ศาลเจ้าพ่อเสือ - วัดบวรนิเวศราชวิหาร - หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร ... บล็อกที่ 186 ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร วันนี้ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือกับเพื่อนสนิท เราคบกันมาตั้งแต่ปี 2505 จนเรามีครอบครัว มีลูกหลานกันแล้ว มิตรภาพของเราก็ยังแน่นแฟ้น ตั้งใจไปไหว้ทีศาลเจ้าพ่อเสือ และไปซื้อเสื้อผ้าแถวบางลำภูกัน หาอะไรทานสบายๆ หนี่งวัน ศาลเจ้าพอเสือคนแน่นมาก เต็มไปด้วยควันธูป สองฝั่งทางเข้าศาลมีร้านขายของสำหรับไหว้ ราคาต่างๆกันแล้วแต่ว่าจะทำอะไร ไหว้ขอพร ไหว้แก้ชง ถ้าทำไม่ถูก ทางร้านมีคนนำไปบอกวิธีไหว้ด้วย ทางร้านบอกว่าเป็นคนที่ทางร้านจ้างให้มาแนะนำ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม เราสองคนซื้อของจากร้านทางซ้ายของศาล โอ ดีจังเราซื้อสองคนก็มีคนพาสองคน เขาพาเข้าทางข้างๆ ไม่ต้องเบียดคนเข้าไปจนถึงที่ บอกให้เอาไปส่งใส่เงินตามศรัทธา แล้วมาตรงกลางสอนให้เอากระดาษทองที่มีในชุดปัดออกนอกตัว (เอ กี่ครั้งจำไม่ได้แล้ว) แล้วเอากระดาษที่ได้มาไปแผนกเผาทางขวา จากนั้นก็มาจุดธูปเทียน ไหว้ขอพร พระเจ้าสามองค์ (จำไม่ได้ว่าพระอะไรบ้าง)แล้วปักธูปแห่งละสามดอก ก็เสร็จพิธี ทางศาลประกาศให้ระวังคนล้วงกระเป๋า และประกาศให้ยกมือที่มีธูปจุดแล้วสูงจะได้ไม่ไปโดนคน ข้างๆศาลมีตำรวจสามท่านคอยระวังความปลอดภัย อยู่ที่ทางเดินข้างๆ ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร :(ตัวเต็ม:打惱路玄天上帝廟, ตัวย่อ: 打恼路玄天上帝庙, พินอิน: Dǎ nǎo lù xuán tiān shàngdì miào ตานาวลู่เฉียงเทียนซ่างตี่เมี่ยว, ฮกเกี้ยน: ต้านาวหล่อเอี่ยนเถี้ยนซ่งเต้เบี้ยว) หรือ ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร คนจีนเรียกศาลเจ้านี้ว่า "ตั่วเหล่าเอี้ย" โดยเป็นที่ประดิษฐานรูปเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้, รูปเจ้าพ่อเสือ, รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าพ่อเสือ ว่ากันว่าตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง ได้โปรดให้ย้ายศาลมาไว้ที่ทางสามแพร่งถนนตะนาว จนถึงปัจจุบัน (วิกิพีเดีย) เสร็จจากไหว้ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ เพื่อนบอกว่าแถวนี้มีกะเพาะปลามีชื่อ ร้านกระเพาะปลามิตรโภชนา ไปแวะทานกันหน่อยไหม อิ่มก็จริง แต่อยากไปชิม ก็เลยไปชิมกันคนละชาม ไม่ใส่อะไรพิเศษ มีกะเพาะปลาเยอะมาก รสชาติอร่อยจริงๆ ราคาชามละ 60 บาทอิ่มกันแล้ว เพื่อนก็พาไปไหว้พระที่วัดบวรนิเวศราชวิหาร กราบพระกัน พระในโบสถ์สวยงามจริงๆ เลยใส่ประวัติมาให้อ่านกันค่ะ ร้านกระเพาะปลามิตรโภชนา เชิญเปิดอ่านที่นี่ค่ะ วัดบวรนิเวศราชวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ (สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ) ได้ทรงมีพระดำริโปรดให้สร้างขึ้น แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างขึ้นด้วยศิลปะไทยผสมจีน ภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปสำคัญอยู่ 2 องค์ คือ พระประธาน อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน เพชรบุรี และ พระพุทธชินสีห์ อัญเชิญมาจากวิหารทิศเหนือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก ถัดจากพระอุโบสถออกไปเป็นเจดีย์กลมขนาดใหญ่ สร้างสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 หุ้มกระเบื้องสีทอง ในรัชกาลปัจจุบัน รอบฐานพระเจดีย์มี ศาลาจีนและซุ้มจีน ถัดออกไปเป็นวิหารเก๋งจีน นอกจากนี้ก็มีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง ใต้ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเคยผนวช ณ วัดนี้เมื่อยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ระหว่างทรงผนวชและประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ประติมากรของกรมศิลปากรปั้นหุ่นและสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร โดยทรงเสด็จพระราชดำเนินหล่อพระพุทธรูป วันที่ 5 ธันวาคม 2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่าพระพุทธนาราวันตบพิตร (วิกิพีเดีย) ที่บางลำภูก็เดินดูเสื้อผ้ากัน แรกๆก็บอกว่าไม่ซื้ออะไรแล้ว เพราะซื้อมาหลายต้วแล้ว ใส่ไม่หมด แต่ร้านเสื้อผ้าก็มีเสื้อผ้าสวยๆน่าซื้อทั้งนั้นเลย ไม่ต้องไปซื้อผ้าตัด ราคาก็ไม่แพงมาก เดินดูเสื้อผ้ากันสองชั่วโมง ได้เสื้อมาสามตัว ส่วนเพื่อนได้มากทีเดียว มีเสื้อห้าตัว กระโปรงอีกสี่ต้ว เสียหายกันคนละหลายพันบาท มีเสื้อยืดของร้านแตงโม มีแขนสามส่วนและดอกสวยดี เสียดายพื้นสีดำเป็นส่วนมาก แต่ก็อดที่จะซื้อไม่ได้ เพราะชอบผ้าของร้านนี้ ใส่สบายและซักเครื่องได้ไม่เสียทรง ร้านที่ขายเสื้อแต่งโม อยู่ไม่ไกลจากร้านขนมปัง ซื้อกลับบ้านอีกหลายอย่าง หลังจากซื้อของกันจนอิ่มใจแล้วก็ทานเย็นตาโฟกัน เพื่อนพาไปกราบหลวงพ่อโตที่วัดอินทรวิหาร ถามว่าเคยไปไหม บอกเคยไปที่วัดระฆ้ง เพื่อนบอกว่าวัดนี้มีหลวงพ่อโตยืนองค์ใหญ่ และมีบ่อน้ำมนต์ด้วยนะ ไม่เคยไปเลยหรือ อยากไปวันนี้ขีันทันที่ บอกเพื่อนไม่เคยหรอก ไปหน่อยซี พอเข้าไปในวัด ซื้อดอกไม้ธูปเทียนกราบพระยืนและปิดทอง เดินชมบริเวณวัด เพื่อนพาไปที่บ่อน้ำมนต์ เข้าไปกราบหลวงพ่อโตด้วย ข้างในเย็น เงียบสงบดี มีคนนั่งสมาธิอยู่หลายคน เราน่าจะหาเวลามานั่งสมาธิที่นี่บ้างจัง เราบริจาคขอน้ำมนต์มาคนละหนี่งขวด นำประวัติมาให้อ่านกันด้วยค่ะ วัดอินทรวิหาร สักการะหลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร ความยาว 4.57 นาที สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี วัด อินทรวิหาร ตั้งอยู่บนถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม คนละฝั่งกับธนา คารแห่งประเทศไทย เป็นวัดที่มีมาก่อนสมัยรัตน โกสินทร์ เดิมเรียกว่า วัดบางขุนพรหมนอก การบูรณะครั้งสำคัญซึ่งทำให้ได้ ชื่อว่า วัดอินทาราม คือ เมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินในตำบลบางขุนพรหม ให้เป็นที่ตั้งบ้านเรือนของครอบครัวเชลยชาวเวียงจันทน์ เจ้าอินทร์ ผู้เป็นน้าชายของเจ้าน้อยเขียวค่อมพระสนมเอก ได้บูรณะพระอารามขึ้นและนิมนต์เจ้าคุณพระอริญญิก พระสงฆ์ชาวเวียงจันทน์ที่อพยพมาด้วยกันขึ้นปกครองวัด ต่อมามีการบูรณะอีกครั้งหนึ่ง ผู้บูรณะ คือ เจ้าอินทวงศ์ พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพ รัชกาล ที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดอินทรวิหาร ด้วยทรงเห็นว่าชื่อไปพ้องกับ วัดอินทาราม (วัดบางยี่เรือใต้) ทางฝั่งธนบุรี ส่วนชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดอินทร์ หรือ วัดอินทร์บางขุนพรหม หรือ วัดหลวงพ่อโต "หลวงพ่อโต" เป็นพระพุทธรูปปางยืนทรงบาตร ผินพระพักตร์ไปด้านทิศตะวันออก มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงยอดเกตุ 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก นับเป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนทรงบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก พ.ศ.2410 ในรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตน โกสินทร์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ขณะมีอายุได้ 80 ปี ได้มาดำเนินการก่อสร้างองค์หลวงพ่อโต ณ วัดอินทรวิหาร งานก่อสร้าง เป็นไปอย่างยากลำบากด้วยต้องอาศัยแรงศรัทธาของญาติโยมและช้าง เป็นกำลังหลักของการก่อสร้าง ต้องใช้ท่อนซุงเป็นจำนวนมากมาวางไขว้เป็นรากฐาน ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างได้ปัจจัยจากกัณฑ์เทศน์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ นำมาซื้ออาหารเลี้ยงผู้มาช่วยเหลือการก่อสร้าง ผ่าน ไป 4 ปี ก่อสร้างได้ถึงพระนาภี (สะดือ) สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้มรณภาพลงอย่างกะทันหัน ด้วยโรคลมปัจจุบัน เมื่อวันเสาร์ ที่ 22 มิถุนายน 2415 เวลา 24.00 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดอินทรวิหาร ต่อมา พระครูธรรมานุกูล หรือ หลวงปู่ภู จันทเกสโร ศิษย์คู่บุญบารมีของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และพระครูสังฆบริบาล (แดง) จากวัดบวรนิเวศ ได้ดำเนินการรับช่วงการก่อสร้างพระพุทธรูป และเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ ในสมัยของท่านเจ้าคุณพระอินทรสมาจาร หรือหลวงปู่เงิน อินทสโร ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2470 ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 60 ปี ภายหลังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ หลายครั้ง จนในปี พ.ศ.2525 เพื่อร่วมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี จึงทำการประดับกระเบื้องโมเสกทองคำแท้ 24 เค จากประเทศอิตาลีทั้งองค์ พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนและรัฐบาลศรีลังกามอบแก่พุทธศาสนิกชนไทยไว้บนยอดเกศ วัดและคณะกรรมการจัดงานเทศกาลประจำทุกปี ในระหว่างวันที่ 1-10 มีนาคม อภินิหาร ของหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์มาก ดังเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วโดยทั่วกัน ในระหว่างที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในระหว่างสงคราม (พ.ศ.2484-2487) แม้องค์หลวงพ่อโตวัดอินทรวิหารใกล้กับจุดอันตรายมาก แต่หาเป็นอันตรายแม้แต่น้อยไม่ ประชาชนส่วนมากที่หลบภัยเข้ามาในบริเวณหน้าหลวงพ่อโต มองเห็นฝูงเครื่องบินมาทิ้งระเบิด แต่ครั้นมาถึงใกล้ระยะองค์พระ ปรากฏว่าฝูงบินได้วกไปทิศอื่น ทำให้ชาวบ้านในเขตบริเวณหน้าหลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร รอดพ้นภยันตราย เรื่องเล่าขานดังกล่าว นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าหลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ทุก วันนี้ มีประชาชนพากันไปนมัสการสักการบูชามิได้ขาด แม้แต่ชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาชมพระนคร ยังเข้ามานมัสการหลวงพ่อโตเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านชุมชนวัดอินทรวิหาร เล่าว่า การบนบานหลวงพ่อโต สามารถขอพรได้ในทุกเรื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องขอให้เดินทางไกลโดยแคล้วคลาดปลอดภัย หรือขอโชคลาภ เมื่อได้สิ่งที่ขอตามปรารถนาแล้ว การแก้บนหลวงพ่อโต นิยมใช้ไข่ต้ม พวงมาลัย โดยเฉพาะหากบนด้วยหัวปลาทู จะได้สำเร็จสมปรารถนาทุกรายไป แต่ ปัจจุบัน การแก้บนด้วยปลาทู นิยมถวายทั้งตัว ไม่ใช่แต่เฉพาะหัวเท่านั้น โดยได้รับการยืนยันจากคนในชุมชนวัดอินทรวิหารแล้วว่า ไม่ผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด บ่อน้ำพุทธมนต์ วัดอินทรฯวัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งปลายกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ฯบรรพชาเป็นสามเณร ทำให้บรรยากาศหลายๆสิ่งโดยรอบวัดจะมีเรื่องราวชีวประวัติเล่าขานถึงท่านเต็มไปหมด …โดยเฉพาะ “บ่อน้ำพระพุทธมนต์” ที่ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นเป็นห้องทรงแปดเหลี่ยมคล้ายถ้ำครอบลงบนบ่อน้ำเก่าของเดิม ส่วนภายในห้องจะมีรูปปั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ ในอิริยาบถนั่งสมาธิ และมีปลายสายสินธุ์ต่อเชื่อมโยงลงไปยังบ่อน้ำ จุดนี้คือไฮไลท์ ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมานั่งสมาธิและสวดมนต์ พร้อมกับฟังเสียงสวดมนต์ที่ถูกเปิดควบคู่กันไป ทำให้รู้สึกประหนึ่งนั่งปฏิบัติธรรมอยู่เบื้องหน้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ … ที่นี่ไม่ต้องต่อแถวจองคิวให้วุ่นวาย ว่างเมื่อไหร่ก็เข้ามา อิ่มเอมแล้วก็กลับไป “ไม่แปลกใจที่น้ำมนต์จากบ่อน้ำพระพุทธมนต์จะได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เพราะน้ำมนต์จากแหล่งนี้ ไม่ใช่เพียงมาจากบ่อน้ำมนต์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยพลังบริสุทธิ์ของผู้ที่นั่งสมาธิและสวดมนต์อยู่ ณ ที่แห่งนั้น” เสียงจริง ภาพเมื่อ20พรรษาสมเด็จพระพุฒจารย์โตพรหมรังสี ความยาว 3.14 นาที สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) สมเด็จโต, หลวงปู่โต, สมเด็จวัดระฆัง Somdej Phra Buddhacarya (Toh Brahmaramsi).jpg เกิด 17 เมษายน พ.ศ. 2331 บรรพชา พ.ศ. 2343 อุปสมบท พ.ศ. 2351 มรณภาพ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 พรรษา 64 อายุ 84 วัด วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัด ธนบุรี สังกัด มหานิกาย ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) (นามเดิม: โต) หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต" "หลวงปู่โต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" เป็นพระสงฆ์มหานิกาย เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน[1] และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย[2] และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท[3] ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน ข้อมูลจากอินเตอร์เนต ร้าน Pola Pola ออกจากวัดก็ซื้อไอสครีมโบราณใส่ข้าวเหนียวกับลูกชิดกับขนมปัง ราดด้วยนมสด มาทานกันคนละชิ้น เห็นคนขายเผือกทอด ก็ซื้อด้วย เขาตัดเผือกทอดใส่ถ้วย และทำน้ำจิ้มราด ใส่ในถุง จะได้ไม่หก เจ้านี้ทำดีจังใส่ถ้วยและใส่ในถุงมีหูให้หิ้ว ส่วนมากที่ซื้อใส่ถุงมีไม้จิ้ม จิ้มไม่ระวังถุงก็รั่วน้ำเหนียวหวานๆ จะไหลมาเลอะไปหมด กลับบ้านพักผ่อนก่อนอาหารเย็น ที่บ้านก็ยังมีขนมปลากริมไข่เต่ารออยู่อีก วันนี้จัดการไปหลายอย่าง มากไปแล้ว เลยขออนุญาติยุติก่อน ทานไม่ไหวแล้ววว อาหารเย็นครอบครัวเพื่อนพาไปทานกันที่ร้าน Pola Pola กัน ส้่งอาหารหลายอย่าง มีแกงส้มยอดชะอมทอดไข่ กุ้งทอด เป็ดย่าง ไส้กรอก ขนมปังกระเทียม แกงคั่วเป็ดย่าง และไอสครีมวานิลาหนี่งถ้วย เสียหาย 1900 บาท ไม่ได้ถ่ายรูปค่ะ เลยเอามาจากเวปของร้านมาให้ชมบางอย่าง กลับถึงบ้านสามทุ่ม นับว่าไปเที่ยวซื้อของและทานอาหารกันอย่างอิ่มสนุกที่เดียวค่ะ แกงคั่วเป็ดย่าง ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่ค่ะ Kevin Kern Imagination's Key ( CD Imagination's Light) ข้อมูลจากอินเตอร์เนต newyorknurse   Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2556 19 comments Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2556 20:47:31 น. Counter : 7359 Pageviews. Share Tweet

มาเยี่ยมชมครับพี่น้อย ปีนี้เข้าบล็อกไม่ค่อยบ่อยนัก แต่ที่หน้าเฟซคุยกันได้ทุกวัน ศาลเจ้าพ่อเสือผมเคยไปไหว้สมัยเรียนแน่ะ ก็นานหลายปีแล้ว แถวนั้นเที่ยวบ่อยมาก เพราะใกล้สนามหลวงด้วย   โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 4 กุมภาพันธ์ 2556 21:49:28 น.

ทั้งหมดนี่เคยไปแต่ศาลเจ้าพ่อเสือค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าไปแก้ชงค่ะ ตอนนั้นที่ตาลไปนี่เย็นใกล้จะปิดแล้ว แต่คนก็ยังเยอะมากๆ มาบล็อคนี้ได้เที่ยวผ่านภาพไป ได้ความรู้ด้วยอีกต่างหากนะคะ ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะคะ   โดย: ไอศครีมรสช๊อกโกแลตชิพ 4 กุมภาพันธ์ 2556 21:52:40 น.

จากทั้งหมด เคยไปแค่ศาลเจ้าพ่อเสือครับ ดูแล้วบรรยากาศยังคงเหมือนเดิมเมื่อครั้งที่เคยไป (เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว)   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 กุมภาพันธ์ 2556 0:12:56 น.

สวัสดีค่ะพี่น้อย เคยไปแค่วัดวัดบวรนิเวศราชวิหารค่ะ โห...ไปคราวนี้พี่น้อยจะเที่ยวทั่วเมืองไทยเลยเหรอ เห็นพี่น้อยเที่ยวต้องบอกว่าพี่น้อยสุขภาพแข็งแรงมากค่ะ โหวตท่องเที่ยวค่ะ newyorknurse Travel Blog ดู Blog พี่น้อยจะกลับมาเมกาเมื่อไหร่ค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะค่า   โดย: ข้ามขอบฟ้า 5 กุมภาพันธ์ 2556 0:29:06 น.

สวัสดีค่ะพี่น้อย.. วันพุธที่ 6 เวรเช้าค่ะ.. แต่ช่วงหลัง13.00น.มีประชุมค่ะ.. โทรมาได้เลยคร้า..อนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ   โดย: คนผ่านทางมาเจอ 5 กุมภาพันธ์ 2556 1:26:53 น.

โดย: Kavanich96 5 กุมภาพันธ์ 2556 4:41:30 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย   โดย: กะว่าก๋า 5 กุมภาพันธ์ 2556 6:30:34 น.

กิ่วแม่ปานโหดกว่าภูชี้ฟ้าประมาณ 5 เท่าครับพี่น้อย ผู้ใหญ่และเด็ก จะไม่ค่อยเหมาะกับกาเรดินเส้นทางนี้ครับ   โดย: กะว่าก๋า 5 กุมภาพันธ์ 2556 6:52:22 น.

อุ้มแวะมาไหว้พระด้วยคนค่ะพี่น้อย และกด LIKE ให้เป็นคนที่ 1 ปล.อาหารน่าทานมากค่ะ   โดย: อุ้มสี 5 กุมภาพันธ์ 2556 7:13:53 น.

สวัสดีตอนเช้าจากเมืองนนท์ค่าาาพี่น้อย แม่หมูมาเที่ยวด้วยนะคะ แต่ละสถานที่แม่หมูยังไม่เคยเข้าไปเลยค่ะ ไลค์นะคะพี่น้อย (มีหลังไมค์ด้วยค่ะ)   โดย: jamaica 5 กุมภาพันธ์ 2556 7:39:13 น.

ก่อนขึ้นเขามีคำเตือนแปะไว้เลยครับพี่น้อย ว่าคนที่เ่ป็นโรคหัวใจ ความดัน ฯลฯ ไม่ควรขึ้นกิ่วแม่ปานครับ   โดย: กะว่าก๋า 5 กุมภาพันธ์ 2556 8:56:05 น.

สวัสดีครับพี่น้อย วันนี้พี่น้อยพาทัวร์บุญซะทั่วเลยครับ ข้าวมันไก่ที่ศาลเจ้าพ่อเสือก็รสเลิศนะครับ ร้านหัวมุมตรงข้ามกันนั่นแหละจ้ะ   โดย: find me pr 5 กุมภาพันธ์ 2556 9:49:39 น.

สวัสดียามบ่ายครับ   โดย: ก้อนเงิน 5 กุมภาพันธ์ 2556 13:29:04 น.

สวัสดีค่ะ พี่น้อย อายที่จะบอกว่านู๋ไม่เคยไปแถวนั้นเลยค่ะ อาจจะเคยไปนะ แต่ไม่ทราบว่าตรงนั้นคือที่ไหน เวลานั่งรถเมล์หรือนั่งรถเพื่อนไปค่ะ กร๊าก ๆ   โดย: ปรัซซี่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 20:41:44 น.

ทุกรายการที่คุณน้อยพูดถึง ป้าเคยไปแค่แห่งเดียว คือ วัดบวรนิเวศ ค่ะ ความจริงก็เคยผ่านๆอยู่หลายครั้งนะคะ แต่คงเพราะบุญไม่ถึง...เลยไม่ได้แวะสักที ไลค์ค่ะคุณน้อย   โดย: ร่มไม้เย็น 5 กุมภาพันธ์ 2556 21:26:34 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย   โดย: กะว่าก๋า 6 กุมภาพันธ์ 2556 6:19:39 น.

ตามมาเที่ยวถิ่นเก่ากับพี่น้อยค่ะ สมัยเป็นนักเรียนไปจ่ายตลาดบ่อยๆ แวะไหว้ท่านเป็นบางครั้ง วัดบวรสวยค่ะ คิดถึงถิ่นเก่าที่นัดพบ กับเพื่อนๆสมัยอดีต ยังเคยถ่ายรูปไว้ ตรงเยื้องวัดด้านซ้ายมีร้าน พวกข้าวเหนียวปิ้งแผงยาวอร่อยมากๆ อาจเป็นเพราะเป็นถิ่นหมอดูเรียงรายเป็นแถว วันหนึ่งคงได้กลับไปเยือนอีกครั้งค่ะ   โดย: หมุยจุ๋ย 6 กุมภาพันธ์ 2556 8:51:29 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย   โดย: กะว่าก๋า 7 กุมภาพันธ์ 2556 6:24:28 น.

สวัสดีค่ะคุณน้อย ตอนนี้เมืองไทยอากาศเริ่มร้อนแล้วนะคะ คิดถึงนิวยอร์ค หรือยัง คุณน้อยไปเที่ยวที่ไหนเพื่อนก็ได้ความรู้และได้ ชมภาพด้วยกดไล้ค์ให้ค่ะ   โดย: พรไม้หอม 7 กุมภาพันธ์ 2556 12:56:17 น.