ลีลาศพาฝัน-ฉันจะเต้นรำในชุดขาว
ลีลาศพาฝัน-ฉันจะเต้นรำในชุดขาว Waltz wa shiroi dress de
เรื่องราวในปีโชวะที่10 (ค.ศ.1935 หรือ พ.ศ.2478) โกโตะ เด็กสาววัย16 ผู้ใฝ่ฝันเพียงอยากเป็นช่างตัดเสื้อเมื่อเรียนจบเพื่อสานต่อกิจการ ของบ้านอาโอกิ แต่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า การไปงานราตรีสโมสรด้วยชุดราตรีสีขาวในคืนนั้น จะลิขิตชีวิตเธอให้เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง (รักโปสการ์ดแผ่นนี้มาก รักษายิ่งชีพ)
เสียงปืนหนึ่งนัดที่ดังขึ้นที่สถานทูตอังกฤษ ทำให้เธอต้องช่วยชีวิตซาจิต หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-อินเดีย นักเรียนเตรียมทหารอังกฤษ กามเทพได้แผลงศรให้ทั้งทั้งคู่ เกิดเป็นความรักที่เหมือนอยู่ในความฝัน แต่ทว่าความเป็นจริงนั้น โกโตะ ได้ถูกพ่อของเธอ วางหมากให้หมั้นหมายกับ มาซาโอมิ นักเรียนเตรียมทหารเรือหนุ่มรูปหล่อแสนเย็นชา ทายาทตระกูลขุนนางคิโดอินเพื่อประคับประคองสถานะการเงินของบ้านอาโอกิ ระหว่างความรักกับหน้าที่ โกโตะต้องตัดสินใจเลือกเพียงสิ่งเดียว
(โกโตะ กับซาจิต ในฉันจะเต้นรำในชุดขาว -ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ฉันจะเต้นรำในชุดขาว เป็นชื่อแรกที่ติดหูและประทับใจ ด้วยภาพปกหน้า-ปกหลัง ฟอนท์ชื่อเรื่องเมื่อแรกเห็น ดูเหมาะเจาะลงตัว หลังจากได้อ่านเล่มแรกจบ ก็เป็นต้องใจจดจ่อรอเล่มต่อไป ในยุคลิขสิทธิ์ ฉันจะเต้นรำในชุดขาว มีชื่อใหม่ว่า ลีลาศพาฝัน (อืม..เรายังรักชื่อเก่ามากกว่าแฮะ) เป็นผลงานในปี 1990 ของ อ.ไซโตะ จิโฮ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีอาจารย์คงวางพล็อตไว้เพียงสี่เล่มจบซึ่งก็นับว่าเป็นงานที่ยาวที่สุด ของ อ.ไซโตะแล้วในขณะนั้น เพราะผลงานก่อนหน้ามักเป็นเรื่องสั้น แต่ก็มีเรื่องยาวแบบสามเล่มจบอยู่บ้าง อย่างเช่น ปริศนาทางรัก (Aoringo mekyu) หรือจะเป็นห้องสมุดสื่อรัก (Honoka ni papuru) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ ตำนานรักห้องสมุด ที่โด่งดัง
อีกสี่ปีถัดมาด้วยเสียงเรียกร้องจากแฟนๆหนังสือทำให้ ฉันจะเต้นรำในชุดขาว กลับมาอีกครั้งในชื่อ เพลงรักสุดฝั่งฝัน ซึ่งเล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรกและตอนพิเศษภาคฮันนีมูนชุลมุน(1990) แม้ช่วงเวลาในเนื้อเรื่อง จะยังไม่ทิ้งจากปีเดียวกัน แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปของงานเขียน จะสังเกตได้ชัดว่าลายเส้นเปลี่ยนแปลงไป มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่กลับช่วยเสริม ให้คนอ่านอินกับเนื้อหาที่เข้มข้นมากขึ้นของภาคนี้ (เครียดขึ้นนั่นเอง) โดยปูทางชีวิตรักในช่วงสงครามญี่ปุ่น-จีนที่อุบัติขึ้นในปีโชวะที่12 (ค.ศ.1937 ) หากเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองภาค ภาคแรกเหมือนความรักที่ผลิบานของวัยรุ่น มีความชวนฝัน บริสุทธิ์ พลุ่งพล่าน ตัวละครคิดอะไรในใจก็ทำอย่างนั้น แต่ในภาคสองนี้หลังจากที่โกโตะคลอดลูกคนแรก ด้วยความเป็นแม่ทำให้โกโตะเป็นตัวละคร ที่มีวุฒิภาวะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นการการันตีชื่อ Magnolia waltz ได้อย่างยอดเยี่ยม (โกโตะกับมาซาโอมิใน Magnolia waltz - ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต) (ดอกแมคโนเลีย - ขอบคุณรูปจากอินเตอร์เน็ต) กล่าวคือ magnolia เป็นดอกไม้ที่สวยงาม ดูอ่อนหวานและเปราะบางเมื่อแรกเห็น แต่จริงๆแล้วกลีบดอกมีความแข็งแรงทนต่อแรงลมได้เป็นอย่างดี กลีบดอกจะร่วงโรยไปเองเมื่อถึงเวลาของมันเท่านั้น เช่นเดียวกับโกโตะ จากเด็กสาวแสนสดใสกลายเป็นหญิงสาวที่ภายนอกยังดูบอบบางน่าทะนุถนอม แต่จิตใจที่อยู่ภายในนั้นแข็งแกร่งไม่แพ้บุรุษ ส่วน Waltz ก็เป็นคำที่แสดงเอกลักษณ์ของซีรีส์ชุดนี้ เป็นเรื่องราวที่ดำเนินไป อย่างเสียงเพลงที่บรรเลงต่อเนื่องไป(นี่คือความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ในฝั่งตัวละครนั้น ภาคแรกซาจิตกับโกโตะมีความเป็นพระเอก-นางเอกที่โดดเด่น โดยมีมาซาโอมิเป็นพระรองที่ดึงความสนใจของนักอ่านไปหลายซีน แต่ในภาคสองนี้ บทบาทของมาซาโอมิมีเพิ่มมากขึ้น เราได้เห็นนายทหารเรือผู้เย็นชาในอีกมุมหนึ่ง ความรู้สึกนึกคิดของเขาในวันเก่าก่อนจะถูกนำมาเฉลย หลายคนที่ได้อ่านคงจะรักมาซาโอมิ มากขึ้น ซึ่งดูเหมือน อ.ไซโตะเองก็ดูจะเทใจให้มาซาโอมิไม่ใช่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ ยังมีตอนพิเศษ Lilac nocturne (สุขได้เพียงในฝัน) (1992) เป็นช่วงที่มาซาโอมิ ถูกส่งตัวไปประจำการที่ฮาร์บินครั้งแรก ซึ่งในไทม์ไลน์จะคาบเกี่ยวกับภาค Magnolia Waltz นี่แหละ และปิดท้ายภาคนี้ก็ยังมี side storyแยกไปเป็นตอนพิเศษอีกตอนหนึ่งชื่อว่า Tuberose Serenade (1996) หรือในชื่อไทย เพลงรักดอกราตรี (ดอกไลแลค - ขอบคุณรูปจากอินเตอร์เน็ต) (มาซาโอมิ ใน Lilac Nocturne - ขอบคุณรูปจากอินเตอร์เน็ต)
Tuberose Serenade (เพลงรักดอกราตรี) อันที่จริงมันคือดอกซ่อนกลิ่น แต่คนแปล อาจจะเลี่ยงภาษาให้ดูน่าอ่านมากขึ้น ภาคนี้จะขยายความในส่วนของโกโตะกับมาซาโอมิ ซึ่งไทม์ไลน์อยู่ในช่วงท้ายของ เพลงรักสุดฝั่งฝัน ตอนพิเศษ 80หน้านี้จะสาวไส้อารมณ์ของ ทั้งสองคนให้เราอิ่มเอมมากขึ้น อ่านแล้วฟินจิกหมอนหรือจะน้ำตาไหลท่วมก็ตามแต่ (โกโตะและมาซาโอมิ ใน Tuberose serenade - ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต) (ดอกซ่อนกลิ่น - ขอบคุณรูปจากอินเตอร์เน็ต) ดอกซ่อนกลิ่น เป็นดอกไม้ที่กลิ่นหอมรัญจวน ชาวตะวันตก(รวมทั้งญี่ปุ่นด้วยรึเปล่านะ) ไม่ถือความเชื่อแบบบ้านเรา เพราะกลิ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวยังถูกนำไปสกัดเป็นน้ำหอมด้วยนะ ดอกซ่อนกลิ่นนั้นเมื่อเด็ดจากต้นก็ยังคงมีกลิ่นที่หอมติดทน กลิ่นจะค่อยๆจางหายไปเมื่อดอกโรย
อ.ไซโตะเคยเล่าไว้ในเกร็ดแทรกในการ์ตูนว่า เรื่อง เพลงรักสุดฝั่งฝัน นี้ได้แนวคิดมาจากเรื่อง War and Peace ของลีโอ ตอลสตอย ในมุมมองความรักของนาตาชานางเอกของเรื่อง ด้วยความเห็นที่ว่า ชีวิตคู่แบบผัวเดียวเมียเดียวเป็นสิ่งสวยงามก็จริงอยู่แต่ผู้หญิงที่สู้ชีวิต อย่างเข้มแข็งแม้จะต้องเปลี่ยนคู่ครองไปเรื่อยๆนั้นดูองอาจกว่า อืม...นึกถึงบัลลังก์เมฆขึ้นมาเลยแฮะ ^^
ส่วนตัวแล้วตอนเด็กๆถ้าได้อ่านสื่อแนวนี้คงต้องไม่ชอบแน่นอน เพราะความยึดติดกับศีลธรรม ที่สังคมถูกปลูกมา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป การได้รู้ได้เห็นสิ่งต่างๆมากขึ้นก็ย่อมทำให้มุมมอง หลายๆเรื่องเปลี่ยนไป ไม่ใช่เปลี่ยนจากดีเป็นเลว แต่เปลี่ยนจากแคบเป็นกว้างขึ้น เปิดรับสิ่งต่างๆมากขึ้นแต่ก็ยังกลั่นกรองไม่ให้นอกลู่มากเกินไป ช่วงหนึ่งที่ อ.ไซโตะ เขียนเรื่อง Kanon นั้น ยอมรับว่าอ่านแล้วเหวอไปพักหนึ่ง ก็พยายามเข้าใจตัวละครและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็ยังเปิดใจเต็มร้อยไม่ได้ TT โอ๊ย..ก็เนื้อหามันช่าง.. แต่สำหรับโกโตะแล้วสุดท้ายเราก็เห็นด้วและยอมรับกับการตัดสินใจของเธอ
ช่วงชีวิตหนึ่งของเราอาจไม่ได้ลงเอยเรื่องความรักกับคนๆเดียวไปทั้งชีวิต แต่ก็ไม่มีสิ่งใดถูกหรือผิดอยู่ที่ว่าเราซื่อสัตย์กับเสียงหัวใจของตัวเองหรือยัง ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ลำดับชื่อตอน 1. ฉันจะเต้นรำในชุดขาว(ไพเรท) / ลีลาศพาผัน (ลิขสิทธิ์) 円舞曲は白いドレスで / Waltz wa shiroi dress de (1990) / 4เล่มจบ / Siam inter comics พิมพ์ลิขสิทธิ์จะมีตอนฮันนีมูนชุลมุน อยู่ท้ายเล่ม 2. สุขได้เพียงในฝัน (ลิขสิทธิ์) / Lilac nocturne (1992) / เรื่องสั้น 62 หน้า อยู่ในหนังสือลีลาศพาฝันภาคพิเศษ เล่มเดียวจบ / Siam inter comics 3. เพลงรักสุดฝั่งฝัน (ลิขสิทธิ์) / Magnolia Waltz (1994) / 3เล่มจบ / Siam inter comics 4. เพลงรักดอกราตรี (ลิขสิทธิ์) / Tuberose Serenade (1996) / เรื่องสั้น 80หน้า อยู่ในหนังสือสิ่งนี้หรือคือความรัก เล่ม8 / Siam inter comics
ในโอกาสนี้ผมเลยลองทำชาร์ตไทม์ไลน์ของโกโตะในช่วงเวลา5ปีของเนื้อหา(ไม่สปอยล์) ในซีรี่ส์นี้มาด้วย แต่โพสต์นี้ดูมันยาวแล้ว จะขอมาแปะไว้โพสต์หน้า
แล้วพบกันใหม่นะครับ
Create Date : 21 เมษายน 2561 |
Last Update : 21 เมษายน 2561 21:41:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2448 Pageviews. |
|
|