย: nan IP: 58.10.87.166 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:4:54:28 น. |
|
|
|
โดย: sayun IP: 124.120.164.27 วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:13:22:47 น. |
|
|
|
โดย: เล็ก IP: 125.25.96.39 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:14:41:32 น. |
|
|
|
โดย: เล็ก IP: 125.25.96.39 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:14:41:39 น. |
|
|
|
โดย: กุ้ง IP: 124.157.160.254 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:22:41:05 น. |
|
|
|
โดย: ศักดิ์สิทธิ์ IP: 222.123.248.227 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:18:46:34 น. |
|
|
|
โดย: 55 IP: 61.47.115.2 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:13:29:17 น. |
|
|
|
โดย: น้าพร IP: 117.47.125.198 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:20:05:55 น. |
|
|
|
โดย: น้าพร IP: 117.47.125.198 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:20:08:47 น. |
|
|
|
โดย: bananasky IP: 117.47.95.155 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:14:09:53 น. |
|
|
|
โดย: มาริโอ IP: 202.176.182.189 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:7:09:40 น. |
|
|
|
โดย: boonnak IP: 202.149.25.225 วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:22:00:48 น. |
|
|
|
โดย: มาริโอ IP: 202.176.182.189 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:18:13:05 น. |
|
|
|
โดย: มาริโอ IP: 202.176.182.189 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:18:20:30 น. |
|
|
|
โดย: nuuaey IP: 124.120.135.209 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:21:01:36 น. |
|
|
|
โดย: boonnak IP: 202.149.25.235 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:20:04:39 น. |
|
|
|
โดย: มาริโอ้ IP: 202.176.171.214 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:21:00:44 น. |
|
|
|
โดย: พรเพ็ญ IP: 10.0.1.232, 110.164.246.46 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:2:59:16 น. |
|
|
|
โดย: นิว IP: 10.5.50.35, 192.168.1.100, 58.9.193.23 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:12:22:37 น. |
|
|
|
โดย: ฝน IP: 183.89.47.4 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:54:40 น. |
|
|
|
โดย: prae_kiku IP: 114.128.21.104 วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:04:59 น. |
|
|
|
โดย: หนิงค่ะ IP: 58.11.69.86 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:17:00:18 น. |
|
|
|
โดย: Phantipa2010@live.com IP: 125.27.154.38 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:18:35:13 น. |
|
|
|
โดย: คุณหญิง IP: 118.173.188.84 วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:19:50:49 น. |
|
|
|
โดย: คุณหญิง IP: 118.173.188.84 วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:20:00:10 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มค่ะ IP: 182.232.93.242 วันที่: 15 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:40:47 น. |
|
|
|
โดย: แนนค่ะ IP: 101.51.140.2 วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:22:48:00 น. |
|
|
|
โดย: Sriphrae Klongphakwaen IP: 202.93.215.78 วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:12:44:24 น. |
|
|
|
โดย: Pan_pan IP: 171.4.121.95 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:21:17:54 น. |
|
|
|
โดย: ธนิน IP: 118.172.209.12 วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:20:50:02 น. |
|
|
|
โดย: kanitta IP: 118.175.78.20 วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:10:12:32 น. |
|
|
|
โดย: ณัฐภัสสร IP: 1.0.252.135 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:19:41:10 น. |
|
|
|
โดย: kung IP: 49.49.206.219 วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:10:34:15 น. |
|
|
|
โดย: joy IP: 58.11.174.70 วันที่: 30 มกราคม 2556 เวลา:17:21:13 น. |
|
|
|
โดย: paeng IP: 118.175.40.164 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:29:26 น. |
|
|
|
โดย: Ouan IP: 183.89.18.239 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:17:55:17 น. |
|
|
|
โดย: ณัฐพร IP: 125.27.214.242 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:11:14 น. |
|
|
|
โดย: วริสรา IP: 111.90.190.173 วันที่: 2 มิถุนายน 2556 เวลา:16:56:37 น. |
|
|
|
โดย: MM IP: 118.174.128.234 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:17:48:51 น. |
|
|
|
โดย: นิ IP: 49.231.100.188 วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:11:10:28 น. |
|
|
|
โดย: ปุ้น IP: 118.172.49.13 วันที่: 4 กันยายน 2556 เวลา:20:28:56 น. |
|
|
|
โดย: ปุ้น IP: 118.172.49.13 วันที่: 4 กันยายน 2556 เวลา:20:30:10 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมค่ะ IP: 49.49.13.71 วันที่: 17 ธันวาคม 2556 เวลา:13:30:44 น. |
|
|
|
โดย: นัท ชญานันท์ ค่ะ IP: 122.155.34.187 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:44:00 น. |
|
|
|
โดย: การ์ตูน IP: 110.168.234.143 วันที่: 28 มิถุนายน 2557 เวลา:20:18:31 น. |
|
|
|
โดย: Sale Mulberry messenger Bag IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:16:36:07 น. |
|
|
|
โดย: บีม IP: 27.55.44.161 วันที่: 30 ตุลาคม 2557 เวลา:13:26:35 น. |
|
|
|
โดย: kobe IP: 223.206.163.201 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:34:32 น. |
|
|
|
โดย: Indy IP: 223.204.248.54 วันที่: 4 มีนาคม 2558 เวลา:22:04:43 น. |
|
|
|
โดย: ttnn IP: 27.55.47.1 วันที่: 21 มีนาคม 2558 เวลา:11:38:38 น. |
|
|
|
โดย: Benjawan IP: 1.46.65.16 วันที่: 17 เมษายน 2558 เวลา:17:29:53 น. |
|
|
|
โดย: Pattar IP: 61.90.118.4 วันที่: 19 เมษายน 2558 เวลา:14:20:26 น. |
|
|
|
โดย: สุทธิพงษ์ IP: 1.0.185.140 วันที่: 22 เมษายน 2558 เวลา:21:38:18 น. |
|
|
|
โดย: pornpimon IP: 27.145.92.122 วันที่: 10 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:51:56 น. |
|
|
|
โดย: Yilin IP: 118.172.104.209 วันที่: 11 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:15:30 น. |
|
|
|
โดย: Beer IP: 223.205.43.201 วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:54:02 น. |
|
|
|
โดย: patt IP: 192.99.14.36 วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:12:46:49 น. |
|
|
|
โดย: katty IP: 110.77.227.243 วันที่: 22 กันยายน 2558 เวลา:15:28:48 น. |
|
|
|
โดย: Nok IP: 14.207.191.109 วันที่: 7 ตุลาคม 2558 เวลา:14:56:58 น. |
|
|
|
โดย: Napat IP: 180.183.125.80 วันที่: 7 ตุลาคม 2558 เวลา:21:04:35 น. |
|
|
|
โดย: ซายน? IP: 1.46.233.104 วันที่: 8 ตุลาคม 2558 เวลา:0:38:54 น. |
|
|
|
โดย: ณิชา IP: 171.7.15.77 วันที่: 12 ตุลาคม 2558 เวลา:0:49:37 น. |
|
|
|
โดย: สุกัลยา IP: 182.52.85.191 วันที่: 14 ตุลาคม 2558 เวลา:16:43:03 น. |
|
|
|
โดย: รุ่งทิพย์ IP: 171.5.198.108 วันที่: 19 ตุลาคม 2558 เวลา:20:21:55 น. |
|
|
|
โดย: mm IP: 49.229.111.200 วันที่: 21 ตุลาคม 2558 เวลา:14:54:12 น. |
|
|
|
โดย: เนย IP: 171.98.238.220 วันที่: 25 ตุลาคม 2558 เวลา:21:20:11 น. |
|
|
|
โดย: bow IP: 124.122.222.195 วันที่: 5 มีนาคม 2559 เวลา:21:06:02 น. |
|
|
|
โดย: fonnatcha IP: 182.53.35.68 วันที่: 13 มีนาคม 2559 เวลา:15:01:27 น. |
|
|
|
โดย: Ploy IP: 114.109.130.195 วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:16:55:50 น. |
|
|
|
โดย: ผู้น้อย041 IP: 1.47.35.144 วันที่: 16 กันยายน 2559 เวลา:15:54:36 น. |
|
|
|
โดย: PlamBee IP: 1.47.199.50 วันที่: 26 สิงหาคม 2560 เวลา:21:06:50 น. |
|
|
|
โดย: aung IP: 183.89.212.88 วันที่: 28 สิงหาคม 2560 เวลา:11:24:18 น. |
|
|
|
โดย: ปวีณา IP: 182.232.134.111 วันที่: 5 กันยายน 2560 เวลา:19:55:43 น. |
|
|
|
โดย: Ry IP: 49.49.210.4 วันที่: 7 ตุลาคม 2560 เวลา:23:12:41 น. |
|
|
|
โดย: nat IP: 139.99.104.95 วันที่: 17 กรกฎาคม 2561 เวลา:13:44:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
God is the only One you
can trust on when you
having problems, the only one who
will help you slove it as he does to me!